จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
8 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
จะต้องตายอีกกี่ครั้งถึงจะพ้นทุกข์ By โบว์ แมคอินไตย์



จะต้องตายอีกกี่ครั้งถึงจะพ้นทุกข์
By โบว์ แม็คอินไตย์




ชื่ออาจจะไม่คุ้นเคย แต่นามสกุลของเธอคุ้นหูคนทั้งประเทศแน่ๆ ค่ะ
เจ้าแก้วได้หนังสือเล่มนี้มาจากการใช้แต้มสะสมในพันทิปไปแลกมาค่ะ
เนื่องจากได้อ่านไตเติ้ลของหนังสือ แล้วเกิดสงสัยว่าเด็กผู้หญิงที่
ตามหาพ่อและได้รับการอุปการะจากซุปเปอร์สตาร์คนดังของประเทศ
ชีวิตที่เหลือต่อจากนั้นน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ทุกอย่างกลับแย่ลง
และไม่ต่างจากชีวิตเหลวแหลกที่เธอเคยเป็นมา


ก่อนอ่านได้รับการสปอยล์ว่าเธอ "ใจแตก" แต่พออ่านไปแล้ว
กลับรู้สึกสลด..หดหู่ รวมถึงเวทนาคุณโบว์เป็นอย่างยิ่ง ด้วยอายุ
ของเธอแล้วมันควรเป็นวัยของความสดใส ร่าเริง แต่สิ่งที่เธอเจอมา
มันรุนแรงเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว ส่งผลให้เธอเป็นคนกระด้าง
และมีความเจ็บปวดติดตัวตลอดเวลา และหลายๆ ครั้งก็ต้องทำอะไร
ที่ดิ่งลงในทางมืดเพื่อทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนรอบข้าง เพื่อบรรเทา
ความเจ็บปวดนั้น


วิธีการเล่าเรื่องของเธอนั้นค่อนข้างจะ...บอกพื้นฐานได้พอสมควร
ว่าเธอเป็นเด็กแสบ และถูกเลี้ยงดูมาอย่างกระด้าง เธอจึงดูถูกตัวเอง
เกลียดชังตัวเอง และผู้ให้กำเนิด เมื่อขาดความนับถือตัวเองอย่างรุนแรง
และไม่มีหลักยึดในชีวิต ที่แม้ว่าจะมีคนที่ดีกับเธอสักเท่าไร ก็ไม่อาจ
ทำให้เธอดีกับตัวเองได้มากขึ้น


ชีวิตของเธอถูกเล่าด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ทั้งเหยียดหยาม
และสมเพชเวทนาชะตาชีวิตของตัวเอง รวมทั้งทั้งรังเกียจผู้ให้กำเนิด
และน้อยใจอยู่ในที อ่านแล้วต้องบอกว่าชีวิตเธอน้ำเน่ามากๆ และไม่น่า
จะต้องเลวร้ายถึงปานนั้น แต่เมื่อได้ทราบเรื่องทั้งหมดก็ไม่แปลกใจ
ที่เธอจะใจแตกเสียคน เพราะสิ่งแวดล้อมที่ได้รับมันมีดีน้อยเหลือเกิน


โบว์เล่าว่าแม่ของเธอเป็นลูกสาวคนโปรดของเจ้าสัวคนหนึ่ง
แต่ด้วยความที่ได้รับความรักมากเกินไป ผนวกกับความสวย
ทำให้แม่ของเธอเสียคนและหลงตัวเอง แม่ของโบว์เป็นนางแบบ
และดาราตัวประกอบในยุคก่อน แต่ติดเหล้าอย่างหนักและติดเซ็กซ์
จนทำให้ท้องลูกชายคนแรกโดยไม่แน่ใจว่าพ่อเด็กเป็นใคร แต่การ
ให้กำเนิดลูกไม่ได้ทำให้เธอเปลี่ยนวิถีชีวิต จึงทำให้ญาติพี่น้อง
พากันรังเกียจ


ต่อมาแม่ของโบว์เกิดไปมีความสัมพันธ์กับนักดนตรีในผับคนหนึ่ง
แค่เพียงครั้งเดียวก็ตั้งท้องโบว์ขึ้นมา แต่แม่ยังคงเที่ยวดื่ม
และไม่ได้ปรับปรุงความประพฤติจนกระทั่งคลอด แต่โชคยังดีที่
พ่อของโบว์หลังจากได้รับแจ้งก็ยังยอมเซ็นรับเป็นพ่อเด็กอย่างมึนงง
แต่ไม่ได้มีการส่งเสียเลี้ยงดูแต่อย่างใด และขาดการติดต่อกันไป
เนื่องจากมีครอบครัวอยู่แล้ว


โบว์โตมาในฐานะหลานเจ้าสัวได้ประมาณ 6 ปี อาก๋งก็เสียชีวิต
แม่ของเธอได้รับมรดกไปก้อนหนึ่งและออกจากบ้านไปพร้อมลูกชาย
คนโต โดยทิ้งเธอไว้ที่บ้านซึ่งญาติพี่น้องไม่ต้องการ จึงยกเธอให้กับ
เพื่อนของก๋ง เรียกว่าคุณกงรับเป็นหลานบุญธรรม แต่ลูกสาวของ
คุณกงคืออาอี๊โฉมฉายนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแม่ของเธอ แม้กระนั้น
ก็ยังมีชีวิตค่อนข้างดี จนอีก 3 ปีคุณกงเสียชีวิต จากหลานบุญธรรม
เลยถูกลดตำแหน่งไปเป็นคนใช้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ


และถูกยกให้เป็นลูกบุญธรรมของอีกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้น
พวกเขาดีกับเธอมาก จนกระทั่งมีลูกของตัวเอง โบว์จึงถูกส่ง
ไปอยู่ครูหมูในอีกจังหวัด ครูหมูดีกับเธอมากแต่ครูหมูอายุสั้น
เธอจึงต้องกลับอยู่กับอี๊โฉมฉายอีกครั้ง หนนี้ก็ต้องเป็นคนงาน
ล้างรังนกและคนรับใช้ของครอบครัวอาอี๊อาหารก็กินของเหลือ
เสื้อผ้าก็ต้องซักมือให้กับคนในครอบครัวทั้งหมด


วันหนึ่งลูกสาวของอาอี๊เอากางเกงในเปื้อนประจำเดือนปาใส่หน้าเธอ
และสั่งให้ไปซัก เธอก็เลยเอาหมามุ่ยทาใส่กางเกงในเด็กคนนั้น
เป็นเหตุให้โดนอี๊โฉมฉายตีเกือบตาย จนชาวบ้านแถวนั้นต้องไป
แจ้งประชาสงเคราะห์มาช่วย และตกลงส่งเธอให้ไปอยู่กับ
อีกครอบครัวหนึ่ง


แต่ในคืนนั้นก่อนจะถูกส่งตัวไป เธอถูกอาอี๊จับมัดกับหน้าต่าง
เอาผ้ายัดปากและถอดกางเกงในเธอออก แล้วจุดเทียนเผาขน
จนอวัยวะเพศไหม้ แต่เนื่องจากเธอเพิ่งสิบเอ็ดขวบเธอไม่กล้า
บอกเรื่องนี้กับใคร จน "อาแหมะ" สาวโสดที่รับอุปการะเธอรู้เข้า
จึงพาไปหาหมอ หากที่เธอเขียนไว้เป็นเรื่องจริงล่ะก็ ต้องบอกว่า
อาอี๊โฉมฉายคนนี้ใจร้ายใจดำมากๆ อ่านแล้วทั้งสงสารทั้งสยองแทนโบว์


เมื่อไปอยู่กับอาแหมะผู้แสนประเสริฐ ที่นอกจากรับอุปการะเธอไว้
และยังรับอุปการะเด็กอื่นๆ อีก 4 คนด้วย แต่ความรักเหมือนจะมา
ช้าเกินไป ประกอบกับเธอเริ่มเข้าสู่วัยสาว สายเลือดตะวันตกในตัว
ทำให้เธอโตเร็วกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน เด็กสาวอายุ 13 จึงดูเหมือน
สาว ม.ปลาย เพื่อนที่คบหาก็จึงเป็นเพื่อนรุ่นพี่ทั้งสิ้น และเป็นโชคร้าย
ที่เพื่อนรุ่นพี่เหล่านั้น ไม่ใช่เพื่อนดีๆ แต่เป็นเด็กขายยา


หลังจาดนั้นชีวิตของโบว์ก็เหมือนดิ่งลงนรกนับแต่นั้นเป็นต้นมา
อายุแค่ 12 ก็เสพยามั่วทอม อายุ 13 ค้ายา อายุ 15 หนีตามผู้ชาย


โบว์โหยหาความรักมาตลอดหลังจากที่ผิดหวังจากแฟนคนแรก
จึงฝันอยากพบหน้าพ่อแม่ แล้วต่อมาก็ได้พบแม่ที่หมดสภาพ
ลูกสาวคนสวยของเจ้าสัว กลายเป็นผู้หญิงขายตัวติดเหล้า
และเกือบถูกแม่แทงเพราะขัดใจเรื่องไม่ให้เงินแม่


พออายุ 16 เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น เมื่อเป็นข่าวใหญ่ได้พบ
คุณอาซุปเปอร์สตาร์ ได้พบพ่อ แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็แย่ลงอีก
หนนี้เพราะตัวเธอเอง และยังโชคร้ายซ้ำซ้อนต่างๆ แต่ขณะนี้
เธอผู้ซึ่งอายุน่าจะยังไม่ถึง 20 ปีเลยด้วยซ้ำ กำลังเป็นแม่คน
และลูกเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกถึงคุณค่าที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่
และมีเจตนาแน่วแน่ว่าจะเลี้ยงลูกโดยไม่ทิ้งขว้าง ไม่ให้มีชีวิต
ผิดพลาดอย่างเธออีก


อ่านแล้วต้องบอกคำเดียวว่าสลด หดหู่ เวทนา ทั้งหมด
เกิดขึ้นเพราะพื้นฐานครอบครัวไม่แน่น ทำให้เธอไม่มีฐานที่ดี
จึงเติบโตขึ้นอย่างเคว้งคว้าง ถูกโยนไปทางนั้นทีทางนี้ที
ยิ่งทำให้เธอไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ดูถูกตัวเอง เหมือนกับ...
ขอโทษนะคะ ขอใช้คำหยาบในการเปรียบเทียบสักหน่อย
เธอเหมือน...สัตว์ที่โดนทำร้ายจนบาดเจ็บ และความเจ็บปวด
นั้นคงอยู่ตลอดเวลาไม่จางหาย จนต้องกัดคนอื่นให้ตัวเองหายเจ็บ
จนบางทีคนที่ดีกับเธอขนาดไหน เธอก็มักจะทำให้เขาผิดหวัง
ทุกครั้งไป...ทั้งที่ทำไปแล้วเธอก็เจ็บปวดเช่นกัน


ไม้อ่อนไร้ที่ค้ำชุนต่อให้เป็นพันธุ์ดีเช่นไร ก็ย่อมเอนลู่ไหวไปตามแรงลม
แล้วยิ่งลมที่เธอเจอเป็นพายุร้ายเสียด้วย ก็ยากที่ไม้อ่อนนั้นจะเติบโต
ขึ้นมางดงามได้ มันสะท้อนมากค่ะ...เรื่องทุกเรื่องมีต้นเหตุ แต่ไม่ใช่
สาเหตุที่แก้ไขไม่ได้ หากผู้ให้กำเนิดของเธอ มีความพร้อมในตอนมีบุตร
มีความตั้งใจจะสร้างครอบครัว ไม่ใช่ให้กำเนิดโดยความไม่ตั้งใจเช่นนี้
ถึงเนื้อแท้จะอยากจะเป็นคนดี แต่ถ้าโตในที่หยาบกระด้าง มันก็ยากยิ่ง
ที่จะดีได้ด้วยตนเองค่ะ


เจ้าแก้วอ่านหนังสือเล่มนี้จบด้วยความรู้สึกจุกในอก เมื่อคิดว่าถ้านี่เป็น
เรื่องจริง ทั้งหมด
ล่ะก็...มันรุนแรงเกินกว่าเด็กอายุ 16 ปีคนหนึ่งจะได้รับ
แต่ในท้ายเล่ม...ก็รู้สึกดีใจที่เธอได้รู้จักความรักอันแท้จริงเมื่อได้เป็นแม่คนนี่แหละค่ะ


ปล.เห็นคุณเพื่อนบอกว่าได้อ่านต้นฉบับก่อนตีพิมพ์ที่ลงในเน็ต
ค่อนข้างจะหยาบคายมาก และเธอลงความเห็นว่าอ่านแล้วรู้สึกไม่ดี
กับตัวคุณโบว์อย่างแรง ส่วนเจ้าแก้วอ่านแต่ฉบับที่ผ่านการเรียบเรียง
พิมพ์ลงหนังสือแล้วน่ะค่ะ ดูเหมือนรสชาติจะต่างกันพอสมควรค่ะ

เพื่อนๆ คนไหนอยากยืมหนังสือเล่มนี้ก็บอกนะคะ ยินดีให้ยืมค่ะ




Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 มกราคม 2558 23:16:04 น. 7 comments
Counter : 939 Pageviews.

 
สวัสดีครับ

ผมเจ้าของกระทู้ใน pantip นะครับ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=babyrose

ผมได้โทรไปถามผู้เรียบเรียง คือคุณ สุรินทร์ รุ่งสว่าง บอกว่า ทุกอย่างเป็นความจริง ที่โบว์เล่าจากปากให้เค้าฟัง


อ่่านมาทั้งเล่ม ผมก็ว่า

ยังมีัคนแย่ๆ กว่าโบว์

ก็น่าจะมีอีกครับ

แต่ที่ผมรู้สึกแย่ที่สุดคือ

ตอนที่โบว์ไปเชียงรายครับ

ผมรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่าเป็นไคร

แม้หนังสือจะไม่เฉลย


ถ้านี่เป็นบทละคร ผมก็อยากเอาหนามทุเรียน ฝาด อี๊โฉมฉาย

แต่่ที่รู้คือเรื่องจริง

ผมsearch หาชื่อในgoogle เลย

ดีนะที่ไม่พบข้อมูลประวัติอะไร จะตามไป ดูหน้าซะหน่อย


ถ้าอยากคุยกันเรื่องหนังสือเล่มนี้

ยังไง ผมรบกวน

แอดมาที่เมลล์ผมนะครับ

iwarmba@windowslive.com

อ่านจบ

ผมพูดได้คำเดียว

เฮ้อ ชีวิต


โดย: Devilnodies IP: 124.121.19.88 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:4:21:13 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ รู้เท่าที่เปิดเผยในหนังสือเท่านั้นก็พอแล้วล่ะค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เรื่องนอกหนังสือมันอาจจะเป็นการล้ำเส้นเกินไป คงไม่เหมาะไม่ควรค่ะ


เชื่อนะคะว่าคุณสุรินทร์บอกว่าคุณโบว์เล่าให้ฟังจริงๆ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดมันมาจากมุมมองข้างเดียว ไม่ได้มีอีกฝ่ายออกมาพูดอะไร ความจริงต้องมีหลายด้านอยู่สักหน่อย
และก็เชื่อว่าคุณโบว์ไม่ได้โกหก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้เป็นคนในครอบครัวของคุณโบว์ การรับรู้ก็ผ่านแต่หนังสือเล่มนี้ทั้งนั้น รู้ไปก็คงไม่สามารถตอบโจทย์อะไรได้ ทั้งนี้เพราะผู้อ่านทุกคนเป็นคนนอกนั่นแหละค่ะ


แต่สำหรับคนอ่านรับรู้ในแง่ของการเรียนรู้ว่า ชีวิตเด็กผู้หญิงคนหนึ่งล้มเหลวผิดพลาดเพราะอะไร และมีความเห็นใจให้เธอในฐานะคนร่วมสังคม ก็หวังให้เธอประสบสิ่งดีๆ มีความสุขกับชีวิตในอนาคตค่ะ อยากบอกคุณโบว์ว่าฝันร้ายที่ผ่านมาก็ลืมมันไปเสีย...ถ้ามันเจ็บปวดไม่หายก็ไปหาจิตแพทย์เถอะค่ะ


จิตใจมันเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายแหละ เหมือนกันกับเวลาที่ร่างกายเป็นแผลเราไม่ได้หายด้วยยา แต่หายด้วยการซ่อมแซมตัวเอง ส่วนยาแค่บรรเทาหรือกระตุ้นการซ่อมแซม จิตใจก็เหมือนกัน แต่การจะหายทุกข์ หายจากบาดแผลในใจได้ก็คงมีแต่ตัวเองล่ะค่ะที่ต้องปล่อยวางเท่านั้น คนอื่นๆ ช่วยได้แค่ปลอบประโลมเท่านั้น





โดย: แก้วกังไส วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:5:16:22 น.  

 
แค่ได้อ่าน ตามที่คุณเขียน ก็เศร้าพอแล้ว

รู้สึกสงสารจนบอกไม่ถูก ขอให้น้องโบว์พ้นทุกข์โดยเร็ว


โดย: faisai วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:09:54 น.  

 


ขอบคุณมากๆครับ

ไว้ว่างๆจะไปซื้อมาอ่าน


โดย: โควี วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:09:20 น.  

 
อ่านแค่ที่คุณแก้วรีวิวก็เครียดแล้วค่ะ คงไม่อ่านแน่ๆเรื่องนี้ อย่างนี้รึเปล่านะที่คนเค้าเรียกกันว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่าในนิยาย


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:16:45:23 น.  

 
faisai : ขอให้คำปลอบโยนส่งไปถึงคุณโบว์นะคะ

โควี : ยืมเจ้าแก้วก็ได้นะคะ ยินดีให้ยืมค่ะ

หมูย้อมสี : เรียกว่าชีวิตบัดซบยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าเลยล่ะค่ะ


โดย: แก้วกังไส วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:23:49 น.  

 
ชีวิตนี้ เป็น นิยาย ครับ


โดย: devilnodies IP: 203.144.144.164 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:10:58:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.