ให้โอกาสหัวใจได้ลองดู...














ถ้าวันนี้เธอต้องรับใคร
เข้ามา...

ที่เคยมีน้ำตา........ฉันก็
อยากให้เธอลืม
ที่เคยเสียใจปวดร้าว.....ฉันก็อยากให้เธอเก็บไว้ในลิ้นชัก
ของอดีต
เพราะฉันรู้....ยังไงเธอก็ไม่มีวันลืมความเจ็บช้ำนั้นได้
หรอก....
ฉันจึงให้เธอเก็บไว้มากกว่า "ฝืนใจให้ลืม"


วันนี้....ถ้ามีใครมาเคาะประตูหัวใจของเธอ
อยากให้เธอ
กล้าที่จะเปิดรับคน-คนนั้น...


อย่า
ให้อดีตเปรียบเสมือนแม่กุญแจ...ที่ล็อคเธอไว้...
ให้นั่งอยู่ข้างในเพียง
คนเดียว....อีกทั้งยังไม่ยอมที่จะรับใครเข้ามานั่งเป็นเพื่อน...


ผ่อนปรนความรู้สึกของตัวเอง.....ให้มีความยืดหยุ่น...
การ
เปิดรับใครอีกคนเข้ามา....
ไม่ได้หมายความว่า....เราจะต้องเจ็บซ้ำอีก
ครั้ง...


แต่ถ้าเผอิญ.....
เผอิญ
เธอต้องเจ็บในการตัดสินใจครั้งนี้อีก...
ไม่ต้องกลัวนะ...



มาหาฉันได้เสมอ....


ฉันจะให้ไหล่เธอพิง...
ฉันจะให้ 2 แขน โอบกอด....
ฉัน
จะคอยซับน้ำตาเธอด้วยความรัก...
ฉันจะปลอบประโลมด้วยความห่วงใย...


ฉันพร้อมจะยืนเคียงข้างเธอ...
โดยเฉพาะเวลาที่เธอไม่มี
ใคร.....


......

เรียนรู้เขาคน
นั้น.....ไปในแต่ละวัน....
อย่างน้อยเราก็ได้เพื่อนเพิ่มเข้ามาในชีวิต
อีก 1 คน


หากไม่สามารถมอบความรัก
แบบ "คนของใจ" ให้แก่เขาได้...
ก็อย่าฝืน....


ถ้ามันไม่ได้......ทั้งเราและเขา "ก็รู้กัน"
และ
ความรักแบบเพื่อนมิตร.......ก็จะยังคงอยู่....


ไม่ง่ายที่จะรู้จักใครสักคนอย่างคุ้นเคย...
เพราะต่าง
ต้องใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน...


เริ่มคบ...เริ่มเรียนรู้...ไม่ได้หมายความว่า
เธอจะ
ต้องรักเขาเลยทันที....


คงความ
เป็นตัวเองไว้....
อย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน......
แล้วทั้งเราและเขาจะ
รู้คำตอบ...
"ว่าเราสามารถไปด้วยกันได้ดีหรือไม่"


เวลาเปลี่ยนแปลงความรู้สึกกันได้...
ก็น่าจะให้ "หัวใจ
ของเรา"
ได้ลองดู....






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 0:53:49 น.
Counter : 314 Pageviews.  

ถ้า รัก คือ ฟัน

ถ้ารัก คือ...ฟัน

รักคงมั่น คือ...ฟันแท้

รักร่อแร่ คือ...ฟันโยก

รักโสโครก คือ...ฟันดำ

รักถลำ คือ...ฟันเหยิน

รักหมางเมิน คือ...ฟันห่าง

รักร้าง คือ...ฟันหลอ

รักหงิกงอ คือ...ฟันกุด

รักบริสุทธิ์ คือ...ฟันขาว

รักชั่วคราว คือ...ฟันปลอม

รักอ่อนซ้อม คือ...ฟันร่วง

รักสีม่วง คือ...ฟันเกย์

รักจำเจ คือ...ฟันซ้อน

รักสลอน คือ...ฟันแทรก

รักแรก คือ...ฟันน้ำนม

รักระบม คือ...ฟันผุ

รัก
คิกขุ
คือ...ฟันกระต่าย

รักสลาย
คือ...ฟันหลุด

รักชำรุด
คือ...ฟันสึก

รักเจ็บลึก
คือ...ฟันคุด
>>
>>
>>

รักตุ๊ด คือ...ฟันหนุ่ม

รักทั้งกลุ่ม คือ...ฟันหมด

รักสลด คือ...ฟันพลาด

รักต่างชาติ คือ...ฟันฝรั่ง

รักปิดบัง คือ...ฟันชู้

รักอุดอู้ คือ...ฟันช้า

รักกะฮา คือ...ฟันเล่น

รักไม่เป็น คือ...ฟันดะ

รักมั่นคง คือ ฟันเธอคนเดียว

รักเดี๋ยวเดียว คือ ฟันแล้วทิ้ง

รักขึ้นหิ้ง คือ...ฟันคนแก่

รักในส่วนลึก คือ ฟันน้องเมีย

รักเธออยู่เสมอ จริงๆนะ...ฟันธง




Free TextEditor







































































































 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 0:45:28 น.
Counter : 248 Pageviews.  

การรอคอย...















~**
การรอคอย..**~

.....................................




บางครั้งและหลาย ๆ
ครั้งในชีวิตคนเราที่ต้องนั่งรอ
ไม่ว่าจะเรื่องความรัก รอผลสอบ
รอสัมภาษณ์สมัครงาน
และหลายๆครั้งที่บางคนล้มเลิกการรอคอย
ด้วยเหตุผล
ที่ว่าพวกเขาไม่อยากมาเสียเวลากับการรอคอยที่นานเกินไป
นั่นเป็นเหตุผล
ที่ฉันเอง ก็เคยหลุดปากออกมาเหมือนกัน
หลายๆครั้งที่ท้อ
หลายๆครั้งที่สิ้นหวังกับการรอ
บางครั้งฉันนั่งรอเพื่อน หลังเลิกเรียน
เพื่อน
ติดงานกับอาจารย์ ทำให้มาช้ามาก ฉันเองก็รอแล้วรอเล่า
หลาย ๆ
ช่วงวินาทีที่ฉันตัดสินใจจะจากไปโดยไม่มีเพื่อนคนนั้น
ตัดสินใจที่จะหยุด
การรอคอย ... เพียงเท่านั้น



และหลาย ๆ ช่วงวินาทีแห่งการรอคอยนั้น
ฉันก็ได้คิดใน
หลาย ๆ สิ่ง คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
ทบทวน ... ตริตรอง
จนในที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะรอ
ไม่ใช่เพราะฉันกลัวที่จะโดนเพื่อนคนนั้น
ต่อว่า ถ้าฉันทิ้งเขาไป
แต่...ฉันเชื่อ
มั่น
และศรัทธาใน
ตัวเพื่อนของฉัน
และฉันก็รู้ดีว่าเพื่อนของฉันไม่มีทางผิดสัญญา
และผล
จากการรอของฉัน ก็คุ้มค่าเกินกว่าเวลาที่เสียไป


บางครั้ง
เหตุการณ์เล็ก ๆ ก็สามารถจุดประกายข้อคิดเล็ก ๆ
ที่ให้ผลยิ่งใหญ่กว่า
หลังจากเหตุการณ์นั้น
ความคิดเล็ก ๆ นี้เองที่ทำให้ฉันได้สิ่งที่รอคอย
อาจ
จะไม่เสมอไป ... แต่ก็บ่อยครั้ง และทุกๆครั้งที่รอนั้น
ฉันไม่ได้รู้สึก
เสียเวลาเลย
แต่ฉันกลับรู้สึกว่าฉันได้บางสิ่งมาอยู่ในหัวใจ
ความอดทน ฉันเรียกมันอย่างนั้น
เมื่อฉันเริ่มรู้สึกตัวว่าฉันรอนานแค่ไหน
ความ
ศรัทธา
สิ่งที่ฉันมั่นใจเสมอว่าสิ่งนั้นจะต้องมาถึง
สอง
สิ่งนี้ อาจจะเป็นแค่ความอดทนและศรัทธาที่น้อยนิด
แต่ความคิดเล็ก ๆ
นี้เอง ที่ครั้งหนึ่งได้ให้ผลอันงดงามแก่ฉัน
และเมื่อสิ่งดีเล็ก ๆ
ได้เข้ามาในหัวใจฉัน
ก็เหมือนเมล็ดดอกไม้ที่ฉันจะคอยรดน้ำและใส่ปุ๋ย
ให้งอกงาม ... เป็นต้นไม้ใหญ่
การรอของฉันจึงไม่ไร้ค่าอีกต่อไป
แต่กลับให้สิ่งดี ๆ กับฉันทุก ๆ ครั้งที่รอ


สุดท้ายก็อยากฝากไว้กับผู้ที่กำลังรอคอยไม่ว่าจะรออะไร
ถ้า
คุณเพิ่มความอดทนและศรัทธาไป
ซักนิด
ฉันเชื่อว่าผลที่คุณได้ย่อมคุ้มค่ากว่าเวลาที่เสียไปแน่นอน





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 0:43:54 น.
Counter : 380 Pageviews.  

รักแท้แพ้ระยะทาง...!!!

























หลาย
คนเคยกล่าวว่า รักแท้..แพ้ระยะทาง


นักต่อนักแล้วคนที่รักกัน
ต้องมีอันเลิกรากันไปเพราะความห่างกันเนื่องจากระยะทาง
เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอันจะต้องจากอีกฝ่ายหนึ่งไปยังที่ที่ห่างไกล
(ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการอยู่คนละประเทศ)

ความห่างเป็นปัจจัยที่อันตรายที่สุด ทำไมถึงกล่าวเช่นนี้?

การที่คนสองคนคบกัน
มันก็ย่อมเหมือนลิ้นกับฟันที่จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดา
แต่เมื่อคุณอยู่ไกลกันแล้ว
มันง่ายมากที่จะทำให้ทำให้ความสัมพันธ์กับคนรักต้องระหองระแหงหากคุณทั้งสอง
คนไม่มั่นคงเพียงพอ
































ถ้าถาม
ว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะไม่กระทบกระทั่งกันเลยหรือ คำตอบคือ ไม่ใช่


หากแต่ว่าถ้าคุณอยู่ด้วยกัน
คุณคงทำอะไรได้มากกว่าอยู่ไกลกันเป็นแน่
เพราะถ้าคุณต้องอยู่ห่างกันคนละประเทศ สิ่งที่คุณจะทำได้คือ โทรศัพท์.. คุณจะทำได้แค่พูดและรับฟัง
โต้ตอบการสนทนา แต่คุณไม่สารมารถรับรู้ถืงอารมณ์  หรืออวัจนะภาษากริยา
สีหน้า ของฝ่ายตรงข้ามเลย และแน่นอน คุณก็ไม่สามารถใช้มันได้เช่นกัน (คุณสามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จากน้ำเสียง
แต่มันเทียบกับการคุยกันซึ่งๆหน้าไม่ได้เลย)
ซึ่งในบาง
ครั้งการมีปากเสียงกันด้วยเรื่องเล็กๆ
อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เมื่อคุณอยู่ไกลกัน

นอกจากเรื่องของการกระทบกระทั่งกัน คุณมั่นใจได้อย่างไรว่า
ความรู้สึกของอีกฝ่ายไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะความไกลกัน "ระแวง"


คำนี้คงผุดขึ้นในใจของคุณเมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้ 
ใช่แล้ว..ต่อให้รักกันขนาดไหน ไว้ใจกันแค่ไหนแต่เมื่ออยู่ไกลกัน สิ่งนี้มันต้องเกิดขึ้นในใจของคุณไม่มากก็น้อย
หรือไม่จริง??

หากแต่ว่าคุณทั้งสองคนจะสามารถให้ความมั่นใจต่อกันได้มากแค่ไหน
ถ้าคุณเป็นคนที่มั่นคงในความรักของคุณ
บางครั้งคุณต้องบอกให้คนรักของคุณทราบ เพราะถ้าไม่บอก
ไม่ให้ความมั่นใจกับอีกฝ่ายแล้ว

คน
รักของคุณจะทราบได้อย่างไร นี่เป็นอีกกรณีหนึ่งคือ การไม่พูด


ต่างคนต่างคิดกันเอง เข้าใจกันไปคนละอย่างจากการที่คิดว่า "เค้าน่าจะรู้น่า"
แต่จะบอกให้ว่าสำหรับบางเรื่องนั่น "ไม่
ใช่!!"
ฉะนั้นการพูดกันคือสิ่งที่ดีที่สุด  
ความรู้สึกที่เคยมีให้ การให้อภัย การมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ความคิดถึง
ที่เคยมีให้ครั้งเมื่ออยู่เคียงข้างกัน อาจจะถูกบั่นทอนลงได้
เนื่องจากระยะทาง และความห่างกัน  ความรักความทุ่มเทที่เคยมีให้
ก็จะลดน้อยลงก็เป็นได้



การ
รักษาระยะห่างให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่าอยู่ใกล้กันตลอดอาจเป็นหนึ่งในทาง
เลือกที่จะป้องกันสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้


แต่มันจะทำ
ได้มากแค่ไหน มันก็ต้องขึ้นอยู่กับคนทั้งสองคน
บางครั้งการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญกับอีกฝ่าย ก็เป็นสิ่งสำคัญ
มันก็เป็นเหมือนกับการให้ความมั่นใจกับคนรักของคุณ การบอกรัก
การกล่าวคำว่าคิดถึง บางคนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น

ในเมื่อคบกันแล้ว
ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องบอกหรอก ..
คุณเคย
รู้สึกพองโต ยามเมื่อคนที่คุณรักบอกรักหรือคิดถึงคุณบ้างหรือเปล่า..
คุณ
มีความสุขเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แน่นอนผมเชื่อว่าอีกฝ่ายคงจะรู้สึกไม่ต่างจากคุณหากคุณได้บอกกับเค้า



หมั่นรดน้ำต้นรักของคุณ
มากกว่าปล่อยให้มันแห้งตายเถอะนะ คุณจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 0:42:25 น.
Counter : 348 Pageviews.  

-*- จริงหรอ พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน -*-



















เธอลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนรถไฟฟ้า
กว่าผมจะ
เห็นรถไฟก็ออกจากสถานีแล้ว


ผมได้แต่หวังคอยว่าเธอจะโทรกลับมา
เข้าเครื่องเพื่อเช็คว่าใครเป็นคนเก็บให้
เฝ้าคิดประโยคคำพูดสวยๆ
และสถานที่นัดหมายเท่ๆ สำหรับการคืนโทรศัพท์
ใช่...ผมแอบชอบเธอมาหลาย
สถานีแล้ว ขึ้นสถานีเดียวกัน นั่งข้างกัน
อยากพูดคุยแต่ไม่กล้า
ผมลอบ
มองเธอผ่านเงาสะท้อนจากกระจกหน้าต่างรถ
แต่ละวันมีสิ่งดีๆ
ผ่านเข้ามาในชีวิต เราจะเก็บไว้หรือปล่อยผ่านไป





เสียงโทรศัพท์ดังมีสายเรียกเข้า
ผมรับสายแต่ไม่ใช่เสียงของเธอ
เป็นเสียงจากนางพยาบาล

คุณพ่อเธอ
เป็นลมฟุบข้างถนน พลเมืองดีช่วยอุ้มส่งโรงพยาบาล
อาการหนักมากต้องรับการ
ผ่าตัดด่วน
คุณพ่อมีเธอเป็นลูกคนเดียว
ผมมีมือถืออันเดียวของเธอ
ผม
จึงกลายเป็นญาติคนเดียวที่สนิทที่สุดในขณะนี้
ผมรีบไปโรงพยาบาลทันที
ถึงห้องไอซียู
ป้ายหน้าห้องบอกให้ปิดมือถือก่อนเข้า
แล้วพอปิดมือถือ
ของเธอผมก็เปิดอีกไม่ได้ เพราะรหัสผ่านไม่มี
ผมทำทุกอย่างเท่าที่พอจะทำ
ได้ เซ็นชื่ออนุญาตให้ทำการผ่าตัดคุณพ่อ
ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
รวม
ทั้งกลับไปตามหาเธอบนสถานีรถไฟฟ้าที่เห็นเธอครั้งสุดท้าย
ผมรู้สึกได้ว่า
เธอก็คงกระวนกระวายตามหาคุณพ่อของเธอเหมือนกัน


"เธอมารับคุณพ่อ
กลับไปแล้วค่ะ"
นางพยาบาลบอกเมื่อเห็นผมงงกับเตียงคนไข้ที่ว่างเปล่า
"เห็น
บอกว่าพอรู้ว่าคุณพ่อเธอหายไป
เธอก็โทรเช็คทุกโรงพยาบาลที่ใกล้บ้าน"
แต่
ผมเช็คทุกบ้านที่ใกล้โรงพยาบาลไม่ได้


"เธอยังฝากข้อความถึงคุณ
ด้วย"
นางพยาบาลยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆ มาให้ เป็นตัวเลขสี่หลักลายมือบรรจง
'2120'
"เธอ
บอกจะโทรไปหาคุณเอง" พยาบาลยิ้ม ผมยิ้มรับ
หยิบมือถือของเธอขึ้นมาดู



แต่
ละวันมีสิ่งดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต ระหว่างเราแอบมองสิ่งดีๆ
ผ่านเงาใน
กระจก
บางทีสิ่งที่ดีๆ ก็แอบมองเราอยู่เหมือนกัน


เธอ :
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะคะ
เขา : ไม่เป็นไรหรอกครับ
เธอ :
แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดีคะ
เขา :
ตรงแบล็คแคนย่อนในสถานีรถไฟที่เราเคยขึ้นบ่อยๆ เป็นไงครับ
เธอ : ได้ค่ะ
กี่โมงดีคะ
เขา : อีกชั่วโมงนึงเจอกันนะครับ
เธอ : ได้ค่ะ
พอคุณถึงแล้วโทรเข้าเบอร์นี้นะคะ 081***-****
เขา : ได้ครับ
ว่าแต่คุณมีมือถือสองเครื่องหรือครับ
เธอ : อ๋อ ไม่ใช่หรอกค่ะ
ดิฉันยืมมือถือของคู่หมั้นดิฉันมาน่ะค่ะ
เขา :
เออออ.................ครับ แล้วเจอกันนะครับ...
เธอ :
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แล้วเจอกันค่ะ

เขา :
เราจะพอเป็นเพื่อนกันได้มั๊ยครับ
เธอ : อืมมม ได้ซิคะ

เขา :
คือผมเห็นคุณขึ้นระไฟฟ้าไปทำงานมาสามปีแล้วครับ
ทุกครั้งถ้ามีที่ว่างผม
พยายามไปนั่งข้างคุณ หรือไม่ก็ไปยืนข้างๆ คุณ
ผมแอบมองคุณจากเงาสะท้อนใน
กระจกทุกครั้งเลยครับ

เธอ : จริงหรือคะ ดิฉันก็มองคุณมานานแล้วค่ะ
แต่ดิฉันมองที่คุณตรงๆ
เลยค่ะ
ดิฉันมองคุณปีนึงเต็มๆ เลยค่ะ
แต่คุณไม่มีทีท่าว่าจะมองดิฉันเลย
ตอนนั้นดิฉันเห็นคุณมองแต่วิวข้างนอก
ดิฉันมองอยู่หนึ่งปีเต็ม
ดิฉันคิดว่าคงไม่มีหวังแล้ว ยังไงๆ
เขาก็ไม่สนใจดิฉัน

ดิฉันเลยไม่ได้สนใจคุณอีกเลยค่ะ
สองปีให้หลัง
ดิฉันเลยมองคนที่อยู่อีกข้างของดิฉัน
แล้วเขาก็ส่งยิ้มให้ดิฉันค่ะ
เรา
มองกันอยู่ปีครึ่งค่ะ หกเดือนที่แล้วเราก็ได้คุยกันครั้งแรกค่ะ
คุณเชื่อ
มั๊ยคะว่าเราเพิ่งหมั้นกันอาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ

เขา :
............(อึ้งไปเลยพูดไม่ออก)..............คะคคครับ......


ขอ
ให้คุณกับคู่หมั้นมีความสุขมากๆนะครับ..........แล้วเจอกันครับ..........
บายครับ


*** ถ้าคุณรักใครอยู่
รีบบอกเค้าไปเถอะนะครับ  อย่ารอให้ถึงวันพรุ่งนี้ เหมือนผมเลย....







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 20 เมษายน 2553    
Last Update : 20 เมษายน 2553 0:37:45 น.
Counter : 318 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.