รศ.ชัยโย
ชัยชาญทิพยุทธ ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กล่าวว่า ได้ร่วมกับ รศ.สุชาดา ประเสริฐวิทยาการ อาจารย์คณะเดียวกัน
ร่วมกันวิจัยเรื่อง "เจลบัวบกยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปาก"
เป็นการนำสมุนไพรบัวบก มาใช้ประโยชน์ในการรักษา แผลในช่องปากอย่างได้ผล
เนื่องจากใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลภายนอกร่างกายให้หายเร็วขึ้น
และไม่เป็นแผลเป็น
จากสรรพคุณดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดในการนำใบบัวบกมาใช้ในการรักษาแผลในช่อง
ปาก
รศ.ชัยโย กล่าวว่า สารสกัดจากบัวบก ได้จากการแช่ยุ่ยใบสดในเมธานอล
และแยกสารสกัด โดยวิธีลำดับส่วน
จากการศึกษาได้มีการพัฒนาเจลใบบัวบกให้ยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปากมากขึ้น
ซึ่งตามปกติแล้วยาในลักษณะเจลที่ขายอยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีความเหนอะหนะ
ทั้งนี้
ได้มีการทดลองนำเจลบัวบกมาเปรียบเทียบกับยาหลอก และยาที่ขายในท้องตลาด
ในกลุ่มอาสาสมัคร100 คน โดยให้อาสาสมัครทายา 3 ครั้ง คือ หลังอาหารเช้า,
เย็น และก่อนนอน แล้ววัดขนาดของแผลเป็นมิลลิเมตร ในความแรง 0.5, 1 และ 2%
ซึ่งผลการทดลองพบว่า เจลบัวบกทำให้ขนาดของแผลลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยิ่ง
มีสารสกัดของใบบัวบกมากขึ้น ก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น
ทำให้อาการปวดแผลหายเร็วกว่าการใช้ยาที่ขายตามท้องตลาดด้วย
รศ.ชัยโย กล่าวด้วยว่า
ในอนาคตมีแนวคิดที่จะพัฒนาให้เจลใบบัวบกติดทนได้นานกว่าเดิม
โดยนำไขโกโก้มาเคลือบปิดตัวยา เพื่อให้พอลิเมอร์ที่มีอยู่ในยา
ไม่ถูกน้ำลายชะล้างได้ง่าย ทำให้เจลบัวบกอยู่ได้นานขึ้นถึง 5-6 ชั่วโมง
มีผลทางการรักษา ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
สำหรับประชาชนทั่วไป หากมีแผลร้อนใน เจ็บคอ
หรือไม่สบายตัวช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
สามารถนำใบบัวบกมาใช้ได้ด้วยการนำใบมาปั่น หรือตำด้วยครกคั้นน้ำมาผสมกับน้ำ
ตาลทรายแดงตามชอบรับประทาน เมื่อมีอาการจะทุเลาลงได้
แต่ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ เพราะใบบัวบกมีฤทธิ์เย็น ตามตำรายาจีนระบุว่า
จะส่งผลกระทบต่อม้ามและอวัยวะภายใน ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย