มีอะไรใน บีโอไอแฟร์ 2011 MThai News : อุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ไม่เพียงแต่สงผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ยังสงผลต่อกิจกรรมจากหน่วยงานต่างๆที่ต้องหยุดดำเนินการ บางกิจกรรมต้องยกเลิก หรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ไม่ต่างจาก งาน บีโอไอแฟร์ 2011 ที่เจอพิษมหาอุทกภัยเล่นงาน จนต้องเลื่อนการจัดงานมาเป็นวันที่ 5 – 20 มกราคม 2555 งานบีโอไอแฟร์ 2011 เป็น งานที่จัดขึ้นเพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบโดยได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้เพื่อ ส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ใช้แนวคิด “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” สำหรับพื้นที่จัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 แบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ รวมทั้งสิ้นประมาณ 240,000 ตารางเมตร คือ 1. งานนิทรรศการกลางแจ้ง บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี ซึ่งจะจัดตั้งแต่วันที่ 5 – 20 มกราคม 2555 ครอบคลุมเนื้อที่ 166,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย พาวิลเลี่ยน(Pavilion) หรือศาลาต่างๆมากมาย เช่น ศาลาศรัทธาศรม ศาลาประเทศไทย ศาลาบีโอไอ ศูนย์ประสานงานบีโอไอแฟร์ 2011 และศาลานิทรรศการกลางแจ้ง (Outdoor Pavilion) ของบริษัทชั้นนำต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 84 ศาลา 2. งานนิทรรศการภายในอาคาร จะจัดตั้งแต่วันที่ 5 – 13 มกราคม 2555 แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ - อาคาร 9 มีพื้นที่ประมาณ 11,000 ตารางเมตร จัดสรรสำหรับการจัดประชุมใหญ่ต่างๆ และไฮไลท์คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เชิญชมงาน “งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2554” นิทรรศการหินบนดวงจันทร์ (Moon Rock) จาก สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สัมผัสหินจากดวงจันทร์ส่งตรงจากองค์การนาซ่า มาให้ผู้ชงานได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด หรือตัวอย่างชุดนักบินอวกาศ จากประเทศญี่ปุ่น , อาหารอวกาศ และ การฉายภาพยนตร์ กำเนิดดวงจันทร์ และสารคดีที่เกี่ยวข้องกับระบบอวกาศ - อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการภายในอาคาร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 60,000 ตารางเมตร ใช้สำหรับการแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้าจากหลาก หลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไฮไลท์เด่นส่วนหนึ่งจาก บูธโซนี่ คือ การฉายภาพยนตร์ 3มิติความละเอียดสูง ที่ทำให้ผู้รับชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์ ภายใต้แนวคิด make believe ความยิ่งใหญ่ อลังการของงานบีโอไอแฟร์ 2011 บนพื้นที่กว่า 240,000 ตารางเมตรนั้น ทำให้คณะจัดงานคาดการว่า จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมา ภายหลังน้ำท่วมใหญ่แล้วทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากการซื้อสินค้าของประชาชน ทั่วไปได้ถึง 2,000 ล้านบาท และผู้จัดแสดงสินค้าชิ้นส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ อาจได้รับคำสั่งซื้อจากบริษัทชั้นนำทั้งในและจากต่างประเทศ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับไฮไลท์เด่นของงานนี้ ในส่วนของพาวิลเลี่ยน ได้แก่ ศาลาศรัทธาศรม (Royal Pavilion) อาคารจำลองรูปแบบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์สีทองอร่าม จัดแสดงนิทรรศการการเรียนรู้ธรรมชาติ ทั้งน้ำ ป่า และดิน รวมถึงแนวพระราชดำริและหลักการทรงงานที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ศาลาประเทศไทย (Thailand Pavilion) ด้วยการออกแบบอาคารภายนอกด้วยสถาปัตยกรรมแบบศาลาไทย สร้างความสะดุดตาและดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี และการ แสดงที่ไม่ควรพลาด คือ การแสดงนาฏศิลป์เงา “คือแผ่นดินทอง” จากคณะคิดบวกสิปป์ รองชนะเลิศจากรายการ Thailand’s Got Talent ปี 2554 ศาลาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำเสนอต้นแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บ้านประหยัดพลังงาน รวมทั้งกังหันลมพลังงานสะอาด  ศาลาพานาโซนิค (Panasonic Pavilion)  กับ แนวคิด Eco Idea การใช้พลงงานหมุนเวียนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำเสนอบ้านประหยัดพลังงาน (Eco House) ร้านค้าประหยัดพลังงาน และ ไฮไลท์เด่นคือ จอพลาสมา 3D ขนาด 152 นิ้ว ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก อีก ไฮไลท์สำคัญของส่วนพาวิลเลี่ยน คงหนีไม่พ้น ศาลา บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ที่เปิดให้ผู้เข้าชมงานร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการโชว์ผาดโผนกลางอากาศระดับโลก Flying Simulator ครั้งแรกในประเทศไทย นอก จากนี้ ยังมีศาลาของค่ายรถยนต์และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นำเสนอนวัตกรรมด้านอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมมาจัดแสดง ในรูปแบบสื่อแสง สี เสียงแบบสามมิติ เช่น ที่ศาลาฮิตาชิ ที่มีรถไฟขบวนพิเศษ Hitachi Super Express Train ร่วมเดินทางสู่โลกอนาคตพร้อมสัมผัสบรรยากาศ 4ฤดู ปิด ท้ายด้วยไฮไลท์เล็กๆที่ดูยิ่งใหญ่ คือแขนกลอัตโนมัติที่ จะบรรเลง Xylophone และกลองทัด ร่วมกับวงดนตรีไทยร่วมสมัย นำโดยขุนอิน แห่งภาพยนตร์เรื่อง โหมโรงในบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ใกล้รุ่ง” และเพลงไทยร่วมสมัยที่แต่ง ขึ้นใหม่โดย ขุนอิน ประกอบการแสดงจินตลีลาอันตระการตา ณ บริเวณลานหน้าศาลาบีโอไอ งาน บีโอไอแฟร์ 2011 เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 10.00น. – 22.00น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 13 ม.ค. 55 สำหรับนิทรรศการภายในอาคาร ส่วนนิทรรศการริมทะเลสาบจะจัดไปจนถึงวันที่ 20 ม.ค. ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี สำหรับการเดินทางสู่งาน BOI FAIR 2011 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี 1. ใช้บริการขนส่งสาธารณะตามเส้นทางขสมก. (สายปกติ) มายังจุดเชื่อมต่รถขสมก. สายพิเศษเพื่อเข้าสู่งาน -รถโดยสารประจำทางที่มายังจุดเชื่อมต่อรถสายพิเศษ (อนุสาวรีย์ชัยฯ – งานบีโอไอแฟร์ 2011) สาย 26,140,166,168,515 - รถโดยสารประจำทางที่มายังจุดเชื่อมต่อรถสายพิเศษ (หมอชิต 2 – งานบีโอไอแฟร์ 2011) สาย 77,96,145,134,136,138,509,536 2. ใช้บริการรถตู้ขนส่งประจำทาง - เมืองทอง – อนุสาวรีย์ชัยฯ (ทางด่วน) - เมืองทอง – สีลม (ทางด่วน) - เมืองทอง – เพลินจิต (ทางด่วน) - เมืองทอง – เดอะมอลล์งามวงศ์วาน (ทางด่วน) - เมืองทอง – สนามหลวง (ทางด่วน) - เมืองทอง – เมเจอร์ รังสิต (ทางด่วน) - เมืองทอง – พระราม 9 (ทางด่วน) เมืองทอง – หมอชิต (ทางด่วน) เมืองทอง – รามคำแหง 1 3. เรือด่วนเจ้าพระยา เส้นทาง ปากเกร็ด-นนทบุรี-วัดราชสิงขร เดินทางต่อด้วยรถ ขสมก. สายพิเศษ 4 จากท่าน้ำนนทบุรี 4. IMPACT Link : อิมแพ็คลิงค์ อิมแพ็คฯ – สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต (ทางด่วน) 5. รถไฟ ขบวนรถไฟสายเหนือและอีสานลงที่สถานีหลักสี่ หรือ สายตะวันออกและใต้ลงที่สถานีรถไฟหัวลำโพง แล้วเดินทางต่อด้วยรถประจำทางสายปกติของ ขสมก. จากแจ้งวัฒนะ และวิภาวดี รังสิต ได้แก่ - รถประจำทางธรรมดา 29,59,95 และรถประจำทางปรับอากาศ 4,10,13,19 จาก IMPACT ทางทิศเหนือ - รถประจำทางธรรมดา 29,52 และรถประจำทางปรับอากาศ 4,10,29 ทางทิศใต้ - รถประจำทางธรรมดา 59,95,150 และรถประจำทางปรับอากาศ 13 ทางทิศตะวันออก หรือเดินทางต่อด้วยรถแท็กซี่,รถจักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อเข้าสู่เมืองทองธานี 6. รถบริการเสริมพิเศษ 6.1ท่านสามารถเดินทางด้วยระบบขนส่งรถขสมก. สายพิเศษ ตามจุดต่างๆ ที่จัดบริการเพิ่มดังนี้ - รถ ขสมก. สายพิเศษ 1 (ทางด่วน) เมืองทองธานี – อนุสาวรีย์ชัยฯ - รถ ขสมก. สายพิเศษ 2 (ทางด่วน) เมืองทองธานี – หมอชิต 2 - รถ ขสมก. สายพิเศษ 3 (ทางด่วน) ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต – เมืองทองธานี - รถ ขสมก. สายพิเศษ 4 (ทางด่วน) ท่าน้ำนนทบุรี – เมืองทองธานี - รถ ขสมก. สายพิเศษ 5 (ทางด่วน) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ – เมืองทองธานี 6.2 เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS - ลงที่สถานีอนุสาวรีย์ชัยฯ เดินทางต่อด้วยรถ ขสมก. สายพิเศษ 1 - ลงที่าถานีหมอชิต เดินทางต่อด้วยรถ ขสมก. สายพิเศษ 2 6.3 เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่าถานีจตุจักร เดินทางต่อด้วยรถ ขสมก. สายพิเศษ 2 ** ภายในบริเวณพิ้นที่การงานได้จัดรถให้บริการพิเศษ ฟรี ตลอดเวลา 7. เส้นทางเข้าชมงาน - ทางด่วนจากกรุงเทพฯ ลงด่านเมืองทอง - ทางด่วนจากเชียงรากฯ ลงด่านเมืองทอง - ทางปกติจากแจ้งวัฒนะ เข้าทางถนนเมืองทอง - ทางปกติจากแจ้งวัฒนะ เข้าทางถนนบอนด์สตรีท - ทางปกติจากติวานนท์ เข้าทางถนนเมืองทอง - ทางปกติจากติวานนท์ เข้าทางถนนบอนด์สตรีท 8. เส้นทางออกจากงาน - ขึ้นทางด่วนเมืองทองกลับทางกรุงเทพฯ - ขึ้นทางด่วนเมืองทองกลับทางเชียงราก - ออกทางถนนเมืองทองไปแจ้งวัฒนะ - ออกทางถนนบอนด์สตรีทไปแจ้งวัฒนะ - ออกทางถนนเมืองทอง ไปติวานนท์ - ออกทางถนนบอนด์สตรีท ไปติวานนท์   Create Date : 06 มกราคม 2555     0 comment Last Update : 6 มกราคม 2555 11:54:38 น.     Counter : 1411 Pageviews.   Share Tweet

ดูไปก่อน! ภาพจำลอง iPad ไซส์ 7.85″ เรื่องขนาด 7″ ของ iPad ถือเป็นอีกหนึ่งข้อมูลเกี่ยวกับ iPad รุ่น ใหม่ที่หลายๆ คนให้ความสนใจอยู่เหมือกัน โดยล่าสุดทาง CiccareseDesign ได้ทดลองทำไซส์ตัวอย่างของ iPad ขนาด 7.85″ ออกมาและเปรียบเทียบกันกับขนาด 3.5″ ของ iPhone 4 และ 9.7″ ของ iPad รุ่นปรกติซึ่งก็แสดงให้เห็นขนาดที่ดูแปลกตาดี ซึ่งถือว่าเป็นไซส์กลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ (สำหรับใครที่เคยจับ Galaxy Tab 7″ มาแล้วน่าจะพอนึกออก) หาก Apple ทำการปล่อย iPad ขนาด 7″ ออกมาจริงก็เป็นไปได้ว่าน่าจะมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024 x 768 pixels ซึ่งจะทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อนักพัฒนาโปรแกรมทั้งหลายเพราะจเป็นความละเีอยด เดียวกันกับ iPad ขนาด 9.7″ นั่นเอง ก่อนหน้านี้ Steve Jobs เคยยืนกรานว่า iPad ควรจะมีขนาดราวๆ 9-10″ เพราะว่าเป็นขนาดที่ทำให้ใช้งานได้สะดวกและแม่นยำกับนิ้วมากที่สุด แต่ในยุคหลัง Steve Jobs ก็เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับ iPad mini กลับมาอีกครั้งซึ่งก็ต้องรอดูกันยาวๆ ว่าสุดท้ายแล้ว Apple จะขุนเอา iPad ที่อดีตศาสดาเคยยืนกรานว่าไม่เสริ์คออกมาได้จริงๆ หรือไม่ source: 9to5mac   Create Date : 04 มกราคม 2555     0 comment Last Update : 4 มกราคม 2555 19:43:13 น.     Counter : 1165 Pageviews.   Share Tweet

เที่ยวอิ่มบุญ ไหว้พระ สายตะวันออก       นอกจากหา "สถานที่เคาท์ดาวน์" เพื่อหาความบันเทิงใจกันแล้ว "ปีใหม่" นี้ ก็อย่าลืมหาที่สงบจิตสงบใจ เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ที่วิถีชาวพุทธอย่างเราจะขาดเสียมิได้ก็คือ "การไหว้พระ ขอพร"  travel.mthai.com เลยคัดสรรวัดในแถบตะวันออกของประเทศ ที่เค้าว่าดี ว่าดัง ให้เราได้มีโอกาสไปสักการะ           วัดสัตหีบ จังหวัดชลบุรี           อยากทำมาค้าขึ้น ซื้อง่ายขายคล่อง ต้องแวะสักการะ"หลวงพ่ออี๋" ณ "วัดสัตหีบ" วัดเก่าแก่ริมทะเล จังหวัดชลบุรี  "หลวงพ่ออี๋" เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังในอดีต เชี่ยวชาญเรื่องบริกรรมคาถา ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง เชื่อกันว่า "ปลัดขลิกหลวงพ่ออี๋" นั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องเมตตามหานิยม ทำมาค้าขึ้น           การเดินทาง           ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งสู่พัทยา  เมื่อมาถึงพัทยาใช้เส้นทางไประยองเพื่อเข้าสู่ตัวอำเภอสัตหีบ ขับมาถึงวงเวียนสี่แยกให้เลี้ยวซ้าย ไปอีกไม่ไกลจะพบวัดสัตหีบตั้งอยู่ด้านขวามือ          วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จังหวัดชลบุรี          "วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร" สะดุดตาด้วย "พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์" เจดีย์สีขาว สูงสง่า และปูชนียสถานสำคัญ อาทิ องค์จำลอง "มหาเจดีย์พุทธคยา" และ "พระมหามณฑปพุทธบาท ภปร. สก." หากเดินขึ้นบันไดพญานาค 200 ขั้น จะได้นมัสการรอยพระพุทธบาทสลักบนศิลา พร้อมสัมผัสทัศนียภาพมุมสูงของวัด ณ จุดชมวิว ถัดไปอีก 2 กิโลเมตร บริเวณหน้าผาเขาชีจรรย์ จะพบ แกะสลักรอยพระพุทธรูป "พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา" สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสครองราชย์ฯ 50 ปี           การเดินทาง           ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี ไปยังอำเภอบางละมุง แยกซ้ายจากถนนสุขุมวิทบริเวณกิโลเมตรที่ 160 ขับเข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร                วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา          "วัดโสธรวรารามวรวิหาร" ถ้าเรียกว่า "วัดหลวงพ่อโสธร" ดูจะคุ้นหูกันมากกว่า เป็นที่รู้และเชื่อกันดีว่า บุญบารมีอภินิหารขององค์ "หลวงพ่อโสธร" เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ยากจะปฏิเสธ จึงทำให้เป็นหนึ่งในหลายๆ วัด ที่ผู้คนแห่แหนกันไปขอพร บนบานสิ่งต่างๆ กันอยู่ไม่ขาดสาย           การเดินทาง           ใช้ถนนรามอินทรามุ่งหน้าสู่มีนบุรี ขับตรงไปประมาณ 15.3 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 305 มุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทราประมาณ 42.8 กิโลเมตร เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังตัวเมืองฉะเชิงเทรา ขับผ่านสถานีรถไฟตรงไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นให้เลี้ยวขวาขับตรงไปประมาณ 2.2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปอีกเล็กน้อย วัดจะอยู่ด้านซ้าย           วัดสมานรัตนราม จังหวัดฉะเชิงเทรา           "วัดสมานรัตนราม" อารามริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เป็นที่ประดิษฐาน "องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข" ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เชื่อกันว่าผู้ที่ไปสักการะจะพบพานแต่ความสุขบริบูรณ์ มั่งคั่งในทุกด้าน ทางวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อย่าง "หลวงพ่อองค์ดำ" พระพุทธรูปประจำจังหวัด และ "หลวงพ่อโต" องค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เรากราบไห้วขอพร โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ          การเดินทาง           จากถนนรามอินทราก่อนถึงมีนบุรีเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อจะเข้าแปดริ้ว เลี้ยวซ้ายบนสะพาน (ตรงไปจะไปชลบุรี) ไปเรื่อยๆ เลยไฟแดงชิดขวา ขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง           วัดหัวสวน จังหวัดฉะเชิงเทรา           "อุโบสถวัดหัวสวน" แข็งแรงทนทนไม่กลัวผุกร่อน เพราะทำจากสแตนเลสทั้งหลัง ฐานเป็นคอนกรีตยกสูงจากพื้นดิน ปูด้วยหินแกรนิต ทางด้านหน้าเป็นที่ประดิษฐาน "พระสิวลี" ส่วนทางด้านหลังนั้นมี "พระพุทธมหาลาภ" ประดิษฐานเป็นประธาน หน้าบันและหน้าต่างวิจิตรบรรจงด้วยการใช้เทคนิคกัดกรดลงสีเหลืองแสดงเป็นรูป สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและมวลหมู่เทวดา ด้วยพลังแห่งศรัทธาหลอมรวมให้ "อุโบสถสแตนเลส" แห่งนี้ ยืนหยัดเคียงคู่พระพุทธศาสนามานานนับพันปี           การเดินทาง            จากกรุงเทพฯ ผ่านฉะเชิงเทราวิ่งเข้าอำเภอบางคล้า ไปทางเดียวกับวัดสมานรัตนาราม เมื่อผ่านปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายวัดหัวสวน          วัดปากน้ำโจ้โล้ จังหวัดฉะเชิงเทรา           "วัดปากน้ำโจ้โล้" หนึ่งในวัดงามของฉะเชิงเทรา อยู่ไม่ไกลจาก "ตลาดน้ำบางคล้า" (เพราะฉะนั้นอย่าให้เสียเที่ยว ของอร่อยเพียบ) ดึงดูดสายตาแก่ผู้พบเห็นด้วย"พระอุโบสถสีทอง" ทั้งหลัง และเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เชื่อกันว่า หากได้ลอดใต้ฐานพระประธาน จะเป็นการเสริมสิริมงคลให้ชีวิต           การเดินทาง           จากตลาดน้ำบางคล้า เลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับร้านอาหารร่มไม้สายธาร ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นโรงเรียนปากน้ำโจ้โล้ วัดจะอยู่ตรงข้ามกัน หรือจะเดินทางด้วยรถโดยสารจากตัวเมืองแปดริ้วไปถึงตลาดน้ำบางคล้า แล้วเหมารถโดยสารท้องถิ่นหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้          วัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง           แวะสักการะ "พระพุทธรูปปางไสยาสน์ " องค์พระนอนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดของ "วัดป่าประดู่" เพราะนอนประทับอยู่ในท่าตะแคงซ้าย (ตามปกติพระไสยาสน์ทั่วไปจะนอนตะแคงขวา) ชมวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์" พระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง ศิลปะเก่าแก่สมัยทวารวดี           การเดินทาง           เริ่มต้นจากถนนสุขุมวิท สาย 3 ผ่านเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดระยอง โดยมีจุดสังเกตคือ ผ่านโรงพยาบาลระยอง โรงเรียนวัดป่าประดู่ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าซอยถนนป่าประดู่ ไม่ไกลนักก็จะเจอวัด --------------------------------------------   Create Date : 27 ธันวาคม 2554     0 comment Last Update : 27 ธันวาคม 2554 15:53:52 น.     Counter : 1842 Pageviews.   Share Tweet

ทส.เดินหน้า เตรียมสำรวจพื้นที่ สร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง นาย ดำรงค์ พิเดช อธิบดีอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ในวันที่ 28-29 ธ.ค. นี้ ตนพร้อมด้วยนายปรีชา  เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ เตรียมเดินทางลงพื้นที่ และขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสภาพพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อ.ภูกระดึง จ.เลย เพื่อหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในโครงการก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ทั้งนี้ นายดำรงค์ กล่าวว่า ตนได้นำเสนอต่อนายปรีชาว่า การสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น ทั้งปัญหาคนเจ็บป่วยบนภูกระดึง ปัญหาสัตว์ป่าทำร้ายคนที่ต้องรีบนำตัวลงมารักษา รวมถึงปัญหาการจัดการขยะ อีกทั้งคนที่มาประกอบอาชีพเป็นลูกหาบ เมื่อแก่ตัวไปเป็นโรคกระดูกพรุนต้องหาเงินมารักษาตัวเองอีก อย่างไรก็ ตาม แม้จะมีกระเช้าลอยฟ้าแล้วแต่ก็ยังจะมีการจำกัดนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม โดยส่วนตัวอยากจะดำเนินการให้เสร็จภาพใน 3 ปี และตอนนี้มีการศึกษาแนวทางก่อสร้างไว้ 2-3 ทางเลือก ซึ่งผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว Mthai News   Create Date : 27 ธันวาคม 2554     1 comment Last Update : 27 ธันวาคม 2554 15:27:28 น.     Counter : 1022 Pageviews.   Share Tweet

สถานที่ countdown 2012   10..9..8..7..6..5..รอเวลาจุดพลุ นับถอยหลังกันใจจะขาด กับเทศกาล "ปีใหม่ Countdown 2012" หลายคนคงมีที่ในใจ แต่หลายคนก็อาจจะไม่มีที่ไป เราเลยคัด 10 อันดับที่น่าสนใจ มาให้สับสันจนเลือกไม่ถูก ทั้งนี้ก็ใช้วิจารณญานและกำลังความสามารถในการเลือก "สถานที่เคาท์ดาวน์" กันดีๆ นะ!! Bangkok Countdown 2012 @ Central World            แน่นอนว่าสถานที่เคาท์ดาวน์ที่เป็นที่สุดของกรุงเทพฯ ที่ทุกคนต้องนึกถึง และพร้อมใจไปแออัด แบ่งปันความสุขกันอย่างแน่นแฟ้น คือ ลานหน้า "Central World" ลานแห่งความครึกครื้นช่วงเทศกาลปีใหม่ เอาใจคนชอบแชะเหมือนเคยด้วยต้นคริสมาสต์ยักษ์ ตุ๊กตาหมีน้อยใหญ่ และเอาใจคนชอบแดนซ์ด้วยศิลปินดังคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นกอล์ฟ พิชญะ, Mike D.Angelo, ริท + เซน The Star 6, คชา นนทนันท์ AF8, K-OTIC, XIS, Rookie BB, Vivid Kiss Me Five,  เฟย์ ฟาง แก้ว, พะแพง AF4, โบว์ AF5, โรส + บี้ KPN, Tattoo Color, Slot Machine และ The Richman Toy ปีนี้มีแอบกระซิบมาว่าการแสดง แสง สี เสียง เค้าใช้เทคนิคขั้นเทพที่สั่งตรงมาจากเกาหลีเลยทีเดียว อย่าพลาดนะ!! งานนี้จัดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 01.00 น. ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ //www.centralworld.co.th/ The Grand Pattaya Countdown 2012           "พัทยา" อีกหนึ่งสถานที่เคาท์ดาวน์ที่เหมาะสำหรับคนไม่อยากอยู่ กทม. แต่ไม่ขอ ออก ตจว. ไกลๆ อยากซิ่งแบบใกล้ๆ แต่ได้ลมทะเล แนะนำให้นับเวลาข้ามปีแบบชิลล์ๆ ที่ "แหลมบาลีฮาย"จังหวัดชลบุรี พบศิลปินดัง อาทิ Bodyslam, Tattoo Color ฯลฯ มันส์ง่ายๆ ใกล้ๆ ขับรถ 2 ชั่วโมงถึง ฝรั่งเพียบ Speak English คล่องก็งานนี้ล่ะ!! ร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 25 - 31 ธันวาคม 2554 ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center Pattaya City โทร. 1337 Night Paradise Hatyai Countdown 2012           ใครอยาก "countdown"ริมหาด แต่ไม่ชอบแบบเล็กๆ ใกล้ๆ ก็ไป"หาดใหญ่" สิฮะ งานใหญ่ไม่แพ้ชื่ออำเภอ เค้าว่าขนร้าน OTOP มาทั้งสงขลา กว่า 200 ร้าน!! ช้อปกระหน่ำ แดนซ์กระจายข้ามปีกันให้เต็มที่ ในคืนวันที่ 30 ธันวาคม พบกับวงลูกทุ่งของโรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) 1 ใน 3 ทีมสุดท้าย Champ of the Champ จากรายการชิงช้าสวรรค์ พร้อมสั่นหัวกับขาร็อคขวัญใจวัยโจ๋อย่าง  Bank วง Clash  ส่วนคืนส่งท้ายปี  31 ธันวาคม เตรียมมันส์กับคอนเสิร์ตจากวง KLEAR, KALA กรี๊ดคอแตก กับหนุ่มบอย ปกรณ์ ที่จะมามอบความสุขกันจนข้ามศักราชใหม่ งานจัดขึ้นวันที่ 30 - 31 ธันวาคม 2554 ณ บริเวณใจกลางเมืองหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ โทร. 074-231055 //www.hatyaicountdown.com/ Hua Hin Countdown 2012          "หัวหิน"ถือเป็น อีกหนึ่งสีสันสำคัญแห่งเทศกาลเคาท์ดาวน์ของทุกปี ถือเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ยังคงแรงดีไม่มีแผ่วเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นเคย ขอเชิญรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ไปปลดปล่อยความมันส์กับหลากหลายศิลปิน พร้อมร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลเพียบ! งานจัดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่ 18.30 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้า Hua Hin Market Village อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032-513885 และศูนย์การค้า Hun Hin Market Village โทร. 032-618888 Colorful Phuket Countdown 2012          อยากชิลล์แบบไกลๆ ออกทะเลฝั่งอันดามัน ต้อง "ภูเก็ต"เท่านั้น countdown กันบนเกาะ ฟังเพลงเพราะกับบรรดาศิลปินลูกทุ่ง ทั้งซึ้ง ทั้งฮา อย่าง โปงลางสะออนในคืนวันที่ 29 ต่อด้วย 30 ธันวา มันส์กับขาร็อคเจ้าเก๋า พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และคืนไฮไลท์ที่สุดของงาน 31 ธันวาคม ส่งท้ายปีกับศิลปินวัยรุ่นวัยทีน ขนมจีน, K-OTIC, ซี-มัฑณาวี คีแนน ปิดท้ายด้วย  ROOM 39 ที่เตรียมมาให้ความสุขกันแบบสุดๆ ไม่ต้องกลัวหน่วง งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 -31 ธันวาคม 2554 นี้ ที่สนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.phuketcountdown.com/ ขอนแก่นปาร์ตี้ปีแสง (Khonkaen Countdown 2012)           แค่ชื่อก็ชวนให้อยากค้น อยากเคาท์ซะแล้ว ธีมงานตามคอนเซ็ปต์ของเมืองดังแดนอีสาน คือ ตระการตาไปด้วยแสง ระยิบระยับจับตา วูบวาบด้วยประติมากรรมแสงที่ตั้งใจสร้างสรรค์ให้เป็นทะเลแห่งดวงดาว เข้าจังหวะกับดนตรีมันส์ๆ จากBodyslam งานนี้พี่เค้าเดินสายเพื่อการ "countdown"กันแบบเต็มสตรีม งานจัดขึ้วันที่ 31 ธันวาคม 2554 - 1 มกราคม 2555 ที่ประตูเมือง บริเวณถนนศรีจันทร์ (ช่วงทางเข้าประตูเมือง) จากหน้าห้างเซ็นทรัลจนถึงศาลหลักเมือง จังหวัดขอนแก่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ปาร์ตี้ปีแสง อัมพวารื่นเริงเถลิงศกใหม่ 2555           นับถอยหลังกันแบบย้อนยุค เคาท์ดาวน์ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักย่านตลาดน้ำ ออกสเต็ปลีลาศเบาๆ กับวงสุนทราภรณ์ พร้อมร่วมร้องเพลง "สวัสดีปีใหม่" กันแบบ original ส่งท้ายปี ตื่นมาอีกทีใส่บาตรวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2555 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ณ บริเวณริมเขื่อนหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา (ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา) จังหวัดสมุทรสงคราม งานจัดขึ้นนที่ 30 ธันวาคม 2554 ถึง 1 มกราคม 2555 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลอัมพวา โทร. 034-751-351, 034-751-359 Countdown มุกดาหาร 2555           ประตูสู่อินโดจีน "มุกดาหาร" ขอจัดเทศกาล"countdown" ท่ามกลางบรรยากาศความสวยงามของแสงไฟที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาวพร้อมชมการแสดงวัฒนธรรมอันหลากหลายของชนเผ่าพื้นเมืองลุ่มแม่น้ำโขงทั้ง 2 ฝั่ง น่าไปเก็บภาพเป็นอย่างยิ่ง! งานจะจัดขึ้นที่บริเวณลานศาลาพญานาค จุดชมวิวใต้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร –สะหวันนะเขต) จังหวัดมุกดาหาร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร โทร. 042-612297 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม โทร. 042-513490-1 Count Down ที่หอนาฬิกาเทศบาลนครเชียงราย           อีกหนึ่งเมืองเหนือที่ขึ้นชื่อเรื่องหนาว เคาท์ดาวน์กัน แบบเย็นๆ ตระการตาด้วยการแสดงกลองสะบัดชัย การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน รวมไปถึงการแสดงวัฒนธรรม 4 ภาค ทั้งยังมีการแสดงแสง สีเสียง จากกลุ่มศิลปินชั้นนำอีกคับคั่ง งานจัดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ตั้งแต่ 20.30 น. เป็นต้นไป ที่ถนนบรรพปราการ ตั้งแต่สี่แยกประตูสลี จนถึงสี่แยกสะพานดำ (บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โทร. 053-711333 เข็นร็อคขึ้นภูเขา Khaokor Countdown Music Festival           ได้ยินชื่องานแล้ว เตรียมกำลังกายให้พร้อม ซ้อมสั่นหัวสั่นคอกันให้ดี จะได้ไม่พลาดท่าเสียที "ขาร็อค!" เพราะ "เขาค้อ" เค้าจัดให้ มหกรรมคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ รวมตำนานขาร็อคอย่าง ไมโคร, หิน เหล็ก ไฟ,  ป้าง นครินทร์ , อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ , แมว จีระศักดิ์ , วิด ไฮเปอร์ เตรียม "countdown" กันแบบมันส์สดเหงื่อหยดกันข้ามปี อ๊ะๆๆ งานนี้...ไม่ฟรี เพราะขาร็อครวมตัวทั้งที โดยบัตรจะอยู่ที่ราคา 1,400 บาท และจำกัดเพียงแค่ 20,000 ใบเท่านั้น ช้าอด...หมดแน่ๆ จองบัตรกันได้ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และร้านวาเลนไทน์ มิวสิค บาร์ โทร. 081-6043139, 083-1613001 //www.khaokhomusicfest.com/ --------------------------------------------------   Create Date : 26 ธันวาคม 2554     1 comment Last Update : 26 ธันวาคม 2554 20:00:44 น.     Counter : 1612 Pageviews.   Share Tweet