เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

พรีวิว ยูโร 2012 : รวมแมตช์สุดเหลือเชื่อในศึก ยูโร


ข่าวฟุตบอล ตำนานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ในศึก ยูโร รวมเรื่องราวของเหล่าทีมรองบ่อนนอกสายตา ที่หาญกล้าเล่นงานบรรดาทีมดังยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ให้เล่าขาน


ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" เกือบทุกคนก็ต้องมองไปที่ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง สเปน, เยอรมนี, ฮอลแลนด์ ว่ามีโอกาสจะคว้าแชมป์ไปครองมากที่สุด ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องแปลกเพราะแต่ไหนแต่ไรมันก็เป็นมาแบบนี้ 

คำถามก็คือ แล้วทีมอื่นๆ ที่ไม่ได้มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ไม่ได้มีผู้เล่นดาวดังอยู่เต็มทีมจะไม่มีบทบาทอะไรมากไปกว่ามาร่วมการแข่งขันให้มันครบ 16 ทีมอย่างนั้นหรือ คำตอบก็คือไม่ใช่อย่างนั้นแน่ๆ

มีหลายๆ ครั้ง หลายๆ เหตุการณ์ที่แฟนบอลต่างก็ยังจำได้ไม่มีวันลืม ที่ทีมไม้ประดับนอกสายตาทำเรื่องพลิกความคาดหมาย เอาชนะทีมที่เหนือกว่าให้ได้เห็น หรือแม้กระทั่งสร้างสิ่งเหลือเชื่อถึงขนาดคว้าตำแหน่งชนะเลิศเหนือบรรดามหาอำนาจลูกหนังทั้งหลาย อย่างที่เดนมาร์กทำได้ในปี 1992 และ กรีซในปี 2004

และนี่คือเกมแห่งความทรงจำ ที่ถูกบันทึกไว้ในฐานที่ทำเอาเซียนเสียหน้ามากที่สุดในประวัติศาตร์ลูกหนังยูโร



รวมสุดยอดเกมพลิกล็อกในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป


อังกฤษ 0-1 สาธารณรัฐไอร์แลนด์ : ยูโร 88 รอบแบ่งกลุ่ม

เกมนี้เป็นนัดแรกในประวัติศาสตร์ของ "ยักษ์เขียว" ไอร์แลนด์ ในการลงเล่นในรอบสุดท้าย และแม้จะถือได้ว่าทีมของ แจ็คกี้ ชาร์ลตัน มีผู้เล่นชื่อดังไม่น้อยทั้ง รอนนี่ วีแลน, พอล แม็คกรัธ, เรย์ เฮาจ์ตัน รวมทั้ง จอห์น อัลดริดจ์ แต่ใครๆ ก็เชื่อว่าทีม "สิงโตคำราม" ชุดของ ไบรอัน ร็อบสัน, ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์, แกรี่ ลินิเกอร์ และ จอห์น บาร์นส มีศักยภาพที่เป็นต่อบานเบอะ

ถึงเวลาจริง กลับกลายเป็นลูกโหม่งของ เฮาจ์ตัน ที่ส่งให้ ไอร์แลนด์ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 6 และหลังจากนั้น แพ็คกี้ บอนเนอร์ นายประตูของฝั่งไอริช ก็กลายเป็นฮีโร่ โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟหยุดทุกการโจมตีของอังกฤษไว้ได้จนหมดเวลา 90 นาที 




สวีเดน 2-1 อังกฤษ : ยูโร 1992 รอบแบ่งกลุ่ม

สวีเดน ในฐานะเจ้าภาพ ทำผลงานดีก่อนเล่นนัดนี้ โดยชนะกับเสมอมาอย่างละ 1 เกม ขณะที่อังกฤษเสมอคู่แข่ง 0-0 มาทั้ง 2 นัด และต้องการชัยชนะเพื่อเข้ารอบ ซึ่งใครๆ ก็เชื่อว่าทีมของ เกรแฮม เทย์เลอร์ ยังมีดีพอจะเร่งเครื่องเอาชนะทีม "ฟรีเซ็กส์" 

เกมดูเหมือนจะเป็นไปตามนั้น เพราะเริ่มมาได้แค่ 4 นาที เดวิด แพล็ตต์ ก็ยิงให้ "สิงโตคำราม" ขึ้นนำก่อน อย่างไรก็ตาม เล่นไปเล่นมาสวีเดนที่แม้จะแพ้ก็ยังได้เข้ารอบมาได้ประตูตีเสมอจาก แยน อีริคส์สัน และโทมัส โบรลิน กองกลางดาวรุ่งในตอนนั้นก็มายิงปลิดวิญญาณทีมผู้ดีในไม่กี่วินาทีสุดท้าย จบเกมอังกฤษตกรอบ ส่วนสวีเดนเข้ารอบด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม


เยอรมนี 0-2 เดนมาร์ก : ยูโร 92 รอบชิงชนะเลิศ

นี่คือสุดยอดแห่งตำนานที่สร้างความงดงามให้เกมลูกหนังอย่างแท้จริง เดนมาร์กไม่ได้ผ่านรอบคัดเลือกมาเล่นในรอบสุดท้ายด้วยซ้ำ แต่ 2 สัปดาห์ก่อน ยูโร 92 จะเริ่มขึ้น พวกเขาก็ได้สิทธิ์มาเล่นแทนยูโกสลาเวียที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่สงบ

แค่ที่มาที่ไปก็น่าทึ่งแล้ว พอถึงการแข่งขันเริ่มขึ้น เดนมาร์กเล่น 2 นัดแรกเก็บมาได้คะแนนเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเกือบจะตกรอบไปแล้วด้วยซ้ำ แต่แล้วปรากฏการณ์แห่งโชคชะตาก็เริ่มต้นขึ้น เดนมาร์กพลิกเอาชนะฝรั่งเศสได้ในเกมสุดท้าย ผ่านเข้าไปสยบฮอลแลนด์ด้วยการดวลจุดโทษในรอบตัดเชือก ย้ำว่าเป็นทีมชาติฮอลแลนด์ซึ่งมาในฐานะ "แชมป์เก่า" และมี "3 ทหารเสือ" รุด กุลลิท, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด กับ มาร์โก แวน บาสเท่น มากันครบ บวกกับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ โรนัลด์ คูมัน ด้วยอีกต่างหาก 

ความมหัศจรรย์จริงๆ มาถึงในเกมชิงชนะเลิศ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนีเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลก กลายเป็นเหยื่อของทีมเหนือดวงอย่างเดนมาร์ก และประตูจาก ยอห์น เยนเซ่น กับ คิม วิลฟอร์ต รวมทั้งฟอร์มเหนือมนุษย์ของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ก็นำพาให้ทีม "โคนม" กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จแบบเหนือความคาดหมายมากที่สุด


สาธารณรัฐเช็ก 2-1 อิตาลี : ยูโร 96 รอบแบ่งกลุ่ม

ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น สาธารณรัฐเช็กยังคงเป็นแค่ทีมธรรมดาดาดๆ และประเดิมสนามนัดแรกก็แพ้ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี ไปตามฟอร์ม ซึ่่งการจะต้องมาเล่นกับ อิตาลี "รองแชมป์โลก" ในนัดที่ 2 ย่อมถือว่าเป็นงานหิน อย่างไรก็ตาม เช็กเป็นฝ่ายขึ้นนำได้ก่อนจากการยิงของ พาเวล เนดเว็ด แต่อิตาลีก็มาตามตีเสมอ 1-1 ด้วยลูกยิงของ เอ็นริโก้ คิเอซ่า

จุดเปลี่ยนของเกมมาอยู่ที่การโดนไล่ออกของ ลุยจิ อพอลโลนี่ ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือกว่า 60 นาที อิตาลีตกเป็นรอง และในที่สุด เช็กก็มาได้ประตูนำอีกครั้งโดย ราเด็ค เบเบิ้ล ก่อนเอาชนะไปได้ 2-1 จากนั้นพวกเขาติดเครื่องสร้างผลงานลือลั่นจนผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ



ลัตเวีย 0-0 เยอรมนี : ยูโร 2004 รอบแบ่งกลุ่ม

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เอ่ยถึงชื่อทีมลัตเวียจะมีใครทีมไหนบ้างที่รู้สึกต้องหวั่น พวกเขาไม่เคยผ่านสังเวียนทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ที่ไหนมาก่อนเลย และในประสบการณ์ครั้งแรกก็ถูกจัดหนัก ต้องร่วมกลุ่มกับฮอลแลนด์, เยอรมนี และสาธารณรัฐเช็ก

เกมแรกของ ลัตเวีย พวกเขาพ่ายต่อเช็กไปตามฟอร์ม 1-2 แต่มาถึงนัดที่สองนี่คืออีกเหตุการณ์ที่โลกลูกหนังต้องบันทึกไว้ ทีมไร้ชื่อไร้ราคา ไร้ซึ่งเกียรติประวัติใดๆ มาเจอกับ เยอรมนี แชมป์โลกและแชมป์ยุโรปอย่างละ 3 สมัย และใครจะเชื่อว่า ลัตเวียสามารถยืนหยัดต้านทานเกมรุกของ "อินทรีเหล็ก" ทุกรูปแบบได้จนครบเวลา 90 นาที แม้จะไม่ได้ชัยชนะ แต่นี่น่าจะยิ่งใหญ่ไม่น้อยกว่าชัยชนะในเกมไหนๆ สำหรับพวกเขา



โปรตุเกส 0-1 กรีซ : ยูโร 2004 รอบชิงชนะเลิศ

นี่คือความเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นซ้ำรอยเรื่องของเดนมาร์กเมื่อ 12 ปีก่อน แม้จะพลิกล็อกสุดๆ มาแล้วตั้งแต่เกมเปิดสนามที่กรีซเอาชนะโปรตุเกสมาได้ 1-0 แต่ก็ไม่มีใครกล้าคิดอีกแน่นอน ว่าทีม "ฝอยทอง" ที่เล่นในบ้านตัวเอง มีทีมชุดที่เรียกว่า "โกลเด้นเจนเนอเรชั่น" นำโดย 2 ตัวเก๋า หลุยส์ ฟิโก้ กับ รุย คอสต้า ขณะที่ เดโก้ กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ก็กำลังท็อปฟอร์ม แล้วยังมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่พุ่งแรงสุดๆ 

ทุกอย่างดูเหมือนถูกวางไว้ให้โปรตุเกสเป็นฝ่ายได้ชูถ้วยแชมป์ในบ้านตัวเองชัดๆ แต่แล้ว ลูกโขกของ อันเจลอส ชาริสเตอัส ก็มาดับฝันทีมของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ในท้ายที่สุด



เนื้อหาจาก //www.uefa.com



Create Date : 26 พฤษภาคม 2555
Last Update : 26 พฤษภาคม 2555 20:26:01 น. 0 comments
Counter : 1635 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]