ทายนิสัยจากการใช้สบู่ ทายนิสัยจากการใช้สบู่ ชอบใช้สบู่ผสมน้ำหอม สำหรับคนที่ชอบใช้สบู่หอมๆ ไม่ว่าจะหอมมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม ขอเพียงหลังอาบน้ำกลิ่นนั้นก็จะหอมกรุ่นละมุนละไมติดตัว สามารถทายได้เลยว่า เป็นคนที่มีนิสัยประณีต พิถีพิถัน รักความสะดวกสบาย เป็นคนที่มีจินตนาการในเรื่องความรักสูง ชอบดูแลตัวเองให้ดูดีมีเสน่ห์ แต่ขณะเดียวกัน ก็อาจเป็นคนที่มีอารมณ์ปรวนแปร ใจน้อยเก่ง งอนง่ายว่างั้นเถอะ ชอบให้คนเอาอกเอาใจเป็นที่สุด ชอบใช้สบู่สกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ ใครก็ตามที่ชอบใช้สบู่ที่ทำมา (หรือมีส่วนผสม)จากพืช,ผลไม้,สมุนไพร เช่นสบู่ขมิ้น,สบู่มังคุด,สบู่ว่านหางจระเข้ฯลฯ อะไรทำนองนี้ แสดงว่าเป็นคนที่ชอบตัดสินใจด้วยจัวเอง รักอิสระ บางคนอาจจะอยู่ในกฏเกณฑ์หรือกรอบระเบียบของสังคมแต่ลึกๆแล้วมักมีขัดแย้งอยู่ร่ำไป เป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ลักษณะการแสดงออกภายนอกกลับดูอ่อนโยน เป็นคนที่มักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รักและไว้ใจคนง่าย ชอบใช้สบู่ราคาแพง แต่ถ้าใครชอบใช้สบู่ซึ่งมียี่ห้อชื่อดัง หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก หรือมีราคาค่อนข้างแพงล่ะก็ แสดงว่าเป็นคนที่ให้ความสนใจกับภาพพจน์ตัวเองสูง มักจะคาดหวังถึงแต่สิ่งที่ดีเลิศ ชอบความรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่ง หรือการมีผู้คนชื่นชมสนใจ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะเป็นคนที่มีความพยายามสูง (โดยเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองต้องการ) เรียกว่าถ้าหมายปองสิ่งใด ก็จะทำทุกวิถีทางให้ได้สิ่งนั้นมา แต่อีกด้านหนึ่งนั้น เชื่อมั้ยล่ะว่า กลับเป็นคนที่ขาดความมั่นใจอยู่ลึกๆ ชอบใช้สบู่ยา ส่วนใครที่ชอบใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของยา ซึ่งมักจะมีสรรพคุณว่าสามารถกำจัดแบคทีเรียได้ดี หรือระงับกลิ่นกาย,กลิ่นเหงื่อได้อย่างหมดจด จะสาวหรือหนุ่มก็รู้ไว้เลยว่า เป็นคนที่ให้ความสนใจกับสุขภาพสูง มักชื่นชอบการเล่นกีฬา ชอบการออกกำลังกายเวลาอยู่ในที่ปลอดโปร่งสดชื่นจะรู้สึกมีความสุขมาก... แต่อีก 2 นิสัยเด่นๆก็คือ มักจะเป็นคนที่มีความวิตกกังวลเล็กๆน้อยๆอยู่ในใจ และมีกฎระเบียบบางอย่างเป็นของตัวเอง ชอบใช้สบู่ผสมเครื่องบำรุงผิว แต่ถ้าหากใครเลือกสบู่อาบน้ำสักก้อน ก็ต้องเลือกสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ หรือผสมวิตามินอันอุดมด้วยคุณค่าบำรุงผิวแล้วล่ะก็ แสดงว่าเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน ละเอียดอ่อน มีมิตรไมตรี มักเห็นอกเห็นใจผู้อื่นง่าย ยามรักใครก็จะแสดงออกถึงความอาทรห่วงใยโดยไม่ปิดบัง แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น เห็นอารมณ์อ่อนไหวอย่างนี้เถอะ กลับรักการผจญภัยอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องไม่เสี่ยงอันตรายนะ ชอบใช้สบู่เหลว สำหรับคนที่ชอบใช้สบู่น้ำ หรือสบู่เหลว แน่นอนเลยว่าเป็นคนที่รักสวยรักงาม มักพิถีพิถันกับเรื่องส่วนตัว มีมาตรฐานสูงในการประเมินคุณค่าผู้คนหรือสิ่งของต่างๆอีกทั้งยังเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับเรื่องความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ (และรวมทั้งผู้คนใกล้ชิดด้วย) อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เกลียดการเอารัดเอาเปรียบ และจะมีปฏิกิริยาสูงมากต่อคนที่เห็นแก่ตัว ชอบใช้สบู่อะไรก็ได้ สำหรับคนที่ใช้สบู่อะไรก็ได้ ไม่พิถีพิถัน ขอเพียงให้ใช้อาบน้ำสะอาดก็พอใจแล้ว นั่นแสดงว่าเป็นคนเรียบง่าย มีความเข้มแข็งอยู่ในตัวเอง เมื่อเจออุปสรรคปัญหาก็ไม่ย่อท้อง่ายๆแม้จะท้อบ้างก็เป็นในระยะเวลาอันสั้น เป็นคนปรับตัวเก่ง มีความอดทนสูง และค่อนข้างจะใช้เวลาในการตัดสินใจนาน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความคิดบางอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บุคลิกค่อนข้างจะเฉยชา เหมือนไม่ค่อยกล้าสู้กับใครจริงๆแล้วเป็นเพราะไม่อยากมีเรื่องวุ่นวายต่างหาก ชอบใช้สบู่เด็ก ส่วนใครที่ชอบใช้สบู่อ่อนๆ ไม่มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมฉุน หรือตัวยาที่มีฤทธิ์ใดๆ หรือที่เรียกว่าสบู่เด็กนั่นแหละ แสดงว่าเป็นคนที่มีความไร้เดียงสาอยู่ในตัว อารมณ์อ่อนไหว ดูเปราะบาง แต่ก็จะสามารถดูแลตัวเองได้ และยังเป็นคนที่ชอบของสวยงามชิ้นเล็กๆน่ารัก กุ๊กกิ๊ก ชอบการสะสมข้าวของที่ตัวเองโปรดปราน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้า และมีความเห็นที่น่าสนใจ ถ้าหากซ้ำ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอขอบคุณข้อมูลจาก: //free.horoworld.com/horosoap   Create Date : 07 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 7 มิถุนายน 2555 20:12:43 น.     Counter : 1865 Pageviews.   Share Tweet

หนังเกาหลี "เทรนด์" และ จิตวิทยาการขอแบบแอบแฝง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนถ้าพูดถึงประเทศเกาหลี หลายคนคงไม่ค่อยสนใจ ประเทศเล็กๆที่ไม่มีอะไรเท่าไหร่ แต่ว่าปัจจุบันกลับกลายเป็น "เกาหลีฟีเวอร์" ที่สร้างกระแสไปทั่วโลกทำให้ประเทศเกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่เดินทางไปเยือน โดยเฉพาะคนไทย นับว่าเป็นความฉลาดยิ่งของประเทศนี้ค่ะ ที่เขาใช้จิตวิทยาการขอทางอ้อมโดยแอบแฝงสิ่งต่างๆ มาช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ตัวเองได้อย่างมากมาย จิตวิทยาการขอแบบแอบแฝงของเกาหลีคือ การสร้าง "เทรนด์" ที่สอดแทรกเข้าไปในสื่อความบันเทิงต่างๆ (K-POP) ไม่ว่าจะเป็น ละครเกาหลี, หนังเกาหลี, การท่องเที่ยว, นักร้อง, คอนเสิร์ต, แฟชั่นเสื้อผ้า, เทรนด์หน้าตาแบบคิขุน่ารักแอ๊บแบ๊ว, การท่องเที่ยว มาจนถึงวัฒนธรรมอาหารเกาหลี ที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะเป็นหนังเกาหลีค่ะที่ได้สอดแทรกวิธีชีวิต วัฒนธรรมต่างๆเอาไว้มากมาย ยกตัวอย่างเช่น 1.อาหารเกาหลี และ เหล้าโซจู   พูดถึงแดจังกึม ละครเกาหลีย้อนยุคที่นางเอกเป็นคนทำอาหารในวัง ฉากที่แสดงถึงวิธีการทำอาหาร และอาหารเกาหลีที่นำเสนอในหนังเกาหลีหลายเรื่อง เช่น หมูย่างเกาหลี หรือ อาหารทานเล่นข้างทาง แค่นี้ก็มัดใจคนดูให้อยากไปเที่ยวเกาหลีแล้ว อีกทั้ง หนังเกาหลีร้อยละ 95% จะต้องมีเหล้าโซจูขวดสีเขียวขนาดเล็กประกอบ มันมักอยู่ในฉากกินอาหารเสมอๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาปาร์ตี้ของตัวละคร หรือเวลาพระเอกนางเอกอกหัก แล้วต้องมานั่งซดโซจูในเต้นท์ขายอาหารข้างทาง มันช่างได้ใจจริงๆ ทำให้คนดูอยากซดกับเขามั่ง 2. วัฒนธรรม หนังเกาหลีมักสอดแทรกเรื่องของวัฒนธรรมความเป็นอยู่ลงไปในหนังเกาหลีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านความเป็นอยู่ อาหาร หรือ วิธีการใช้ชีวิต เช่น วันเกิดต้องทานซุปสาหร่าย ตอนนอนส่วนใหญ่ก็จะนอนบนฟูกที่พื้น การแต่งกายชุดประจำชาติทีเรียกว่ชุด "ฮันบก"  3. ความแตกต่างทาง Class หรือชนชั้นของตัวละคร  ความต่างกันทางชนชั้นหรือสถานะของตัวละครในหนัง เพราะความต่างทางสถานะ ทำให้ต้องต่อสู้ และพอต่อสู้ก็เป็นดราม่าให้คนดูลุ้นกันเอาเป็นเอาตาย ถึงแม้ว่าหนังเกาหลีจะชอบทำร้านจิตใจคนดูโดยให้นางเอกตายตอนจบก็ตาม ^^ 4. ฉาก/เพลง/ฤดูกาล หนังเกาหลีมักจะมีฉากและภาพสวยๆ เพลงมักจะไพเราะ และบรรยากาศที่ดึงดูดคนดู นั่นคือ การใช้ฤดูกาลต่างๆ ในการบอกหรือขับเน้นความรู้สึกของตัวละครออกมา เช่น เรื่อง Winter Love Song ในฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ผลิใน Spring Waltz ยังมีอีกเยอะแยะ ที่โด่งดังมากคงเป็น Autumn in My Hearth ที่เคยฉายทาง Itv เมื่อ 10-11 ปีก่อน นับว่าเป็น sereis เกาหลีเรื่องแรกๆเลยที่ประเทศไทยทำมาฉาย และโด่งดังมากแทบจะทำให้คนดูร้องไห้ทุกตอนเลยทีเดียว T^T จนกลายเป็นละครที่นำขบวนให้ละครเกาหลีเข้ามาเมืองไทยอย่างต่อเนื่องจนบัดนี้ 5. ผมยาว และตากลมโต ผอมและขาว แอ๊บแบ๊ว หน้าใสกิ๊ก นี่แหละจุดขายของละครเกาหลี พระเอก นางเอก หรือแม้กระทั่งตัวประกอบ ของหนังเกาหลี ถึงแม้หน้าตาจะมาพิมพ์เดียวกันหมด แต่ว่าใครล่ะจะไม่ชอบหรือตกหลุมรักหน้าตาแบบนั้น ^^ นี่แหล่ะค่ะ สิ่งที่ทางหนังเกาหลีได้ใช้จิตวิทยาการขอแบบแอบแฝง คือแอบสอดแทรกเรื่องราวต่างๆ เข้ามาในหนังเกาหลีและเพื่อที่จะได้ผ่านไปสู่สายตาชาวโลก ^^ work ไหม๊คะ สำหรับคนไทยต้องบอกว่า WORK มากๆๆๆ ทุกวันนี้ทัวร์ที่ไปเที่ยวเกาหลีส่วนใหญ่ก็จะต้องไปแวะชมสถานที่ถ่ายทำละครเกาหลี เช่นแดจังกึม, บ้าน Full house  เป็นต้น ยาวหน่อยค่ะวันนี้ขอบคุณที่ติดตามค่ะ (ขอบคุณ ข้อมูลบางอย่างจาก นสพ. คมชัดลึกด้วยค่ะ)   Create Date : 07 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 7 มิถุนายน 2555 20:11:19 น.     Counter : 2200 Pageviews.   Share Tweet

แมวตาสองสี มักหูหนวกแต่กำเนิดจริงหรือ ? คำถามยอดฮิต ว่าด้วยเรื่องของแมวขาวมณีกับอาการหูหนวกแต่กำเนิด (Cat Magazine)           "แมวสีขาวล้วน โดยเฉพาะเหมียวตาสีฟ้ามักจะหูหนวกจริงหรือ ?"           "อาการหูหนวกเกิดขึ้นในแมวตาสองสีด้วยหรือไม่?"           "แล้วทำไมแมวตาสีฟ้าบางตัวถึงได้ยินเสียงเป็นปกติล่ะ"           Sarah Hartwell ได้อธิบายว่า สีขนขาวล้วน ดวงตาสีฟ้า และอาการหูหนวกแต่กำเนิดในแมวนั้น มีจุดเชื่อมโยงกันอยู่ เนื่องจาก Tapetum Lucidum ซึ่งเป็นชั้นเนื้อเยื่อที่ฉาบอยู่ภายในดวงตา ผลิตขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell) เดียวกับ Melanocytes หรือเซลลที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสีให้แก่ผิวหนังและเส้นขน ขณะที่อาการหูหนวกโดยกำเนิด จะเป็นผลมาจากการขาดแคลนชั้นเซลล์ของหูชั้นใน ซึ่งผลิตขึ้นจากเซลล์ต้นกำเนิดแหล่งดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน           โดยแมวตาสองสีจะมีโอกาสหูหนวกเฉพาะที่หูข้างเดียวกันกับดวงตาสีฟ้า ส่วนหูข้างดวงตาสีเหลืองมักจะได้ยินเป็นปกติ แต่ไม่เสมอไปที่แมวตาสีฟ้าจะหูหนวกแต่กำเนิด โดยเฉพาะหากเป็นแมวต่างพ่อต่างแม่ เนื่องจากความผิดปกติดังกล่าวเกิดจากพันธุกรรมที่ได้รับสืบทอดมาจากผู้ให้กำเนิด ไม่ใช่จากลักษณะภายนอกว่าเป็นแมวสีขาวที่มีดวงตาสีฟ้า            จากการสรุปรวมหลากหลายผลการวิจัยที่ได้มีผู้สำรวจประชากรแมวไว้ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก อาจสรุปค่าเฉลี่ยเบื้องต้นในการพบแมวสีขาวที่หูหนวกโดยกำเนิดได้ ดังนี้  95% ของประชากรแมวทั้งหมดไม่ใช่แมวสีขาวล้วนหรือขาวปลอด โดยอาการหูหนวกแต่กำเนิดจะพบได้น้อยมากในแมวที่ไม่ได้มีขนสีขาวล้วน หรือขาวปลอด  5% ที่เหลือ หมายถึง ประชากรแมวขนสีขาว จะพบแมวที่มีดวงตาสีฟ้าหนึ่งหรือสองข้างได้ประมาณ   ในบรรดาแมวที่มีดวงตาสีฟ้าหนึ่งหรือสองข้าง จะพบแมวหูหนวกประมาณ 60-80% ได้ยินเป็นปกติ 20-40% โดยจะพบแมวตาสีฟ้าข้างเดียว หูหนวก 30-40% ที่เหลือเป็นแมวตาสีฟ้าข้างเดียวที่การรับฟังเป็นปกติ 60-70%  จากประชากรแมวสีขาวทั่วโลกทั้งหมด 5% จะมีแมวสีขาว 60-80% ที่มีดวงตาสีอื่น เช่น เหลือง เขียว ซึ่งแมวในกลุ่มนี้จะมีโอกาสหูหนวกประมาณ 10-20%  เมื่อคิดค่าเฉลี่ยของแมวหูหนวกที่มีดวงตาสีฟ้าข้างเดียวหรือสองข้าง จะได้ประมาณ 0.25-1.5% ของประชากร โดยแมวดวงตาสีฟ้าข้างเดียวหรือสองข้างทั้งหมดมีสัดส่วนประมาณ 0.75-2.0% ของประชากรแมว           จากข้อมูลดังกล่าว อาจสรุปได้ว่า แมวสีขาวล้วนตาสีฟ้าจะมีโอกาสหูหนวกแต่กำเนิดได้มากกว่าแมวสีขาวที่มีสีของดวงตาเป็นสีอื่น ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะหูหนวกทั้งหมดเสมอไป สิ่งที่ควรคำนึงมากกว่าคือ การถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแมวสีขาวที่มีดวงตาสีใด แต่หากพบว่าหูหนวกแต่กำเนิด การนำไปผสมพันธุ์ต่อย่อมจะเป็นการถ่ายทอดความผิดปกติไปสู่รุ่นลูกได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก   Create Date : 06 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 6 มิถุนายน 2555 21:37:00 น.     Counter : 2642 Pageviews.   Share Tweet

วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ยาก แบตหมดเร็ว วิธีแก้แบตหมดเร็ว ของไอโฟน ไอแพด the new ipad เป็นที่ทราบกันดีสำหรับผู้ที่ใช้ iPhone 4S เกี่ยวกับปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกติ ซึ่งทาง Apple เองก็ทราบปัญหานี้ก็ได้พยายามแก้ไขด้วยการออกอัพเดท iOS ออกจนล่าสุดกับเวอร์ชั่น 5.1.1 ที่หลายคนคาดหวังว่าน่าจะมีการแก้ไขแล้ว แต่ดูเหมือนหลังที่อัพเดทไปแล้วก็ยังคงเหมือนเดิม  มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆมานำเสนอ ในการช่วยลดปัญหา iPhone ใช้งานแบตเตอร์รี่หมดเร็ว แบบง่ายๆมาให้ทดลองกัน     เริ่มจากทำการสำรองข้อมูลสำคัญบน iTunes ให้เรียบร้อย     จากนั้นให้เปิด iPhone แล้วเข้าไปที่ General > Reset เลือกที่ Reset All Settings     จากนั้นให้ใช้งาน iPhone ไปจนแบตเตอรี่เหลือ 0% จากนั้นให้ทำการชาร์ทไฟอีกครั้ง (ไม่จำเป็นต้องถึง 100%)     สามารถให้ iPhone แสดง % ได้โดยไปที่ General > Usage > battery usage> On     จะทำการ Restore อีกครั้ง ถ้ายังไม่เห็นความแตกต่างของการใช้งาน เพียงเท่านี้ iPhone และ iPad ของเราก็จะใช้งานได้นานขึ้นแล้ว ที่มา //www.enjoylike.com/forum/viewthread.php?tid=615   Create Date : 06 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 6 มิถุนายน 2555 21:33:23 น.     Counter : 3043 Pageviews.   Share Tweet

ครูแก่ หัวใจน่ากราบ ครูไล่ เฟิง เป็นครูมานาน แม้เคยเกษียณไปแล้ว ก็ยังคงหวนกลับมาทำหน้าที่ชี้นำศิษย์ตัวน้อย ๆ ในโรงเรียนประถมศึกษากวนปู้ แห่งอำเภออานหยวน มณฑลเจียงซีต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ครูไล่เริ่มเป็นครูโรงเรียนแห่งนี้มาตั้งแต่อายุ 31 ปี และยังคงมีใจรักการสอนตราบจนเกษียณอายุ ขณะนี้เนื่องจากครุูที่โรงเรียนขาดแคลน ครูไล่จึงตัดสินใจหวนกลับมาช่วยสอนเด็ก ๆ เมื่อปีที่แล้วอีกครั้ง  ครูไล่เผยว่า ครูรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นเด็ก ๆ ที่พ่อแม่ต้องอพยพไปหางานทำในเมือง เด็กพวกนี้จะหาครูเรียนหนังสือด้วยนั้นยากแสนยาก ครูไล่ย้ำว่าจะยังคงสอนหนังสือต่อไป ตราบจนที่ครูจะเดินไม่ไหวหรือหมดเรี่ยวแรง เด็ก ๆ ร่วมถ่ายภาพกับครูไล่อย่างมีความสุข ณ โรงเรียนประถมศึกษากวนปู้ อำเภออานหยวน มณฑลเจียงซี 18 พ.ค. (ภาพซินหวา) ครูไล่กำลังสอนนักเรียน โรงเรียนประถมกานปู้ (ภาพซินหวา) ครูไล่สอนเด็กนักเรียนหญิงในห้องเรียน (ภาพซินหวา) ครูไล่สอนเด็กนักเรียนหญิงในห้องเรียน (ภาพซินหวา) นักเรียนตัวเปี๊ยกที่กำลังเรียนอย่างสนใจ (ภาพซินหวา) ครูไล่ช่วยส่งเด็ก ๆ กลับบ้านหลังเลิกเรียน (ภาพซินหวา) ครูไล่ช่วยส่งเด็ก ๆ กลับบ้านหลังเลิกเรียน (ภาพซินหวา) ที่มาจาก ผู้จัดการออนไลน์จ้า   Create Date : 06 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 6 มิถุนายน 2555 21:32:47 น.     Counter : 1498 Pageviews.   Share Tweet