WishRich
Group Blog
 
All Blogs
 

เจลบัวบก รักษาแผลในช่องปากได้


เจลบัวบก
รักษาแผลในช่องปากได้

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ
วิจัยสกัดเป็นเจลบัวบก รักษาแผลในช่องปากได้ผลชะงัด ไม่มีแผลเป็น
แนะประชาชนคั้นน้ำใบบัวบกดื่มแก้ร้อนใน เจ็บคอ พร้อมเตือนอย่าดื่มเป็นประจำ
อาจมีอันตรายต่อม้าม




//www2.thaitownusa.com/resource/images/news/428/Img0910000968.jpg
 





           รศ.ชัยโย
ชัยชาญทิพยุทธ ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กล่าวว่า ได้ร่วมกับ รศ.สุชาดา ประเสริฐวิทยาการ อาจารย์คณะเดียวกัน
ร่วมกันวิจัยเรื่อง "เจลบัวบกยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปาก"
เป็นการนำสมุนไพรบัวบก มาใช้ประโยชน์ในการรักษา แผลในช่องปากอย่างได้ผล
เนื่องจากใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลภายนอกร่างกายให้หายเร็วขึ้น
และไม่เป็นแผลเป็น
จากสรรพคุณดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดในการนำใบบัวบกมาใช้ในการรักษาแผลในช่อง
ปาก



          
รศ.ชัยโย กล่าวว่า สารสกัดจากบัวบก ได้จากการแช่ยุ่ยใบสดในเมธานอล
และแยกสารสกัด โดยวิธีลำดับส่วน
จากการศึกษาได้มีการพัฒนาเจลใบบัวบกให้ยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปากมากขึ้น
ซึ่งตามปกติแล้วยาในลักษณะเจลที่ขายอยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีความเหนอะหนะ



           ทั้งนี้
ได้มีการทดลองนำเจลบัวบกมาเปรียบเทียบกับยาหลอก และยาที่ขายในท้องตลาด
ในกลุ่มอาสาสมัคร100 คน โดยให้อาสาสมัครทายา 3 ครั้ง คือ หลังอาหารเช้า,
เย็น และก่อนนอน แล้ววัดขนาดของแผลเป็นมิลลิเมตร ในความแรง 0.5, 1 และ 2%
ซึ่งผลการทดลองพบว่า เจลบัวบกทำให้ขนาดของแผลลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยิ่ง
มีสารสกัดของใบบัวบกมากขึ้น ก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น
ทำให้อาการปวดแผลหายเร็วกว่าการใช้ยาที่ขายตามท้องตลาดด้วย



          
รศ.ชัยโย กล่าวด้วยว่า
ในอนาคตมีแนวคิดที่จะพัฒนาให้เจลใบบัวบกติดทนได้นานกว่าเดิม
โดยนำไขโกโก้มาเคลือบปิดตัวยา เพื่อให้พอลิเมอร์ที่มีอยู่ในยา
ไม่ถูกน้ำลายชะล้างได้ง่าย ทำให้เจลบัวบกอยู่ได้นานขึ้นถึง 5-6 ชั่วโมง
มีผลทางการรักษา ทำให้แผลหายเร็วขึ้น



          
สำหรับประชาชนทั่วไป หากมีแผลร้อนใน เจ็บคอ
หรือไม่สบายตัวช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
สามารถนำใบบัวบกมาใช้ได้ด้วยการนำใบมาปั่น หรือตำด้วยครกคั้นน้ำมาผสมกับน้ำ
ตาลทรายแดงตามชอบรับประทาน เมื่อมีอาการจะทุเลาลงได้
แต่ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ เพราะใบบัวบกมีฤทธิ์เย็น ตามตำรายาจีนระบุว่า
จะส่งผลกระทบต่อม้ามและอวัยวะภายใน ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย


 


 







 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 16:49:25 น.
Counter : 479 Pageviews.  

ขิง(1)แก้เหงือกอักเสบ

//www.rakbankerd.com/kaset/Plant/1430_1.jpg
สาเหตุของปัญหาโรคเหงือกและฟันส่วนใหญ่เกิดจากการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง
ส่วนเหงือกอักเสบเกิดจากคราบฟัน หรือที่เราเรียกว่าคราบพลัค (plaque)
ซึ่งประกอบด้วยเชื้อแบคทีเรียจากการหมักหมมของเศษอาหาร
เกาะอยู่บนฟันหรือบริเวณขอบฟันจนในที่สุดจับตัวกันเป็นหินปูน
เมื่อเกิดการติดเชื้อที่เหงือกหรือหินปูนเสียดสีกับเหงือก
จึงทำให้เกิดการอักเสบขึ้น




นอกจากการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึงแล้ว สภาพร่างกายที่อ่อนแอ เช่น
เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเจ็บป่วย
ก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเหงือกอักเสบได้เช่นกัน
เนื่องจากเป็นช่วงที่ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย
ยิ่งไปกว่านี้หากเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างการแปรงฟันก็จะเกิดเหงือกอักเสบ
ขึ้นได้ง่าย และหายช้าได้เช่นกัน



หากใครกำลังมีปัญหาเหงือกอักเสบอยู่
ควรเร่งดูแลทั้งความสะอาดในช่องปากและสุขภาพโดยรวมให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรง
ในเร็ววัน



ระหว่างที่มีอาการเหงือกอักเสบ เรามีสมุนไพรที่มีสรรพคุณลดการอักเสบ
ต้านการเกิดฝีหนองได้ ซึ่งทุกคนคุ้นเคยกันดีมาฝาก เอาไว้ทาแก้เหงือกอักเสบ
ซึ่งจะช่วยให้หายได้ในไม่กี่วัน



สมุนไพรที่ว่าคือขิงสด นำขิงสดมาปอกเปลือก
ล้างให้สะอาด นำมาหั่นและบดละเอียด ให้ได้สัก 1 ช้อนชา
เติมเกลือลงไปเล็กน้อย ประมาณ 1/4 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันดี
นำมาทาบริเวณที่เหงือกที่อักเสบ วันละหลายๆ ครั้ง อาการบวมของเหงือกจะค่อยๆ
หายเป็นปกติ



เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว อย่าละเลยการดูแลทั้งความสะอาดในช่องปาก
และการดูแลสุขภาพจากภายในด้วยนะคะ






 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 16:46:39 น.
Counter : 538 Pageviews.  

หญ้าหมอน้อยเลิกบุหรี่

หญ้าหมอเลิกบุหรี่ นักวิจัยสรุปหญ้าหมอน้อยลดบุหรี่ได้


         นักวิชาการร่วมมือเครือข่ายต้านบุหรี่
ชี้ทางออกสิงห์อมควัน วิจัยพบสมุนไพรหญ้าหมอน้อยช่วย
เลิกบุหรี่ ได้ผลเกินคาด ไม่มีอาการข้างเคียง แถมลดเครียด ลดก๊าซในลมหายใจ



          ดร.ดลรวี ลีลารุ่งระยับ
อาจารย์คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากการสูบ
บุหรี่เป็นจำนวนมาก และบุหรี่ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคร้ายต่างๆ
โดยขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 9.4 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาย 95.6%
และหญิง 4.4% ในกลุ่มผู้สูบเหล่านี้เคยคิดจะเลิกสูบบุหรี่ 27.7%
และเคยพยายามเลิกอย่างน้อย 1 ครั้ง 6.3% ดังนั้น
การส่งเสริมให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่จะสามารถช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยและเสีย
ชีวิตจากการสูบบุหรี่ได้



          ดร.ดลรวีกล่าวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ 1.2%
นิยมใช้บริการคลินิกอดบุหรี่
ซึ่งมีการใช้พฤติกรรมบำบัดประกอบกับการใช้ยาช่วยเลิกบุหรี่
ทั้งในรูปของสารทดแทนนิโคติน แต่ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้น
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ
(ศจย.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ทำการวิจัยสมุนไพรที่ช่วยให้ลดการสูบบุหรี่ และพบว่าสมุนไพรหญ้าดอกขาว
หรือสมุนไพรหญ้าหมอน้อย สามารถช่วยทำให้ลดอัตราการสูบบุหรี่ได้ดี
โดยไม่มีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด
ช่วยให้ระดับของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในลมหายใจลดลงได้



         
"จากการทดลองในกลุ่มที่ใช้สมุนไพรหญ้าหมอน้อย จำนวน 50 ราย
ร่วมกับการออกกำลังกายเป็นเวลา 2 เดือน
พบว่าสามารถช่วยลดจำนวนการสูบบุหรี่ลงได้มากถึง 62.7% และหากใช้ยาเป็นเวลา 6
เดือน จะช่วยลดการสูบบุหรี่ได้ถึง 73.3%
ซึ่งมีผลทำให้ระดับความเครียดลดลงได้มากที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว
และกลุ่มได้รับหญ้าหมอน้อยเพียงอย่างเดียว"
ดร.ดลรวีกล่าว



          ด้าน ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์
ผอ.ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า
ในตำรับแพทย์แผนไทยระบุว่า
หญ้าหมอน้อยสามารถช่วยลดจำนวนการสูบบุหรี่และเลิกสูบบุหรี่ลงได้
แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการศึกษาที่จริงจัง ดังนั้น
การทดลองใช้สมุนไพรหญ้าหมอน้อยในครั้งนี้ จึงสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1.ยาเคี่ยว ที่ใช้หม้อดิน โดยใช้สมุนไพรหญ้าหมอน้อยที่มีดอกลักษณะดอกตูม 1
ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน และเคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน
ก่อนดื่มเมื่อมีอาการอยากบุหรี่ 2.ชา ชงกับน้ำร้อน ดื่มหลังอาหาร 3 มื้อ
ซึ่งวิธีเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ด้วยการใช้ยา
สมุนไพร และสามารถลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศได้




//tonkla.tht.in/images/31552_2.jpg






ชื่ออื่น
หญ้าสามวัน
ก้านธูป ถั่วแฮะดิน ฝรั่งโคก หญ้าละออง หญ้าหมอน้อย หนวดหนา หญ้าดอกขิง
หญ้าเหล่าฮก หญ้าเหนียมช้าง เซี่ยวไซ
(จีน)


ลักษณะ
เป็นไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า
มีขึนกระจายทั่วไปตามที่รกร้างข้างทาง ข้างบ้านทุกภาคของประเทศไทย
ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพบเห็นเป็นประจำ แต่ไม่ทราบว่าเป็นต้นอะไร
คิดว่าเป็นต้นหญ้าที่หาประโยชน์ไม่ได้


ต้น
ลำต้นตั้งตรงเป็นสัน มีขน สูง 1 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ
เป็นรูปไข่กลับหรือรูผใบหอกแกมขอบขนาน คล้ายต้นพริก มีขนละเอียดทั้ง
2 ด้าน


ดอก
ออกเป็นช่อแบบแยกแขนงช่อที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อประกอบด้วย
ดอกย่อยจำนวนมาก เมื่อดอกบาน กลับดอกจะเป็น สีม่วงสด กลีบดอก เป็นฝอยๆ
เป็นกระจุกคล้ายดอก ดาวเรือง แต่มีขนาด เล็กกว่ามาก
เวลาดอกบานพร้อมๆกันจะสวยมากมาก พอดอกแก่จะกลายเป็นสีขาว เบาคล้ายปุยนุ่น
มีผลแห้งเล็กๆ มี
4 - 5
อัน ติดอยู่
หลุดร่วงง่าย เมื่อลมพัด จะปลิวกระจายไปทั่ว เมื่อไปตกดินบริเวณไหน
จะแพร่ขยายพันธุ์เองตามธรรมชาติ


มีรสจืด


ดอก
มีรสขมเล็กน้อยและมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยรากมีรสขม


สรรพคุณ
ใช้ทั้งต้นต้มรับประทาน แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ ใบสด
ตำให้ละเอียด ปิดสมานแผล ทำให้เย็น หรือผสมกับน้ำนมคน กรองเอาแต่น้ำ หยอดตา
แก้ตาแดง ตาฝ้า ตาเปียก ตาแฉะ แพทย์จีน ใช้ทั้งต้นตำพอกนม แก้นมคัดนมหลง
แก้บวม และดูดหนอง ส่วนภาคเหนือใช้ทั้งต้นและราก ตากแห้งบดเป็นผง
รักษาแผลสด แผลเรื้อรัง ผิวหนังพุพอง ห้ามเลือด ตำรายาไทยใช้ทั้งต้น แก้ไข้
แก้ไอ ดีซ่าน ปัสสาวะรดที่นอน ใบสด แก้กลากเกลื้อน เรื้อนกวาง ได้ดีมาก
ยาพื้นบ้านใช้ทั้ง
5 (รวามราก) 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 4
ถ้วย ดื่มแก้ตกเลือด บำรุงเลือด ลดอาการปวด ลดความดัน



เภสัชมอ
. ค้นคว้าสูตรกาแฟ
ผสมหญ้าดอกขาวลดสูบบุหรี่


นักวิจัยสงขลานครินทร์คิด
ค้นกาแฟเพื่อสุขภาพ ผสมหญ้าดอกขาวมีฤทธิ์ลดความอยากบุหรี่
ช่วยสิงห์อมควันเลิกสูบได้โดยไม่ฝืนใจ
เผยรอศึกษาข้อมูลเพิ่มทั้งกาเฟอีนและความคงตัวของสารสกัดหญ้าดอกขาว
ก่อนต่อยอดเป็นกาแฟสำเร็จรูป




ผศ.ดร.สมฤทัย จิตภักดีบดินทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
(มอ.) สกัดกาเฟอีน
ออกจากเมล็ดกาแฟ จากนั้นนำดอกหญ้าขาวซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการอยากสูบบุหรี่
มาเป็นส่วนผสม จากนั้นนำไปแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์กาแฟถุง
สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกหรือลดบุหรี่


ผศ.ดร.สมฤทัย กล่าวว่า
ผู้ใช้เพียงแช่กาแฟถุงในน้ำร้อน คล้ายกับการชงชาถุง
ก็สามารถดื่มกาแฟเลิกบุหรี่ดังกล่าว ทั้งนี้ จากการ


ทดสอบประสิทธิภาพในอาสา
สมัครที่ติดบุหรี่
20 คน
เริ่มจากการทำแบบสอบถามถึงจำนวนครั้งของการสูบบุหรี่ต่อวัน
เพื่อดูว่าแต่ละคนติดบุหรี่ในระดับรุนแรงหรือไม่
จากนั้นให้ดื่มกาแฟเลิกบุหรี่วันละ
1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน ติดตามผลโดยให้ทำแบบสอบถามชุดเดิม ผลการทดสอบพบอาสาสมัคร 2 คนเลิกบุหรี่ได้ในเวลา 1 เดือน ขณะที่ 18 คนที่เหลือสูบบุหรี่น้อยลง จากวันละ 1-2 ซองเหลือต่ำกว่า 4 มวน
อาสาสมัครต่างรู้สึกพอใจที่ลดการสูบลงได้โดยไม่ฝืนใจตนเอง




โครงการวิจัยใช้
เมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกในจังหวัดกระบี่
หากประสบความสำเร็จจะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
จากสภาพปัจจุบันที่เมล็ดกาแฟราคาตก
ประกอบกับภาครัฐให้การสนับสนุนกาแฟพันธุ์อราบิก้า
มากกว่าพันธุ์โรบัสต้าที่นิยมปลูกในจังหวัด


จากปัญหาดังกล่าวจึงเกิด
ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับจังหวัดกระบี่
ในการทำวิจัยเกี่ยวกับกาแฟเพื่อสุขภาพ
นักวิจัย กล่าว

ส่วนการวิจัยขั้นต่อไปจะ
ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้เป็นกาแฟพร้อมชง หรือกาแฟสำเร็จรูป
ขณะนี้กำลังศึกษาข้อมูล รวมถึงวิจัยสารสกัดจากหญ้าดอกขาวที่จะเป็นส่วนผสม
ในเรื่องของความคงตัวของสารสกัด


นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่าง
ตัดสินใจว่าจะสกัดกาเฟอีนออกหรือไม่
เนื่องจากกาเฟอีนจะช่วยกลบรสขมของหญ้าดอกขาว ทำให้กาแฟรสชาติดีขึ้น
ทั้งยังช่วยลดอาการข้างเคียงของผู้เลิกบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นอาการง่วง เพลีย
ไม่กระปรี้กระเปร่า อ้วนขึ้น
เพราะกาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและลดไขมันเซลลูไลท์


ส่วนข้อกังวลที่
ว่า หากเลิกบุหรี่ก็อาจจะติดกาแฟแทน ในระยะแรกที่ทำกาแฟไร้กาเฟอีนนั้น
ไม่พบอาการติดกาแฟในอาสาสมัคร
แต่ในการต่อยอดให้เป็นกาแฟผงสำเร็จรูปอาจจะเก็บกาเฟอีนไว้ ทั้งนี้
ข้อมูลทางการแพทย์ชี้ว่า ติดกาเฟอีนดีกว่าติดนิโคตินเนื่องจากเลิกง่ายกว่า
ทั้งกาเฟอีนยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม กล่าว






 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 16:37:40 น.
Counter : 891 Pageviews.  

ต้นลูกใต้ใบ

//thrai.sci.ku.ac.th/files/images/luktaibai.preview.jpg










ได้รับคำแนะนำจาก
คุณสรกิจซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ท่านหนึ่งว่า....ตัวเองเคยป่วยเป็นไวรัสตับ
อักเสบบี  นอนโรงพยาบาลแล้วไม่หาย
แต่พอทานต้นลูกใต้ใบต้มแล้วดื่มต่างน้ำประมาณ ๑ สัปดาห์ อาการดีขึ้น
จากนั้นก็ดื่มไปเรื่อย ๆ ครบ ๓ เดือน ผมไปตรวจเลือดที่ รพ.จุฬาฯ
หมอบอกว่าไม่มีเชื้อแล้วตอนนี้
...และอยากให้เผยแพร่เพื่อช่วเหลือผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว...ซึ่งถือเป็น
ความรู้ที่ดีและมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้อ่านและผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับ
ตับ...



ต้นลูกใต้ใบ  ชื่ออื่นๆ มะขามป้อมดิน (ภาคเหนือ) หญ้าใต้ใบ (นครสวรรค์
อ่างทอง ชุมพร) หญ้าใต้ใบขาว (สุราษฎร์ธานี) ไฟเดือนห้า (ชลบุรี)
หมากไข่หลัง (เลย) จูเกี๋ยเช่า (จีน) : ยาแก้ไข้ บำรุงตับ ไต และแก้นิ่ว


ลูกใต้ใบ…สมุนไพรบำรุงตับ ลดอาการตับอักเสบ
สร้าง
ความสมดุลของไขมันในตับ


หมอยาคนจีนเชื่อว่าถ้ากินลูกใต้ใบติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์จะช่วย
กำจัดพิษออกจากตับ มีผลทำให้สายตาดี บำรุงตับ รักษาอาการดีซ่าน
ซึ่งก็คล้ายๆ กับหมอยาพื้นบ้านไทยและหมออายุรเวทอินเดียที่มีความเชื่อว่า
ลูกใต้ใบเกิดมาเพื่อตับ ใช้ต้มกินเป็นยาแก้ดีซ่าน แก้ตับอักเสบตัวเหลือง
ตาเหลือง ซึ่งมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า
สารสกัดจากลูกใต้ใบมีฤทธิ์ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ เช่น เหล้า
รักษาอาการอักเสบของตับทั้งประเภทเฉียบพลันและเรื้อรัง
ลูกใต้ใบยังช่วยปรับไขมันในตับให้เป็นปกติ


ลูกใต้ใบยังเหมาะที่จะใช้ทำเป็นชาสมุนไพรให้กับคน
ไข้ที่เป็นมะเร็งตับ เพราะมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า
น้ำต้มของลูกใต้ใบทำให้หนูที่เป็นมะเร็งตับมีอายุยืนยาวขึ้น
ด้วยกลไกที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตช้าลงแต่ไม่ได้ฆ่าเซลล์มะเร็งโดยตรง





การทดลองใช้ยาสมุนไพรรักษาไวรัสตับอักเสบ


พืชสมุนไพรหลายชนิดมีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์
ดีเอ็นเอของไวรัสชนิดนี้ และสารสกัดของมะขามป้อมดิน(ลูกใต้ใบ)
แพทย์ชาวอเมริกันและอินเดียได้ร่วมกันทำการทดลองพบว่า
ยาสมุนไพรที่ใช้สืบต่อกันมามากกว่า 2,000 ปี
สามารถรักษาโรคไวรัสตับอักเสบชนิด บี ได้ผลดี


การทดลองนี้เป็นความร่วมมือระหว่างคณะแพทย์จาก
สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา
และคณะแพทย์อินเดียแห่งเมืองมีคราสได้ศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรชนิดต่างๆ
ที่มีการใช้รักษาอาการดีซ่านมาตั้งแต่โบราณ โดยได้นำพืชสมุนไพรกว่า 1,000
ชนิดที่ใช้กันทั่วโลกมาทดสอบความสามารถในการยับยั้งปฏิกิริยาของเอนไซม์ที่
ใช้ในการสังเคราะห์สารดีเอ็นเอ
ซึ่งจำเป็นในการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ในร่างกายของผู้ป่วย


จากการทดลองพบว่า
พืชสมุนไพรหลายชนิดมีฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ดีเอ็นเอของไวรัสชนิดนี้
และสารสกัดของมะขามป้อมดิน (บางแห่งเรียก ลูกใต้ใบ หญ้าใต้ใบขาว)
มีฤทธิ์สูงสุด การทดลองทางคลินิกในมีคราสทำโดยให้แคปซูลยาสมุนไพร 200
มิลลิกรัมน้ำหนักแห้งแก่ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ บี 37 คน วันละครั้ง 30
วันติดต่อกันพร้อมกับให้ยาหลอกซึ่งภายในแคปซูลบรรจุน้ำตาลแล็กโทสแทน 23 คน
หลังจากนั้นเจาะเลือดผู้ป่วยมาตรวจหาเชื้อไวรัส พบว่าผู้ป่วย 22 คน (ร้อยละ
59) ไม่มีเชื้อไวรัสในกระแสเลือด ในขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกเพียง 1
คนที่ไม่พบเชื้อไวรัสในกระแสเลือด และภายหลังการติดตามผลการรักษาต่อไปอีก 9
เดือน พบว่า ผู้ป่วยทั้ง 22 คน ยังคงตรวจไม่พบเชื้อไวรัสในกระแสเลือดต่อไป


แพทย์พบว่า
ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแต่ไม่ได้ผลยังพบเชื้อไวรัสอยู่นั้น
เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนั้นเพิ่งได้รับเชื้อไวรัสใหม่ๆ
จึงยังคงมีเชื้อไวรัสจำนวนมากมายในระยะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว
จึงควรจะให้ยาในขนาดที่สูงขึ้นอีก
การใช้มะขามป้อมดินในการรักษาอาการดีซ่านนี้
ได้กล่าวไว้ครั้งแรกในตำราอายุรเวทอินเดียมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว
และสารสกัดจากพืชนี้ได้มีการใช้รักษาอาการดีซ่านในประเทศจีน ฟิลิปปินส์
คิวบา ไนจีเรีย กวม แอฟริกาตะวันออกและตะวันตก อเมริกาใต้และอเมริกากลาง
และพืชในตระกูลนี้กว่า 900 ชนิด พบขึ้นอยู่ทั่วไปในเขตร้อน


(จาก Herbal drug succeed in
hepatitis trials. Far East Health 2531;11:8)
ร.ศ.จันทร์เพ็ญ วิวัฒน์ 

ข้อมูล
จาก หมอชาวบ้าน       
//thrai.sci.ku.ac.th/node/995


                                    ลูกใต้ใบ


                         
























ชื่ออื่นๆ :  

มะขามป้อมดิน  หญ้าใต้ใบ  หญ้าใต้ใบขาว   หมากไข่หลัง 
หมากใต้ใบ


ชื่อสามัญ :  Tamalaki, Hazardana
ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Phyllanthus amarus Schum & Thonn.
วงศ์ :  Euphorbiaceae


ลักษณะพฤษศาสตร์ :   ไม้ล้มลุก สูง 10.00 -
60.00 เซนติเมตร ทุกส่วนมีรสขม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกชั้นเดียวปลายคี่
มีใบย่อย 23 - 25 ใบ ใบย่อยรูปขอบขนานแกมไข่กลับ ปลายใบมนกว้างโคนใบมนแคบ
ขนาดประมาณ 0.40 X 1.00 เซนติเมตร
ก้านใบสั้นมากและมีหูใบสีขาวนวลรูปสามเหลี่ยมปลายแหลมเกาะติด 2 อัน
ดอกแยกเพศ เพศเมียมักอยู่ส่วนโคน เพศผู้มักอยู่ส่วนปลายก้านใบ
ดอกขนาดเล็กสีขาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.08 เซนติเมตร
ผลทรงกลมผิวเรียบสีเขียวอ่อนนวล ขนาดประมาณ 0.15 เซนติเมตร
เกาะติดอยู่ที่ใต้โคนใบย่อย เมื่อแก่จะแตกเป็น 6 พู แต่ละพูจะมี 1 เมล็ด
เมล็ดสีน้ำตาลรูปเสี้ยว 1/6 ของทรงกลม ขนาดประมาณ 0.10 เซนติเมตร


ลูกใต้ใบ…สมุนไพรของผู้ป่วยเบาหวาน



ลูกใต้ใบ
เป็นสมุนไพรยอดนิยมของผู้ป่วยเบาหวาน หมอยาและชาวบ้านในหลายประเทศ
รวมทั้งประเทศไทย
เชื่อว่าลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรช่วยคุมระดับน้ำตาลในคนเป็นโรคเบาหวานได้
ซึ่งมีการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาพบว่าสารสกัดของลูกใต้ใบมีฤทธิ์ลดระดับ
น้ำตาลในเลือดได้


ข้อแนะนำ...สำหรับการ
ใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน
หากจะใช้สมุนไพรต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตามคำสั่งแพทย์และมีการตรวจวัด
ระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งมีรายงานที่แสดงให้เห็นว่าลูกใต้ใบช่วยเสริมฤทธิ์ของยาเบาหวาน



ลูกใต้ใบ…สมุนไพร ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว


หมอยาทั่วทุกภาคจะใช้ลูกใต้ใบในการเป็นยาขับนิ่ว
มีรายงานการศึกษาสมัยใหม่ว่าลูกใต้ใบมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ
ซึ่งมีประโยชน์ในการขับนิ่ว และลดความดัน ฤทธิ์ในการขับนิ่วนั้น
มิใช่หมอยาพื้นบ้านไทยเท่านั้นที่รู้จักใช้ ในสเปน เรียกลูกใต้ใบว่า Chanca
piedra
มีความหมายว่า นักทุบหิน หรือทำให้หินเป็นชิ้นเล็กๆ (Stone
breaker or Shatter stone) ในบราซิลเรียกลูกใต้ใบว่า Quebra-pedra หรือ
Arranca-pedras ซึ่งมีความหมายในทำนองเดียวกัน
หมอยาพื้นบ้านในแถบลุ่มน้ำอเมซอนนิยมใช้ลูกใต้ใบ
ต้มกินในการรักษานิ่วทั้งนิ่วในถุงน้ำดีและนิ่วในไต
มีรายงานการศึกษาพบว่าลูกใต้ใบมีฤทธิ์ทั้งป้องกันและกำจัดนิ่ว


ลูกใต้ใบ
เป็นสมุนไพรที่จัดว่ามีการใช้กับระบบทางเดินปัสสาวะมากที่สุดชนิดหนึ่ง
โดยมีการนำไปใช้รักษาอาการมีไข่ขาวในปัสสาวะ อาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ใช้ในการขับปัสสาวะ ลดอาการบวม
และขับกรดยูริคออกทางปัสสาวะ ซึ่งช่วยในคนเป็นโรคเก๊าท์





ข้อควรระวัง


ห้ามใช้ในคนท้อง
เพราะลูกใต้ใบเป็นยาขับประจำเดือน

ลูกใต้ใบ
เป็นสมุนไพรที่น่าเสียดายว่าหาง่าย ใช้ง่าย เพียงแค่ต้มกินก็ใช้ได้แล้ว
ใช้กันมานาน...


เพิ่มเติม...


๑.   แก้
ไข้ท้ับระดู
  นำหญ้าใต้ใบทั้ง ๕ ล้างน้ำสะอาด ตำละเอียดผสม สุรา
คั้นเฉพาะน้ำยา กินครั้งละ ๑ ถ้วยชา



๒.   แก้
ร้อนใน
  ให้เอาหญ้าใต้ใบทั้ง ๕ ต้มกิน


๓.   ขับ
เหงื่อ
  เอาหญ้่าใต้ใบต้มกินขับเหงื่อ ลดไข้ได้


๔.   ขับ
ปัสสาวะ
  นำหญ้่าใต้ใบต้มกิน กระตุ้นไตให้ทำงานและขับ ปัสสาวะ


๕.   แก้
ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  ใช้ หญ้าใต้ใบต้มกิน รักษาโรคติด
เชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น ไตอักเสบจนตัวบวม ( ให้สังเกตดู กินแล้วต้อง
มีปัสสาวะออก ถ้ากินแล้วปัสสาวะไม่ออกให้หยุดยา


๖.   แก้
นิ่ว
   หญ็าใต้ใบทั้ง ๕ จำนวน ๑ กำมือ ตำแหลกคั้นน้ำดื่มให้ได้
ครึ่งถ้วยชา เอาสารส้มขนาดปลายนิ้วก้อยละลายลงไป ดื่มให้หมดครั้งละ
ครึ่งถ้วยชา วันละ ๓ เวลาก่อนอาหาร ดื่มติดต่อกันให้ได้ ๓ วัน จากนั้น
ใช้ลูกใต้ใบ ทั้ง๕ จำนวน ๑ กำมือ ต้มกับน้ำตาลทรายแดงให้พอหวาน
ดื่มต่างน้ำติดต่อกันอีก ๓ วัน ขึ้นวันที่ ๗ ดื่มน้ำ้อ้อยสด วันละ ๑ ขวดน้ำ
ปลา อีก ๓ วัน เพื่อล้างนิ่วเป็นขั้นสุดท้าย รวม ๑ รอบ การรักษาเป็นเวลา ๙
วัน


๗.   แก้ประจำ
เดือนมากว่าปกต
ิ   ใช้รากสดต้นลูกใต้ใบตำผสมกับ น้ำซาวข้าวกิน


๘.   ขับ
ประจำเดือน
  ใช้ต้นลูกใต้ใบต้มกินขับประจำเืดือน


๙.   แก้
นมหลง 
 หญิง ที่คลอดบุตรแล้วน้ำนมที่เีคยไหลเกิดหยุดไหล
และมีอาการปวดเต้านมด้วย เรียกอาการนี้ว่า นมหลง ถ้าปล่อยไว้จะ
กลายเป็นฝีที่นมได้ วิธีใช้คือ เอาลูกใต้ใบทั้งห้า จำนวน ๑ กำมือ ตำผสม
เหล้าขาวคั้นเาอน้ำกิน ๑ ถ้วยชา เอากากพอกทำเพียงครั้งเดียว ไม่กี่นาที
นมจะไหลออกมา



๑๐.  แก้ปวด
หลังปวดเมื่อย
  ใช้หญ้าใต้ใบทั้ง ๕ ล้างน้ำสะอาด สับเป็น
ชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง ใส่หม้อดินต้ม ดื่มน้ำยาต่างน้ำชา มีสรรพคุณ
แก้ปวดหลังปวดเอว


๑๑.  แก้เถาดาน
ในท้อง
  เถาดาน มีลักษณะเป็นก้อนแข็งในท้อง บางที
มีลักษณะเป็นแผ่นแข็ง อาจเป็นผลทำให้ปวดหลังตามาได้ เอาลูกใต้ใบ ทั้งห้า
ตากให้แห้ง ๑ ลิตร แช่ในสุรา ๑ ลิตร หมกข้าวเปลือกไว้ ๗ วัน แล้วเอามานึ่ง
คะเนว่าธูปหมด ๑ ดอก กิน เช้า-เย็น


๑๒.  ยาบำรุง  ใช้
รากและใบของลูกใต้ใบ ทำเป็นยาชงน้ำกิน โดยถือว่า เป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี


๑๓.  แก้
เบาหวาน 
  ให้เอาลูกใต้ใบทั้งห้า ๑ กำมือ ต้มดื่มแก้เบาหวาน


๑๔.  แก้
ดีซ่าน
  เอา ลูกใต้ใบทั้งห้า ต้ม ๓ เอา ๑ กินครั้งละ ครึ่ง -๑
แก้ว วันละ ๓ -๔ ครั้ง ในจีนใช้ต้นหญ้่าใต้ใบต้มกินติดต่อกัน ๑ สัปดาห์ และ
ยังถือว่าช่วยกำจัดพิษออกจากตับ ซึ่งจะมีผลทำให้สายตาดี ส่วนใน อินเดีย
ใช้เฉพาะรกาต้มกิน เป็นยาแก้ดีซ่านดีมาก


๑๕  แก้
กระเพาะอาหารพิการ
  ใช้รากลูกใต้ใบต้มหรือชงน้ำกิน บำรุง
กระเพาะอาหาร ในเขมรใช้ลูกใต้ใบเป็นยาเจริญอาหาร ในจีน ใช้
หญ้าใต้ใบรักษาำลำไส้อักเสบ


๑๖.  รักษาแผล  ใน
อินเดีย ใช้ใบลูกใต้ใบ ตำพอกหรือตำคั้นเอาน้ำทา รักษาแผลสด แผลฟกช้ำ
และใช้ใบตำผสมน้ำซาวข้าวพอกรักษาแผล เรื้อรัง



๑๗.  แก้
คัน
  ใช้ใบผสมกับเกลือ ตำแก้คัน


๑๘.  แก้ิ
เริม
  ใช้ลูกใต้ใบทั้งห้า ตำผสมเหล้าคั้นเอาน้ำยา แล้วเอาสำลี
ชุบแปะตรงที่เป็นเริม จะรู้สึกเย็นและหายปวด


๑๙.  แก้
ฟกช้ำ
   ใช้ต้นสดๆ ตำผสมกับสุราพอกแก้ฟกบวม บางตำรา
ใช้คลุกกับข้าวสุกเสียก่อน ค่อยพอก ในอินเดีย ใช้ใบและรากแห้งบดเป็น
ผงผสมกับน้ำซาวข้าวพอกแก้ฟกบวม


๒๐.  แก้ฝี  ใช้
ต้นหญ้าใต้ใบสดๆ ตำผสมกับสุรา เอาน้ำทาหรือพอกแก้ ปวดฝี


๒๑.  แก้
หืด
   ใช้ลูกใต้ใบ ทั้งห้า นำมาล้างให้สะอาด ตำให้ละเีอียดผสม
กับน้ำอุ่น คั้นเอาน้ำเฉพาะน้ำดื่มครั้งละ ๒-๓ อึก เป็นเวลา ๓ วันๆละ ๓
ครั้ง ก่อนอาหาร


๒๒.  แก้บิด  
ใช้ลูกใต้ใบทั้งห้าต้มกิน หรือใช้ลูกใต้ใบทั้งห้า แทรกปูน แดง
ขนาดเม็ดถั่วดำ ต้มรวมกันกินแก้บิด


สูตร กรมหลวงชุมพร ฯ


ถอนทั้งต้นทั้งราก 
 ของต้นหญ้าลูกใต้ใบ


มากน้อยตามต้องการ 
ล้างน้ำให้สะอาด


สับเป็นชิ้นๆ 
ตากแดดให้แห้ง  


ใส่หม้อดิน
เติมน้ำพอสมควร ชงเป็นน้ำชาหรือต้มดื่มต่างน้ำ แก้โรคปวดเอว ปวดหลัง โรคไต
 


จาก
//www.geocities.com/thaimedicinecm/sansilpayathai24.htm


//www.managerroom.com/forums/forum_posts.asp?TID=5993&PN=1


เพิ่มเติม..


รสขมจัด แก้ไข้ทุกชนิด
แก้ไข้จับสั่น ดับพิษร้อน แก้พิษ ตานซาง แก้โทษน้ำดีพิการ
กระตุ้นไตให้ทำงาน แก้ขัดเบา แก้กามโรค แก้ดีซ่าน แก้ริดสีดวง
แก้โรคท้องมาน แก้ปวดท้อง แก้ไข้ทับระดู ขับปัสสาวะ ลดความดันเลือด
รักษาโรคตับอักเสบขนิดบี แก้นิ่ว แก้ร้อนใน แก้เบาหวาน
แก้กระเพาะอาหารพิการ แก้ิเริม

-ต้านไวรัสที่ก่อโรคตับอักเสบ
-ฤทธิ์
ยับยั้งเชื้อเอชไอวี
-ฤทธิ์ antioxidant และต้านอนุมูลอิสระ
-ฤทธิ์ลด
การเจ็บปวดและอาการบวม
-ฤทธิ์ต้านการเกิดแผลของกระเพาะอาหาร
-ฤทธิ์
ต้านอาการท้องเสีย
-ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
-ฤทธิ์ต้านการก่อกลายพันธุ์
-ฤทธิ์
ต้านเนื้องอกและต้านมะเร็ง ทำให้ก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็กลง
สามารถต้านการเกิดมะเร็ง ในหนูที่ได้รับสารก่อมะเร็ง
และยืดอายุของหนูที่ได้รับการปลูกถ่ายเซลล์มะเร็งและทำให้ก้อนเนื้องอกมี
ขนาดเล็กลง
-ฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง
มีพิษต่อเซลล์มะเร็งโดยไม่มีพิษต่อเซลล์ปกติต่างๆ โดยทำให้เซลล์มะเร็งเกิด
apoptosis
-ฤทธิ์ต้านไวรัส
-ฤทธิ์ต้านอาการเจ็บปวด
-ฤทธิ์ต่อระบบ
ภูมิคุ้มกัน
มีผลลดยับยั้งการสร้างหรือการกำจัดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของคน

ข้อมูลจาก…สถาบันวิจัยสมุนไพร








 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 16:17:26 น.
Counter : 4376 Pageviews.  

โสม ยารักษาโรคของคนจีน (GinSeng)

//www.gmwebsite.com/upload/baanshortawan.net/content/%E0%B9%82%E0%B8%AA%E0%B8%A1.jpg
โสมเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่าง ๆ มากมายจึงได้รับการ
พิจารณาให้เป็นสมุนไพร รักษาโรคที่ได้รับความนิยมมาก ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก
ด้วยคุณสมบัติหลายประการ รวมถึงการช่วยให้อวัยวะ ต่าง ๆ ทำงานได้ตามปกติ
และโดยเฉพาะ คุณสมบัติที่โดดเด่น คือ การเพิ่มประสิทธิภาพร่างกาย
ภายใต้สภาวะที่อ่อนเพลีย


จากปรัชญาของลัทธิเต๋า
แนวคิดในการรักษาโรคด้วยสมุนไพรของทั่วโลก
ได้รับการพัฒนาเริ่มแรกจากประเทศจีนในหลายสหัสวรรษที่ผ่านมาด้วยความเชื่อ
ว่า ความแข็งแกร่ง เป็นพื้นฐานของการมีชีวิตที่ยืนยาว
และสุขภาพดี ดังนั้นการรักษาและ เพิ่มพลังให้แข็งแกร่ง ซึ่งเรียกว่า ชิ
จึงมีบทบาทสำคัญ ในการรักษา โรคตามแบบดั้งเดิมของจีน

ในแนวทางของ
ประเทศทางซีกโลกตะวันตก ประชาชนมักจะขอคำแนะนำจาก แพทย์เมือเจ็บไข้ได้ป่วย
ขณะที่ในประเทศจีน ใช้วิธีป้องกันโรคภัยต่าง ๆ
โดยการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงด้วย การแนะนำด้าน
โภชนาการที่ถูกต้อง การรักษากระบวนการเคลื่อนไหว
กิจกรรมฝึกการหายใจและสมุนไพร ที่คัดเลือกมาเป็นอย่างดี
สัญญานเตือนภัยประการแรก ของการเจ็บป่วยคือความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยขาดสมาธิ
หรือเซื่องซึม ซึ่งควรได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วน

การปรุงยา
สมุนไพรเป็นพื้นฐานของการรักษาแบบดั้งเดิมของชาวจีน โดยมีการคัดเลือก
พืชสมุนไพรออกเป็น 3 ประเภท อาทิ สมุนไพร ระดับราชวงศ์
ซึ่งสามารถนำมาใช้กับผู้ป่วย
และคนที่สุขภาพแข็งแรงเพื่อรัษาและเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของร่างกาย
นอกจากนี้ยังมี สมุนไพรระดับข้าหลวง ซึ่งใช้ต่อสู้กับโรคบางประเภท
ส่วนสมุนไพรผู้ช่วย นั้นมใช้เป็น ยารักษาโรค

โสมนับเป็นสมุนไพร
ระดับราชวงศ์ ซึ่งมีชื่อเรียกทางวรรณกรรมว่า น้ำอมฤต
ด้วยคุณสมบัติพิเศษและมีประสิทธิภาพสูง

โสมได้รับการจัดเข้าเป็นพืช
ตระกูล Panax ginseng CA Meyer โดยนักพฤษาศาสตร์ที่มีชื่อว่า CA Mayer ในปี
2385 ซึ่งต่อมาในปี 2503 ได้นำมาตรวจสอบอย่างเป็นระบบบโดยบริษัทฟาร์มาตอน
เอสเอ จำกัด ในลูกาโน สวิสเซอร์แลนด์
ด้วยการพิจารณาด้านคุณสมบัติทางเภสัชวิทยา พิษวิทยา และมีการทดลองทางคลินิก
จากการศึกษาทดลองทางการแพทย์ พบว่าสารประกอบสำคัญในรากโสมคือจินซีโนซายด์
(ginsenosides) ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำหน้าที่ได้อย่าง แข็งแกร่ง
โดยส่งผ่านไปทั่วร่างกายตามกระแสเลือด
ซึ่งกระตุ้นและให้พลังงานจากภายในร่างกาย




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 16:12:49 น.
Counter : 435 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

WishRich
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




มาเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองไปพร้อม ๆ กัน เพื่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานครับ
Friends' blogs
[Add WishRich's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.