เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
SHIO Yoshoku Café & Restaurant

ชื่อร้าน : SHIO Yoshoku Café & Restaurant
รายการอาหาร : อาหารญี่ปุ่น
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 – 22.00 น. (10.00 am – 10.00 pm)
ที่ตั้งร้าน : ชั้น 8 The EmQuartierโซน The Helix (ติด BTS พร้อมพงษ์) คลองตันเหนือ, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand
พิกัด GPS : 13° 43' 50.34" N 100° 34' 11.83" E





SHIO Yoshoku Café & Restaurant



วันนี้ขอพาไปทานอาหารญี่ปุ่นกันอีกครั้งนะครับ แต่ครั้งนี้จะแตกต่างจากครั้งอื่นๆ เพราะร้าน SHIO Yoshoku Café & Restaurant เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในแบบฟิวชั่น ที่หน้าตาจะดูสวยงามเหมือนอาหารฝรั่ง

สำหรับร้าน SHIO ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 The EmQuartier โซน The Helix บรรยากาศร้านตกแต่งดูเรียบง่าย แต่หรูหรามีสไตล์ ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกทั้งฝั่งในร้านซึ่งจะเห็นโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งเด่น พร้อมเก้าอี้บุหนังตัวใหญ่ไว้คอยให้บริการลูกค้าที่มากันเป็นกลุ่ม หรือที่นั่งริมกระจกที่สามารถมองเห็นวิวสวยๆ ในเมืองได้สบาย และอีกส่วนคือ Outdoor ด้านนอกที่สามารถนั่งชิลๆ ได้เช่นกัน





ในส่วนของอาหารที่นี่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบฟิวชั่นซึ่งก่อนเริ่มมื้ออาหารทางร้านจะเสิร์ฟ ครัวซองค์ไว้ทานรองท้องก่อน และขอเริ่มต้นมื้อนี้ด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Tofu Teriyaki (170++) เต้าหู้มาในแบบ Teriyaki จัดจานมาในรูปแบบคล้าย Toast ราดด้วยน้ำซอสเห็ดทรัฟเฟิลรสกลมกล่อม เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูเด่นของร้านเลยก็ว่าได้ เห็นได้จากแทบทุกโต๊ะจะต้องสั่งเมนูนี้





จากนั้นก็ตามมาด้วย Japanese Style Salad (340++) สลัดผักสไตล์ญี่ปุ่น ที่เติมรสชาติด้วยปลาแซลมอนสด ราดด้วยน้ำสลัดงาแบบญี่ปุ่น ที่รสชาติเบาๆ รองทองก่อนจานหลักได้สบายๆ





ต่อด้วยเมนู Pasta อย่าง Angel Hair Peperoncino with Scallop (590++) เส้น angel hair ที่มาพร้อมกับหอยเชลล์ชิ้นโตนุ่มเด้งลิ้น รสชาติเผ็ดร้อนนิดๆ ด้วยพริกไทย รสชาติถือว่าจัดจ้านถูกปากผมมากที่สุดในมื้อนี้เลยครับ



ตามมาติดๆ ด้วย Kurobuta Steak (380++) สเต็กหมูคุโรบูตะราดด้วยซอสแบบญี่ปุ่นรสเค็มเล็กน้อย ที่เสิร์ฟพร้อมผักย่าง



ต่อด้วย Duck and Waffle (490++) เป็ดตุ๋นทอดกรอบ ราดด้วยน้ำซอสยูสุรสหวาน เพิ่มความเก๋ด้วยวาฟเฟิล ที่เข้ากันอย่างลงตัวทีเดียวครับ



จากนั้นก็ปิดท้าย Pizza Carbonara (290++) พิซซ่าคาร์โบนาร่าสไตล์ญี่ปุ่นที่เติมหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิล เติมความเก๋ไก๋ด้วยไข่ออนเซ็น เมนูนี้ถือว่าเป็นอีกเมนูเด็ดของร้านนี้เช่นกันครับ

สำหรับที่นี่บรรยากาศและรสชาติอาหารถือว่าคุ้มค่ากับราคา แต่อาหารค่อนข้างออกช้านิดหน่อย รวมทั้งของหวานที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่ร้านนี้ แต่ว่าวันนั้นเรารอของหวานไม่ไหว ไว้ครั้งหน้าจะขอมาลองของหวานที่นี่อีกทีนะครับ



ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า

ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary



Create Date : 09 กันยายน 2558
Last Update : 9 กันยายน 2558 15:22:37 น. 0 comments
Counter : 3638 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.