ข่าวฟุตบอล เป็นการแข่งขันกันในนัดที่ 3 ของกลุ่ม บี ระหว่าง เดนมาร์ก พบ เยอรมัน

ภาพประกอบจาก AFP picture

ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม บี.
วันอาทิตย์ที่ 17มิถุนายน 2555
เดนมาร์ก - เยอรมัน
เวลา : 01.45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 9
สนาม : อารีนา ลวิฟ (ลวิฟ)
ผู้ตัดสิน : คาร์ลอส เบลาสโก คาร์บัลโญ (สเปน)

สถิติที่เคยพบกัน : 17 ครั้ง เดนมาร์ก ชนะ 7 เยอรมัน ชนะ 8 เสมอ 2

ผลงาน 3 นัดหลังสุด :

เดนมาร์ก แพ้ โปรตุเกส 2-3, ชนะ ฮอลแลนด์ 1-0, ชนะ ออสเตรเลีย 2-0

เยอรมัน ชนะ ฮอลแลนด์ 2-1, ชนะ โปรตุเกส 1-0, ชนะ อิสราเอล 2-0

อายุเฉลี่ยนักเตะในทีม : เดนมาร์ก 26.6 ปี เยอรมนี 24.5 ปี


สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

เดนมาร์ก



ทัพ "โคนม" เดนมาร์ก แชมป์ยูโร 1992 ที่ช็อคโลกด้วยการพิชิต ฮอลแลนด์ ในนัดแรก 1-0 แต่ในนัดที่ 2 กลับพลาดท่าพ่ายโปรตุเกสแบบน่าเจ็บใจ 2-3 ทำให้ต้องมาลุ้นเข้ารอบในนัดนี้ ซึ่งจะพบกับทีมเยอรมัน ซึ่งหมดสิทธิ์ใช้งาน เดนนิส รอมเมดาห์ล กองหน้ามากประสบการณ์ของทีม เพราะเจ็บกล้ามเนื้อขา ขณะที่ นิกิ ซิมลิ่ง กองกลางคนสำคัญก็มีอาการเจ็บเช่นกัน ต้องรอทดสอบความฟิตอีกครั้ง

ที่เหลือ โอลเซ่น พร้อมใช้ชุดเดิมทั้งหมด แนวรับมี ซิมอน เคียร์ ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ แดเนียล แอ็กเกอร์ โดยมี ลาร์ส ยาค็อบเซ่น กับ ซิมอน โพลเซ่น ประจำการแบ็กขวาซ้ายตามลำดับ สามแนวรุกจากขวาไปซ้ายประกอบด้วย โทเบียส มิเคลเซ่น, คริสเตียน เอริคเซ่น และ ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี ตามลำดับ วาง นิคลาส เบนด์เนอร์ ที่เหมาคนเดียวสองตุงในเกมล่าสุดคอยจบสกอร์


เยอรมัน



ขุนพล "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน อดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย เป็นทีมเดียวที่ทำผลงานชนะรวด 2 นัด ขอแค่เสมอก็เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแน่นอน แต่นัดนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เยอโรม บัวเต็ง ปราการหลังผิวสี ที่ติดโทษห้ามแข่ง 1 นัด หลังได้ 2 ใบเหลืองไปแล้ว ซึ่งถ้าหาก โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทนเนอร์ ไม่ส่งใครลงมาแทน ก็อาจจะปรับไปเล่นระบบเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 ตัว ส่วนในแดนหน้า มาริโอ โกเมซ กองหน้าที่ซัดไปแล้ว 3 ประตู น่าจะลงตัวจริง และถ้า ลูคัส โพดอลสกี้ ได้ลงสนามด้วย จะทำให้ดาวยิงวัย 27 ปี สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะยุโรปอายุน้อยที่สุดที่ติดทีมชาติครบ 100 นัด

ที่เหลือ เลิฟ ยังวางใจใช้ผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมด ด่านสุดท้ายมี มานูเอล นอยเออร์ ยืนเฝ้าเวสาคูเซนเตอร์แบ็กให้ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ที่แจ้งเกิดในทัวร์นาเม้นต์นี้อย่างเต็มตัวจับคู่กับ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ โดยมี ฟิลิปป์ ลาห์ม กัปตันทีมประจำการแบ็กซ้าย มิดฟิดล์คู่กลางใช้ ซามี่ เคดิร่า ยืนจับคู่ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เจ้าของสองแอสซิสต์ในเกมล่าสุด ส่วนสามแนวรุกจากขวาไปซ้ายประกอบด้วย โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และ ลูคัส โพดอลสกี้ ตามลำดับ โดยบรรดาดาวรุ่งอย่าง อันเดร เชือร์เล่, มาร์โค รอยส์ และ มาริโอ เกิทเซ่ ต้องรอโอกาสอยู่ข้างสนามต่อไปเหมือนเดิม


ความน่าจะเป็นในเกมนี้

เยอรมัน เล่นได้ดีกว่ามาก เกมนี้เดนมาร์กเองก็คงเดินเกมแลกแบบไม่มีทางเลือกแต่ทว่ามันจะไปเข้าทาง เยอรมัน ที่อาศัยจังหวะสวนกลับและแนวรุกที่คมกว่ามีทีเด็ดทีขาดมากกว่าเอาชนะทีม โคนม พร้อมผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ

ฟันธง : เดนมาร์ก แพ้ 0-2

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

เดนมาร์ก (4-2-3-1) : สเตฟาน อันเดอร์เซ่น - ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ซิมอน เคียร์, แดเนียล แอ็กเกอร์, ซิมอน โพลเซ่น -วิลเลี่ยม ควิสท์, ยาค็อบ โพลเซ่น (นิกิ ซิมลิ่ง) - โทเบียส มิเคลเซ่น, คริสเตียน เอริคเซ่น, ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี - นิคลาส เบนด์เนอร์

เยอรมัน (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ -ลาร์ส เบนเดอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ - มาริโอ โกเมซ