ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

น่ากิน ๆ ๆ ^^


หิว ๆ มานี่เลย แซนวิส ทั้งน่ารัก น่ากิน
































 

Create Date : 13 มกราคม 2555   
Last Update : 13 มกราคม 2555 20:18:37 น.   
Counter : 1157 Pageviews.  

ที่มาของท่าชู 2 นิ้ว


 



เคยสัยรึเปล่าคัฟว่าทำไม
เวลาที่เราต้องการให้กำลังใจใครหรือให้กำลังใจตัวเอง (ประมาณว่า "สู้ๆ
สู้ตาย") หรือแม้กระทั่งเวลาถ่ายรูปกับเพื่อนเราจะต้องมีท่าบังคับอย่างท่า "สู้ตาย" ชู 2 นิ้ว อยู่เสมอ... ทำไมต้องชูสองนิ้วด้วยล่ะ ชูสามนิ้วไม่ได้เหรอ???

           สำหรับการ
ชู 2 นิ้ว หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า "V sign" นั้น
เป็นที่รู้จักกันดีในความหมายของ "ชัยชนะ" คือ V แทนคำว่า Victory คัฟ
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ลองไปเปิดดูอัลบั้มรูปเก่าๆ ของตัวเอง 
จะพบว่าตั้งแต่เราเกิดมาเราถ่ายภาพด้วยท่าชู 2
นิ้วไว้มากมายโดยที่เราไม่รู้ตัว คิดอะไรไม่ออกก็ชู 2 นิ้วไว้ก่อนแล้วกัน
^^




      

    นอกจากนี้การชู
สองนิ้วยังหมายถึง "สันติภาพ" และ "การดูถูกท้าทาย" ได้อีกด้วย
...โดยหากเราไปแสดงอากัปกิริยาด้วยการ ชูสองนิ้วแต่หันฝ่ามือเข้าหาตัวเอง
ในสหราชอาณาจักรอย่างอังกฤษ สกอตแลนด์แล้ว
ถือว่าเป็นการแสดงท่าทางดูถูกต่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งอยู่คัฟ 




           โดย
ความหมายของการทำเช่นนี้นั้น
จะเหมือนกับการที่เราไปทำท่าที่หยาบคายอย่างการ "ชูนิ้วกลาง" (The Finger)
ให้คนอื่นเลยทีเดียว
ซึ่งพฤติกรรมนี้ถือว่าร้ายแรงและเป็นการเสียมารยาทเป็นอย่างมากเลยล่ะคัฟ




 




          ส่วนใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา การชู 2 นิ้วนั้นจะใช้กันในความหมายที่ว่า
เป็นการแสดงสันติภาพมากกว่า
โดยเริ่มได้รับความนิยมมาจากการที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิด
สันติภาพในช่วงทศวรรษที่ 1960








          สำหรับ
ประเทศในทวีปเอเชียนั้น
ส่วนใหญ่จะใช้กันตอนถ่ายรูปโดยไม่ได้มีความหมายอะไรซ่อนอยู่เลย
(กลายเป็นท่าฮิตไปซะอย่างงั้น -..-”) แต่ในเวลาต่อมา
ผู้คนนอกทวีปเอเชียเริ่มหันมาชู 2 นิ้วตอนถ่ายรูปกันมากยิ่งขึ้น
ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากบรรดาการ์ตูนของญี่ปุ่นที่ไปได้รับความ
นิยมในประเทศอื่นๆ นั่นเอง


 

  
นอกจากนี้บางคนยังเชื่อว่า การที่ชาวญี่ปุ่นนิยมชู 2
นิ้วนั้นต้องการสื่อถึงเรื่องสันติภาพ
หลังจากที่ญี่ปุ่นโดนบอมบ์ด้วยระเบิดปรมณูไป
(และที่สำคัญหลายคนมักจะคิดว่าการชูสองนิ้วถ่ายรูปนั้นจะทำให้ตัวเองน่ารัก
เหมือนสาวญี่ปุ่น
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วท่านี้ก็ไม่ได้ทำให้คนดูดีทุกคนหรอกคัฟ 55)






          สำหรับจุด
เริ่มต้นของการชู 2 นิ้วนั้น
ไม่มีการบันทึกเอาไว้อย่างแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่ก็เป็นที่เชื่อกันมาอย่างยาวนานว่า จุดเริ่มต้นของการชู 2 นิ้วนั้น
เริ่มจากพลธนูชาวเวลส์
ที่ต่อสู่ร่วมกับอังกฤษในการสู้รบที่หมู่บ้านอกินคอร์ต
ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1415
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามร้อยปีระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส
ซึ่งมีการกล่าวไว้ว่า
ทหารฝรั่งเศสจะตัดนิ้วมือข้างขวาของพลธนูชาวเวลส์ที่ถูกจับตัวได้ไป 2 นิ้ว
จนไม่สามารถยิงธนูได้อีก ด้วยเหตุนี้
บรรดาพลธนูชาวเวลส์ที่ยังไม่ถูกจับตัวจึงชูนิ้ว 2
นิ้วเป็นการดูถูกท้าทายทหารของฝรั่งเศส





     ไม่
น่าเชื่อเลยนะคัฟเนี่ยว่าท่าชู 2 นิ้ว
ที่เราใช้เป็นท่าบังคับในการถ่ายรูปกัน
จะมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานขนาดนี้แถมยังมีความหมายที่ลึกซึ้งและยิ่ง
ใหญ่อีกต่างหาก... ว่าแต่ต่อไปนี้เวลาจะชู 2 นิ้ว ก็ระวังหน่อยแล้วกันนะคัฟ
อย่าชูผิดด้านล่ะไม่อย่างนั้นล่ะ มีเรื่องแน่คัฟ









เครดิต : //www.oknation.net/




 

Create Date : 12 มกราคม 2555   
Last Update : 12 มกราคม 2555 20:03:25 น.   
Counter : 1785 Pageviews.  

กุ้งโสร่ง Sarung Prawns






ส่วนประกอบ


- กุ้งขาวเล็ก 20 ตัว
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียม(สับ) 1 ช้อนชา
- เกลือ 1⁄4 ช้อนชา
- พริกไทยขาวเม็ด 1⁄2 ช้อนชา
- เส้นคาเปลลินี(Capellini) 100 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ


น้ำอาจาด


- น้ำส้มสายชู 1⁄4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1⁄2 ช้อนชา
- แตงกวา 1 ลูก
- หอมแดง 2 หัว
- พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
- พริกชี้ฟ้าเหลือง แต่งจาน
- ผักชี แต่งจาน
- แครอท แต่งจาน
- หัวไชเท้า แต่งจาน
- น้ำมันรำข้าว สำหรับทอด


วิธีทำ


1.นำเส้นคาเปลลินี่ไปลวกในน้ำเดือดใส่เกลือ
โดยใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งของที่ระบุบนห่อ เช่น ถ้าที่ห่อระบุว่าให้ต้ม 4
นาทีก็ต้มเพียง 2 นาที นำขึ้นมาจากน้ำร้อน
พักให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ล้างน้ำเย็น
(การที่ลวกให้สุกแค่เพียงครึ่งเดียวเพราะเราจะใช้เส้นห่อกุ้งแล้วนำไปลวกต่อ
จึงไม่จำเป็นต้องสุกดีเพราะเส้นที่สุกดีจะมีปริมาณน้ำมากจะใช้เวลาในการทอด
ให้กรอบนานและที่ไม่ให้ล้างน้ำก็เพราะการล้างน้ำจะทำให้เส้นดูดน้ำที่ผิวของ
เส้นมีลักษณะลื่น ซึ่งจะทำให้พันที่ตัวกุ้งได้ยาก)


2.ทำความสะอาดกุ้ง ใช้กระดาษซับให้แห้ง นำมาหมักกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยและเกลือโขลกหมักทิ้งไว้ 5 นาที


3.ทำน้ำอาจาด โดยนำน้ำส้มสายชู น้ำตาลทรายและเกลือ ไปตั้งไฟให้ละลาย พักให้เย็นดี


4.ซอยแตงกวา หอมแดงและพริกชี้ฟ้าให้สวยงาม


5.นำแป้งสาลีอเนกประสงค์มาโรยลงบนตัวกุ้ง เพื่อให้สามารถพันเส้นพาสต้าได้


6.นำเส้นคาเปลลินี่ที่เย็นลงแล้วมาพันให้ทั่วตัวกุ้ง พักไว้และทำซ้ำจนหมด


7.นำกุ้งที่พักไว้ไปทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิ 160
องศาเซลเซียสจนสีเหลืองสวย ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง
วางลงบนจานที่รองด้วยแครอทและหัวไชเท้าซอย ใส่แตงกวา
หอมแดงและพริกชี้ฟ้าที่ซอยไว้ลงในน้ำอาจาด เสิร์ฟด้วยกัน


เมนูอาหารเพิ่มเติ่ม ติดตามได้ที่ //www.pholfoodmafia.com




 

Create Date : 12 มกราคม 2555   
Last Update : 12 มกราคม 2555 20:00:00 น.   
Counter : 1504 Pageviews.  

เมนู แปลก แต่มีจริง...18+


10 อันดับ เมนูอาหารแปลกๆ พิศดารทั่วโลก มาเสริฟแล้วจ้า



 

บาง
เมนู ก็เป็นความเชื่อของคนในท้องถิ่น หรือประเทศนั้นๆ แปลกของเรา
แต่ธรรมดาของเขา คงเอาความรู้สึกไปตัดสินไม่ได้ โดย เฉพาะอันดับ 1
ขนาดรูปประกอบเป็นรูปวาด แต่อ่านคำบรรยายแล้ว จ้างเป็นล้านก็คงไม่กิน
(ถ้าซักร้อยล้าน อาจรับพิจารณา ทนกินซักคำ เพื่อเงิน)

ปล.เอามาให้ชม
ประดับความรู้ และเปิดมุมมองใหม่ๆ
แต่อาหารบางชนิดมีผู้เชี่ยวชาญระบุแล้วว่า อาจมีเชื้อโรคอยู่มาก และ
ไม่ได้บำรุงกำลังอะไรมากมายอย่างที่เชื่อกัน เพราะฉะนั้นดูสนุกๆ ดีกว่า
อย่าลองเลยเนอะ


เริ่มกันที่ อันดับ 10 หนู







เป็นอาหารสุดฮิตของอเมริกาใต้
โดยเฉพาะประเทศยากจนอย่าง เปรู ปารากวัย หนูคือแหล่งโปรตีนสำคัญที่เดียว
และเป็นเมนูหลักๆ ของร้านอาหาร และภัตตาคารใหญ่ๆ
โดยชาวปารากวัยต่างลิ้มลองเชื่อว่าการกินหนูจะช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้น
ผิวเนียนอีกต่างหาก
ซึ่งหนูตัวใหญ่เขาจะมาย่างเป็นหนังกรอบหอมเสริฟแบบแฮมเบอร์เกอร์เลยที่เดียว
ส่วนหนูทารกตัวสีชมพู แดงๆ ก็จะหย่อนหนูเป็นๆ
ลงท้องทันทีตามด้วยนมสดสักแก้ว
หรือไม่ก็จะอร่อยแบบศิวิไลหน่อยก็จับลูกหนูใส่ในขนมปังหรือกล้วยหอมแล้วยัด
ใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ ร้องจิ๊ดๆ เป็นอันอร่อยเหาะ



อันดับ 9 สตูค้างคาว





อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม
ประเทศที่กำลังเจริญกว่าไทยน่ะแหละ ขายดิบขายดี แถมยังหรูและหายากมาก
โดยเฉพาะเมืองหลวงไซ่งอนน่ะมันอยู่ในระดับภัตตาคารหรูเท่านั้น
ซึ่งชาวเวียดนามเชื่อกันว่าเนื้อค้างคาวคือราชันย์แห่งเนื้อทั้งปวง
การกินน่ะหรือ ทำได้หลายวิธี เช่นทำซุป หรือนำมาสับเป็นชิ้นๆ เคี้ยวเป็นสตู
หรือไม่ก็ใช้มีดคมๆ ตัดหัวค้าวคาวทันที
จากนั้นก็รีดเลือดที่หยดจากร่างไร้หัวใส่แก้วเปล่าแล้วดื่มกินสดๆ ทันที



อันดับ 8 สตูว์เนื้อหมาดำ





พูดถึงเอเชียก็ต้อง เนื้อหมา
กินกันทั้งเกาหลี เวียดนาม ไทย
แต่ถ้าจะหาประเทศที่กินเนื้อหมาได้มีลีลาเด็ดอร่อยก็ประเทศอินโดนีเซีย
เพื่อนบ้านของเรานั้นเองเพราะพี่เพื่อนบ้านแกทำหลายเมนูมาก
โดยเฉพาะเนื้อหมาดำว่ากันว่ามีรสอร่อยกว่าเนื้ออื่นๆ ทั้งปวง
แถมนุ่มกว่าเนื้อหมาสีอื่นๆ
ทำให้เวลานี้หมาดำชักจะหายจากถนนและบ้านเรือนของอินโดนีเซียไปแล้ว



อันดับ 7 หัวแกะสด-ต้ม





จากหลายประเทศรอบทะเล เมดิเตอร์เรเนียน
เป็นเมนูที่คุ้นเคยอย่างยิ่งของชาวเมืองแถบนั้นว่ากันว่าหัวแกะถือว่าเป็น
อาหารสุดยอดของแกะ เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของชาวยิวที่เรียกว่า รอช อาแชน่า
หัวแกะถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับความหมายที่ว่า
ใครก็ตามได้กินหัวแกะนั้นจะได้รับโชคดีในวันปีใหม่ที่จะมาถึง
แต่ถ้ากินลูกนัยตาของลูกแกะเข้าไปย่อมโชคดีมากขึ้นไปอีก ส่วนรสชาติหลายๆ
คนให้ความเห็นว่า “เค็มเหลือเกินพับผ่า”



อันดับ 6 ขนมพายครีบแมวน้ำ





ชาวนิวฟาวด์แลนด์กินพายที่มาจากครีบแมว
น้ำนั้นถือว่าเป็นสิ่งวิเศษ และต้องกินก็ได้ถ้ามีโอกาส
และด้วยเหตุนี้ส่งผลให้แต่ละปีจะมีแมวน้ำมากมายมหาศาลต่างถูกจับตัวขึ้นมา
ตัดครีบทั้งสองข้าง
จากนั้นก็ถีบลงเรือและปล่อยให้จมน้ำตายในทะเลไปอย่างน่าสมเพชที่สุด
ในภัตตาคารใหญ่ๆ
หลายต่อหลายแห่งก็มีเมนูชนิดนี้เปิดขายทั้งแบบปกปิดและเปิดเผย
เพราะนานาประเทศยังต่อต้านเมนูนี้อยู่



อันดับ 5 สมองลิงแสนสนุก








วิธีการทำและการกินก็ ง่าย
ก็เอาลิงพันธุ์อะไรก็ได้แล้วแต่มีให้
มาหนีบกับโต๊ะโดยมีส่วนหัวด้านบนโผล่ออกมา
จากนั้นพ่อครัวก็ใช้วิชาบาร์เบอร์โกนขนส่วนบนของลิงออกจนเกลี้ยงเกลาจากนั้น
ก็ใช้สิ่วและค้อนเฉาะกะโหลกของลิงออกคล้ายกับกะเทาะมะพร้าวอ่อน
และแล้วลูกค้าก็จะรีบตักกินสมองลิงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปสมองลิงจะยุบและลดปริมาณอย่างรวดเร็ว
แต่บางครั้งเขาก็เสิร์ฟสมองลิงแบบแช่แข็งไว้ด้วย
เพื่อลดภาระสมองลิงหดตัวอย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง



อันดับ 4 ปลาสองแผ่นดิน





เมนูนี้สามารถหากินได้จากประเทศจีนหรือ
ไทยก็ได้ครับ วิธีการทำต้องใช้ฝีมือหน่อย เริ่มจากนำมาเก๋าขนาด 2 ก.ก.
มาขอดเกล็ดออกให้หมดแล้วนำมาล้าง
ก่อนจะใช้ผ้าเย็นที่แช่เย็นจัดพันส่วนหัวจนถึงพุงปลา
แล้วก็ใช้มีดบั้งตัวปลาตั้งแต่ส่วนหางขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว
ระหว่างนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้เดือดเต็มที่
แล้วก็นำหางปลาช่วงที่บั้งจุ่มลงไปทอดครึ่งตัว ซึ่งเป็นภาพที่หวาดเสียวมาก
เพราะปลาจะดิ้นตลอดเวลาด้วยความเจ็บปวด ต้องใช้คีมคีบที่หัวปลาเอาไว้
รอจนเนื้อปลาสุกเป็นสีเหลือง ก็ยกขึ้นนำมาวางบนจานแต่งด้วยเครื่อง
ยกเสิร์ฟโดยครึ่งบนปลายังเป็นๆ อยู่ อ้าปากพะงาบๆ ครีบยังกระดิกได้
แต่ครึ่งล่างทอดจนสุก กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและซอสเปรี้ยว
โดยคนจีนเชื่อว่าการทานปลาสองแผ่นดินเป็นยาชูกำลัง ให้กินมากๆ
จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงน่ะจะบอกให้ เชื่อไหม



อันดับ 3 อุ้งตีนหมี





เป็นอาหารที่นักเปิบมหาภัย
ชอบมากและเป็นเมนูสุดโหด เพราะการตัดอุ้งตีนหมีนั้น
ไม่สามารถตัดขณะที่หมียังมีชีวิตได้ การฆ่าหมีเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะหนังหมีจะหนามาก ยากต่อการฆ่า ดังนั้น ผู้ฆ่าจึงจับหมีถ่วงน้ำทั้งเป็น
หมีความส่งเสียงร้องดังโหยหวนเมื่อถูกตะขอเหล็ก เกี่ยวร่างออกจากกรงขัง
ไม่กี่นาทีต่อมามันก็ตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อถูกกระสอบสวมคลุมร่าง
นักท่องเที่ยวจะยืนมองวินาทีสุดท้ายของหมีควายโชคร้ายในถังเก็บน้ำใบเขื่อง
ด้วยสายตาเฉยชา หลังจากร่างใหญ่ดิ้นพราดๆ อยู่เพียงครู่ ทุกอย่างก็สงบลง
เพชฌฆาตรีบลงมีดเลือดสดๆ ไหลทะลักจากคอหมีลงสู่ถ้วยขนาดย่อม
เลือดในถ้วยถูกผสมด้วยเหล้าขาวแล้วเวียนกันดื่ม หลังจากยืนดู
การชำแหละอุ้งตีนหมีเสร็จสิ้น นักท่องเที่ยวจึงกลับไปที่โต๊ะ
นั่งรออาหารจานเด็ดที่เชื่อว่าจะช่วยทำให้คนแข็งแกร่งในกามกรีฑา
ดุจเดียวกับความแข็งแรงของอุ้งตีนหมี



อันดับ 2 ซุปตัวอ่อนมนุษย์



เรื่อง
นี้เป็นเรื่องจริงน่ะครับ เพียงแต่รูปที่นำมาเป็นของจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
เมนูนี้เป็นอาหารเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นน่ะครับ มันมีขายอยู่ที่เฉินเซ่น
ประเทศจีน การกินตัวอ่อนของมนุษย์
หรือทารกที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นความเชื่ออย่างลับๆ ว่า
จะช่วยเพิ่มคุณค่าอาหารหลายอย่างในหมู่ชาวจีน นั้นก็คือทำให้ผิวสวยเนียน
ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรค
และที่เชื่อกันมากก็คือช่วยบำรุงไตได้ดีสำหรับวิธีการทำก็ไม่ยากเท่าไหร่
แค่เอาเด็กทารกแรกคลอด หรือเด็กที่ตายจากการทำคลอด
ยิ่งเป็นเด็กผู้ชายยิ่งดี(เขาบอกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง) มาสับ
มาเคี่ยวเป็นซุปและใส่เนื้อหมูลงไปเป็นอันเสร็จ………..รสชาติเหมือนซุปสมุนไพร
อย่างไรก็ตามการนำเด็กทารกมาทำตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่ประเทศจีนนั้น
ถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้เมนูนี้ ต้องมีการสั่งเป็นพิเศษ
หรือไม่ก็แอบทำให้กับพวกที่อยากรับประทานอาหารแบบพิสดาร แบบนี้



อันดับ 1 เนื้อมนุษย์ที่ปาปัว นิว กินี





และก็ มาถึงอันดับหนึ่งของเรา ที่ปาปัว
นิว กินี เวลามีใครตายขึ้นไม่ว่าจะเป็นญาติของตน
หรือคนต่างเผ่าที่ตกอยู่ในครอบครองของตน เขาจะไม่นำศพไปฝังหรือเผา
แต่จะนำศพไปไว้บนตะแกรงที่ยกพื้นสูงขนาดท่วมหัว
ปล่อยให้ศพอยู่ในสภาพนั้นจนขึ้นอืด เกิดน้ำเหลืองเยิ้มไปทั้งตัวดีแล้ว
ก็จะเข้าป่าหาใบไม้ที่เป็นเครื่อง เทศเอามาพับเป็นกระทงเล็กๆ
(คงอย่างที่เตรียมใบชะพลูจะกินกับเมี่ยง) เหมาะที่จะมีขนาดกินคำเดียว
แล้วก็เชิญพรรคพวกเพื่อนฝูงให้มารวมกันอยู่ใต้ตะแกรงศพนั้น
นำเอาไม้ปลายแหลมแทงศพให้เป็นรู ให้น้ำเหลืองไหลย้อยออกมา
นำกระทงใบไม้ที่เตรียมไว้ รองรับน้ำเหลืองนั้น
พอได้มากดีแล้วก็กินทั้งน้ำเหลืองและใบไม้
กินกันจนไม่มีน้ำเหลืองแล้วก็นำศพนี้ไปต้มซุปกับผักต่างๆ กินกันต่อไป
แต่ถ้าจะกินมนุษย์ที่สะใจที่สุดต้องยกให้ชนเผ่า โดโบดูรัส
นิยมจับเหยื่อที่ล่ามาได้มากินแบบเป็นๆ
นั้นคือต้องทรมานเหยื่อจนใกล้จะตายแต่ไม่ให้ถึงตาย
จากนั้นก็เจาะกะโหลกให้เป็นรูลึกๆ เสียก่อน แล้วค่อยสอดไม้เล็กๆ
ที่มีปลายแบบชอนเข้าไปตักสมองออกมากิน เหยื่อก็ดิ้นไปดิ้นมา
ดูแล้วน่ารักอย่างยิ่ง.




 

Create Date : 11 มกราคม 2555   
Last Update : 11 มกราคม 2555 21:47:34 น.   
Counter : 1546 Pageviews.  

เพลินวาน




หายไปนานเลยคับ .. ไม่ได้เข้ามาupdateนานมากมาย
เดือนที่ผ่านมาก็แวะไปหัวหินมา จริงๆ ได้ที่กินเพิ่มอีกหลายที่เหมือนกัน
โดย review ก่อนหน้านี้ก็พาไปกินที่ร้านส้มตำที่ถนนตก
และขากลับก็ผ่านสถานที่ ที่จะมา update กันด้วย
ช่วงที่ผ่านมองจากในรถก็เหมือนสถานที่เก่าๆ
ที่เอาสังกะสีเก่าๆมาทำเป็นเหมือนโกดังอะไรสักอย่าง
แต่ก็ไม่รู้ว่าเปิดนานแค่ไหนแล้ว เพราะไม่ได้ไปหัวหินนานพอสมควร
มาลองดูกันดีกว่าคับ ว่าที่นี้มีอะไรบ้าง..



คำว่าเพลินวาน มาจาก “Play and Learn ในวันวาน”
ด้วยความปรารถนาให้ทุกคนมามีความสุขด้วยกัน มานึกถึงความรู้สึกดีๆในอดีต
เรียนรู้วัฒนธรรมดั้งเดิม ตามแนวคิดของ ภัทรา สหวัฒน์
จิ๊กโก๋เพลินวานผู้ที่พยายามทำฝันให้เป็นจริง





เพลินวานมีลักษณะคล้ายหมู่บ้านย้อนยุคที่มีชีวิต (Eco Vintage Village)
ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายขนม ร้านเหล้าในสมัยก่อน
รูปแบบของหมู่บ้านนี้จะร้านค้าที่ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วง
พ.ศ.2499 อีกครั้ง
เป็นสถานที่ที่เน้นการขายอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์
ไม่ว่าจะเป็นข้าวของที่ใช้ในการตกแต่ง
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของพนักงานซึ่งจะเป็นของที่ใช้จริงในสมัยนั้น
แต่ที่โดดเด่นไม่เหมือนที่อื่นก็คือข้าวของที่นี่สามารถซื้อขายได้จริง
ไม่ใช่แค่ตั้งโชว์เหมือนพิพิธภัณฑ์











ในส่วนของงานวัดซึ่งจะมีทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
นอกจากจะเน้นบรรยากาศแบบย้อนยุคแล้ว
ยังจะมีพื้นที่สำหรับเด็กนักเรียนเข้ามาขายของหารายได้พิเศษ
ที่สำคัญเฟอร์นิเจอร์ที่นี่จะเป็นแบบ Green Board คือเป็นเฟอร์นิเจอร์
Recycle ทำจากกระดาษลังหรือกล่องนม
ถือว่าเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติในอีกรูปแบบ











แม้ว่าตอนนี้เพลินวาน จะเปิดให้บริการเพียงแค่ส่วนเดียว
แต่ภายในเดือนกันยายนนี้จะเปิดให้เข้าชมอย่างเต็มรูปแบบทั้งสามส่วน
มีทั้งแฟชั่นเปรี้ยวๆ ในวันวานกับห้องเสื้อไฉไล,
พักร้อนด้วยเพลินวานไอศกรีม, ของเล่นในสมัยวันวาน,
กาแฟโบราณอันเลื่องชื่อของหัวหิน, ร้านข้าวอุ่น แกงร้อน
อาหารเลื่องชื่อตำหรับหัวหิน, ร้านเหล้าเพลินวาน ที่มีทั้งสุราและยาดอง,
สถานีจัดรายการ เพลินเพลง เพลินวาน
ที่จะเปิดเพลงในสมัยก่อนให้เพลิดเพลินตลอดวัน








เรียกว่ามาที่เพลิน วานแห่งนี้
อดีตอันงดงามจะย้อนกลับมาให้คุณได้หวนระลึกถึง เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
สำหรับการพักผ่อนในหัวหิน ร่วมกับครอบครัวหรือคนรัก
ที่นี่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00-24.00 น.
ไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด การเดินทางก็ไม่ยาก
ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวังไกลกังวล หมุดหมายที่ใครๆ ต่างรู้จักดี


ร้านของเล่น เพลินวาน PlearnWan


ร้านของเล่น มีทั้งของใหม่ที่ยังผลิตต่อเนื่องจากสมัยเก่า และของเล่นเก่าจริงๆ ขายควบคู่กันไป


ห้องเสื้อไฉไล เพลินวาน PlearnWan


ห้องเสื้อไฉไล สารพัดเสื้อผ้าสุภาพสตรี ผมเห็นมีถุงกระดาษ แนวๆ
“ถุงโชคดี” วางโชว์ไว้ด้วย ไม่รู้อีกด้านของถุงกระดาษจะเป็น ตารางหมากฮอส
ด้วยไหม ฮา


เพลินวาน PlearnWan


ร้านน้ำแข็งไส ไอศครีม น้ำจรวด บนชั้นสอง มานั่งตากลม


ร้านเหล้า เพลินวาน PlearnWan


ร้านเหล้า จะเปิดให้บริการ สิบเจ็ดนาฬิกา


เพลินวาน PlearnWan

//board.postjung.com/556951.html




 

Create Date : 11 มกราคม 2555   
Last Update : 11 มกราคม 2555 21:46:42 น.   
Counter : 1716 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  

zulander
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




หวยซอง เลขเด็ด
หวยซอง เลขเด็ด หวยซองแม่นๆ หวยซองดัง รวมหวยซอง






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add zulander's blog to your web]