มันแปลกดีนะ
เต๋อ เรวัตร พุทธินันท์
มีคนเขาอยู่เมืองนอก
ไม่ต้องบอกว่าชื่ออะไร
เขาคิดให้เราแต่งตัว
ถ้าเขามั่วจะรู้ได้ไง
คนนำมีอยู่เพียงสองสาม
แต่คนตามนั้นบานตะไท
ไม่รู้เป็นใครที่ไหน
พ่อแม่ก็ไม่ใช่ แต่เราก็ตามเขาไป
ทรงผมให้หวีแสกกลาง
สั้นข้างยาวข้างก็ยังพอไหว
ให้นุ่งกางเกงขาลีบ
กระโปรงมีจีบรีบเอามาใส่
ปีก่อนใส่สีดี๊ดี
พอมาปีนี้ใส่สีไม่เอาไหน
ให้ใส่เสื้อลายเสื้อนอก
เดี๋ยวลายเดี๋ยวดอก
เดาไม่ออกว่าเอาไง
บางเรื่องเราไม่เคยถาม
แต่ว่าเราตามเพราะความพอใจ
กฏเกณฑ์ที่คนตั้งไว้
มันมีมากมายทำตามไม่ไหว
สิ่งเดียวที่เราอยากทำ
คิดแล้วน่าขำ ก็ทำไม่ค่อยจะได้
ทุกคนอยากเป็นคนดี
แต่จริง ๆ ไม่ค่อยมี
ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง
มันแปลกดีนะ มันแปลกดีนะ
มาฟังเพลงมันแปลกดีนะ กับประเทศไทยวันนี้ยุคนี้ที่มีแต่เรื่องแปลกๆ ให้เห็นกันบ่อยครั้ง ตั้งแต่ประเทศไทยเราเข้าสู่กลียุคผิดเป็นถูก และถูกกลายเป็นผิด จิตใจผู้คนเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา มีแต่ความฉ้อฉลขาดซึ่งความยุติธรรมเห็นผิดเป็นชอบให้พวกมากลากไปทำมิดีมิร้ายกับประชาธิปไตยและการเมืองไทย มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นมากมาย มีการฉกชิงวิ่งราวปล้นขโมยไม่เว้นแต่ละวัน ยาบ้า ยาไอซ์เกลื่อนกลาดหาซื้อง่ายยิ่งกว่าซื้อกระดาษชำระ เป็นความล่มสลายของระบบในปี พ.ศ.2553 บางคนพ่อแม่อุตส่าห์ส่งเสียให้เรียนจนจบสถาบันสูงทั้งในเมืองไทยและนอกประเทศได้รับตำแหน่งมีหน้ามีตา ได้ทำงานในหน้าที่ที่สำคัญผู้คนต่างเคารพนับถือ บางคนถือว่าเป็นสุดยอดของความยุติธรรม แต่ต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงในยุคนี้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีนะที่ทุกอย่างที่สั่งสมมาต้องพังพินาศ จะเพราะอะไรก็ตามจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้นอกจากเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ แต่ในความรู้สึกประชาชนอย่างเราๆ แล้วเสียความรู้สึกมาก
ทำไมประเทศไทยถึงเป็นกันได้เช่นนี้ ความน่าเชื่อถือในสังคมแทบจะไม่มีเหลือหรอแล้ว แล้วแบบนี้ประชาชนอย่างเราๆ จะไปยึดถืออะไรเป็นบรรทัดฐานได้เมื่อก่อนเคยคิดตลอดเวลาว่า..แค่อยู่ในยุคสองมาตรฐาน แต่ตอนนี้กลายเป็นยุคไม่มีมาตรฐานอะไร อะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกอย่างตามความพอใจของคนเพียงไม่กี่คนที่ต้องการอำนาจให้อยู่ในมือตนเองแบบนิรันดร์กาลและไม่สนใจว่าเป็นความเห็นแก่ตัวและพวกพ้องและทำให้ประเทศตกต่ำถึงขีดสุด
ทุกวันนี้ไปเดินตลาดข้าวของแพงหูฉี่ขึ้นทุกวันเงิน 100 บาทที่เคยใช้ซื้อของได้หลายอย่าง ถ้าเป็นกับข้าวก็สามารถทานได้สองถึงสามมื้อ แต่มาวันนี้เงิน 100 บาทสำหรับมื้อเดียวยังแทบไม่พอ ข้าวแกงทั่วไปตกจานละ 30 บาทสำหรับกับข้าวสองอย่าง แต่ถ้าไปอยู่ตามศูนย์การค้าแหล่งทำมาหากินดังๆ ข้าวแกงตกจานละสี่สิบถึงห้าสิบบาทไม่เชื่อลองไปแถวสีลม แถวอโศก หรือสุขุมวิทดูสิแค่ที่บอกยังถือว่าถูกเกินไปหรือที่เรียกว่ากระจอกๆ น่ะถ้าอยากได้ของถูกต้องไปหากินให้ไกลหน่อยตามตรอกซอกซอยที่ไม่ใช่แหล่งการค้าก็คงพอหากินได้แต่รับรองว่าไม่ต่ำกว่ายี่ห้าสาบสิบแน่นอน ขนาดก๋วยเตี๋ยวร้านข้างทางชามละ 25-30 บาทแล้วน้ำแข็งเปล่าแก้วละ 2 บาทข้าวเปล่าจานละ 7 บาทซึ่งผู้ชายทานไม่อิ่มถ้าอยากอิ่มต้องข้าวเปล่า 10 บาท ไข่ไก่ซึ่งเป็นอาหารพื้นๆ ที่กินง่ายและน่าจะถูกวันนี้ไม่ถูกเสียแล้วไม่ต้องไปพูดถึงอาหารอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นต้องทานไม่มีวันได้ทานเพราะถ้าทานเงินเดือนก็คงไม่พอใช้ ไหนค่าน้ำค่าไฟค่าสาธารณูปโภคที่ขึ้นราคาจนกู่ไม่กลับ ขนาดค่ารถเมล์ที่ รบ.บอกว่ามีรถเมล์ฟรีวิ่งฟรีทุกสายสำหรับประชาชน ลองไปยืนคอยดูสิคะจะมีสักกี่คันและกี่คนที่ได้ขึ้นและอดทนยืนรอ กว่าจะมาแต่ละคันหายห่วง คนไหนมีรถขับเองก็ต้องจ่ายค่าน้ำมันที่แพงแสนแพง ขนาดตัวเองประหยัดสุดๆ แล้วค่าน้ำมัน 1 อาทิตย์ตกอาทิตย์ละพันหนึ่งร้อยบาท คนไม่มีรถแค่ก้าวเดินออกจากบ้านไปทำงาน ไปโรงเรียน หรือไปทำธุระก็ต้องจ่ายค่ารถไปกลับไม่ต่ำกว่า 100 ถ้าหากต้องต่อหลายทอดเพราะรถทอดเดียวคงไม่ถึงที่จะไป..น่าสงสารประชาชนตาดำๆ ที่ต้องอดทนและต้องอดทนต่อไปถึงไหนไม่มีใครรู้ได้ตราบใดที่คนใหญ่คนโตในประเทศยังมีความเห็นแก่ตนและพวกตนแบบที่เห็นในทุกวันนี้ อยากถามสักคำว่า..ไม่สงสารประชาชนตาดำๆ ที่ไม่มีอำนาจอยู่ในมือบ้างเลยหรือ..และอยากถามพวกท่านว่าตอนมีชีวิตอยู่พวกท่านยังไม่เคยคิดทำประโยชน์และเสียสละให้กับแผ่นดินแล้วตายไปท่านยังคิดอยู่อีกหรือว่าร่างกายเน่าๆ ของพวกท่านจะเป็นปุ๋ยให้แผ่นดินได้คิดว่าคงยาก...คิดดูบ้างนะโตๆ กันแล้วบางคนก็กำลังก้าวเข้าสู่วัยเฒ่าชะแลแก่ชราหรือบางคนก็ล่วงเลยวัยชรากลายเป็นวัยใกล้เข้าโลงไปทุกที หยุดบ้าอำนาจ หยุดอยู่เบื้องหลังสิ่งชั่วร้ายเสียทีก่อนตายลองหันมาทำตนให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นจะดีกว่าไหม...
ไหนนักการเมืองที่ครองประเทศในเวลานี้บอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มันดีแค่ปากพวกคุณหรือไม่ อย่าดีแค่คำพูดแต่การกระทำไม่ใช่ลองลดตัวลงมาเป็นประชาชนเดินดินกินข้าวแกงบ้างว่าเค้าเดือดร้อนกับข้าวยากหมากแพงกับการบริหารประเทศแบบเด็กเล่นขายของ ที่ใช้ปากประกาศิตว่าทุกอย่างดีแล้วมันดีจริงไหม...
ขอฝากการ์ตูนไอ้แป้นสองเรื่องชวนคิด การ์ตูนแรกเป็นเรื่องเปลือก ที่สอนให้รู้ว่าอย่าดูคนแค่เปลือกภายนอก ดูที่ความหล่อ ความสวยงาม บางคนดูดีไม่ว่าฐานะ ความเป็นอยู่ การศึกษา แต่ลึกๆ ในจิตใจแล้วมีแต่ความฉ้อฉลชั่วร้าย คิดแต่สิ่งเลวๆ มองโลกอคติเล่นพรรคเล่นพวก หน้าตาจึงไม่สามารถบอกจิตใจของคน จึงเข้ากับสุภาษิตไทยๆ ว่า "อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนจะจนใจเอง" ถ้าเข้าเหตุการณ์ปัจจุบันและอนาคตใกล้ที่กำลังจะเกิด คือ อย่าเลือกคนที่หน้าตา อย่าเลือกคนเพราะคิดว่าดี เพราะสิ่งที่คิดอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดก็ได้
สำหรับการ์ตูนเรื่องที่สองเป็นเรื่องอย่าแค่เพียงรอในสิ่งที่ฝัน จงลุกขึ้นมาสู้เพื่อให้ฝันเป็นจริงไม่ใช่เป็นเพียงแค่การรอ แต่จงทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริงโดยกล้าทำ กล้าฝ่าฟัน กล้าต่อสู้และกล้าตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นกว่าที่เป็นและไปสู่จุดหมายที่ใฝ่ฝันไว้...ขอให้คนที่มีความฝันทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งที่ฝันนะคะ
ขอบคุณภาพการ์ตูนจาก ://darkygirl.exteen.com/20091004/entry
ผลการตัดสินคดียุบพรรค
คงจะทำให้บ้่านนี้เมืองนี้หดหู่มากขึ้น
จากที่หดหู่ซ้ำซากอยู่แล้ว
ปัญหาเดิมๆที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดก็คือ
การอยู่ทำงาน
แต่ไม่มีฝีมือพอที่จะแก้ปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดนี่ล่ะครับ
บางครั้งเรายื้อและฝืนเพราะคิดว่าเราทำได้
แต่ปลาก็คือปลา
มันว่ายน้ำบนบกไม่ไ่ด้
ไทยเข้มแข็ง
ก็พิสูจน์มาโดยตลอดว่า นอกจากไม่เข้มแข็ง
ยังนำพาประเทศอ่อนแอไปเรื่อยๆ....
นักการเมืองไม่ว่าขั้วไหน
ก็อยู่ได้สบาย
เพราะมีเงินก่ายกองทั้งที่ไม่มีธุรกิจอะไรเป็นหลักแหล่ง
(เว้นแต่คนที่รวยแล้วมาเล่นการเมือง)
แต่ชาวบ้านอย่างเราจะอยู่ยากขึ้นทุกวันนะครับ