| เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับในการสัมมนาอย่างทั่วถึง จึงขอรวบรวมเฉพาะเรื่องราว ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตคู่ มานำเสนอ
มีคำถามหลายคำถามที่ให้คุณเป็นผู้หญิงที่เข้าร่วมการสัมมนาตอบ และคำตอบต่อไปนี้ น่าจะเป็นคำตอบจากใจของผู้หญิง ซึ่งพอจะเป็นตัวแทนความคิดของผู้หญิงทั่วๆ ไปได้
" คำพูดอะไรที่คุณอยากได้ยินจากแฟนของคุณ "
...รักซิคะ อยากให้เขาบอกว่ารักเราเสมอ และจะรักเราตลอดไป ไม่มีวันเสื่อมคลาย
เห็นไหมครับ ว่า เธออยู่ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความรัก และเธอเกิดมาเพื่อที่จะแสวงหาใครสักคนที่จะรักเธอตลอดไป
...หัดบอกรักแฟนของคุณบ่อยๆ นะครับ คุณผู้ชาย!!
" อะไรที่อยากให้แฟน ทำให้ปลื้มสุดๆ "
...อยากให้เขารักสม่ำเสมอและตลอดไป และอย่าให้ปันใจไปรักคนอื่นด้วย
ผู้หญิงเขาหวงนะครับ คุณผู้ชาย เมื่อเธอรักใครแล้ว เธอก็อยากจะให้เขาเป็นของเธอคนเดียว ห้ามปันใจไปให้คนอื่นอย่างเด็ดขาด
" คิดว่าผู้ชายเขาจะประทับใจผู้หญิงแบบไหนมากที่สุด " ...ผู้หญิงที่ดี งามสง่า และมีคุณค่าในตัวเอง เป็นคำตอบที่พวกเธอให้มา
ซึ่งก็เป็นความจริง เพราะในระหว่างความสวยงาม ความเซ็กซี่ บทพิศวาสความร่ำรวย และความดีแล้ว ผู้ชายที่ดีงามและเป็นสุภาพบุรุษ มักจะเลือกคู่ชีวิตที่มีความดีงามเสมอ และคำพูดนี้ ก็น่าจะยังพอเป็นไปได้ในยุคนี้ แม้คนเรานับถือวัตถุมากกว่าจิตใจ แต่จิตใจที่ดีงาม ก็ยังคงเป็นที่ต้องการของคู่ชีวิตเสมอ
เพราะคนเราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่านั้น ต้องอยู่ด้วยกันเพราะนึกถึงความดีงามของกันและกัน ไม่ใช่แค่ความหล่อความสวยงามหรือความร่ำรวยที่ไม่จีรังยั่งยืน การคิดถึงความดีงามของใครสักคน ย่อมทำให้ใจของเราเป็นสุขเสมอ จริงไหมครับ
" เซ็กซ์นั้น สำคัญไฉน ในชีวิตคู่ "
...เซ็กซ์ทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีงามภายในครอบครัว ทำให้เกิดความรักความอาลัยและความผูกพัน
ซึ่งนำมากับความสุขความสมหวัง จากการสุขสมของการร่วมรัก
เพราะเซ็กซ์เป็นสัมผัสรักที่จับต้องได้ และยังคงเป็นวิธีการที่เรียบง่ายในการบอกรักเสมอ
จำไว้นะครับ ว่า ผู้ชายบอกรักผ่านการมีเซ็กซ์ ในขณะที่ผู้หญิงยอมมีเซ็กซ์เพราะรักผู้ชาย ผู้ชายและผู้หญิงที่รักกัน จึงมีเซ็กซ์เป็นการบอกรักด้วยภาษากาย
" ทำอย่างไร จึงจะรักกันนานๆ และตลอดไป "
...ต้องให้ความรัก เห็นใจ เข้าใจ อภัยซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีความอดทนอดกลั้น
นั่นเป็นคำตอบที่ผู้หญิงให้มา
และผมอยากจะเสนอเพิ่มเติมสักนิดว่า ชีวิตคู่นั้นจะราบรื่น ถ้าคนสองคนที่อยู่ด้วยกันเข้าใจว่า เราเป็นคู่ชีวิตที่พยายามเข้าใจกัน ไว้ใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน และให้อภัยกันในยามที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรผิดพลาดขึ้นมา
เพราะว่า LOVE IS FORGIVING, FORGIVING AND FORGIVING
" รักแบบไหนที่ไปไม่รอด "
...รักในแบบที่หวงแหน จะเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ รักแบบที่ไม่ให้ผู้ชายเป็นอิสระ ทั้งทางกายและทางความคิด
รักแบบที่จะเก็บผู้ชายไว้ในกรงทอง ไม่นานเขาก็จะรำคาญ และจากไป
เพราะฉะนั้น รัก จึงต้องเข้าใจในรัก เมื่อรักแล้ว ก็ต้องไว้ใจกัน
ชีวิตคู่ที่ราบรื่น เกิดจากการที่คู่ชีวิตหาโอกาสบอกรักต่อกันในทุกโอกาสที่เป็นไปได้ อย่างน้อยในวันสำคัญ เช่น วันแห่งความรัก วันครอบครัว วันเกิด วันครบรอบแต่งงาน ก็น่าจะให้ความรักแก่กันบ้าง อย่างน้อยก็ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ แทนคำว่า " รัก" เพื่อให้แต่ละฝ่ายมั่นใจว่า... เรายังรักกันอยู่
ก็คนเราเกิดมาเพื่อแสวงหาความรักไม่ใช่หรือ จึงต้องพยายามรักวันเติมวันอย่าให้คนใกล้ชิดขาดรัก เรื่องของการเติมความรักในชีวิตคู่นั้น คุณหมอวิวัฒน์ ดุยาดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาชีวิตคู่ ได้ให้ทัศนะไว้น่าฟังในการสัมมนาครั้งนี้ว่า ให้เติมความหวานในชีวิตคู่ ด้วยความหวานดังต่อไปนี้
...หวานใจ หวานตา หวานหู หวานหอม และหวานผิวสยิวกาย โดยให้คำอธิบายว่า ผู้หญิงที่ทำตัวเป็นหวานใจนั้น ย่อมเกิดความสบายตาที่จะได้พบเห็น และยิ่งเธอพูดด้วยถ้อยคำที่เป็นมธุรสวาจา อันแสนจะหวานหูแล้วละก็ เธอก็แสนจะหวานหอม จนทำให้เขาเกิดอารมณ์รักใคร่ ลิ้มรสเสน่หาจากผิวกาย จนเกิดความสุขสมร่วมกัน
ที่สำคัญ ผมอยากจะฝากคุณผู้หญิงทั้งหลายไว้ว่า การจะเลือกคู่ชีวิตนั้น ต้องใช้เวลาพินิจพิจารณานานๆ อย่าใจเร็วด่วนได้ รีบร้อนตัดสินใจ จำไว้นะครับว่า บางครั้งความรักก็ทำให้ตาบอดมืดมัวไปบ้าง ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกคู่ครอง พยายามเปิดตาให้กว้างๆ มองเขาทุกสิ่งทั้งเรื่องที่ดีงาม และนิสัยที่คุณจะต้องอดทนเมื่อต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
และเมื่อตกลงปลงใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้ว ให้หัดปิดตาเสียบ้าง เรื่องอะไรที่ไม่ควรจะเห็นก็อย่าเห็น และถ้าจะให้ดีแล้ว เรื่องอะไรที่ไม่ควรจะได้ยิน ก็อย่าไปได้ยิน เพราะจะทำให้ชีวิตรักไม่ราบรื่นสุขสมอารมณ์หมาย เหมือนใจปรารถนา
อย่าทำแบบนี้นะครับ...
เจอกันครั้งแรกบอกว่า " ใช่เลย" คนนี้แหละเนื้อคู่ของเรา
พอผ่านไปหนึ่งปี บอกใครต่อใครรอบข้างเลยทีนี้ว่า " ใช่แน่" ไม่แปลเปลี่ยนเป็นใครอื่น คนนี้แหละหนอที่จะเกิดมาเป็นคู่ชีวิตของเรา
ผ่านปีที่สองไป เริ่มถามตัวเองว่า " ใช่เหรอ" คนนี้นะหรือที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของเรา ชักจะไม่ค่อยแน่ใจ ทำไมเขาช่างไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษเหมือนเดิม ทำไมเดี๋ยวนี้เอาแต่ใจตัวเองมากนักนะ ทำไม...ทำไม และทำไม ประดังประเดเข้ามาในความคิด เพราะชักจะไม่แน่ใจแล้วว่า เขาเป็นคู่ชีวิตที่ดีได้ในอนาคต ถ้าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
พอจบปีที่สาม คำถามก็เปลี่ยนไปเป็น " ใช่ไหม" ใช่จริงๆ หรือ ไม่น่าจะใช่หรอก ความไม่แน่ใจเริ่มชนะความคิดเดิมๆ เพราะ...เขาเปลี่ยนไป โดยเฉพาะไม่แน่ใจว่า เขาจะยังรักเราอยู่ เหมือนที่เรารักเขาเหรือเปล่า
ครั้นมีสัมพันธ์กันครบสี่ปี เริ่มปีที่ห้า ความคิดที่เกิดขึ้นในใจก็บอกว่า สงสัยจะ " ไม่ใช่" ไม่ใช่คนนั้นที่ฉันฝันถึง เพราะเขาไม่เป็นดังที่หวังและตั้งใจไว้เลย
ครบห้าปี...ก็มั่นใจว่า " ไม่ใช่" แน่ๆ ต้องเลิกรากันไป
เป็นแบบนี้ในหลายๆ คู่มาในทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนั้น ถ้าจะเปลืองตัวไปเป็นของเขาก่อนครบกันห้าปี ก็คิดดูอีกทีนะครับ ว่าอาจจะเปลืองตัวและเสียใจฟรีไม่ว่าเขาจะจากคุณผู้หญิงไปเอง หรือคุณขอแยกจากเขามา เพราะ...เราไปด้วยกันไม่ได้
อย่าเปลืองตัวกันมากนะครับ คุณผู้หญิง...ถ้าไม่อยากจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมบ่อยๆ แนะนำว่า ดูใจกันนานๆ เปิดตาให้กว้างๆ อย่าตาบอดมืดเพราะความรักมากนัก
ผู้ชายที่ดีๆ น่ะ เขารอคุณอยู่...ถ้าคุณจะรู้จักเปิดตาไว้บ้าง
คนที่มีแต่ความหวานหู รับรองอะไรเป็นมั่นเหมาะแบบง่ายๆ น่ะ ถึงเวลาเขาก็จากไปง่ายๆ เหมือนกัน เก็บ " เซ็กซ์" ไว้ให้คนที่รักคุณและจะใช้ชีวิตคู่กับคุณดีกว่า
จำไว้ว่า...
.....เซ็กซ์นั้น ถ้ามีความรักแท้แล้ว จะนำสิ่งดีๆ มาสู่ชีวิต
.....เซ็กซ์ลงตัว ครอบครัวก็สุขสันต์
.....เซ็กซ์สดใส ความรัก ก็สดชื่น
.....เซ็กซ์เป็นความมั่นคงของชีวิตคู่
.....ดังนั้น อย่ามีเซ็กซ์ ก่อนถึงเวลา !!! | |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [