Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
6 กันยายน 2554
 
All Blogs
 

สัตว์ที่อาจสูญพันธุ์ในอีก 10 ปีข้างหน้า (หาดูยาก)


การสูญพันธุ์เป็นกระบวนการตามธรรมชาติ ขณะที่วิวัฒนาการดำเนินไป สัตว์หลายชนิดสูญพันธุ์ไป และสัตว์ชนิดใหม่ได้เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง (เรียกว่า background extinction) อีกทั้งยังเกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตครั้งใหญ่ (mass extinction) ที่เป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นกะทันหันเช่นอุกกาบาตพุ่งชนโลกหรือการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลในหน้าประวัติศาสตร์ทาง ธรณีวิทยาถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว ตอนนี้พวกเรากำลังพบเจอกับสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเป็น "คลื่นการสูญพันธุ์ลูกที่ 6 (sixth wave of extinction)" ซึ่งหมายถึงการลดลงของสิ่งมีชีวิตชนิดใดชนิดหนึ่งที่เกิดจากมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญคาด การณ์ว่าอัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 100-1,000 เท่าของอัตราการสูญพันธุ์ปกติ หรือ background extinction rate (ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่ามันสูงกว่านั้นคือ 10,000 เท่าเลยทีเดียว) ตามข้อมูลของสหภาพโลกว่าด้วยการอนุรักษ์ (the World Conservation Union) หรือที่รู้จักกันในชื่อ สหภาพสากลเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ 83 ประเทศ, 800 องค์กรอิสระ และ 10,000 นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางโลกไว้ ปัจจุบันมีสัตว์ที่อยู่ใน "ภาวะสูญพันธุ์อย่างยิ่ง (critically endangered species)" ถึง 3,071 ชนิดทั่วโลก ในข้อตกลงไซเตส (CITES) สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งคือ สัตว์ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะสูญพันธุ์ใน สภาพธรรมชาติ นี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง


มีอะไรบ้าง....


Red Wolf


หมาป่าชนิดนี้มีขนาดเล็ก และ ผอมกว่าหมาป่าสีเทา พื้นที่ที่มันอาศัยอยู่มีขนาดถึง 1.7 ล้านเอเคอร์นับจาก ฟอลริด้า และเท็กซัส ถึง Calorina(ใหญ่กว่าป่าร้อยเอเคอร์ในหมีพูห์เป็นไหนๆ)ตอนเหนือในปี 1980 มีเพียง 20 ตัวเท่านั้นที่ไม่ใช่พันธุ์ทางปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 207 ตัว และ 100 กว่าตัวอยู่ในพื้นที่ป่า


Iberian Lynx


มันเป็นหนึ่งในแมว(?)ที่ใกล้สูญ พันธุ์มากที่สุด 36 สายพันธุ์ มันถูกฆ่าด้วยกับดักที่ใช้ดักกระต่ายบ่อยๆ หรือไม่ก็ ถูกรถชน รัฐบาลสเปนศึกษาในปี 2005 พบว่าเหลือเพียง 103 ตัวเท่านั้นลดลงมาจาก 400 ตัวในปี 2000 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก


Tamaraw (Dwarf Water Buffalo)


พบใน เกาะmindoro ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในปี 1900 มันมีจำนวนถึง 10000 ตัว 120 ตัวในปี 1975 370 ตัวในปี 1987 ในปี 2002 เหลือเพียง 30 ถึง 200 ตัวเท่านั้นปัจจุบันเป็นสัตว์สงวนและห้ามล่าโดยมีกฏหมายลงโทษอย่างรุนแรง


Northern Hairy-nosed Wombat


ในศตวรรษที่ 19 วอมแบตชนิดนี้พบได้ใน New South Wales และ Victoria แต่ปัจจุบันพบในอุทยานเล็กๆใกล้กับ Epping Forest Station ในรัฐควีนแลนด์ ออสเตรเลีย ซึ่งถูกสงวนไว้ ปัจจุบันเหลือประมาน 133 ตัวเท่า นั้น รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้งบในการขยายพันธุ์ไว้ 250000 เหรียญต่อปี


Hispid hare


หรืออีกชื่อหนึ่ง bristly rabbit พบบริเวณภูเขาหิมาลัย หูสั้น ขาหน้าและขาหลังมีขนาดไม่ต่างกันมาก เหลือเพียงประมาณ 100 กว่าตัวเท่าที่พบ


Javan Rhino


แรดชนิดหนึ่งเหลือเพียงไม่ถึง 60 ตัวพบได้ในอินโดนิเซียและเวียดนาม มันถูกผู้คนในท้องถิ่นล่าเพื่อนำเขาของมันไปขาย หรือทำยา มันเสี่ยงต่อโรคระบาดมาก จึงเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่ง


Seychelles Sheath-tailed Bat


ค้างคาวชนิดนี้เหลือเพียงไม่ถึง 100 ตัวในโลก พบในเกาะ seychelles ในหมู่เกาะมาดากัสการ์ ปัจจุบันต้องการการสำรวจวิจัยว่าพวกมันมีการกินอยู่อย่างไร เราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะเพิ่มจำนวนของมัน ด้วยการมุ่งจะเพิ่มจำนวนของมันอย่างหนัก ในระยะยาวอาจเพิ่มได้ถึง 500 ตัว


The Vancouver Island Marmot


มาร์มอทชนิด นี้พบในภูเขาสูงของเกาะแวนคูเวอร์ เคยมีจำนวนต่ำกว่า 75 ตัว ในปี 2005ได้รับการเพาะพันธุ์จนมีจำนวน 150 ตัว(รวมตัวอ่อน) เป้าหมายที่คาดสูงสุดคือการจะทำให้มันมีจำนวนถึง 400 ตัว


Baiji (Yangtze River Dolphin)


ปลาโลมาชนิดหนึ่ง สัตว์ที่หายากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้นจะพบในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่น้ำใส สะอาดเท่านั้นสาเหตุของการที่หลงเหลือน้อยมาจากความสกปรกของแหล่งน้ำ การประมง อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ


The Pinta Island tortoise


หนึ่งในเพียงไม่กี่ชนิดของเต่ายักษ์แห่งกาลาปากอส สัตว์ที่หายากที่สุดในโลกปัจจุบันเหลือเพียง 1 ตัวเท่านั้น เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะกาลาปากอส อีกทั้งยังมีประกาศว่าจะมอบเงินจำนวน 10000$ แก่ผู้พบเต่าตัวเมียชนิดนี้


เต่ามะเฟือง (Leatherback Turtle, Dermochelys coriacea)


เต่ามะเฟืองถือเป็นเต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันมีความยาวถึง 8 เมตรและหนักมากถึง 2,000 ปอนด์เลยทีเดียว มันยังดำน้ำได้ลึกที่สุดคือ1,200 เมตรเพื่อตามล่าแมงกะพรุน เต่ามะเฟืองสามารถพบได้ในมหาสมุทรแอตแลนติก แปซิฟิก และอินเดีย และอาจจะพบได้เหนือสุดที่เมือง บริติชโคลัมเบียและใต้สุดที่ประเทศอาเจนติน่า พวกมันมักจะมีการอพยพไปมาในมหาสมุทรแอตแลนติกหรือแปซิฟิกเพื่อหากินและออกไข่ จำนวนประชากรของมันลดลงมากในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการลักลอบขโมยไข่และบริโภคเนื้อเป็นอาหาร การทำลายแหล่ง วางไข่จากการพัฒนา(ด้านธุรกิจ)บริเวณหน้าหาด การเปลี่ยนเพศของลูกที่เกิดจากแสงที่มาจากโรงแรมหรืออื่นๆ การติดอวนประมงโดยบังเอิญ และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ในปี 1980 การคาดการณ์จำนวนประชากรตัวเมียที่ขึ้นมาวางไข่ทั่วโลกอยู่ที่ 115,000 ตัว แต่ในปัจจุบันตัวลดลง เหลือ 26,000-43,000 ตัวเท่านั้น


ลิงทามารินหลากสี (Pied Tamarin, Saguinus bicolor)


หรือเรียกอีกอย่างว่า "bare-faced tamarin" เนื่องจากหน้าและหูที่ไม่มีขนของมัน ลิงทามารินหลากสีอาศัยอยู่ในพื้นที่เล็กๆ รอบเมืองมาเนาส์ (Manaus) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล การขยายตัวของเมือง การเลี้ยงปศุสัตว์ และเกษตรกรรมทำให้ป่าร้อนชื้นที่เป็นบ้านของ ลิงทามารินลดลงไปมาก และที่แย่ไปกว่านั้น ลิงทามารินชนิดนี้ถูกแย่งพื้นที่หากินที่ทับซ้อนกันจากลิงทามารินอีกชนิดหนึ่งคือลิงทามารินแขน เหลือง (golden-handed tamarin)


แรดดำ (Black Rhinoceros, Diceros bicornis)


แรดดำแตกต่างจากแรดขาวตรงที่มันมักจะมีผิวสีออกเทา นอของมันเป็นของตกแต่งราคาแพงและมีสรรพคุณทางยา(เหมือนกับอุ้งตีนหมีครับ) ถึงแม้ว่านอเหล่านี้ประกอบไปด้วยเคราตินเหมือนกับผมหรือเล็บมือ ในช่วงต้นศตวรรษ มีแรดดำอยู่ในทวีปแอฟริกานับหมื่นตัว แต่ในปัจจุบัน มันเหลืออยู่แค่ไม่กี่พันตัวเท่านั้น ในจำนวนชนิดย่อยของแรดดำทั้ง 4 ชนิด สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตกอยู่ในภาวะถูกคุกคามมากที่สุดและน่าจะ สูญพันธุ์จากธรรมชาติไปแล้ว การลักลอบจับสัตว์และการสูญเสียแหล่งที่อยู่ที่เกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องล้วนคุกคามการอยู่รอดของแรดเหล่านี้


อัลลิเกเตอร์พันธุ์จีน (Chinese Alligator, Alligator sinensis)


เราจะพบอัลลิเกเตอร์ขนาดเล็กชนิดนี้ที่มีความยาวเมื่อโตเต็มที่เกิน 2 เมตรหรือน้ำหนักมากกว่า 40 กิโลกรัมได้ยาก มันอาศัยอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำ แถบแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเดียวกับโลมาแม่น้ำพันธุ์จีน (Chinese river dolphin) ที่สูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบันอาศัยอยู่ อัลลิเกเตอร์ชนิดนี้ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขุดโพรง ถึงแม้ว่าเราจะสามารถเพาะพันธุ์อัลลิเกเตอร์ชนิดนี้แล้วก็ตาม แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพวกมันหลงเหลืออยู่ใน ป่าเพียง 150-200 ตัวเท่านั้น ซึ่งทำให้มันเป็นจระเข้ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในโลก


กาเซลล์ดามา (Dama Gazelle, Gazella dama)


แอนทิโลปชนิดนี้มีโอกาสสูญพันธุ์สูงมาก เมื่อสิบปีที่ผ่านมา จำนวนประชากรในป่าหายไปถึง 80% ซึ่งเป็นผลมาจากการลักลอบล่าและการทำลายแหล่งที่อยู่เป็นหลัก ตอนนี้ประชากรที่เหลือไม่ถึง 100 ตัวกระจายอยู่ทั่วไปทางตอนเหนือของแอฟริกาในประเทศชาด ไนเจอร์ และมาลี สถานการณ์ในปัจจุบันของพวกมันยังคงน่าเป็นห่วงเพราะมีนายพรานต่างถิ่นเดินทางเข้ามาล่าพวกมันอย่างต่อเนื่อง


 













 

Create Date : 06 กันยายน 2554
2 comments
Last Update : 6 กันยายน 2554 23:31:18 น.
Counter : 1928 Pageviews.

 

 

โดย: ปุ๊ก (เพชรพญานาค ) 6 ตุลาคม 2554 17:16:43 น.  

 

 

โดย: Loaded 22 ตุลาคม 2554 4:50:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.