กล้วยหอมเฉือนเลี่ยน 1-0 ส่ง "สิงโต" กลับบ้าน ขุนพลนักเตะ คอสตา ริกา สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก ได้อีกครั้ง หลังเฉือนชนะ อิตาลี 1-0 เมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายน พร้อมส่ง อังกฤษ ที่ไม่มีแต้ม ตกรอบกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม        อิตาลี 0-1 คอสตา ริกา        ศึกฟุตบอลโลก 2014 เกมนัดที่สองของกลุ่มดี อิตาลี อันดับ 2 มี 3 แต้ม ลงสนาม อารีนา แปร์นัมบูโก เจอกับ คอสตา ริกา อันดับ 1 มี 3 แต้มเท่ากัน โดยขุนพล "อัซซูรี" ของ เซซาเร ปรันเดลี ส่งนักเตะลงสนามแบบฟูลทีม แถมยังได้ จานลุยจิ บุฟฟอน นายด่านมือ 1 หายเจ็บกลับมาเฝ้าเสาด้วย        เปิดฉากครึ่งแรก คอสตา ริกา เล่นได้แบบวูบวาบจน นาที 7 ก็เกือบทำประตูได้ คริสเตียน โบลานอส เปิดบอลจากมุมธงให้ เซลโซ บอร์เกส โหม่งเต็มหัวแต่บอลข้ามคาน ขณะที่ อิตาลี มีเสียว นาที 20 มาริโอ บาโลเตลลี เลี้ยงแหวก 3 เข้าเขตโทษกำลังจะยิงแต่โดนคู่แข่งเตะทิ้งไปได้        "อัซซูรี" ได้ลุ้นแบบจะจะครั้งแรก นาที 30 อันเดรีย ปิร์โล วางบอลยาวสุดแม่นให้ มาริโอ บาโลเตลลี พักหนึ่งจังหวะแล้วชิปข้ามผู้รักษาประตู แต่โชคร้ายบอลหลุดเสา ด้าน คอสตา ริกา ไม่น้อยหน้า นาที 36 คริสเตียน โบลานอส ได้จังหวะยิงโล่งๆหน้าปากประตูแต่ จานลุยจิ บุฟฟอน ล้มตัวเซฟหวุดหวิด        เกมแลกหมัดกันสนุก ทว่าก่อนจบครึ่งแรก นาที 44 กลายเป็น คอสตา ริกา ได้ประตูขึ้นนำเมื่อ จูเนียร์ ดิยาซ เปิดบอลเข้าหัว ไบรอัน รุยซ์ โหม่งเช็ดคานเข้าประตู สุดปัญญาที่ จานลุยจิ บุฟฟอน จะเซฟได้ จบครึ่งแรก คอสตา ริกา ทำเซอร์ไพรซ์ขึ้นนำแชมป์โลก 4 สมัย 1-0        กลับมาครึ่งหลัง อิตาลี เพิ่มกองหน้าส่ง อันโตนิโอ คาสซาโน ลงไปแทน ติอาโก ม็อตตา และเกือบตีเสมอได้ นาที 52 จากฟรีคิกระยะหวังผล อันเดรีย ปิร์โล ส่องกล้องแล้วปั่นข้ามกำแพงแต่ เคย์เลอร์ นาบาส ยังป้องกันได้ ทว่าจากนั้นสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เจาะแนวรับ "กล้วยหอม" ไม่ได้        จากนั้นเกมค่อนข้างจืดชืด มาถึงช่วงท้าย นาที 82 ลอเรนโซ อินซินเญ ตัวสำรองเกือบซัดประตูให้ อิตาลี ตีเสมอแต่สุดท้ายข้ามคาน จบเกม คอสตา ริกา ทำเซอร์ไพรซ์ชนะ อิตาลี 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมส่ง อังกฤษ ซึ่งแพ้ 2 นัดรวด ตกรอบไปในที่สุด        ส่วน อิตาลี มี 3 แต้ม เท่ากับ อุรุกวัย ซึ่งทั้งสองทีมจะต้องไปแย่งตั๋วเข้ารอบใบสุดท้ายในเกมเจอกันเอง วันที่ 24 มิถุนายนนี้ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อิตาลี - จานลุยจิ บุฟฟอน, จอร์โจ คิเอลลินี, มัตเตโอ ดาร์เมียน, อิกนาซิโอ อบาเต, อันเดรีย บาร์ซาญี, ติอาโก ม็อตตา, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ, ดานิเอเล เด รอสซี, อันเดรีย ปิร์โล, มาริโอ บาโลเตลลี คอสตา ริกา - เคย์เลอร์ นาบาส, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ไมเคิล อูมานา, ออสการ์ ดูอาร์เต, จูเนียร์ ดิยาซ, คริสเตียน แกมโบ, เซลโซ บอร์เกส, คริสเตียน โบลานอส, ไบรอัน รุยซ์, เยลซิน เทเชดา, โจเอล แคมป์เบล   Create Date : 21 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 21 มิถุนายน 2557 11:04:13 น.     Counter : 1083 Pageviews.   Share Tweet

"ตราไก่" ไร้ปัญหาจิกสวิส 5-2 ลิ่วบอลโลก ฝรั่งเศส ของ ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส โชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยการไล่ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ ขาดลอย 5-2 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก นัดสอง เมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมกำตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบไร้ปัญหา ฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม        สวิตเซอร์แลนด์ 2-5 ฝรั่งเศส        เกมฟุตบอลโลก 2014 นัดที่สองของกลุ่มอี เกมคู่สำคัญที่ อารีนา ฟอนเต โนวา ฝรั่งเศส อดีตแชมป์ปี 1998 ที่เก็บ 3 แต้มได้ในเกมที่ชนะ ฮอนดูรัส 3-0 เผชิญหน้ากับ สวิตเซอร์แลนด์ ที่มี 3 แต้มเท่ากัน โดยถือเป็นสองทีมที่กำลังลุ้นโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในขณะนี้        เปิดฉากมา 5 นาที ฝรั่งเศส ทักทายแบบหวาดเสียว คาริม เบนเซมา ครองบอลอยู่หน้าประตูแล้วปั่นด้วยขวาแต่บอลโค้งหลุดเสา แต่ถัดมานาทีเดียว สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวเมื่อ สตีฟ ฟอน เบอร์เกน ปะทะกับคู่แข่งจนบาดเจ็บที่ศรีษะ ก่อนที่ ฟิลิปป์ เซนเดรอส ถูกส่งมาแทน        ฝรั่งเศส เล่นดีกว่าจนนาที 16 ก็เป็นฝ่ายขึ้นนำจนได้หลัง มาติเยอ วัลบูเอนา เปิดลูกเตะมุมให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เทกตัวโหม่งตุงตาข่าย 1-0 และถัดมาแค่นาทีเดียวก็มาบวกเพิ่มเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว คาริม เบนเซมา ป้ายลูกสวนกลับให้ แบลส มาตุยดี ยิงยัดเสาแรกไม่พลาด        สวิตเซอร์แลนด์ พยายามตีเสมอแต่ นาที 31 มาเสียจุดโทษเมื่อ โยฮัน ฌูรู ไปสะกิด คาริม เบนเซมา ล้มลงไป ทว่าดาวยิงจาก รีล มาดริด ยิงไปติดเซฟ ดิเอโก เบนากลิโอ โยฮัน กาบาย วิ่งมาซ้ำแต่ก็ชนคาน ทว่า นาที 40 "ตราไก่" เล่นเกมสวนกลับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หลุดเดี่ยวจากครึ่งสนามก่อนป้ายให้ มาติเยอ วัลบูเอนา แปนิ่มๆ จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส นำ 3-0        กลับมาครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์ ยังตีไข่แตกไม่ได้ นาที 52 กรานิต ซากา เทกตัวโหม่งเหน่งๆหน้าประตูแต่บอลออกหลังไป ต่อมา นาที 57 นักเตะจากแดนนาฬิกามาอีกครั้ง แล้วเป็น เบลริม เซไมลี กองกลางตัวสำรองตั้งป้อมซัดไกลแต่บอลข้ามคานน่าเสียดาย        แต่ทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ยังไม่ผ่อนเกม เมื่อ นาที 67 พอล ป็อกบา กระดกบอลข้ามแนวรับให้ คาริม เบนเซมา ตวัดยิงเป็น 4-0 เท่านั้นไม่พอ นาที 72 จังหวะ คาริม เบนเซมา แทงออกขวาให้ มุสซา ซิสโซโก วิ่งง้างมาจากบ้านซัดเข้าไปให้ ฝรั่งเศส นำโด่ง 5-0        สวิตเซอร์แลนด์ มีฮึด นาที 81 เมื่อ เบลริม เซไมลี ยิงฟรีคิกลอดกำแพงช่วยให้ทีมตีไข่แตก 1-5 และได้อีกลูก นาที 87 จากลูกวอลเลย์ของ กรานิต ซากา แต่สุดท้ายไล่ไม่ทัน จบเกม ฝรั่งเศส ถล่ม สวิตเซอร์แลนด์ แบบขาดลอย 5-2 เก็บเพิ่มเป็น 6 แต้ม การันตีเข้ารอบแน่นอนแล้ว ส่วนทีมนักเตะ "นาฬิกา" ต้องปราบ ฮอนดูรัส ในเกมสุดท้าย วันที่ 25 มิถุนายน เพื่อลุ้นเข้ารอบเช่นกัน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม สวิตเซอร์แลนด์ - ดิเอโก เบนากลิโอ, สเตฟาน ลิชสไตเนอร์, สตีฟ ฟอน เบอร์เกน, ริคาร์โด โรดริเกซ, โยฮัน ฌูรู, โกคาน อินแลร์, กรานิต ซากา, วาลอน เบห์รามี, อัดเมียร์ เมห์เมดี, เซอร์ดาน ชากิรี, แฮริส เซเฟโรวิช ฝรั่งเศส - อูโก ยอริส, มาติเยอ เดบูชี, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก, โยฮัน กาบาย, บเลส มาตุยดี, มุสซา ซิสโซโก, มาติเยอ วัลบูเอนา, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คาริม เบนเซมา   Create Date : 21 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 21 มิถุนายน 2557 11:03:46 น.     Counter : 1341 Pageviews.   Share Tweet

"ซัวเรซ" เบิ้ลจอมโหด 2-1 ผู้ดีลุ้นเหนื่อย หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกจากค่าย ลิเวอร์พูล ทำแสบ ลงมาเป็นตัวทีเด็ดเหมาคนเดียว 2 ประตู พาทีมชาติอุรุกวัย เฉือนชนะ ทีมชาติอังกฤษไป 2-1 ในเกมฟุตบอลโลก 2014 นัดที่ 2 ของกลุ่มดี คืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ยังไม่ตกรอบแต่ต้องลุ้นเหนื่อยในเกมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มดี อุรุกวัย 2-1 อังกฤษ        เกมชี้ชะตาระหว่าง อังกฤษ และ อุรุกวัย ใครแพ้ตกรอบทันที "สิงโตคำราม" เกมนี้ยังไม่เปลี่ยนผู้เล่นจากเกมแรกนำโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เวย์น รูนีย์ ได้กลับมายืนเป็นเพลเมกเกอร์ ขณะที่ "จอมโหด" ได้ หลุยส์ ซัวเรซ กลับมายืนคู่กับ เอดินสัน คาวานี ในแดนหน้าอีกครั้ง        เริ่มมาเพียง 5 นาที ซัวเรซ เปิดเตะมุมมาเสาแรก บอลตกพื้น มาร์ติน คาเซเรส จะชาร์ตแต่ไม่โดน โจ ฮาร์ท ยังไวปัดทิ้งออกหลังไป เข้าสู่นาที 10 "สิงโตคำราม" น่าจะได้ประตูออกนำ รูนีย์ ปั่นฟรีคิกบอลโค้งหลุดสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว นาที 21 เกมของ อุรุกวัย ดีขึ้นและมีลุ้นอีกครั้ง ซัวเรซ เปิดฟรีคิกเรียด คาวานี วิ่งมาซัดเหินคานไปอีก        ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม เจอร์ราร์ด วางฟรีคิกไปเสาสอง รูนีย์ โถมมาโขกบอลไปชนคานกระดอนออกไปแบบไร้โชค นาที 39 เกมสวนกลับของ "จอมโหด" คาวานี โยนให้ ซัวเรซ แอบมาโขกย้อนทางเข้าไปซุกตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ท้ายครึ่งแรก รูนีย์ แทงไปที่วางให้ สเตอร์ริดจ์ กดด้วยซ้ายบอลจะมุดเสาแรกแต่ เฟร์นานโด มุสเลรา ไปทิ้งออกไป        ลงมาครึ่งหลัง เป็นอุรุกวัย บุก คาวานี หลุดมาเอียงตัวกดด้วยขวา บอลหลุดเสาสองออกไปเอง และนาที 53 เลห์ตัน เบนส์ เปิดเรียดมาให้ สเตอร์ริดจ์ ซัดด้วยซ้าย ยังไปติดตัว มุสเลรา อีกรอบ ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกม อังกฤษต้องเปลี่ยนตัวเอา รอสส์ บาร์คลีย์ ลงมาแทน ราฮีม สเตอร์ลิง        หลังเปิดเกมบุกอยู่นาน นาที 75 เกล็น จอห์นสัน ลุยเข้ามาทางขวาก่อนเปิดไปเสาสองให้ รูนีย์ วิ่งเข้ามาชาร์ตจ่อๆ ซุกตาข่าย ไล่มาเป็น 1-1 เข้าช่วง 10 นาทีท้าย ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกัน แต่เป็น ซัวเรซ หลุดขึ้นมากดด้วยขวาเต็มๆ แสกหน้า โจ ฮาร์ท ขยับนำ 2-1 ช่วงที่เหลือ "สิงโตคำราม" แก้คืนไม่ทัน แพ้ไป 1-2 มีโอกาสไม่ได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายสูง ต้องลุ้นในเกมสุดท้าย รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อุรุกวัย : เฟร์นานโด มุสเลรา, โฮเซ มาเรีย คิมิเนซ, ดีเอโก โกดิน, มาร์ติน กาเซเรส, อัลวาโร เปเรยรา, อัลวาโร กอนซาเลซ, เอคิดิโอ อเรวาโล ริออส, นิโกลัส โลเดยโร, คริสเตียน โรดริเกซ, หลุยส์ ซัวเรซ, เอดินสัน คาวานี อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, เกล็น จอห์นสัน, ฟิล จากีลกา, แกรี เคฮิลล์, เลห์ตัน เบนส์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิง, เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ค, แดเนียล สเตอร์ริดจ์   Create Date : 20 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2557 7:19:00 น.     Counter : 1267 Pageviews.   Share Tweet

"โครแอต" ยำ 4-0 ลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้าย โครเอเชีย ได้ มาริโอ มานด์ซูคิช หัวหอกคนสำคัญกลับมาประจำการแนวรุก และเหมาคนเดียว 2 ประตู พาทีม "ตราหมากรุก" ไล่ยำใหญ่ แคเมอรูน ที่เหลือ 10 คน ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก 4-0 ในเกมฟุตบอลโลก รอบแรก กลุ่มเอ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ต้องไปลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มบี แคเมอรูน 0-4 โครเอเชีย        เกมที่ อารีนา อเมโซเนีย แคเมอรูน และ โครเอเชีย แพ้กันมาทั้งคู่ในแมตช์แรก เกมนี้ต้องการเป็นผู้ชนะ "หมอผี" ไม่มี ซามูเอล เอโต หัวหอกจอมเก๋าที่ยังเจ็บ ฝากความหวังไว้ที่ แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ ขณะที่ "ตราหมากรุก" ได้ มาริโอ มานด์ซูคิช พ้นโทษแบนกลับมาล่าตาข่าย        สตาร์ทเกมมาเพียง 12 นาที ลูกทีมของ นิโก โควัค ได้เฮก่อน อีวาน เปริซิซ เปิดเรียดให้ อีวิกา โอลิช พุ่งเข้าชาร์ตโล่งๆ ทางเสาสอง ให้ทีมออกนำเร็ว 1-0 ถัดมาไม่ถึง 5 นาที จากลูกเตะมุม ดานิเยล ปรานยิซ เปิดเข้ามาให้ อีวาน เปริซิซ ซัดจ่อๆ ระยะ 6 หลา แต่ ชาร์ลส์ อิต็องด์เช ยังไวออกมาปิดมุมได้ทัน        หลังจากเสียประตู "หมอผี" เดินหน้าบุกหวังไล่ตีเสมอให้ได้ แต่ช่วงท้ายครึ่งแรก อเล็กซ์ ซง วิ่งไล่มากับ มานด์ซูคิช ก่อนเอามือตบใส่หัวหอกโครแอต ถูกผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ก่อนจบครึ่งแรก เป็น "ตราหมากรุก" นำ 1-0        โครเอเชีย กลับมาครึ่งหลังด้วยความคึกคัก อีวาน เปริซิซ ลากขึ้นมาทางซ้าย จี้เข้ากรอบโทษ ก่อนที่จะหลอกยิงเสาแรก ให้ทีมขึ้นนำ 2-0 ถัดมา 5 นาที มานด์ซูคิช พาบอลหนี นิโกลาส์ เอ็นกูลู ก่อนจะยิงแบบดีดๆ บอลหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว        นาที 60 มานด์ซูคิช ปลดล็อคประตูแรกในฟุตบอลโลก 2013 ได้สำเร็จ จากลูกเตะมุม หัวหอก บาเยิร์น มิวนิค โถมมาโขก แบบไม่มีตัวประกบ กระดอนลงพื้นเสียบตาข่าย ให้ทีมนำห่าง 3-0 สกอร์ไหล่เป็น 4-0 นาที 73 มัตเตโอ โควาซิช ตัวสำรอง สอดขึ้นมายิงติดเซฟของ อิต็องด์เช ไปเข้าทาง มานด์ซูคิช แปง่ายๆ ไม่มีพลาด        ช่วงที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม ลูกทีมของ นิโก โควัค คืนฟอร์มกลับมาคว้าชัย 4-0 ลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้ายที่จะต้องพบกับ เม็กซิโก ขณะที่ แคเมอรูน จอดป้ายฟุตบอลโลกฉบับแซมบ้า หลังปราชัย 2 เกมติดต่อกัน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แคเมอรูน : ชาร์ลส์ อิต็องด์เช, สเตฟาน เอมเบีย, ออเรเลียง เชดฌู, นิโกลาส์ เอ็นกูลู, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต, โจแอล มาติป, อเล็กซ์ ซง, เอย็อง เอโนห์, เอริก มักซิม ชูโป โมติง, เบนฌาแม็ง มูก็องโฌ, แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ โครเอเชีย : สติเป เปลติโกซา, ดาริโอ เซอร์นา, เวดราน ชอร์ลูกา, เดยัน ลอฟเรน, ดานิเยล ปรานยิซ, ลูกา โมดริช, อีวาน ราคิติช, อีวาน เปริซิซ, อีวิกา โอลิช, ซาเมียร์, มาริโอ มานด์ซูคิช   Create Date : 19 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 19 มิถุนายน 2557 7:15:13 น.     Counter : 1059 Pageviews.   Share Tweet

"ดัตช์" เฉือนระทึก 3-2 ส่งจิงโจ้กลับบ้าน เนเธอร์แลนด์ส เปิดเกมรุกแลกกับ ออสเตรเลีย แบบสุดระทึก ก่อนเป็น "อัศวินสีส้ม" ที่คมและเด็ดขาดกว่า เฉือนชนะไป 3-2 เก็บชัยชนะ 2 แมตช์รวด ในศึกฟุตบอลโลก รอบแรก กลุ่มบี เมื่อวันพุธที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ส่วนทีมแดนจิงโจ้รอเก็บกระเป๋ากลับบ้าน ฟุตบอลโลก 2014 รอบแรก กลุ่มบี เนเธอร์แลนด์ส 3-2 ออสเตรเลีย        "อัศวินสีส้ม" ทีมจ่าฝูงกลุ่มบี ของ หลุยส์ ฟาน กัล ลงเตะเกมนัดที่ 2 หากปิดบัญชีชนะได้ จะผ่านเข้ารอบต่อไปทันที เกมนี้ยังไม่เปลี่ยนผู้เล่นจากนัดแรก วาง เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี และ อาร์เยน ร็อบเบน ในแนวรุก พบกับ ออสเตรเลีย ที่แพ้ไม่ได้มีดาราดังอย่าง มาร์ค เบรสชาโน และ ทิม เคฮิลล์        เริ่มมา 19 นาที ร็อบเบน แต่งบอลหนี อเล็กซ์ วิลกินสัน หลุดเดี่ยวขึ้นมาซัดด้วยซ้าย สวนตัว แมทธิว ไรอัน เข้าไปซุกตาข่ายขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว แต่เฮได้ไม่ถึงนาที ไรอัน แม็คโกแวน เปิดบอลยาวข้ามไปเสาสองเป็น ทิม เคฮิลล์ สลัดหนี รอน ฟลาร์ ง้างเท้าวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลผ่านมือ แยสเปอร์ ซิลเลสเซน เสียบใต้คานอย่างหมดจดไล่ตีเป็น 1-1        นาที 29 ออสเตรเลีย เดินเครื่องลุยต่อเนื่อง แม็ทธิว เล็คกี กระชากหนี รอน ฟลาร์ ก่อนเปิดหักมาแถมสองให้ เบรสชาโน วิ่งเข้ามาซัดบอลเหินคานไปนิดเดียว จากนั้น "ซ็อคเกอร์รูส์" เล่นกันด้วยความมั่นใจ และเดินเกมรุกใส่ "อัศวินสีส้ม" จนตั้งเกมไม่ติด โดยท้ายครึ่งแรก บรูโน มาร์ติน อินดี ถูก เคฮิลล์ อัดจนต้องถูกหามออกจากสนาม จบครึ่งแรกเสมอ 1-1        กลับลงมาครึ่งหลัง ฟาน กัล แก้เกมมาเล่น 4-4-2 และเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ เติมขึ้นมาซัดด้วยขวา บอลจะมุดเสาแรก แต่ แมทธิว ไรอัน บินปัดออกหลังไป ฝั่ง "ออสซี" แก้เกมบ้างส่ง โอลิเวอร์ โบซานิค ลงมาและทำแสบทันที เปิดยัดใส่มือของ ดาริล ยานมัตต์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่ ไมล์ เยดินัก ซัดไม่มีพลาด ออสเตรเลีย แซงนำ 2-1        เจ้าสู่นาที 57 ฟาน เพอร์ซี หลุดกับดักล้ำหน้ามา กลับตัวยิงบอลหายเข้ามาซุกตาข่าย ไล่มาเป็น 2-2 หลังตีเสมอได้ ออสเตรเลีย เดินเครื่องบุกอีกครั้ง ทอมมี โออาร์ เปิดให้ เล็คกี วิ่งเข้ามาใช้อกกระแทกบอลยังดีที่ ซิลเลสเซน ช่วยเซฟหวุดหวิด ถัดมานาทีเดียว เมมฟิส เดปาย ได้บอลกดด้วยขวาแบบไม่มีตัวประกบ บอลกระดอนพื้นเสียบเสาอย่างสวยงาม เนเธอร์แลนด์ส ขึ้นนำ 3-2        ช่วงที่เหลือ พลพรรค "จิงโจ้" ไม่มีทางเลือกต้องเดินทางบุก ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ส เริ่มคุมจังหวะของเกมได้บ้าง สุดท้ายจบ 90 นาทีไม่มีประตูเพิ่ม "อัศวินสีส้ม" แซงชนะ 3-2 แบบสุดมัน เก็บชัยนัดที่ 2 ตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นทีมแรก ขณะที่ ออสเตรเลีย แพ้ 2 นัดตกรอบเป็นที่เรียบร้อย รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เนเธอร์แลนด์ส : แยสเปอร์ ซิลเลสเซน, รอน ฟลาร์, สเตฟาน เดอ ฟรีจ์, บรูโน มาร์ติน อินดี, เดลีย์ บลินด์, ดาริล ยานมัตต์, ไนเจล เดอ ยอง, โจนาธาน เดอ กุซมัน, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, อาร์เยน ร็อบเบน ออสเตรเลีย : แมทธิว ไรอัน, เจสัน ดาวิดสัน, ไรอัน แม็คโกแวน, แม็ทธิว สไปราโนวิช, อเล็กซ์ วิลกินสัน, แมตต์ แม็คคาย, แม็ทธิว เล็คกี, ทอมมี โออาร์, ไมล์ เยดินัก, มาร์ค เบรสชาโน, ทิม เคฮิลล์   Create Date : 19 มิถุนายน 2557     0 comment Last Update : 19 มิถุนายน 2557 7:14:42 น.     Counter : 991 Pageviews.   Share Tweet