เที่ยวไป..กินไป..ตามแต่ใจเราสองคน เป็นบล๊อกที่ทำขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวการเดินทางของเราทั้ง 2 คน และเป็นข้อมูลให้สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางด้วยตัวเอง

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add 's blog to your web]
Links
 

 
Good morning "Vietnam" #3 (วันที่สอง)

วันนี้เป็นวันที่สอง ของการท่องเวียดนามของเราสองคน จุดมุ่งหมายในวันนี้ก็คือการไปเที่ยว "อ่าวฮาลองเบย์ " หรือที่ใคร ๆ รู้จักในนามของ ฮาลองเบย์ (Ha Long Bay) เป็นมรดกโลกอีกแห่ง ใครที่ไปเวียดนามแล้วไม่ได้ไปฮาลองเบย์ เหมือนว่าไปไม่ถึงเวียดนาม ในการไปครั้งนี้เราได้ซื้อทัวร์ One Day Trip ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไปในเมืองฮานอย แต่เราให้โรงแรมจองให้ ราคา $18 ต่อคน มีรถรับส่ง และอาหารกลางวันบนเรือ (แต่ไม่มีน้ำดื่ม ต้องซื้อเอง...เฮ้อ กินข้าวแล้วไม่มีแม้กระทั่งน้ำเปล่าให้กินเนี่ยนะ) ค่าเข้าชม เรา 2 คนต้องใช้สูตร 6 7 8 (ตื่น 6 โมง - กินข้าว 7 โมง - ยืนรอรถตู้ 8 โมง) เพราะรถตู้จะมารับเราที่โรงแรม 8.00 น. รถตู้มารับเราเป็นกลุ่มแรก แล้วตระเวนรับลูกทัวร์กลุ่มอื่น ๆ บริเวณในตัวเมืองฮานอยจนเต็มรถ จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปถนนสายหลัก

คนนี้ถูกแซะให้ตื่นขึ้นมาแต่เช้า หน้าตาเลยยังบวม ๆ อยู่ (ย้ำ..เพิ่งตื่นนอนนะ ไม่ได้ถูกต่อย)


ระหว่างที่นั่งรถไปเรื่อย ๆ ก็เห็นแม่ค้านั่งขายขนมปังฝรั่งเศส อาหารเช้าอย่างหนึ่งของคนเวียดนาม (จริง ๆ เห็นขายตลอดตั้งแต่เช้า - ค่ำ เค้าวางขายกันทั่วไปหมดข้างทางอย่างนี้เลย) ข้าง ๆ จะมีเตาอบขนมปัง (พี่เต่าไม่ได้ลองกิน เพราะเคยกินแล้วเมื่อไปลาว คิดว่าน่าจะเหมือนกัน ส่วนอรก็ไม่ร้องกิน เพราะกินจากโรงแรมมาเต็มที่แล้ว..หุ หุ) เห็นจากป้ายราคา 1000 ดอง ก็ประมาณอันละ 2 บาท


รับลูกทัวร์ครบหมดแล้ว มีทั้งหมด 12 คน เป็นชาวมาเลย์เซีย 3 คน สิงค์โปร์ 4 คน ญี่ปุ่น 1 คน ฝรั่งเศส 2 คน และเราชาวไทย 2 คน ไกด์ผู้หญิงชาวเวียดนาม 1 คน ไกด์คนนี้เป็นคนพูดอังกฤษชัดเจนดีมากเลย (น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปกรุ๊ปทัวร์กับไกค์มาให้ดู) รถเริ่มออกจากตัวเมืองฮานอย นั่งมองบ้านเมืองสองข้างทางไปเรื่อย ๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งแตกต่างจากเมืองไทย คือ บ้านที่นี่จะเป็นตึกสูง 3 - 5 ชั้น (ไม่ว่าจะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือเยอะแค่ไหน เค้าก็นิยมสร้างบ้านทรงนี้กัน) และจะทาสีเฉพาะด้านหน้า ด้านข้าง และหลังจะไม่ทา สีที่นิยมใช้กันส่วนมากจะเป็นสีเหลือง




สองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นท้องนา กำลังเขียวชอุ่มเลย (ได้ข่าวว่าเค้าส่งออกข้าวเยอะอยู่เหมือนกันนะ)


ระยะทางจากฮานอยไป ฮาลองเบย์ 150 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง (ประมาณกรุงเทพฯ ไประยอง) พอรถวิ่งได้ประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เค้าก็แวะหยุดพักที่ "ศูนย์หัตถกรรมของผู้ที่ถูกผลกระทบจากสงครามและฝนเหลือง" ทัวร์ที่ไปฮาลองเบย์ทุกคันจะแวะที่นี่ เพื่อเข้าห้องน้ำ พักซื้อของกิน อุดหนุนสินค้าหัตถกรรมก็มีบ้าง






หัตกรรมที่นี่จะเป็นการปักลวดลายรูปต่าง ๆ ด้วยมือ เป็นของใช้ต่าง ๆ เช่น กระเป๋า ถุงผ้า รูปภาพต่าง ๆ และยังมีเครื่องเซรามิคอีกด้วย

ลีลาการปักผ้าของสาวเวียดนาม คล่องแคล่ว ว่องไว...ชึบ ๆ ๆ ๆ ๆ


หนุ่มเวียดนามก็ Paint ผ้าให้มีลวดลายวิบวับ ได้อย่างสวยงาม ล่อตาล่อตังค์ออกจากกระเป๋าของคุณลูกค้าดีนักแล


ภาพที่เห็นใส่กรอบแปะ ๆ อยู่บนฝาผนังนี้ ไม่ได้วาดนะขอบอก เค้าใช้ปักด้วยไหมสีต่าง ๆ ทั้งนั้นเลย


กระเป๋า ๆ ๆ ปักด้วยไหมสีเป็นรูปดอกไม้ บางใบปักเลื่อมด้วย แต่ซื้อไม่ลงเพราะเค้าแปะราคาไว้ใบละ $22 เป็นอย่างต่ำ (เดี๋ยวตอนเย็นไปดูเทียบกับตลาดในเมืองดีกว่า)


ส่วนคนนี้ ดูโน่น ดูนี่ แต่ไม่ซื้ออะไรเลย


อีกมุมหนึ่งของศูนย์ฯ ที่จัดแสดงภาพที่ปักด้วยเส้นไหมสีต่าง ๆ และสินค้าพวกผ้าปูโต๊ะ ที่รองจานชามแก้วน้ำ


หลังจากแวะพัก 20 นาที ก็ได้เดินทางต่อใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ไปถึงท่าเรือที่ฮาลองเบย์ ก็เริ่มพบกับความชุลมุนวุ่นวาย นักท่องเที่ยวจากไหนไม่รู้เดินทางมากันเยอะแยะไปหมด


ไกด์บอกให้กลุ่มของพวกเรามายืนรออยู่ข้างหน้า ระหว่างนี้ก็มีชาวเวียดนามเดินมาเสนอขายสินค้าให้พวกเราอยู่ตลอดเวลามีทั้งพัด ร่ม หมวก ไปรษณียบัตร ของชำร่วยอื่น ๆ เยอะแยะจนงงไปหมด


พอไกด์ซื้อบัตรเข้าชมอุทยานมาได้แล้ว ก็แจกให้ถือไว้คนละ 1 ใบราคา 30000 ดอง (รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว) แล้วกำชับบอกให้ถือไว้ดี ๆ อย่าให้หายนะ (อะจ้า..)



พอได้รับตั๋วกันครบทุกคนแล้ว ไกด์ก็นำทางพากลุ่มของพวกเราไปลงเรือ ก็เลยขอถ่ายภาพเก็บบรรยากาศก่อนลงเรือไว้ซักหน่อย มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวกันเต็มไปหมด

คนมาเที่ยวเยอะไม่เยอะก็ดูจากจำนวนเรือที่มารอรับนักท่องเที่ยวก็แล้วกัน สังเกตจากเสากระโดงเรือได้ มองดูคร่าว ๆ ต้องมีไม่ต่ำกว่าร้อยลำแน่ ๆ


วันนี้ฟ้าเปิด สว่างโล่งแจ้งเชียว แต่อากาศก็ร้อนอยู่เหมือนกัน


ตอนนี้กำลังเดินแถวตามไกด์ (ร่มแดง...เค้ากำชับนักหนาว่าให้เดินตาม My umbralla อย่าแตกแถวนะ) ไปลงเรือกัน


เรือที่เรานั่งไปอ่าวฮาลองเบย์ชื่อเรือ "HUY HOANG" เบอร์ 9 เป็นเรือไม้ทั้งลำ มี 2 ชั้น (จริง ๆ แล้วเรือที่นี่ทุกลำก็เป็นเรือไม้ทั้งลำหมดหละ แต่จะต่างกันตรงความสวยงาม ใหม่ หรือเก่า) เรือที่เรานั่งเป็นเรือระดับ 2 ดาวเชียวนะ (ที่เค้าจะมีดาวบอกเกรดของเรือไว้ด้วยหละ เหมือนโรงแรมเลย)


พอได้ขึ้นเรือก็นั่งเต๊ะจุ๊ยถ่ายรูปก่อนเลย (ระหว่างรอไกด์ไปเดินตามหาญี่ปุ่นหายไประหว่างเดินทาง 1 หน่วย อากาศวันนั้นร้อนมาก ๆ สงสารไกด์เหมือนกัน เดินตากแดดไปตามหาลูกทัวร์จนเหงื่อท่วมตัวเลย) คนที่เห็นรอบ ๆ นี้ไม่ใช่คนไทยเลยนะ เป็นชาวเวียดนามทั้งนั้นเลย คนเวียดนามเค้าก็นิยมพาครอบครัวมาล่องเรือไปเที่ยวฮาลองเบย์อยู่เหมือนกัน


หลังจากลูกทัวร์ลงเรือครบแล้ว เรือก็เริ่มเคลื่อนตัวออกเดินทางสู่อ่าว "ฮาลอง เบย์"


การเดินทางไปสู่ฮาลองเบย์เพิ่งจะเริ่มต้น ยังมีอะไรอีกมากรอเราไปพบเจอข้างหน้า...โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ



Create Date : 08 สิงหาคม 2550
Last Update : 5 ตุลาคม 2550 16:17:08 น. 2 comments
Counter : 1368 Pageviews.

 
I am not sure you will come to Hue. If you come do not go to "Tinh Gia Vien" we went there and spend 52 Us Dollars They are not fare and cheating on us. After 5 day in Vietnam this is the most worst thing we experience.


โดย: Tang IP: 203.210.245.51 วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:22:04:20 น.  

 
We are not go to Hue and "Tinh Gia Vien". We are went to "Halong Bay" only One day trip $18 per person. Thank.


โดย: taorn IP: 58.8.174.3 วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:17:32:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.