แมตช์อำลา บัลลัค มิ.ย.นี้, ชไวน์สไตเกอร์-มูรินโญ่ ร่วมด้วย ข่าวฟุตบอล มิชาเอล บัลลัค อดีตกองกลางจอมทัพทีมชาติเยอรมนี เตรียมจัดเกมอำลาสนามให้ตัวเอง มีดาวดังทั้ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ รวมถึง โชเซ่ มูรินโญ่ ตอบรับเข้าร่วมในเดือนมิถุนายนนี้ ภาพประกอบจาก AFP อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมนี ซึ่งผ่านประสบการณ์ค้าแข้งกับ เลเวอร์คูเซ่น บาเยิร์น มิวนิค และ เชลซี ก่อนจะประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เตรียมจะจัดเกมอำลาสนามให้ตัวเองในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ที่เมือง ไลป์ซิก โดยเจ้าตัวจะได้ร่วมลงสนามเล่นฟุตบอลอีกครั้ง กับบรรดาเพื่อนๆ ในวงการลูกหนังที่ได้รับเชิญ โดยถึงตอนนี้มีการยืนยันแล้วว่า ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางของ บาเยิร์น มิวนิค กับ มูรินโญ่ อดีตเจ้านายสมัยค้าแข้งกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" จะมาร่วมงานแน่นอน "ผมอยากกล่าวอำลาทั้งเพื่อนๆ และแฟนบอลทุกคนอย่างมีเกียรติ และผมอยากขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนร่วมตลอดเวลาที่ผมเติบโตขึ้นมา ทุกคนที่คอยเอาใจช่วยผมและที่เคยเผชิญหน้ากับผมในการเล่นฟุตบอลด้วย" ตามรายงานข่าวไม่ได้ระบุว่าเกมนัดนี้จะเป็นการแข่งขันระหว่างทีมอะไร แต่ บัลลัค ก็ระบุว่า "แน่นอนผมอยากจะลงเล่นให้ทั้งสองทีม แต่ก็ต้องดูว่าสภาพร่างกายผมจะไหวแค่ไหน" ทั้งนี้ บัลลัค ยังยืนยันด้วยว่าได้ส่งเทียบเชิญ โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนีคนปัจจุบันมาร่วมงานด้วย แม้ว่าจะเคยมีความขัดเคืองใจกันมาก่อน เนื่องจาก บุนเดสเทรนเนอร์ รายนี้นี่เองที่ทำให้อดีตดาวเตะวัย 36 ปี ยุติเส้นทางการรับใช้ชาติไว้ที่ 98 นัด "ผมมีช่วงเวลาที่ถือว่าประสบความสำเร็จร่วมกับ เลิฟ แม้ว่าเราจะเคยมีเรื่องบาดหมางกันในตอนท้ายก็ตาม" บัลลัค กล่าวทิ้งท้าย บัลลัค เริ่มโด่งดังนับตั้งแต่เป็นสมาชิกทีม ไกเซอร์สเลาเทิร์น ชุดคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา อย่างพลิกความคาดหมายเมื่อปี 1998 ก่อนจะย้ายมาเล่นให้ เลเวอร์คูเซ่น และ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของ บุนเดสลีกา และทีมชาติเยอรมนีตลอดช่วงหลายปี หลังช่วย บาเยิร์น คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา ไป 3 สมัย บัลลัค ย้ายมาเล่นกับ เชลซี และสามารถคว้าแชมป์ในอังกฤษได้ครบทุกรายการ ส่วนในสีเสื้อทีมชาติ บัลลัค เคยช่วยทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2002 และเป็นกัปตันทีมชุดรองแชมป์ ยูโร 2008 ที่แพ้ต่อ "กระทิงดุ" สเปน   Create Date : 10 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 10 มีนาคม 2556 21:53:01 น.     Counter : 1477 Pageviews.   Share Tweet

อาร์วีพี ครองแชมป์ ยอดขายเสื้อดีสุด ในอังกฤษ ข่าวฟุตบอล แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นนักเตะของลีกเมืองผู้ดีที่มีแฟนๆ ซื้อชุดแข่งไปสวมใส่มากที่สุด จากการสำรวจของ เว็บไซต์ คิทแบ็ก.คอม ภาพประกอบจาก AFP เสื้อหมายเลข 20 ของหัวหอกวัย 29 ปีนั้น สามารถทำยอดขายในเกาะอังกฤษได้ถึง 25.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขายชุดแข่งของนักฟุตบอลในลีกเมืองผู้ดีทั้งหมด ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล แบบขาดลอย โดยชุดแข่งเบอร์ 8 ของกองกลางชาวอังกฤษ ขายได้ 8.2 เปอร์เซ็นต์ ด้าน รูนี่ย์ ที่ครองตำแหน่งเบอร์หนึ่งมาหนก่อนได้หล่นมาอยู่ในอันดับ 3 โดยยอดขายในฤดูกาลนี้อยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเมื่อปีก่อน 2.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอันดับ 4 ได้แก่ ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์ ที่ขายได้ 5.8 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกจอมพุ่ง ของ ลิเวอร์พูล ตามมาในอันดับ 5 ด้วยยอดขาย 3.6 เปอร์เซ็นต์ ปิดท้ายด้วยรายงานที่สุดเหลือเชื่อว่าเสื้อของ นิคลาส เบนท์เนอร์ ดาวยิงของทีม อาร์เซน่อล ที่ปัจจุบันย้ายไปเล่นให้ ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวนั้น ยังไม่สามารถขายเสื้อได้แม้แต่ตัวเดียวด้วย นักฟุตบอลในลีกอังกฤษที่ทำยอดขายเสื้อได้มากที่สุด 10 อันดับแรก ของฤดูกาล 2012-13 1. โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ - 25.4 เปอร์เซนต์ 2. สตีเว่น เจอร์ราร์ด - 8.2 เปอร์เซนต์ 3. เวย์น รูนี่ย์ - 6 เปอร์เซนต์ 4. ชินจิ คากาวะ - 5.8 เปอร์เซนต์ 5. หลุยส์ ซัวเรซ - 3.6 เปอร์เซนต์ 6. เอด็อง อาซาร์ - 3.1 เปอร์เซนต์ 7. พอล สโคลส์ - 2.7 เปอร์เซนต์ 8. เฟร์นานโด ตอร์เรส - 2.5 เปอร์เซนต์ 9. เซร์คิโอ อเกวโร่ - 2.2 เปอร์เซนต์ 10. ลูคัส โพโดลสกี้ - 2.1 เปอร์ซนต์ เสื้อนักฟุตบอลที่ขายดีที่สุดของ 5 สโมสรใหญ่ 3 อันดับแรก แมนฯ ยูไนเต็ด: โรบิน ฟาน เพอร์ซี 48% เวย์น รูนี่ย์ 11.4% ชินจิ คางาวะ 11.1% แมนฯ ซิตี้: เซร์คิโอ อเกวโร 24% มาริโอ บาโลเตลลี 13.0% ดาบิด ซิลบา 8.4% เชลซี: เอแด็น อาซาร์ 23.0% เฟร์นานโด ตอร์เรส 18.7% ฆวน มาต้า 14.1% อาร์เซน่อล: ลูคัส โพโดลสกี้ 18.4% แจ็ค วิลเชียร์ 17.6% อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน 11.0% ลิเวอร์พูล: สตีเว่น เจอร์ราร์ด 52.6% หลุยส์ ซัวเรซ 23% แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ 7%   Create Date : 09 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 9 มีนาคม 2556 22:00:40 น.     Counter : 1562 Pageviews.   Share Tweet

สยบข่าวลือ!! เซอร์ อเล็กซ์ ยัน รูนี่ย์ ไม่ย้าย ข่าวฟุตบอล เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกโรงสยบข่าวลือเด็ดขาด ยืนยัน เวย์น รูนี่ย์ จะยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า ภาพประกอบจาก AFP เป็นข่าวลือที่เล่นกันต่อเนื่องหลังจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายคาบ้านต่อ เรอัล มาดริด ร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ว่า รูนี่ย์ กำลังจะโดน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขายทิ้งในราคา 25 ล้านปอนด์ เพียงเพราะดาวยิงตัวแรง ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรอง ล่าสุด "เซอร์ อเล็กซ์" ออกโรงแสดงความชัดเจนถึงเรื่องนี้ว่า "เวย์น จะยังอยู่ที่นี่ในปีหน้า พวกคุณจำคำผมไว้ได้เลย ผมกับ เวย์น รูนี่ย์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน การพูดกันไปเรื่อยว่าเราไม่คุยกันมันไร้สาระมาก" "เขาเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างดี (ในการจัดทีม) ในส่วนของแท็คติกเราทำถูกแล้ว ไม่ใช่ว่าผมจะตัดสินใจถูกทุกครั้ง แต่สำหรับกรณีนี้มันถูกแน่นอน ตัว รูนี่ย์ ไม่มีอะไรค้างคาใจและเขาจะได้ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้ด้วย ความจริง ผมดร็อป ชินจิ คากาวะ หลังจากเขาทำแฮตทริค อันนี้ยังน่าจะเป็นประเด็นมากกว่าอีก" อย่างไรก็ตามบรมกุนซือ "ปิศาจแดง" ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า รูนี่ย์ จะได้ลงเป็นตัวจริงในเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ กับ เชลซี วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม นี้หรือไม่ พร้อมกับยังระบุด้วยว่า ดาวยิงวัย 27 ปียังต้องเรียกความฟิตต่อไปเพื่อกลับมาสมบูรณ์เต็มที่อีกครั้ง "ทำไมผมจะต้องไปแบไต๋ก่อนด้วยล่ะว่าผมจะเลือกทีมยังไง? เราไม่เคยทำแบบนั้นนะ แต่ เวย์น ยังต้องเรียกความฟิตอีก เขาเป็นผู้เล่นแบบนั้นอยู่แล้วเรื่องนี้เป็นมาตลอด" "เฟอร์กี้" กล่าวทิ้งท้าย    Create Date : 08 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 8 มีนาคม 2556 22:42:37 น.     Counter : 1094 Pageviews.   Share Tweet

ยืนยัน พรีเมียร์ลีก ยังได้โควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ทีม แม้ตกรอบเกลี้ยง ข่าวฟุตบอล ยืนยัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงได้โควต้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 4 ที่นั่งในฤดูกาลหน้า แม้ปีนี้ เหล่าตัวแทนจะทำผลงานย่ำแย่ ส่อแววตกรอบเกลี้ยงไม่เหลือถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ภาพประกอบจาก AFP ถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี สำหรับสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ทั้งที่ในฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี เพิ่งจะผงาดคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้สดๆ ร้อนๆ โดย "สิงโตน้ำเงินคราม" กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกเขี่ยร่วงไปเรียบร้อยตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ส่วน "ปิศาจแดง" แมนเชสเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เพิ่งจบเส้นทางลงด้วยน้ำมือของ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เหลือเพียง อาร์เซน่อล ซึ่งก็คาดว่าคงไปไม่ได้ไกลกว่านี้ หลังจากเกมแรกแพ้ บาเยิร์น มิวนิค คาบ้านไปก่อน 1-3 โดยจะลงเล่นนัดที่สองที่ อัลลีอันซ์ อารีน่า ในสัปดาห์หน้า และหากไม่มีอะไรพลิกความคาดหมาย นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่ไม่เหลือตัวแทนจากลีกเมืองผู้ดีเลยในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก สำหรับผลงานที่ย่ำแย่ของทั้ง 4 ทีมย่อมส่งผลต่อโควต้าถ้วยยุโรปในส่วนของทีมสโมสรอังกฤษ เนื่องจากสถิติผลแพ้ชนะและการเข้ารอบในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรป้า ลีก 5 ปีย้อนหลัง จะถูก ยูฟ่า นำไปคิดเป็นค่าสัมประสิทธิ์เพื่อชี้วัดจำนวนโควต้าที่แต่ละชาติจะได้ ทั้งนี้จากอันดับคะแนนสัมประสิทธิ์ล่าสุด ลีกเมืองผู้ดีจะยังคงได้โควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก จำนวน 4 ทีมเท่าเดิมในฤดูกาล 2013-14 แม้จะถูกสเปนเบียดแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 แล้วก็ตาม สเปนซึ่งมีคะแนนสัมประสิทธิ์รั้งอันดับ 1 นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2013 ได้โควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 ทีมเท่ากับ อังกฤษ และ เยอรมนี ที่อยู่อันดับ 3 ส่วนรองลงไปคือ อันดับ 4 อิตาลี, อันดับ 5 ฝรั่งเศส และอันดับ 6 โปรตุเกส คือกลุ่มที่ได้โควต้า 3 ทีม   Create Date : 07 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 7 มีนาคม 2556 22:19:20 น.     Counter : 1327 Pageviews.   Share Tweet

โรนัลโด้ สับสนในใจซัดประตูชัยปลิดชีพ แมนฯ ยูไนเต็ด ข่าวฟุตบอล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอมรับเป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนในใจ ที่แม้จะยิงประตูชัยนำให้ เรอัล มาดริด แต่ก็กลายเป็นการปลิดชีพ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วงตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปพร้อมกัน ภาพประกอบจาก AFP ปีกเวิลด์คลาสทีมชาติโปรตุเกสเป็นฮีโร่ของ เรอัล มาดริด ตามคาด เมื่อเป็นผู้ซัดประตูชัยนำ "ราชันชุดขาว" บุกมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 รวม 2 นัดได้ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนนี้ โรนัลโด้ ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อและแฟนบอลมากที่สุดมาตั้งแต่ก่อนลงสนาม กล่าวว่า "ผมทำหน้าที่ของตัวเอง ช่วยให้ เรอัล มาดริด ชนะ และผมก็พอใจมาก แต่มันก็เป็นความรู้สึกแปลกๆ มันเป็นความรู้สึกเหมือนอยากจะทำอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่อาจทำได้ ผมเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาหลายปี และถ้าวันหนึ่งผมต้องลงเล่นให้ทีมอื่นเจอกับ เรอัล มาดริด แบบนี้ ผมก็ต้องทำแบบเดียวกัน" อย่างไรก็ตาม ดาวเตะวัย 28 ปีย้ำว่าประทับใจและปลาบปลื้มเป็นพิเศษในการกลับมาเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งนี้ โดยเผยว่า "การได้รับการต้อนรับอย่างดีคือสิ่งพิเศษสำหรับผม ได้กลับบ้าน, ได้เจอเพื่อนๆ ในใจผมมีความสุขมากๆ แต่ก็ต้องเสียใจกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย" "ผมไม่ได้ดีใจเกินไปกว่าที่สมควรเพื่อแสดงความเคารพต่อทุกคนที่ดีกับผมมาตลอดที่นี่ แต่ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือชัยชนะและช่วยให้ เรอัล มาดริด เดินหน้าไปสู่แชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 ให้ได้" "เจ็ทโด้" กล่าวทิ้งท้าย   Create Date : 06 มีนาคม 2556     0 comment Last Update : 6 มีนาคม 2556 22:17:57 น.     Counter : 1367 Pageviews.   Share Tweet