เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]

ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Supanniga Eating Room by Khunyai (ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สูตรคุณยาย) @ ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)

ชื่อร้าน : Supanniga Eating Room by Khunyai (ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สูตรคุณยาย)
รายการอาหาร : อาหารไทย
เวลาเปิดบริการ : รอบกลางวัน 11.30-14.30 น. รอบเย็น 17.30-23.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ที่ตั้งร้าน : 160/11 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ อยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 6 และ 8) ถนนสุขุมวิท, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 49.18" N 100° 34' 54.05" E





Supanniga Eating Room by Khunyai (ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สูตรคุณยาย) @ ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)



“ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์ สูตรโดยคุณยาย” เป็นห้องอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการทำอาหารของ คุณยายของคุณเอ้ (คุณธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์) ซึ่งคุณยายมักจะลงมือทำอาหารให้ลูกหลานๆ ได้อิ่มอร่อยอยู่เป็นประจำ และด้วยรสชาติแบบไทยแท้ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของคนจังหวัดตราดและจันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณยาย นั้น ทำให้คุณเอ้ ตัดสินใจแบ่งปันความอร่อยให้กับลูกค้า ได้ลิ้มลองเหมือนกับที่คนในครอบครัวได้รับมาโดยตลอด ซึ่งสูตรของคุณยายนั้นได้รับการสืบทอดกันมานานกว่า 80 ปี

สำหรับการตกแต่งห้องอาหารแห่งนี้ มีกลิ่นอายความเป็นอีสาน เนื่องจากว่า ครอบครัวของคุณเอ้ มีโรงแรมอยู่ทางจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งมีห้องอาหารที่ชื่อว่า ครัวสุพรรณิการ์ by คุณยาย อยู่เช่นกัน ดังนั้นห้องอาหารแห่งนี้จึงมีส่วนคล้ายกับครัวสุพรรณิการ์ โดยใช้โต๊ะกะปมและไม้ฟืม พร้อมทั้งประดับตกแต่งด้วยผ้าทอจากขอนแก่น นอกจากนี้ยังเล่นสีโซฟาด้วยสีเหลืองสดใส ซึ่งเป็นสีของดอกสุพรรณิการ์ ที่เป็นชื่อของห้องอาหารแห่งนี้ และยังแอบใส่ความเก๋ไก๋ ด้วยการตกแต่งผนังด้านหนึ่งเป็นปูนเปลือย ส่วนอีกด้านนั้นตกแต่งด้วยกระเบื้องมุงหลังคาด ซึ่งมองดูแล้วก็สวยแบบมีสไตล์ดีเหมือนกัน สำหรับห้องหารแห่งนี้มีพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นสามนั้นสามารถเหมาจัดเป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็น Private Party ซึ่งสามารถสนุกสนานกับเพื่อนๆ แบบส่วนตัว













บรรยากาศร้านชั้นล่าง





บรรยากาศร้านชั้นสอง









บรรยากาศร้านชั้นสาม


หากมาถึงเหนื่อยแล้วละก็ให้ เติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มเย็นอย่าง "เปอริเอ้ น้ำผึ้ง มะนาว (170.-)"ซึ่งเมนูนี้มีกรรมวิธีในการชงเล็กน้อย แต่ไม่ยุ่งยาก โดยการเริ่มเทน้ำผึ้ง น้ำมะนาว โซดา และน้ำแร่ธรรมชาติ 100% Perrier เลือกผสมความเปรี้ยวหวานซ่า ได้ตามใจชอบครับ







หรือจะเลือกสั่ง "เวอร์จิ้น วอเตอร์เมล่อน โมฮิโต้ (140.-)" แก้วนี้เป็น Mojito แก้วโปรดของของผม แต่แก้วนี้พิเศษตรงที่มีส่วนผสมระหว่าง น้ำแตงโมสด, ใบมิ้นต์, มะนาว และเพิ่มความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำตาลทรายแดง เรียกได้ว่าเพิ่มเติมความหวานเปรี้ยวซ่า ได้ไม่แพ้แก้วแรกเลยครับ





จากนั้นเมนูแรกที่เสิร์ฟก็คือ "ยำเนื้อลาย (150.-)" เลือกใช้เนื้อน่องลายหั่นบางๆ นำมายำเข้ากับน้ำยำสูตรพิเศษของที่นี่ จากนั้นโรยด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ และขึ้นฉ่าย เมนูนี้มีรสชาติจัดจ้านลงตัวดีครับ ต่อด้วยเมนูเพื่อสุขภาพอย่าง "น้ำพริกไข่ปู (190.-)" น้ำพริกที่โขลกด้วยไข่ปูและเนื้อปูเข้าด้วยกัน กับน้ำพริกรสชาติกลมกล่อม ที่มาพร้อมกับผักสดหลากชนิดให้เลือกจิ้มได้ตามใจชอบ ตามด้วย "แกงป่าสับนก (180.-)" ไม่ต้องแปลกใจกับชื่อเมนูนะครับ เพราะว่าดั้งเดิมแล้วสูตรของคุณยายนั้นจะใช้นกพิราบจริงๆ แต่ปัจจุบันดัดแปลงสูตรมาใช้ปลากรายสับ แทน ซึ่งน่าจะเหมาะสำหรับหลายๆ คน ซึ่งเมนูนี้เสิร์ฟมาในแบบน้ำแกงคลุกคลิกที่อบอวลด้วยเครื่องเทศรสจัดจ้าน





ยำเนื้อลาย



น้ำพริกไข่ปู



แกงป่าสับนก

จากนั้นก็มาถึงเมนูพื้นบ้านของชาวจังหวัดตราด, จันทบุรี กัน นั่นก็คือ "หมูชะมวง (170.-)" ซึ่งนำเอาใบชะมวงไปย่างให้หอมแล้วนำมาเคี่ยวกับหมูสันคอ จนได้รสชาติเปรี้ยวของใบชะมวง ที่มาพร้อมกับน้ำแกงแบบขลุกขลิก แล้วก็ปิดท้ายของคาวด้วย "ปูจ๋า (230.-)" เมนูนี้นำเอาเนื้อปูสดๆ มาคลุกเคล้ากับเนื้อหมูสับ พร้อมปรุงรสแบบจัดจ้าน นำมาใส่ในกระดองปูแล้วนึ่งให้สุกได้ที่ แม้ชื่อจะหวาน แต่รสชาติจัดจ้านนะครับ สำหรับเมนูนี้เสิร์ฟมาในปริมาณ 3 ชิ้น หากติดใจแล้วต้องการสั่งเพิ่มเป็นชิ้นก็ตกชิ้นละ 80.- จากนั้นไม่นานข้าวสวยร้อนๆ ก็เสิร์ฟ ซึ่งมีให้เลือกทั้งข้าวขาวและข้าวกล้อง





หมูชะมวง





ปูจ๋า

จากนั้นก็ล้างปากด้วย "บัวลอยไข่เค็ม" ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ เพราะเป็นเมนูที่คุณยายมักจะทำให้ทานหลังมื้ออาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งบัวลอยที่มีรสชาติหวานมันกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป ที่สำคัญไม่ได้ใช้ไข่หวานเหมือนทั่วไป แต่เลือกใช้ไข่เค็มซึ่งตัดกับความหวานของบัวลอยได้ดีทีเดียว





ย้อนกลับไปดูภาพและข้อมูลร้านอาหารอื่นๆ



ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary


Create Date : 08 มีนาคม 2556
Last Update : 8 มีนาคม 2556 22:28:30 น. 3 comments
Counter : 14423 Pageviews.
Share

 
เปอริเอ้ น้ำผึ้ง มะนาว น่าสนใจมากค่ะ



โดย: ปรัซซี่ วันที่: 10 มีนาคม 2556 เวลา:20:30:55 น.  

 
ตามมาชิมในblogต่อครับพี่


โดย: benz47 วันที่: 11 มีนาคม 2556 เวลา:11:56:14 น.  

 
@ คุณปรัซซี่ : เยอะดีด้วยนะครับ เติมได้ตั้งหลายที

@ คุณbenz47 : ขอบคุณครับน้องเบนซ์


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 21 มีนาคม 2556 เวลา:22:39:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.