กล้วยพัดออกดอก เกิดมาเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่แหละ
ขอแวบมาเขียนบล็อกเกี่ยวกับต้นไม้ในรั้วบ้านสักหน่อย เพราะไปอยู่กทม.สองอาทิตย์ กลับมาที่บ้านมีเรื่องให้แปลกใจซะแล้วด้านหน้า แบบเต็มต้น สังเกตตรงกลางยอด ไม่เรียวแหลม แต่กลายเป็นกลีบสั้นๆอวบๆแทน นี่แหละช่อปลีของกล้วยพัดค่ะ ขนาดจริงใหญ่กว่าปลีกล้วยเกือบสองเท่า ดูแล้วคล้ายช่อดอกเฮลิโคเนียมากกว่า แถมชี้ปลีขึ้นฟ้าด้วย!สังเกตว่าปลียื่นออกมาด้านหน้า ซึ่งตรงกับถนนหน้าบ้าน ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรมศิลาวดี บรรดาแขกที่มาพักต่างชักภาพกันบ่อยครั้ง คาดว่าเขาก็คงเห็นแปลกเหมือนกันเนอะด้านหลัง มองเห็นปลียื่นไปอีกด้านอย่างชัดเจนภาพถ่ายมาเมื่อสองวันก่อนค่ะ ป่านนี้ปลีจะขยายอีกมากรึเปล่า ยังไม่ได้สำรวจเลย จะคอยติดตามดูจนกว่าดอกโรยเลย แล้วจะเอามาอัพเดทให้ดูนะคะ แม่บอกว่าใครมาเห็นก็ทักว่าจะมีโชคมีลาภ ช่วงนี้แม่เดินผ่านกระดานขายหวยไม่ได้เลยค่ะ อุดหนุนตลอดๆ
ใครว่ามาเกาะสมุยแล้วจะไม่มีห้างเที่ยวจ๊ะ
อาจไม่เลิศเท่า เซนทรัลเวิลด์ ไม่อลังเท่า พารากอน...แหมแต่ภูธรอย่างเราก็มีห้างเที่ยว (นะว๊อย!) ว่าเข้านั่น คุณอาจคิดไม่ถึงว่าสถานที่นั้นก็คือ... Big C น่ะเองจ้า!ร้านแรกที่เจอจากริมถนนเลยนั่นคือ สตาร์บั๊คส์ค่ะ ที่นี่ จะมีทางเดินเลาะผ่านสวนมาข้างใน อารมณ์คล้ายๆกับเดิน Tops Market Place แถวทองหล่อ หรือวิลล่านะคะ เพียงแต่ว่าคนออกแบบคงจะคนละเจ้ากัน เลยไม่มีผ้าใบขาวๆบนยอดตึกที่นี่ ร้านสตาร์บั๊คส์ที่นี่กว้างขวาง ถ้าแดดไม่ร้อนจริงๆก็น่านั่งที่ระเบียงมากเลยค่ะ
มองออกไปทางซ้ายมือ จะเห็นลานจอดรถด้านหน้า ...แหมค่อยดูคล้าย Hypermarket ขึ้นมาหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีแค่ลานนะคะ ยังพอมีต้นไม้แทรกอยู่บ้างประปราย
แวะเที่ยววัดพระใหญ่ เกาะฟานกันจ้ะ
อะไรเอ่ย? เมื่ออยู่บนเครื่องบิน ยามที่กัปตันบอกว่าจะเตรียมนำเครื่องลงจอด หากเราก้มมองดูยังฝั่งเกาะสมุย จะเห็นว่าเครื่องเพิ่งผ่านพระพุทธรูปองค์โตมากๆไปแว่บนึง พระใหญ่เกาะฟาน ไงหล่ะจ๊ะ!!!แม่ๆน้าๆและพี่ๆน้องๆ ต่างเรียกพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประจำเกาะสมุยนี้ว่า พระใหญ่ ทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้ามาเที่ยวที่นี่ รับรองไม่มีหลงไปวัดอื่นแน่ๆ สมัยก่อนคลาสสิกกว่านี้อีก เพราะสถานที่ตั้ง คือ เกาะฟาน (ไม่ใช่ สเตฟาน พระเอกเจ็ดสีนะ) นั้นเป็นเพียงติ่งผืนดินที่อยู่ห่างจากสมุย ยามน้ำลดก็สามารถเดินไปได้ แต่น้ำขึ้น ต้องไปทางเรือค่ะ จะทำบุญกันที ขนของลงเรือกันหลายรอบกว่าจะถึง ทั้งๆที่ใกล้นิดเดียวและความที่อยู่ใกล้ๆกับสนามบินประจำเกาะ จึงไม่แปลกที่คุณจะสามารถเห็นพระใหญ่ได้อย่างชัดเจน แม้ยังไม่ได้เท้าเหยียบฝั่ง ถนนปัจจุบัน สามารถขับรถไปถึงหน้าประตูวัดได้เลย ขอแนะนำว่ามาเช้าๆกำลังดีนะคะ เนื่องจากที่จอดรถมีค่อนข้างจำกัด
หาหอยกิน
เช้าวันนี้มาหาอาหารกินจากหน้าบ้านเราเองดีกว่า....เลี้ยวซ้ายไปทางปลายสุดของแหลมหนัน จะพบ พังควาย ที่ที่มีแต่โขดหินระเกะระกะไปหมด ที่นี่ มีสัตว์ทะเลอร่อยๆมากมาย ทั้ง ปลากะบอก วาย(หมึกสายตัวเล็ก) ปลาปี่แก้ว(ช่อนทะเล) ปลาตุ๊กแก(เก๋าลายตุ๊กแก) ปลานกแก้ว และหอยหลากหลาย หอยติดหิน(ไม่ได้ทะลึ่งนะจ๊ะ)ที่อร่อยๆเช่น หอยเจาะ(หอยนางรมท้องถิ่น) มันเกาะแน่นตามโขดหิน เอาหางช้อนสังกะสี ยิ่งเก่ายิ่งดี คมๆบุบๆแคะไปที่ฝาหอยแล้วตักแต่เนื้อใส่กระบอกที่เตรียมมา ใส่น้ำทะเลหล่อไว้พอขลุกขลิก เอามายำกินสดๆ เป็นจานเด็ดของชาวบ้านอย่างแท้จริง หากขี้เกียจแคะหอย ตามพื้นทรายก็มีหอยมากมายให้เลือกเก็บ เช่น หอยกลม หอยเสียบ หอยแครง(ต้องมีความสามารถเล็กน้อย แม่เรามีเทคนิคร้องเพลงให้หอยแครงอ้าปาก จะได้เห็นและตามเก็บได้) แต่ที่เก็บง่ายสุดก็คือ หอยขมทะเล มันจะสะเปะสะปะตามซอกหินให้เก็บได้อย่างง่ายดาย เอามาแกงคั่วกินเหมือนหอยขมน้ำจืดได้เลย แต่ตัวโตกว่า เนื้อก็เลยเยอะกว่าด้วยวันนี้ได้หอยนมสาวติดมาด้วยหนึ่งตัว เดินหาหอยจนร้อนแล้ว ถ่ายรูปบ้างดีกว่า ช่วงน้ำลงนอกจากจะนิยมเดินหาหอยกัน ก็สามารถเดินมาสำรวจหาดได้ไกลเกือบกิโลเลยเชียว ไม่น่ากลัวคลื่นลูกใหญ่(ยกเว้นสึนามิ ยังไงก็กลัว) เพราะแถบพังควายนี้เองที่เป็นแนวปะการังและโขดหินคอยกรองคลื่นให้เบาความแรงลง จึงค่อนข้างสงบมาก มองขึ้นไปบนเนิน เห็นเพื่อนบ้าน อาศรมปุระ สร้างอยู่บนชะง่อนผาที่ความสูงประมาณ สามสี่เมตร ช่างร่มรื่นน่าสบาย วิวข้างบนคงจะสวยมากอยู่ ได้เวลากลับไปบ้านซะที
ชมตลาดสมุย-ตลาดหัวถนน
วันนี้ไม่อยากขับรถไกล แต่ก็อยากกินอาหารทะเลสดๆ อยู่ละไมจะไปที่ไหนดีหนอ...ไปหัวถนนกันดีกว่า ตลาดหัวถนน เป็นตลาดปลาเก่าแก่ที่ชาวละไมนิยมมาซื้อหาของทะเลสดๆกันมาก เพราะไม่ไกลมาก อยู่ระหว่างละไมไปแยกหน้าเมือง ตามทางจะพบร้านอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่ออยู่เป็นรายทาง อาทิ ร้านเสบียงเล , ครัวชาวบ้าน , จูบิลี่ เป็นต้น เมื่อถึงหัวโค้งหักศอกทางขวา ก็ถึงหัวถนนแล้ว ที่จอดรถน้อยไปหน่อยจึงมีรถจอดแอบข้างทางมากหน่อย เมื่อจอดเสร็จก็ต้องเดินเข้าตรอกแคบๆที่กว้างพอให้มอเตอร์ไซต์สวนกันได้นี้เข้าไปตลาดหัวถนนถือเป็นตลาดสดที่ขายอาหารทะเลเป็นหลัก พบแผงหมูแค่1-2 แผงเท่านั้น ที่นี่ ชาวมุสลิมเป็นเจ้าของแผงปลาส่วนมาก ขึ้นชื่อเรื่องปลาขูด ขูดกันสดๆชั่งขายหมดเดี๋ยวนั้นเลย ปลาที่นิยมเช่น ปลาอินทรีขูด ปลาดาบขูด เป็นต้น เสียดายเรามาช่วงบ่าย ปลาโดนจองหมดแล้ว อดทำห่อหมกกินเลย แต่วันนี้มีปลาดาบสดๆให้เลือกมากเลย แผงนี้ขายปลาดาบทั้งสดและแห้งเท่านั้นปลาแห้งที่อร่อยมากอีกชนิด ทำจากปลาตาหลุน(แม่เรียก ตาหลุน หมายถึง ตาถลนน่ะ ตัวสดๆหน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่เคยเห็นเลย) ตอนแรกเรานึกว่าเป็นปลาอินทรีแต่ไม่ใช่ เนื้ออร่อยมาก และก็แพงมากด้วย 700-800 บาทต่อกิโลแน่ะ ได้ถั่วลิสงงอกมาแกงส้มแล้ว กลับบ้านไปทอดปลาดาบกินดีกว่า เดินออกมาเจอแผงอาหาร ทอดแพกุ้งทอดได้น่ากินมาก แพละสิบบาทเอง(กุ้งขาวขนาดนิ้วก้อย1ตัวต่อแพ) รองด้วยใบเล็บครุฑหั่นฝอยทอด ผสมพริกแกงเล็กน้อย แซ่บมาก!ใกล้ทางออกตรอก จะมีตลาดแขกอยู่ทางขวามือ ดีนะปรับปรุงสะอาดสะอ้านกว่าเมื่อก่อนมาก อยู่ถัดจากสะพานข้ามคลองไปนิดเดียว เมื่อก่อนน่ากลัวมาก เห็นขาวัวห้อยลงมาจากเพดานเลยแหละถือเป็นตลาดสดของอร่อยใกล้บ้าน ใช้เวลาขับรถกลับไม่ถึง 20 นาทีก็ไปเตรียมอาหารได้แล้ว รอบนอกจะพบศาลเจ้าจีน ศาลเจ้าหน้าค่าย มีร้านติ่มซำเจ้าเก่าแก่อยู่ใกล้ๆ ที่นี่เป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ของเกาะสมุย มีร้านอาหารหมึกแดงชวนชิมอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ค่อนข้างแพง เราจึงอดกิน ไปทำกินเองดีกว่า ของพร้อมแล้วนี่นา