Giorgios @ Royal Orchid Sheraton Hotel & Towers
ชื่อร้าน : Giorgios
รายการอาหาร : อาหารอิตาเลี่ยน
เวลาเปิดบริการ : 18.00 น.- 22.30 น. (6.00 PM 10.30 PM)
ที่ตั้งร้าน : ชั้น 1 Royal Orchid Sheraton Hotel & Towers เลขที่ 2 ซ.เจริญกรุง 30 แขวงสี่พระยา, กรุงเทพมหานคร บางรัก Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 44.82" N 100° 30' 48.18" E
Giorgios @ Royal Orchid Sheraton Hotel & Towers
วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศพาไปนั่งทานอาหารชิลๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ห้องอาหาร Giorgios ห้องอาหารอิตาเลี่ยนของ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กันนะครับ
และที่บอกว่าจะพามานั่งชิลๆ ริมน้ำนั้น ขอบอกว่าบรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน และขอแนะนำให้มาตั้งแต่ 6 โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเปิดให้บริการของร้าน เพราะแค่ได้มานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ริมน้ำนั่งดูฟ้าเปลี่ยนสียามค่ำคืน แค่นี้ก็ฟินสุดๆ แล้วครับยิ่งได้เครื่องดื่มเย็นชื่นใจสีสันสดใสอย่าง Sheraton Delight และ Pomegranate margarita มาการิต้าทับทิม รับรองว่าจะเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้ามากยิ่งขึ้น
และที่บอกว่าจะพามานั่งชิลๆ ริมน้ำนั้น ขอบอกว่าบรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ เพราะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาชัดเจน และขอแนะนำให้มาตั้งแต่ 6 โมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเปิดให้บริการของร้าน เพราะแค่ได้มานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ริมน้ำนั่งดูฟ้าเปลี่ยนสียามค่ำคืน แค่นี้ก็ฟินสุดๆ แล้วครับ
ยิ่งได้เครื่องดื่มเย็นชื่นใจสีสันสดใสอย่าง Sheraton Delight และ Pomegranate margarita มาการิต้าทับทิม รับรองว่าจะเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่อยู่ตรงหน้ามากยิ่งขึ้น
สำหรับการตกแต่งของห้องอาหาร Giorgios ตกแต่งไว้ด้วยบรรยากาศอบอุ่น โดยในพื้นที่ indoor นั้นปูพื้นด้วยไม้ปาเก้ขัดมัน รอบๆ ผนังในห้องอาหารตกแต่งด้วยภาพศิลปะจากแผ่นไม้ซึ่งเป็นงานศิลปะสไตล์อิตาเลี่ยน และโดดเด่นด้วยผนังกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวริมแม่น้ำสวยๆ จากด้านนอกได้อย่างชัดเจน ถ้าหากในช่วงเย็นๆ ถึงค่ำๆ ในวันที่ฝนไม่ตก แนะนำให้ลองนั่งรับลมเย็นๆ ในส่วนของ outdoor ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถออกไปเดินเล่นถ่ายรูปชมวิวสวยๆ ริมน้ำได้สบายๆ ทำให้เหมือนกับได้มานั่งดินเนอร์ใต้แสงเทียน สวีทหวานแหววกันทีเดียวครับแต่หากอยากได้บรรยากาศอบอุ่นแบบครอบครัวแนะนำพื้นที่ด้านในซึ่งสามารถเอ็นจอยกับอาหารมื้อเย็นได้เต็มที่เช่นกัน
มาถึงเรื่องของอาหารกันบ้างครับ แน่นอนว่าที่นี่ให้บริการอาหารอิตาเลี่ยนแบบโฮมเมดแท้ๆ เพราะ เชฟกุนเทอร์ แองเจอร์แมน เอ็กเซ็คคิวทีฟเชฟ เป็นผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลี่ยนในช่วงยุคปี 1960-1970 ดังนั้นอาหารของที่นี่จึงยังคงเอกลักษณ์ของอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิม ซึ่งระหว่างรออาหารเสิร์ฟ ขอแนะนำให้รองท้องด้วยขนมปังที่เป็น complimentary ของทางร้าน ซึ่งรสชาติอร่อยถูกปากสุดๆ ยิ่งเพิ่มเติมด้วย Dip กระเทียมย่างคลุกเคล้าด้วยน้ำมันมะกอก กับบัลซามิกที่นำมาบดด้วยครกรูปทรงพิเศษ โดยจะนำมาแทนเนยที่ใช้ทานคู่กับขนมปังซึ่งถือว่าเป็นการเสิร์ฟแบบสไตล์อิตาเลี่ยนยุค 70 แท้จริง โดยทางพนักงานจะมาบริการให้เราอย่างพิถีพิถันถึงโต๊ะเลยครับ แต่ขออย่างเดียวอย่าทานจนอิ่มเกินนะครับ เพราะว่าอาหารจะทยอยเสิร์ฟแล้วจ้า
โดยเริ่มเมนูแรกที่ Baby spinach salad, poached figs, walnuts and Blue gorgonzola dressing (350++) สลัดผักขม ราดด้วยน้ำสลัดกอร์กอนซอล่า และเติมรสชาติหวานนุ่มด้วยลูกมะเดื่อเชื่อมกับไวท์แดง
จากนั้นก็ต่อด้วย Parma ham and Honey melon (320++) ขาหมูสไตล์อิตาเลี่ยนสไลท์บางๆ ที่มาพร้อมกับแตงน้ำผึ้งรสชาติหวานฉ่ำ และผักขม เป็นเมนูที่เบาๆ ดีต่อสุขภาพครับ
มาถึง main dish กันบ้างดีกว่า ซึ่งจะขอเริ่มที่ Tomato, mozzarella cheese, sea food pizza (450++) แป้งพิซซ่าอบกับซอสมะเขือเทศและชีสจนได้แป้งพิซซ่าแบบกรอบบางแต่งหน้าด้วยอาหารทะเลครบครัน เสิร์ฟมาในขนาดกำลังดี ใครที่ชื่นชอบพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ๆ ของให้ลองครับ รับรองอร่อยถูกใจแน่นอน
ตามมาติดๆ ด้วยเมนูที่ผมชื่นชอบมากที่สุดในมื้อนี้นั่นก็คือ Black cod, clam sauce and asparagus (620++) สเต็กปลาคอท ซอสหอยลาย เสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งเนื้อปลาคอทชิ้นใหญ่นำไปทอดจนหนังพอกรอบ แต่เนื้อปลานั้นนุ่มลิ้น รสชาติปลานั้นหวานนุ่ม ลาดด้วยซอสหอยลายรสกลมกล่อม ทานแล้วหลงรักเมนูนี้ขึ้นมาเลยครับ
ปิดท้ายของคาวด้วย Carnaroli Risotto, aged parmesan, truffle jus, shaved truffle (360++) ข้าว Risotto ซึ่งเป็นข้าวอิตาเลี่ยนคลุกเคล้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติหวานมัน เคี้ยวเพลินเลยครับ
แล้วก็มาถึงของหวานปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Combination of Giorgios dessert (350++) เป็นของหวานแบบอิตาเลี่ยน 4 อย่างนั่นก็คือ Tiramusu, Pana Cotta, White Chocolate และ Raspberry Cheese ขอบอกว่าแต่ละอย่างน่าทานทั้งนั้นเลยครับ เป็นของหวานแบบโฮมเมด ที่เนื้อเนียน หวานกำลังดี เรียกได้ว่าอร่อยถูกปากทั้งคาว และหวานเลยครับ
ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ แถมยังได้วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามาก็แวะไปลิ้มลองบรรยากาศดีๆ แบบนี้ได้ที่ห้องอาหาร Giorgios ได้เลยนะครับ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 1 โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ซอยเจริญกรุง 30 ครับผม 
ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า
ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า
| Create Date : 10 กันยายน 2558 |
| Last Update : 10 กันยายน 2558 21:57:12 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 4420 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [
