จิบชาชมดอกไม้ไปพลาง คุยกันเบาๆ ที่สวน..เจ้าแก้ว กังไส





Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
6 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
นิยายที่หายไป By ไดแอน เชเตอร์ฟิลด์



The thirteenth tale นิยายที่หายไป
By ไดแอน เชเตอร์ฟิลด์
แปลโดย ศศมาภา




เมื่อแรกเจ้าแก้วคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายฆาตกรรม
เนื่องจากมันถูกซื้อรวมกับกองหนังสือฆาตกรรมเรื่องอื่นๆ
ของพี่หนมผิงเจ้าของหนังสือ ปกติเจ้าแก้วไม่ค่อยได้อ่าน
นิยายฆาตกรรมนักแต่เล่มนี้มีแรงดึงดูดพิเศษ อาจจะเป็น
ชื่อเรื่องกระมัง มันช่างเว้นช่องว่างไว้ให้จินตนาการ ว่าเกิด
อะไรขึ้นในเรื่องราวที่หายไป บางทีอาจจะเป็นความลับ
ในการตายของใครสักคนก็เป็นได้ แล้วก็ใช่อย่างที่คิดแต่ไม่ได้
ถูกต้องทั้งหมด


ความตายของใครสักคนที่ไม่รู้จัก ฟังดูไม่น่าหวาดเสียวเท่าไหร่
แต่นิยายเรื่องนี้ผูกโยงตัวละครให้ข้องเกี่ยวกันด้วยใยสัมพันธ์
ทั้งทางสายเลือดและสัมพันธ์อันแปลกประหลาด ร้อยรัดเข้าไว้
ด้วยกันเป็นเกลียวแนบสนิท ดังนั้นเมื่อเชือกผูกเกลียวนั้นขาดไป
สักเส้นหนึ่ง เส้นที่สองจึงไม่อาจดำรงอยู่ได้ มันย่อมได้รับความ
กระทบกระเทือนแน่นอน และส่งผลไปถึงเชือกเส้นที่สาม ที่สี่
และเส้นต่อๆ มา เหมือนโดมิโน่ไม่มีผิด


เจ้าแก้วไม่รู้จะจัดให้นิยายเรื่องนี้ให้อยู่ในหมวดไหนดี ความรู้สึก
มีเพียงว่ามันเป็นเรื่องดราม่าแบบจิตๆ หลอนๆ หน่อย ด้วยอารมณ์
ของตัวละครในเรื่อง ซึ่งแทบไม่มีคนปกติ ทุกคนมีปมของตัวเอง
ที่ซ่อนไว้ในใจ และปมนั้นรอวันเผยตัวออกมาช้าๆ ไม่มีใครซ่อน
มันไว้ได้มิดชิด


“วีดา วินเทอร์” นักเขียนนิยายยอดนิยม ผลงานของเธอ
ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 19 ครั้ง และไม่นับยอดตีพิมพ์
ซ้ำแล้วซ้ำอีก รวมไปถึงการเป็นเบสเซลเลอร์แทบทุกเรื่อง
แต่ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของวีดาคือ “นิทาน 13 เรื่อง”
มันเป็นนิทานธรรมดาๆ พาฝันทั่วๆ ไป ทว่าเสน่ห์ของมันคือ
ความผิดพลาดอันลึกลับ ที่ทำให้ผู้คนทั่วไปพยายามตีความหมาย
ว่าเป็นเจตนาหรือผิดพลาดจริงๆ เมื่อนิทานซึ่งควรจะมี 13 เรื่อง
กลับมีเพียงแค่ 12 เรื่อง และในครั้งต่อๆ มา ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเรื่อง
เสียด้วยซ้ำ ไม่มีการพูดถึงเรื่องที่ 13 ที่หายไปในการพิมพ์ครั้งแรก
ไม่มีการขออภัยจากนักเขียนและสำนักพิมพ์ มันจึงเป็นความลึกลับ
ที่ผู้อ่านกระหายใคร่รู้


เมื่อความลับมันหอมหวาน นักข่าวจากทุกสารทิศย่อมอยากรู้
วีดาเองก็ไม่คิดจะปิดตัวจากสังคม ทุกครั้งที่ออกผลงานเล่มใหม่
เธอจะเชิญนักข่าวมา และทุกๆ ครั้งเธอจะเล่าเรื่องแถม คือเรื่อง
ประวัติการเกิดของเธอ ทว่าวีดาแต่งเรื่องการเกิดของเธอใหม่
ทุกครั้งที่ออกนิยายเรื่องใหม่เช่นกัน และพวกเขาก็พากันตื่นเต้น
เพราะเธอมีพรสวรรค์ในการเล่า วีดาสนุกสนานกับการแต่ง
เรื่องโกหกจนกระทั่งความชราเข้าคุกคามอย่างรุนแรง ปีนี้เธอ
อายุมากกว่า 70 ปี และอาจจะอยู่ต่อไปอีกไม่นาน เมื่อสังขาร
กำลังถูกโรคร้ายที่เข้าเล่นงาน วีดาตระหนักได้ว่าก่อนที่เธอจะตาย
เธอควรจะเลิกโกหกเสียที


วีดา เลือก “มาร์กาเร็ต ลีอา” มาเขียนอัตชีวประวัติของเธอ
หญิงสาวรู้สึกแปลกใจเพราะเธอเป็นเพียงนักเขียนอัตชีวประวัติ
สมัครเล่น และเพิ่งมีผลงานเพียงแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น มาร์กาเร็ต
ไม่เคยอ่านผลงานของวีดามาก่อนหน้าวันที่จะต้องเดินทาง
ไปพบหญิงชราด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่บ้านของเธอเป็นร้าน
หนังสือเก่ามือสอง เป็นร้านเงียบๆ ที่มีชื่อเสียงในหมู่นักสะสม
มาร์กาเร็ตหาข้อมูลของวีดาไม่ยากเย็นนัก และพบเรื่องที่โกหก
เกี่ยวกับประวัติไว้ไม่ต่ำกว่า 200 เรื่อง มันมากพอกับจำนวนหนัง
สือของวีดาเลยทีเดียว


คฤหาสน์ของวีดาอยู่ห่างไกลออกไปนอกเมือง บ้านของเธอ
ต่อเติมไว้จนมีห้องลึกลับซับซ้อนราวเขาวงกต รวมถึงสวน
สวยงดงามที่ต่อมาถูกเรียกขานว่าสวนแห่งความลับของวีดา
มาร์กาเร็ตพบว่าวีดาไม่ได้ปกตินัก สภาพจิตใจของเธอแปลก
กว่าคนทั่วไป รวมทั้งเรื่องเล่าของเธอด้วย หญิงสาวต้องใช้
เวลาพิสูจน์ความจริง แม้วีดาจะรับปากแล้วว่าจะไม่โกหกก็ตาม
หญิงชราเล่าเรื่องราวประวัติชีวิตของเธอ ราวกับเล่านิยายสักเรื่อง
ให้เธอฟัง เรื่องนั้นมีตอนขึ้นต้น เกริ่นนำ ตอนกลาง และตอนจบ
อย่างถูกต้อง มีข้อแม้ว่ามาร์กาเร็ตจะต้องฟังไปเรื่อยๆ ห้ามข้าม
เลยและขาดไปเป็นอันขาด ยิ่งเล่าเรื่องของเธอยิ่งมีสีสัน


วีดาเล่าเรื่องการเกิดของเด็กหญิงฝาแฝดสองคน ในคฤหาสน์
แองเจิลฟีลด์ แอเดอลีน กับ เอมเมอลีน เด็กแฝดที่ถูกตราหน้า
ว่าผิดปกติทางสมอง เด็กหญิงทั้งสองเหมือนเป็นขั้วบวกและขั้วลบ
คนหนึ่งรุนแรงเกรี้ยวกราดชอบใช้กำลัง อีกคนอ่อนโยนและยอม
ที่จะถูกทุบตีโดยอีกคนอย่างไม่ปัดป้อง ทั้งสองอายุ 13 แล้ว แต่ยัง
คงสื่อสารกันด้วยภาษาที่ไม่มีใครรู้เรื่องนอกจากพวกเธอเท่านั้น
ส่วนผู้ใหญ่ในคฤหาสน์นั้นเล่า อิซาแบลล์แม่ของพวกเธอก็ถูกส่ง
ไปสถานบำบัดจิต ชาร์ลีลุงที่เก็บตัวอยู่แต่บนชั้นสามของคฤหาสน์
พวกเธอมีเพียงซิสซุสแม่บ้านเก่าแก่ซึ่งหูตาฝ้าฟาง และหลงๆ ลืมๆ
เป็นระยะคอยเลี้ยงดู พร้อมกับจอห์นคนสวนแก่ๆ อีกหนึ่งคนเท่านั้น
ส่วนคนใช้อื่นๆ เมื่อเจ้านายไม่อยู่ในสภาวะปกติ พวกเขาก็จากไป
ปล่อยเด็กทั้งสองให้อยู่ในคฤหาสน์นั้นไปตามยถากรรม คนทั้งสี่
เห็นว่านี่เป็นโลกส่วนตัวของพวกเขาจึงไม่อยากให้ใครเข้ามา
จนกระทั่งครูเฮสเตอร์ก้าวเข้ามา ดูแลเรื่องสุขอนามัยของเด็กหญิง
และการศึกษาแต่เฮสเตอร์มีจุดประสงค์แอบแฝง หล่อนต้องการ
ศึกษาทฤษฏีเด็กแฝดด้วย นั่นคือความเปลี่ยนแปลงจากโลก
ภายนอกมาสู่คู่แฝด


มาร์กาเร็ตจมดิ่งลงไปในเรื่องเล่าของวีดามากขึ้นเรื่อยๆ และ
เรื่องราวนั้นกลับไปปลุกความทรงจำที่หญิงสาวพยายามซ่อนไว้
มาร์กาเร็ตมีคู่แฝดเช่นกัน และด้วยความรู้สึกนี้ทำให้หญิงสาว
ไม่แน่ใจว่าควรจะทำงานต่อไปไหม? ทว่าเธอถลำลึกลงไปเกินจะ
ถอยหลังกลับแล้ว ความอยากรู้คือคำตอบที่กระตุ้นให้เธอตามหา
ความจริงกับเรื่องเล่าราวนวนิยายเรื่องนั้น มาเป็นคำตอบของ
นิทายเรื่องที่ 13 ซึ่งหายสาบสูญไป


ถ้าให้เจ้าแก้วพูดอะไรเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ คงจะต้องบอกว่า
มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจล้วนๆ เรื่องของภาวะทางจิต เรื่องของ
เด็กที่สะท้อนการเลี้ยงดูของผู้ปกครอง...และการถูกทอดทิ้ง
ไร้ความเอาใจใส่ ผลปรากฏออกมาดังเช่นตัวละครบางตัวในเรื่อง
ไม่ค่อยมีตัวละครปกติเท่าไรนัก และยิ่งอ่านไปจะคลี่คลายปม
มันไม่ใช่เรื่องลึกลับนัก ไม่ใช่เรื่องฆาตกรรมหักเหลี่ยมเฉือนคม
แสดงความคมคายของผู้แต่ง แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เปราะบาง
และหลอนเล็กๆ ไม่ใช่หลอนด้วยความกลัว แต่หลอนทางความรู้สึก
เมื่อคิดว่าหากมนุษย์จริงๆ มีสภาพจิตแบบนี้เล่า เล่าเรื่องได้มีมิติ
ลึกซึ้งเช่นนี้จึงไม่น่าเชื่อว่า เป็นผลงานเขียนเล่มแรกของผู้เขียน
แต่คงเพราะผ่านโลกมาเยอะ วัยปลายสี่สิบจึงทำให้ผู้เขียนมี
มุมมองที่ลุ่มลึก และรอบคอบพอจะที่จะขมวดปมได้อย่างมิดชิด
ไม่ทำให้คาใจ


ตัวละครแต่ละตัวมีมิติและจิตใจ โดยเฉพาะด้านมืดผู้เขียนบอกเล่า
ได้ชัดเจนมาก ด้วยการเล่าผ่านน้ำเสียงของ “ฉัน”อันเป็นตัวละคร
ระหว่างวีดากับมาร์กาเร็ต บางจุดอาจจะต้องจินตนาการตาม
ไปด้วยว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เรื่องใดเป็นเรื่องที่ภาวะ
ทางจิตต้องการให้เป็น การเรียบเรียงประโยคดูจะตอกย้ำวกวนเพื่อ
ทำให้คนอ่านรู้สึกอึดอัดไปราวกับเป็นหนึ่งในตัวละคร ต้องยก
ความดีให้ผู้แปลค่ะ แปลได้อารมณ์มาก


มีจุดบ้างเหมือนกัน เช่น นึกว่าออเรเลียสเป็นเด็กหนุ่ม
อ่านไปเรื่อยๆ เพิ่งบอกว่าอายุเท่าไร....
ข้อที่สองมีคนปกติบ้างไหมในเรื่อง....
บางทีก็งงๆ ว่า “ฉัน”ที่กำลังเล่าเรื่องอยู่นี่คือใคร
เนื่องจากตัวละครผลัดกันเล่าเรื่อง


แต่ถ้าใครชอบเรื่องแนวจิตวิทยาหน่อย ชอบความคลาสสิค
ที่มีกลิ่นอายของเรื่องโบราณ เวลาในเรื่องย้อนหลังไปประมาณ 70 ปี
เป็นยุคเชื่อมรอยต่อระหว่างขุนนางกับโลกปัจจุบัน น่าจะชอบเรื่องนี้
นะคะ ส่วนเจ้าแก้วสรุปว่าชอบค่ะ






Create Date : 06 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2551 21:16:22 น. 12 comments
Counter : 965 Pageviews.

 
ชอบเช่นกันค่ะ ตอนต้นๆ ออกจะเนื่อยๆ แต่อ่านไป อ่านไป ก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นเรื่อยๆ


โดย: นัทธ์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:43:17 น.  

 
เราก็ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:55:39 น.  

 
เรื่องโปรดเลยค่ะ เป็นไม่กี่เรื่องที่เปิดอ่านซ้ำไปมาเฉพาะช่วงที่ชอบ


โดย: ยาคูลท์ IP: 58.9.137.148 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:57:46 น.  

 
ชอบมากเหมือนกันค่ะ หลายๆ ประโยคก็โดนใจมากๆ ^^


โดย: Clear Ice วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:14:25 น.  

 
ปกสวย เนื้อเรื่องละเอียดอ่อน ต้องจินตนาการและคิดตามว่าคำพูดเป็นของตัวละครใด ตอนแรกเหมือนจะเนือยๆ แต่เมื่ออ่านแล้วต้องอ่านต่อ เพราะอยากรู้ สรุปชัด ชอบมากค่ะ


โดย: ssombkk IP: 124.121.84.25 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:10:36 น.  

 
ขอยังไม่อ่าน เพราะยังไม่ได้อ่านเล่มนี้ค่ะ

ได้อ่านแล้วจะมาคุยด้วยอีกทีนะคะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:59:12 น.  

 
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในลิสต์เช่นกัน เห็นหลายคนบอกว่าสนุกเรื่องนี้


โดย: เจ้าชายสีฟ้า (sendho ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:52:23 น.  

 
กำลังจะอ่านค่ะ แล้วจะมาตอบอีกทีนะคะว่าชอบมั้ย


โดย: azzurrini วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:37:10 น.  

 
มีแต่คนบอกว่าสนุกแหะ อยากรู้ตอนจบค่ะ แต่อ่านเองคงไม่ไหว


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:04:30 น.  

 
นัทธ์ : ใช่ค่ะ จะค่อยๆ บิ้วท์อารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ให้เราอยากรู้

แพนด้ามหาภัย : ก็ว่าอยู่แพนด้าน่าจะชอบนะ

ยาคูลท์ : ชอบบทไหนเป็นพิเศษเหรอคะ?

Clear Ice : คนเขียนเขาเขียนอย่างคนผ่านโลกมาเยอะ เลยคมคายค่ะ

ssombkk : เห็นด้วยทุกประการค่ะ แต่ลองเสิร์ชปกฉบับต่างประเทศ กลับรู้สึกว่าปกของเขาสื่อเรื่องมากกว่าน่ะค่ะ

สาวไกด์ใจซื่อ : อ่านแล้วมาคุยกันค่ะ

เจ้าชายสีฟ้า : ต้องลองอ่านดูค่ะ มันจะเรื่อยๆ มาเรียงๆ หม่นๆ หมองๆ มากกว่าความน่าตื่นเต้น

azzurrini : อ่านจบแล้วรีวิวสิคะ

หมูย้อมสี: เล่มมันหนาหน่อยค่ะ เลยอาจทำให้ท้อก่อนอ่าน แต่ถ้าอ่านไปแล้วติดแน่ๆ เลยค่ะ อย่างคุณหมูฯ แป๊บเดียวก็อ่านจบ



โดย: แก้วกังไส วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:22:51 น.  

 
เพื่อนอ่านต้นฉบับ แล้วบอกว่าสนุกมากๆ แต่ยังไม่ได้หามาอ่านเลย


โดย: Boyne Byron วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:08:50 น.  

 
เคยคิดจะอ่านเหมือนกันค่ะ แต่ขอลองถามพี่ที่ศูนย์หนังสือฯ ก่อนค่อยตัดสินใจอีกที เพราะเริ่มเกิดอาการลังเลนิด ๆ ว่าจะอ่านดีไหมนะ


โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:07:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แก้วกังไส
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 54 คน [?]







ผลงานเขียนที่ผ่านมาค่ะ

รักนี้(แค้น)ต้องชำระ


Amethyst Sonata
เพลงรัก..ลิขิตหัวใจ



บาปปาริชาต

Friends' blogs
[Add แก้วกังไส's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.