อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
ผมเหม็นง่าย มีกลิ่นไม่หาย อาจป่วย Smelly Hair Syndrome !



โรคผมเหม็น

แม้สภาวะแวดล้อมตอนนี้อาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้เราหัวเหม็นกันง่ายขึ้น ทว่าหากสระผมก็แล้ว ทำวิธีไหน ๆ ก็แล้ว อาการผมเหม็นก็ยังอยู่แบบนี้อาจไม่ใช่ภาวะปกติแล้วล่ะ

  เคยไหมคะที่สระผมเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่ทันได้ออกจากห้องไปไหน แต่จมูกกลับได้กลิ่นไม่ค่อยน่าอภิรมย์บนศีรษะเราซะก่อน จนบางทีก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าผมจะรีบเหม็นไปไหน นี่ยังไม่ได้ออกไปเจอสภาวะอากาศภายนอกเลยนะเนี่ย เฮ้อ...ใครกำลังประสบปัญหาอย่างนี้คงหมดความมั่นใจกันตั้งแต่ยังไม่พ้นจากประตูบ้านใช่ไหมล่ะ ทว่ายังมีประเด็นที่น่าห่อเหี่ยวใจไปมากกว่านั้นอีก เพราะเรากำลังจะบอกกับทุกคนว่า ภาวะผมเหม็นง่ายกว่าปกติ สระผมก็เหมือนยังไม่หาย แบบนี้อาจเข้าข่ายอาการ Smelly Hair Syndrome ก็เป็นได้
โรคผมเหม็น

ผมเหม็นง่าย (Smelly Hair Syndrome) เกิดจากอะไร

ต้องบอกก่อนว่าภาวะ Smelly Hair Syndrome (SHS) ไม่ถึงกับเรียกว่าเป็นโรค แค่เป็นภาวะผิดปกติของร่างกายที่ทำให้ผมและหนังศีรษะเกิดกลิ่นเหม็นได้ง่าย ซึ่งสาเหตุของอาการผมเหม็นก็จำแนกได้ดังนี้

1. ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป

Glenn Lyons ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเส้นผมและหนังศีรษะจาก Philip Kingsley Trichological Clinic เผยว่า ภาวะผมเหม็นง่ายในบางคนอาจเกิดจากต่อมไขมันที่อยู่ติดกับรากผมผลิตไขมันออกมามากจนเกินไป ทำให้หนังศีรษะมันและดูดกลิ่นในอากาศเอาไว้ จึงเป็นสาเหตุให้ผมมีกลิ่นเหม็นง่ายกว่าคนอื่น ๆ

2. หนังศีรษะผลิตต่อมเหงื่อมากเกินไป

สำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาผมมัน แต่กลับมีกลิ่นติดผมได้ง่ายมาก ๆ นั่นอาจเป็นเพราะต่อมเหงื่อบนหนังศีรษะผลิตเหงื่อออกมามากเกินไปก็ได้ค่ะ ทำให้เกิดภาวะอับชื้นบนหนังศีรษะ เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็น ๆ ได้เช่นกัน

3. ผมเส้นเล็กเกินไป

กับคนที่มีผมเส้นเล็ก เล็กมาก ๆ จนใกล้กับคำว่าเส้นผมเรียงตัวละเอียด ก็อาจมีแนวโน้มสูงที่ผมและหนังศีรษะจะมันกว่าปกติด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าอาจตามมาด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์บนผมเราด้วย

4. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

สำหรับคนที่ไม่เคยเกิดอาการผมเหม็นมาก่อนเลยในชีวิต แต่เพิ่งจะมาเป็นเมื่อไม่นานมานี้ ก็เป็นไปได้ว่าช่วงนี้ฮอร์โมนในร่างกายของคุณไม่ปกติ ซึ่งอาจเกิดได้จากความเครียดหรือยาบางชนิด ที่ส่งผลให้เกิดภาวะผมมัน และเกิดกลิ่นเหม็นบนผมได้ ทั้งนี้อาจมีอาการขนดก หรือสิวขึ้นมากกว่าปกติร่วมด้วย

5. ผลข้างเคียงจากโรคเซ็บเดิร์ม

โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic dermatitis) หรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะผมเหม็นได้ด้วยนะคะ เพราะผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการอักเสบของหนังศีรษะซึ่งถ้าเผลอไปแกะหรือเกาอาจมีน้ำเหลืองเยิ้ม หรือถ้าทิ้งไว้นาน ๆ ไม่รักษา สะเก็ดจะหนามากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงและเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

โรคผมเหม็น

อาการของภาวะผมเหม็น เช็กซิใช่เราไหม

โดยปกติแล้วเมื่อเราไปยืนอยู่ใกล้ ๆ ร้านปิ้งย่าง หรือใกล้บริเวณที่ทำอาหาร ผมของเราอาจติดกลิ่นอาหาร กลิ่นควัน หรือกลิ่นมลพิษตามท้องถนนมาบ้าง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป (ไม่เกิน 1 วัน) กลิ่นเหม็นเหล่านั้นจะค่อย ๆ จางลงไปได้เอง หรือเมื่อสระผมกลิ่นเหม็นก็จะหายไป ทว่าหากคุณเป็นเคสที่ต่างออกไป และมีอาการตามบรรทัดด้านล่างนี้ ก็อาจสันนิษฐานได้ว่าอาจกำลังมีภาวะผมเหม็นหรือ Smelly Hair Syndrome อยู่

- สระผมไม่ทันไรผมเหม็นอับอีกแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก็เป่าผมจนแห้งสนิททุกครั้ง

- กลิ่นของผมเหมือนกลิ่นอับของฟองน้ำเก่า ๆ หรือบางครั้งก็อับเหมือนกลิ่นสุนัขตอนขนเปียก

- สระผมแล้วกลิ่นเหม็นของผมไม่หายไป แม้จะสระผมหลาย ๆ ครั้งและใส่ผลิตภัณฑ์บำรุงผมกลิ่นหอม ๆ ก็ตาม

- กลิ่นเหม็นของผมจะติดทนนาน ไปสระผมที่ร้านเสริมสวยก็ไม่หาย

- กลิ่นเหม็นของผมไม่สามารถดับได้ด้วยกลิ่นสมุนไพร เช่น หมักมะกรูดแล้วกลิ่นจะดีขึ้นเพียงชั่วคราว แต่ก็กลับมาหัวเหม็นอีกในไม่นาน

โรคผมเหม็น

วิธีแก้ผมเหม็น

แม้ยังไม่มียารักษาภาวะผมเหม็น (Smelly Hair Syndrome) ที่แน่ชัด แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะก็แนะนำวิธีแก้ผมเหม็นมาดังนี้

1. สระผมให้บ่อยขึ้น โดยอาจจะต้องสระผมอย่างน้อยวันละครั้ง ด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน หรือแชมพูที่มีค่า PH อ่อน ๆ เพื่อทำความสะอาดผมโดยที่ไม่ทำร้ายผมหรือหนังศีรษะ

2. ไม่ควรใช้แชมพูที่เข้มข้นจนเกินไป เพราะอาจทำให้หนังศีรษะมีการผลิตไขมันออกมามากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ผมเหม็นมากขึ้นไปอีก

3. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผมบริเวณใกล้กับรากผมด้วย เพื่อลดการกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน

4. อย่าลืมเป่าผมและหนังศีรษะให้แห้งสนิททุกครั้งหลังสระผม หรือทุกครั้งที่ผมเปียกชื้น เพราะถ้าหากปล่อยให้ผมชื้นนาน ๆ อาจทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้เกิดปัญหาผมอับชื้นและส่งกลิ่นเหม็นได้ง่าย

5. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด เพราะความร้อนจะกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตไขมันออกมามาก

โรคผมเหม็น

6. หลีกเลี่ยงการทำสีผม การดัด และการยืดผม เพราะสารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีผลต่อการอักเสบของต่อมน้ำมัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผมเหม็นได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

7. พยายามลดการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม​ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จำพวกออยล์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ผมและหนังศีรษะมันมากขึ้นได้

8. งดอาหารที่มีเครื่องเทศกลิ่นฉุน

9. ควรเปลี่ยนปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน รวมทั้งผ้าเช็ดผมบ่อย ๆ เพื่อลดการอับชื้น

10. พยายามตัดผมให้สั้นเพื่อให้มีการระบายอากาศได้ดี ลดการขับเหงื่อจากต่อมเหงื่อให้น้อยลงและง่ายต่อการทำความสะอาด

นอกจากนี้เราก็มีสมุนไพรแก้ผมเหม็นมาบอกต่อกันด้วยนะคะ ตามนี้เลย

สมุนไพรแก้ผมเหม็น

1. มะกรูด

โรคผมเหม็น

ใช้มะกรูดประมาณ 3-4 ลูก มาบีบเอาน้ำออกและนำไปชโลมบนหนังศีรษะให้ทั่ว จากนั้นคลุมด้วยหมวกอาบน้ำทิ้งไว้ราว ๆ 20 นาที จึงสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนและเป่าผมให้แห้งสนิท ทำเป็นประจำสักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งอาการผมเหม็นก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ

2. ขิง

โรคผมเหม็น

ใช้ขิงสดมาเผาไฟแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาผสมน้ำแล้วชโลมให้ทั่วศีรษะทุกวัน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง สูตรนี้นอกจากช่วยดับกลิ่นผมเหม็นได้แล้ว ยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมด้วยนะคะ

3. ว่านหางจระเข้

โรคผมเหม็น

        วุ้นในว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ให้นำว่านหางจระเข้ที่แก่จัดปอกเปลือกแล้วนำเนื้อมาปั่นให้ละเอียด แล้วนำมาสระผม ทิ้งไว้ 3-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเป่าผมให้แห้งสนิท

4. ทองพันชั่ง

โรคผมเหม็น

        สูตรนี้สำหรับคนที่มีปัญหาเชื้อราบนหนังศีรษะ ให้นำรากหรือใบทองพันชั่งมาโขลกให้ละเอียด ชโลมหนังศีรษะแล้วหมักทิ้งไว้ 1 คืนแล้วล้างออก ทำทุกวันประมาณ 1 เดือน เชื้อราบนหนังศีรษะจะค่อย ๆ หายไปเอง

5. เปลือกส้ม

โรคผมเหม็น

ในเปลือกส้มมีน้ำมันหอมระเหยอยู่หลายชนิด ทั้งซิตรัล (citral) เจอรานิออล (geraniol) และไลนาโลออล (linalool) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาด ซึ่งหากต้องการนำมาสระผมเพื่อกำจัดกลิ่นเหม็น ให้ล้างเปลือกส้มให้สะอาด จากนั้นนำเปลือกส้มไปบดละเอียด ผสมน้ำต้มสุกเล็กน้อยแล้วนำมาชโลมหนังศีรษะ หมักไว้นาน 20-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เสร็จแล้วอย่าลืมเป่าผมให้แห้งสนิทด้วย

อีกสูตรสำหรับสาวผมมัน ให้คุณใช้ไข่ขาวผสมกับน้ำอุ่นดูค่ะ โดยผสมไข่ขาว 1 ฟองกับน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่ากัน หลังจากนั้นนำไปชโลมให้ทั่วศีรษะ แล้วปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้สระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ความมันบนเส้นผมและหนังศีรษะจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ความรู้รอบตัว, dailymail, huffingtonpost, top10homeremedies


Create Date : 02 มีนาคม 2560
Last Update : 2 มีนาคม 2560 10:32:02 น. 1 comments
Counter : 1860 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3773459 วันที่: 29 มีนาคม 2560 เวลา:11:13:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.