ย่านาง สมุนไพรสุดฮิต ที่มีคุณสมบัติปรับสมดุลในร่างกาย เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น และเป็นคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ เราอาจจะคุ้นเคยกับย่านางในฐานะที่ใช้เป็นเครื่องปรุงรสเพื่อเพิ่มความกลม กล่อม ของแกงหน่อไม้และซุปหน่อไม้ ยอดอ่อนของเถาย่านางนำมารับประทานแกล้มแนมกับของเผ็ดอื่น ๆ บางคนนำใบและยอดอ่อนใส่ในอ่อมและหมกต่าง ๆ ทางปักษ์ใต้นั้นนิยมใช้ยอดอ่อนใส่ในแกงเลียงและแกงหวาน หมอยาภาคอีสานโบราณจะเรียกชื่อของย่านางว่า ย่าหมื่นปีไม่แก่ เพราะด้วยสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ รวมไปถึงรักษาโรคมะเร็ง ที่สำคัญยังเป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่เมื่อนำมาปรุงเป็นอาหารแล้วยังมีรสชาติ อร่อยถูกปากได้หลายเมนู จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมขณะนี้ ย่านาง จึงกลายเป็นสมุนไพรที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอีกชนิด
ลักษณะของต้นย่านาง จะเป็นเถาไม้เลื้อย เถามีรูปร่างกลมขนาดเล็กแต่มีความเหนียว เถาสีเขียวเมื่อเถาแก่จะมีสีเข้มคล้ำ บริเวณเถามีข้อห่างๆ เถาอ่อน มีขนอ่อนปกคลุม เมื่อแก่แล้วผิค่อนข้างเรียบ รากมีหัวใต้ดิน ใบเป็นใบเดี่ยวคล้ายใบพริกไทย ออกติดกับลำต้นแบบสลับรูปร่าง ลักษณะคล้ายรูปไข่หรือรูปไข่ขอบขนาน ปลายใบเรียว ฐานใบมน ขนาดใบยาว 5-10 เซนติเมตร ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบย่างนางที่ขึ้นในภาคใต้จะเรียวยาวแหลมกว่า สีเขียวเข้ม หน้าและหลังใบเป็นมัน ดอกออกตามซอกใบ ซอกโคนก้าน ช่อหนึ่งๆ จะมีดอกขนาดเล็กสีเหลือง 3-5 ดอก ออกดอกแยกเพศอยู่คนละต้น ไม่มีกลีบดอก ขนาดอกโตกว่าเมล็ดงาเล็กน้อย มักออกดอกช่วงเดือนเมษายน ผลมีรูปร่างกลมเล็กขนาดเท่าผลมะแว้งสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมแดงหรือแดงสดเมื่อแก่จัดจนสุกงอมจะกลายเป็น สีดำ
ใบย่านางและน้ำคั้นจากใบยังมีแคลเซียมและวิตามินซีจำพวก เอ, บี 1, บี 2 และ เบต้า-แคโรทีน ค่อนข้างสูง คนโบราณเชื่อกันว่ารากของเถาย่านางนั้นสามารถแก้ไขได้ อีกทั้งยังช่วยถอนพิษผิดสำแดงและพิษอื่น ๆ แก้เมาเรือ แก้เมาสุรา แก้โรคหัวใจและแก้ลม ใบก็ช่วยถอนพิษและแก้ไข้
วิธีทำ น้ำใบย่านาง
1.ใช้สมุนไพรฤทธิ์เย็น อาทิ ใบย่านาง 5-20 ใบ, ใบเตย 1-3 ใบ, บัวบก ครึ่ง-1 กำมือ, หญ้าปักกิ่ง 3-5 ต้น ใบอ่อมแซบ (เบญจรงค์) ครึ่ง- 1 กำมือ, ใบเสลดพังพอน ครึ่ง 1 กำมือ, ว่านกาบหอย 3-5 ใบถ้าใครสะดวกจะใช้ใบย่านาง เพียงอย่างเดียวหรือใช้หลายอย่างรวมกันก็ได้ค่ะ
2.ตัดหรือฉีกใบสมุนไพรให้เล็กลง และนำไปโขลกสมุนไพรให้ละเอียด หรือ ขยี้ หรือนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่น (ควรใช้ระยะเวลาไม่นาน 30 วินาที 1 นาทีก็พอเพื่อให้ผ่านความร้อนน้อยที่สุด คงคุณค่ามากที่สุด)
3.นำมากรองผ่านกระชอนหรือผ้าขาวบาง
4.ได้น้ำย่านางแล้ว
วิธีกินใบย่านาง
ดื่มน้ำย่านางสด ๆ ครั้งละประมาณครึ่งแก้ววันละ 1-3 ครั้ง ก่อนอาหารหรือตอนท้องว่างหรือจะดื่มแทนน้ำก็ได้ บางครั้งสามารถผสมน้ำมะพร้าว น้ำตาล น้ำมะนาว ในรสชาติไม่จัดเกินไปเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้นก็ได้ค่ะ
สิ่งสำคัญคือความพอดี หมอเขียวบอกว่า บางคนดื่มน้ำย่านางแล้วรู้สึกแพ้ ผะอืดผะอม เพราะฉะนั้น จึงควรกลับไปดูว่าปริมาณการดื่มและความเข้มข้นของสมุนไพรควรเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุดและดื่มแบบพอดีกับที่ร่างกายเราต้องการ เพราะถ้าเรารู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมาเมื่อไหร่ แสดงว่าร่างกายบอกว่าพอแล้วนั่นเองค่ะ
สำหรับบางคนที่รู้สึกว่า กินยาก เหม็นเขียว หรือรู้สึกไม่สบาย ให้กดน้ำร้อนใส่น้ำย่านาง หรือนำน้ำย่านางไปต้มให้เดือดก่อนดื่ม หรือผสมกับน้ำสมุนไพรอื่น ๆ ที่ชอบ เช่น ขมิ้น ขิง ตะไคร้
ข้อสังเกต ความเข้มข้นพอเหมาะที่จะดื่ม
- ขณะที่ดื่มเข้าไป จะกลืนง่ายไม่ฝืดฝืน ไม่ระคายคอ
- อาการไม่สบายทุเลาลง ปากคอชุ่ม ร่างการยสดชื่นขึ้น
- ถ้่าดื่มน้อยไป อาการก็ไม่ทุเลา ถ้าดื่มมากไป ก็จะเกิดอาการไม่สบายบางอย่าง หรือในขณะดื่่มจะรู้สึกได้ว่าร่างกายจะมีสภาพต้านบางอย่างเกิดขึ้น