อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
สะเดาน้ำปลาหวาน เมนูเปรี้ยวปากของวัยเก๋า



สะเดาน้ำปลาหวาน เมนูเปรี้ยวปากของวัยเก๋า

ช่วงนี้สะเดาแตกยอดอ่อนพร้อมแล้ว เตรียมเครื่องมาทำสะเดาน้ำปลาหวานกินกันเลยดีกว่า เมนูอาหารไทยที่วัยเก๋าเขาสุดปลื้ม

ต้นปีแบบนี้เป็นช่วงที่ "สะเดา" (Neem, Nim) จะเริ่มออกดอกออกใบให้เห็น วัยรุ่นวัยเก๋า ๆ หน่อยก็จะถือเป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ เพราะจะได้ไปซื้อสะเดาสักกำมาลวกแล้วจิ้มกินกับน้ำปลาหวาน ต่อให้เจ้าสะเดาที่ว่าขมปี๋ขนาดไหนพอจิ้มกินกับน้ำปลาหวานสูตรเด็ดก็เป็นต้องสยบในความอร่อยที่เข้ากันดี๊ดี เอาล่ะ ถ้าบ้านไหนมีวัยรุ่นวัยเก๋าอยู่แล้วเกิดอยากลองทำให้พวกท่าน ๆ รับประทานกันดู วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีสูตรสะเดาน้ำปลาหวานมาฝาก ทำไม่ยากเลย รับรองท่าน ๆ ต้องปลื้มปริ่มแน่ ๆ 

ส่วนผสม สะเดาน้ำปลาหวาน

        • สะเดา (ล้างให้สะอาด)
        • น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
        • น้ำตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย
        • น้ำปลา 1/4 ถ้วย
        • หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
        • หอมแดงเจียว (สำหรับโรยหน้า)
        • พริกขี้หนูแห้งทอด (สำหรับโรยหน้า)
        • ปลาดุกย่าง หรือปลาย่าง (ตามชอบ)

วิธีลวกสะเดา

วิธีที่ 1 ต้มน้ำด้วยไฟแรงจนน้ำเดือดพล่าน ใส่สะเดาลงต้ม (กดให้จมน้ำ) ประมาณ 3 นาที แล้วรีบตักขึ้นใส่ลงแช่ในน้ำเย็นจัด (น้ำใส่น้ำแข็ง) ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้ 
วิธีที่ 2 เทน้ำเดือด ๆ ลงในอ่างที่ใส่สะเดาไว้ แล้วแช่ทิ้งไว้สักครู่ เทน้ำทิ้ง สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้ 

วิธีทำน้ำปลาหวาน

          1. ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาลงในหม้อหรือกระทะ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนข้นและเหนียว ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้พออุ่น
          2. ใส่หอมแดงซอยลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย โรยหอมแดงเจียว และพริกขี้หนูแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมสะเดาที่ลวกไว้ และปลาดุกย่าง

เห็นสะเดาน้ำปลาหวานแบบนี้แล้วก็น้ำลายไหลเลยทีเดียว อุ๊ยตาย ! แบบนี้ก็รู้หมดเลยสิว่า อายุเท่าไรกัน อิอิ



Create Date : 12 มกราคม 2560
Last Update : 12 มกราคม 2560 8:15:50 น. 0 comments
Counter : 5156 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.