คุณเคยเหงาบ้างไหม ?

          ถามแค่นี้อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปซะก่อน เพราะความว้าเหว่ อ้างว้าง เดียวดายเป็นเรื่องธรรมชาติจะตายไป และเชื่อขนมกินได้เลยว่า คุณผู้อ่านคง เคยเหงาด้วยกันทั้งนั้น เพราะความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยปัจจัยนานัปการ โดยเฉพาะตอนบรรยากาศเป็นใจ เช่น ตอนใกล้ค่ำ หรือตอนฝน ตั้งเค้าทำท่าจะตก มิฉะนั้น ก็คงเป็นช่วงที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ห่างไกลเพื่อนฝูงหรือผู้รู้ใจ แถมหากได้ยินเพลงเศร้าๆ หรือได้ฟังกลอนซึ้งๆ ยิ่งทำให้เหงาเข้า ไปใหญ่

          อาการโลนลี (lonely) อยู่ลำพังเปล่าเปลี่ยวเอกา ถึงแม้จะเหงา แต่แท้จริงความเหงานี้ ก็มีส่วนดีอยู่บ้าง หากเราจะมองสิ่งนี้ในแง่ดีซะอย่าง ด้านที่งดงามของความเหงาก็เห็นจะเป็น ทำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้พิจารณา ได้ใคร่ครวญถึงสิ่งต่างๆ ที่ประสบพบพานมาในชีวิต เผื่อมีอะไรขาดตกบกพร่อง จะได้นำมาปรับปรุงตัวเอง นอกจากนี้ความเงียบสงบ ยังก่อให้เกิดสมาธิ เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในสิ่งที่ดีๆ ด้วย

          เห็นไหมว่า ความเหงาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหรือน่ารังเกียจเสมอไป ถ้ามองให้เป็นสิ่งน่ารัก มันก็น่าเอ็นดูมิใช่หรือ

          แต่ก็อีกล่ะนะ ไม่รู้เป็นไง ความเหงายังสามารถเชื่อมโยงไปถึงการทำร้ายตัวเองได้ด้วย เพราะถ้าใครจิตใจไม่เข้มแข็ง บวกกับภาวะเศรษฐกิจไม่ดีอย่างนี้ด้วยแล้ว หากเหงา หรือท้อแท้มากๆเข้า อาจคิดสั้นก็เป็นได้ เพราะคิดยาวๆ ไกลๆ ตอนสมองเบลอ ใครจะไปคิดออกล่ะ ให้คิดรวบรัดตัดตอนอย่างนี้ง่ายกว่าแยะ 

          ใน warning signs before suicide บอกถึงสัญญาณบางอย่างที่พอสังเกตออกว่า คนใกล้ชิดตัว ท่านมีวี่แววว่า กำลังคิดสั้นอยู่หรือเปล่า เช่น เขาหมดความสน ใจในสิ่งที่ตัวเองเคยชอบ ถ้ายังอยู่ในวัยเรียน ก็ชอบโดดเรียน แต่แทนที่จะโดดไปทำกิจกรรม สังสรรค์กับเพื่อนฝูง โน่น กลับโดดไปหลบอยู่ในมุมมืดเพียงลำพังบ่อยครั้ง มีพฤติกรรมกล้า บ้าบิ่น ไปในทางชอบเสี่ยงตายมากกว่าจะถนอมชีวิตของตัวเองไว้ ส่อแววผิดปกติทางใจ เช่น จู่ๆ ก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร หรือหัวเราะในสิ่งที่ไม่เข้าท่า

          ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้นานๆ เกิดทีก็ไม่เป็นไร แต่หากแสดงออกบ่อยๆ เห็นทีเพื่อนพ้องทั้งหลายต้อง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาเจ๊าะแจ๊ะ ช่วยกันทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้ยังน่าอยู่ ขืนทิ้งกันไปง่ายๆ ก็ไม่ใช่เพื่อนกันจริงน่ะซี

ที่มา...หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ