รอมานาน! คากาวะ ชูเสื้อผีแล้ว ข่าวฟุตบอล ผี เปิดตัว ชินจิ คากาวะ ดาวเตะญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ หลัง ตรวจร่างกาย และ เวิร์คเพอร์มิต ผ่าน พร้อมเซ็นสัญญายาว 4 ปี  เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศ เปิดตัว ชินจิ คากาวะ ยอดมิดฟิลด์เลือดซามูไร ผ่าน เว็บไซต์ของสโมสร อย่างเป็นทางการ ว่าเขาสามารถ คว้าตัว คากาวะ เข้ามาร่วมทีมอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว หลังผ่านการตรวจร่างกายกับสโมสร และได้รับใบอนุญาตทำงาน (เวิร์ค เพอร์มิต) เป็นที่เรียบร้อย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือรุ่นเดอะ กล่าว "ชินจิ คากาวะ เป็นมิดฟิลด์หนุ่มน่าตื่นตาที่มาพร้อมกับทักษะอันยอดเยี่ยม วิสัยทัศน์และยังหาโอกาสทำประตูได้อีกด้วย"  "ผมดีใจนะที่เขาเลือกมาอยู่กับยูไนเต็ด ผมเชื่อว่าเขาจะมาระเบิดฟอร์มกับทีมได้ในเวลารวดเร็วซึ่งเขาก็เหมาะกับสไตล์ของยูไนเต็ดอยู่แล้ว เราต่างรอร่วมงานกับเขาอยู่"  ด้านเจ้าตัว ชินจิ คากาวะ กล่าวยอมรับว่าอดใจรอที่จะได้สวมเสื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงสนามไม่ไหวแล้ว "นี่เป็นความท้าทายที่ผมมองหาจริงๆนะ พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่ดีที่สุดโลกและ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่มาก นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมและผมก็รอจะพบกับทีมได้ลงเล่นไม่ไหวแล้ว" ชินจิ คากาวะ (Shinji Kagawa) เกิดเมื่อ17 มีนาคม 1989  ปัจจุบัน อายุ 23 ปี ย้ายมากจาก "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และมีส่วนช่วยทีม คว้าแชมป์ บุนเดส ลีกา มาครองได้ 2 สมัยซ้อน โดยซีซั่นทีผ่่านมา คากาวะ ยิงได้ถึง 17 ประตูพร้อมกับทำอีก 13 แอสซิสต์   Create Date : 24 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2555 17:13:10 น.     Counter : 1575 Pageviews.   Share Tweet

วิเคราะห์บอล เยอรมัน พบ กรีซ ข่าวฟุตบอล เป็นการแข่งขันกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง เยอรมัน พบ กรีซ วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูโร 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2555 เยอรมัน - กรีซ เวลา : 01.45 น. ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 อัตราต่อรอง: เยอรมัน ต่อ ลูกควบลูกครึ่ง สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม เยอรมัน ที่ผ่านมา โอซิล ยังไม่สามารถทำประตูให้ทีมได้ในทัวร์นาเม้นต์นี้ แต่ก็เพิ่งใส่พานให้ ลาร์ส เบนเดอร์ ทำประตูได้จากเกมโต้กลับทำให้ทีมชนะเดนมาร์ก 2-1 ในเกมรอบแรกนัดสุดท้าย และในเกมนี้ เลิฟ จะวางให้ โอซิล เล่นเป็นตัวฟรีสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกตำแหน่ง ซึ่งน่าจะทำให้มีส่วนกับเกมมากขึ้น และจะเป็นตัวทีเด็ดคอยทำเกมให้เพื่อนร่วมทีมไม่ว่าจะเป็น มาริโอ โกเมซ, ลูคัส โพโดลสกี้ และโธมัส มุลเลอร์ แนวรับการได้ บัวเต็ง กลับมาก็จะมาประสานเกมรับร่วมกับ ฟิลิปป์ ลาห์ม, มัทส์ ฮุมเมลส์ และ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ แต่บาดสตูเบอร์ ต้องเล่นแบบระมัดระวังเนื่องจากมีใบเหลืองติดตัวอยู่ 1 ใบ และยังไม่มีการล้างใบเหลืองหลังจบรอบแรก แต่จะล้างหลังจากจบรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้ว ดังนั้นหากโดนอีกใบก็จะหมดสิทธิลงเล่นหากเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แดนกลางยังมี ซามี เคดิร่า กับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จะรับบทเป็นกองกลางตัวรับ แต่ก็มีการสลับกันขึ้นทำเกมรุกเช่นกัน สามแนวรุกจากขวาไปซ้ายประกอบด้วย โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล และ ลูคัส โพดอลสกี้ ที่เพิ่งยิงประตูที่ 44 ฉลองการติดทีมชาติครบร้อยนัดตามลำดับ หน้าเป้าใช้ มาริโอ โกเมซ ที่กดไปแล้ว 3 ประตูในทัวร์นาเม้นต์ ลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริงก่อน มิโรสลาฟ โคลเซ่ ดาวยิงจอมเก๋ารองดาวซัลโวตลอดกาลของทีมชาติ กรีซ เฟร์นานโด ซานโตส กุนซือเลือดโปรตุกีส ถือว่ามีปัญหาอย่างมากในเรื่องตัวผู้เล่นไล่ตั้งแต่แนวรับที่จะไม่มี โฮเซ โฮเลบาส แบ็กขวาตัวจริงที่ลงสนามมาใน 2 นัดแรก เนื่องจากติดโทษแบน ซึ่งจะเป็น ซาเวลลาส ที่ได้ลงสนามแทน ขณะที่แดนกลางจะขาดนักเตะคนสำคัญที่ติดโทษแบนเช่นกันอย่าง จอร์จอส คารากูนิส กองกลางกัปตันทีมที่ยิงประตูชัยให้ทีมเอาชนะรัสเซีย ทำให้ทีมผ่านเข้ารอบมาได้ ผู้เล่นที่จะลงสนามมาแทนคือ กริกอริส มากอส ซึ่งจะถนัดในเรื่องเกมรับมากกว่า ทำให้การทำเกมในแดนกลางอาจจะยากลำบากขึ้น แต่ก็จะทำให้แดนกลางเหนียวแน่นขึ้นเช่นกัน ขณะที่แนวรุกจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงยังคงใช้ 3 ประสานอย่าง จอร์จอส ซามาราส, ดิมิทริออส ซัลปินจิดิส และธีโฮฟานิส เกคาส เช่นเคย ภายใต้ระบบ 4-3-3 ตำแหน่งผู้รักษาประตูวางใจใช้ มิชาลิส ซิฟาคิส ยืนเฝ้าเสาต่อไป แม้ คอสตาส ชาลคิอัส นายด่านจอมเก๋าที่มีปัญหาบาดเจ็บสะโพกจะฟิตกลับคืนทัพแล้ว การจัดทัพตำแหน่งอื่นยึดชุดเดิมจากเกมปราบ รัสเซีย ต่อไป แบ็กขวาซ้ายให้ วาซิลิส โตโรซิดิส กับ จอร์จอส ซาเวลลาส ประจำการตามลำดับ มิดฟิลด์คู่กลางให้ คอตตาส คัตซูรานิส ที่จะสวมปลอกแขนกัปตันทีมแทน คารากูนิสจับคู่ จานนิส มาเนียติส แนวรุกมี ดิมิตริส ซัลปินกิดิส และ จอร์จอส ซามาราส ถ่างออกมายืนริมเส้นขวาซ้ายตามลำดับ หน้าเป้าเป็น ธีโอฟานิส เกคัส ความน่าจะเป็นในเกมนี้ คู่นี้เคยเจอกันมา 2 ครั้ง เมื่อกว่า 11 ปีที่แล้วในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งเยอรมันชนะทั้ง 2 นัด แต่ในเกมแบบนี้ไม่มีใครอยากพลาด เพราะถ้าแพ้ก็ตกรอบเลย เทียบฟอร์ม 3 นัดที่ผ่านมา อินทรีเหล็กมีเกมบุกที่วูบวาบกว่า แถมเกมรับก็พลาดยาก น่าจะบดเอาชนะไปได้ตามคาด ฟันธง: เยอรมัน ชนะ 2-0 รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม เยอรมัน (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - เยโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม - ซามี่ เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, ลูคัส โพดอลสกี้ - มาริโอ โกเมซ กรีซ : (4-3-3) : มิชาลิส ซิฟาคิส - วาซิลิส โตโรซิดิส, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส, คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส จอร์จอส ซาเวลลาส - คอตตาส คัตซูรานิส, จานนิส มาเนียติส, กริกอริส มากอส - ดิมิตริส ซัลปินกิดิส, จอร์จอส ซามาราส, ธีโอฟานิส เกคัส   Create Date : 22 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 22 มิถุนายน 2555 20:42:21 น.     Counter : 1560 Pageviews.   Share Tweet

โรซิชกี้เย้ยเจ็ทโด้เก่งแต่เกมรุกรับห่วย ข่าวฟุตบอล โทมัส โรซิชกี้ มอง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับ ว่าเป็นนักเตะที่ทำเกมรุกได้ดี แต่ไม่ประสงค์จะช่วยเพื่อนเล่นเกมรับเท่าใดนัก ภาพประกอบจาก AFP picture โทมัส โรซิชกี้ เพลย์เมกเกอร์ ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ออกมากล่าวเชิงเสียดสีทางด้าน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมถล่มประตู ของทีมชาติ โปรตุเกส ว่าเป็นนักเตะที่เล่นเกมรุกได้สุดยอดมาก แต่สำหรับเกมรับแล้วไม่เคยคิดที่จะลงมาช่วยเพื่อนร่วมทีม ซึ่งทำให้ตนเองไม่แน่ใจว่า การที่บรรดาสื่อกีฬายกให้ โรนัลโด้ เป็นนักเตะดีที่สุดในโลก สมดั่งคำร่ำลือจริงหรือเปล่า "เขาเป็นนักเตะที่เล่นเกมรุกได้ดี แต่เขาไม่ค่อยอยากจะเล่นเกมรับ" โรซิชกี้ กล่าวเปิดใจ "บางครั้งคุณอาจจะเก่งโคตรๆ และไม่จำเป็นจะต้องช่วยเหลืออะไรในเกมรับขอแค่คุณทำประตู" "แต่เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกหรือเปล่า? ผมไม่รู้ว่าเขาคู่ควรกับคำนั้นหรอกนะ" "ผู้คนพากันพูดว่าโปรตุเกสเป็นตัวเต็งแต่คุณใช้วิธีไหนจดจำทีมใหญ่กันล่ะ" "โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกเหนือจากนั้น ทุกๆ ทีมเป็นทีมที่แข็งแกร่งและมันเป็นรายละเอียดยิบย่อยที่จะตัดสินว่าใครเป็นผู้ชนะ" "มันไม่ได้มีเพียงแค่ว่าทีมใหญ่ๆ 5 ทีมและนอกจากนั้นก็เป็นทีมที่เหลือ นี่จะเป็นเกมการแข่งขันที่ยากที่สุดในฟุตบอลยูโรของพวกเรา แต่พวกเรารู้สึกว่าเรามีโอกาสในการผ่านเข้ารอบแม้จะต้องเจอกับโปรตุเกส"   Create Date : 21 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 21 มิถุนายน 2555 20:43:35 น.     Counter : 1494 Pageviews.   Share Tweet

อังกฤษ-ยูเครน : สื่อผู้ดีรับ สิงโต มีดวงบอลเข้าแล้วไม่เสียประตู ข่าวฟุตบอล หนังสือพิมพ์ดังเมืองผู้ดีอย่าง "เดอะซัน" ตีข่าวยอมรับ "สิงโตคำราม" อังกฤษ มีโชคเข้าข้างในการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโร 2012 หลังจากถูกยูเครนส่งบอลผ่านข้ามเส้นไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู ภาพประกอบจาก AFP picture, news.bbcimg.co.uk ศึก ยูโร 2012 รอบแรก กลุ่มดี นัดสุดท้ายระหว่าง อังกฤษ กับ ยูเครน เมื่อคืนนี้จบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ของ "สิงโตคำราม" ซึ่งทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน กลายเป็นทีมที่เข้ารอบด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่มแบบเหนือความคาดหมายเล็กๆ ทว่าในเกมนี้มีเหตุการณ์ปัญหาเกิดขึ้น ในจังหวะที่ จอห์น เทอร์รี่ สกัดลูกยิงของ มาร์โก้ เดวิช ออกจากเส้นปากประตูในลักษณะก้ำกึ่ง โดยที่ผู้ตัดสินที่ 5 ซึ่งยืนทำหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ยืนยันว่าลูกนี้ไม่เป็นประตู อย่างไรก็ตาม ภาพจากกล้องโทรทัศน์ได้แสดงให้เห็นว่าในจังหวะนี้ ลูกบอลได้ข้ามเส้นไปแล้วทั้งลูกก่อนที่ เทอร์รี่ จะเตะทิ้งออกมาได้ และนั่นหมายความว่าเป็นความโชคร้ายของ ยูเครน อย่างแท้จริง เพราะหากลูกนี้เป็นประตูทีม "เจ้าภาพ" จะสามารถตีตื้นเป็น 1-1 และมีโอกาสสู้ต่อไปเพื่อยิงแซงชนะ 2-1 ได้เป็นฝ่ายเข้ารอบ ลูกปัญหาที่เกิดขึ้นคราวนี้ ดูจะเป็นการหักหน้า มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ไม่น้อยด้วย เพราะก่อนหน้านี้วันเดียว "นโปเลียนลูกหนัง" เพิ่งออกมาแสดงความพออกพอใจกับมาตรการการใช้ผู้ตัดสินที่ 5 มาทำหน้าที่ช่วยตัดสินเกมทางด้านหลังประตูทั้งสองฝั่ง ว่าสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทว่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ก็ชี้ให้เห็นอีกครั้งว่า การเพิ่มผู้ตัดสินขึ้นมาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในควบคุมเกมได้ แต่ถึงจุดหนึ่งการทำหน้าที่ของคนก็มีข้อจำกัดอยู่ดี และคงเลี่ยงไม่ได้ที่กรณีของการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะถูกขุดขึ้นมาถกเถียงกันอีกครั้ง   Create Date : 20 มิถุนายน 2555     1 comment Last Update : 20 มิถุนายน 2555 20:56:30 น.     Counter : 1468 Pageviews.   Share Tweet

เกร็ดข้อมูลน่ารู้ น่าสนใจเกี่ยวกับฟุตบอลยูโร 2012 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ภาพประกอบจาก AFP picture หลังจากศึกฟุตบอลยูโร 2012 ได้ระเบิดความมันส์ให้คอบอลได้ติดตามชมไปหลายนัดแล้ว ปรากฏว่ามีผลการแข่งขันพลิกล็อคกันไปหลายคู่เหมือนกัน และตอนนี้เกมการแข่งขันก็ยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันยูโร มาให้แฟน ๆ ได้อ่าน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมฟุตบอลให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่า    ทีมชาติเยอรมัน คือ ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร เพราะสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 สมัย ได้แก่ ปี 1972, ปี 1980 (ขณะนั้นยังเป็นทีมชาติเยอรมันตะวันตกอยู่) และในปี 1996 นอกจากนี้ยังผ่านเข้าไปถึงรอบชิงได้อีกถึง 3 ครั้ง ในปี 1976, 1992 และ 2008 ส่วนทีมที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า 1 สมัย มีเพียงทีมชาติสเปน (ปี 1964, 2008) และทีมชาติฝรั่งเศส (ปี 1964, 2008)    มีเพียง 3 ประเทศเท่านั้น ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ในบ้านของตัวเอง ได้แก่ ทีมชาติสเปน (ปี 1964), อิตาลี (ปี 1968) และฝรั่งเศส (ปี 1984)    แบร์ตี้ โฟกส์ คือ บุคคลเดียวในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าแชมป์ยูโรได้ทั้งในฐานะผู้เล่น และโค้ช โดยเขาได้แชมป์ในฐานะผู้เล่นทีมชาติเยอรมันตะวันตกในปี 1972 และในตำแหน่งโค้ชก็พาทีมคว้าแชมป์ได้ในปี 1996    ไม่มีชาติใดที่สามารถป้องกันแชมป์ได้เลย นับตั้งแต่จัดการแข่งขันมา เช่น ทีมชาติสหภาพโซเวียต ได้แชมป์ในปี 1960 และในปี 1964 ได้เข้าชิงแต่พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติสเปนไป นอกจากยังมีทีมชาติเยอรมันตะวันตกที่คว้าแชมป์ได้ในปี 1972 แต่พลาดท่าในนัดชิงให้กับเช็กโกสโลวาเกียไปเช่นกัน    ไม่มีผู้เล่นคนไหนคว้าเหรียญชนะเลิศได้ 2 ครั้ง ไรเนอร์ โบนโฮฟ จะอยู่ในชุดที่เยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์ได้ในปี 1972 และ 1980 แต่แชมป์ครั้งหลังเขาไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดทัวร์นาเมนท์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ    ทัพอินทรีเหล็ก เป็นชาติที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันยูโรรอบสุดท้ายได้ติดต่อกันมากที่สุดถึง 11 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาตกรอบคัดเลือกไป ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1968 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นทีมชาติเยอรมันตะวันตก รองลงมาเป็นทีมชาติฮอลแลนด์ทำได้ 7 ครั้งติดต่อกัน    ทีมชาติเยอรมัน เป็นชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้สูงสุดทั้งหมด 11 ครั้ง รองลงมาคือ ทีมชาติรัสเซีย 10 ครั้ง ส่วนฮอลแลนด์และสเปน 9 ครั้ง (ที่กล่าวมาคือรวมครั้งนี้ด้วย)    การแข่งขันนัดที่มีการทำประตูกันอย่างถล่มทลายมากที่สุดเกิดขึ้นในศึกยูโร 2000 รอบก่อนรองชนะเลิศระหว่าง ทีมชาติฮอลแลนด์กับยูโกสลาเวีย โดยทีมอัศวินสีส้มจัดการอัดยูโกสลาเวียไปด้วยสกอร์ 6 - 1    มีอยู่ 4 ชาติที่สามารถทำสถิติชนะรวดในเกมการแข่งขันรอบคัดเลือกของยูโร ได้แก่ สเปนและเยอรมัน (ปี 2012), ฝรั่งเศส (ปี 1992, 2004) และ สาธารณรัฐเช็ก (ปี 2000)    สเปน เป็นแชมป์เก่าในยูโรครั้งที่แล้ว (ปี 2008) และเจ้าของแชมป์โลกครั้งล่าสุด (ปี 2010) ซึ่งนับว่าเป็นชาติที่สามในประวัติศาสตรที่ครองสองตำแหน่งพร้อมกัน ก่อนจะเดินทางมาป้องกันรายการใหญ่อีกครั้ง เหมือนที่เยอรมันตะวันตกเคยเป็นแชมป์ยูโร 1972 และแชมป์โลกปี 1974 ส่วนอีกทีมหนึ่งคือ ฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกปี 1998 และแชมป์ยูโร 2000 แต่ไม่มีทีมใดที่สามารถครองแชมป์รายการใหญ่ได้ 3 รายการรวด    มีนักเตะทั้งหมด 15 คน ที่มีชื่ออยู่ในทีมชุดดังกล่าวที่เป็นแชมป์ทั้ง 2 รายการ สำหรับเยอรมันตะวันตกได้แก่ เซปป์ ไมเออร์, ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์, ฮันส์ - จอร์จ ชวาร์เซนเบ็ค, พอล ไบร์ทเนอร์, อูลี่ เฮอเนส, แกรด มุลเลอร์ ส่วนฝรั่งเศสมี ฟาเบียน บาร์เตซ, มาร์แซล เดอไซยี่, บิเซนเต้ ลิซาราซู, ลิลิยง ตูราม, ดิดิเย่ร์ เดชองส์, ยูริ จอร์เกฟ, ปาทริค วิเอร่า, ซีเนอดีน ซีดาน และคริสตอฟ ดูการ์รี่    อีเกร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, การ์เลส ปูโยล, โจน คัปเดบีย่า, อันเดรส อีเนียสต้า, ชาบี้ เฮอร์นันเดซ, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี้ อลอนโซ่ และ เฟร์นันโด ตอร์เรส เป็นนักเตะทีมชาติสเปนที่อยู่ในชุดแชมป์ยูโรปี 2008 และแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010    โลธ่าร์ มัทเธอุส เป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ได้ลงเล่นในยูโร โดยได้เล่นในนัดที่ทีมชาติเยอรมันของเขา ต้องปราชัยให้กับทีมชาติโปรตุเกสไปด้วยสกอร์ 3 - 0 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุได้ 39 ปี 91 วัน    อิวิก้า วาสติซ ผู้เล่นทีมชาติออสเตรีย คือ นักเตะอายุมากที่สุดที่ยิงประตูได้ในยูโร โดยเขายิงประตูให้ทีมในนัดที่เสมอกับทีมชาติโปแลนด์ไปด้วยสกอร์ 1 - 1 ในยูโร 2008 ด้วยวัย 38 ปี 257 วัน    โยฮัน ฟอนลันเตน นักเตะของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในการแข่งขันยูโรรอบสุดท้าย โดยเขายิงประตูให้ทีมในนัดที่พ่ายแพ้ต่อทีมชาติฝรั่งเศสไป 1 - 3 ในยูโร 2004 ในขณะที่อายุได้ 18 ปี 141 วัน คอสตาส ชาลคิอัส - เจโทร วิลเล่มส์    คอสตาส ชาลคิอัส ผู้รักษาประตูทีมชาติกรีซ คือ ผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในยูโร 2012 ด้วยวัย 37 ปี ขณะที่ เจโทร วิลเล่มส์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดคนล่าสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวัย 18 ปี 71 วัน    ทีมชาติอิตาลี, ไอร์แลนด์, รัสเซีย และ สวีเดน มีนักเตะอายุเฉลี่ยมากที่สุด คือ 28 ปี ส่วนทีมชาติเยอรมันมีนักเตะอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 24 ปี ในการแข่งขันยูโรครั้งนี้    มีผู้เล่นเพียง 5 คน ที่ได้ลงเล่นรอบสุดท้ายในทัวร์นาเมนท์ยูโรถึง 4 ครั้ง ได้แก่ โลธ่าร์ มัทเธอุส, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ และลิลิยง ตูราม    ดิมิทริ คิริเชนโก้ นักเตะทีมชาติรัสเซีย คือ คนที่ยิงประตูได้เร็วที่สุดในยูโร โดยเป็นนัดที่ทีมของเขาพบกับทีมชาติกรีซในยูโร 2004 ซึ่งเขาใช้เวลาเพียง 67 วินาที หลังกรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน ก็ระเบิดสกอร์ได้สำเร็จ    ทีมชาติฮอลแลนด์ คือ ทีมที่ผลิตสกอร์ในรอบคัดเลือกยูโร 2012 ได้มากที่สุดถึง 37 ประตู ขณะที่ทีมชาตกรีซยิงได้น้อยสุดเพียง 14 ประตูเท่านั้น แถม 6 ประตู ในจำนวนดังกล่าว มาจากฝีเท้าของกองหลังอีกด้วย    คลาส - แยน ฮุนเตลาร์ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ คือ คนที่เบิกสกอร์ได้มากที่สุดในรอบคัดเลือกยูโร 2012 โดยยิงไปทั้งหมด 12 ประตู ส่วนอันดับที่ 2 ตกเป็นของมิโลสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกทีมอินทรีเหล็ก ซึ่งยิงไปทั้งหมด 9 ประตู    มีโค้ชอยู่ 3 คน ในยูโร 2012 ซึ่งไม่ได้เกิดในประเทศที่ตัวเองคุมทีมอยู่ ได้แก่ เฟอร์นันโด ซานโตส (ชาวโปรตุเกส) คุมทีมชาติกรีซ, ดิ๊ค แอทโวคาท (ชาวฮอลแลนด์) คุมทีมชาติรัสเซีย และโจวานนี่ ตราปัตโตนี่ (ชาวอิตาลี) คุมทีมชาติไอร์แลนด์ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ - เปาโล เบนโต้    โค้ชที่มีอายุมากสุดในยุโร 2012 คือ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ วัย 73 ปี ส่วนโค้ชที่อายุน้อยสุด คือ เปาโล เบนโต้ วัย 42 ปี    ยูโร 2012 จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้ายทั้งหมด 16 ชาติ และตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปที่ประเทศฝรั่งเศสรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ รอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายเพิ่มเข้ามาเป็นทั้งหมด 24 ชาติ    โปรตุเกส คือ ทีมเจ้าภาพชาติเดียวที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อพลิกล็อคพ่ายให้กับทีมชาติกรีซไป 1 - 0 ในยูโร 2004    การแข่งขันฟุตบอลยูโรที่มีคนดูเดินทางมาชมถึงขอบสนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ได้แก่ แมตช์รอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติอังกฤษพบทีมชาติสก็อตแลนด์ ที่สนามแฮมป์เดน พาร์ค ในยูโร 1968 ซึ่งมีแฟน ๆ หลั่งไหลมาชมเกมราว 130,711 คนเลยทีเดียว ซึ่งผลการแข่งขันจบลงที่สกอร์ 1 - 1    ดาบิด บีย่า กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ยูโรคราวนี้ไม่ได้เดินทางมากับทีมด้วย เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ เป็นนักเตะคนที่ 7 ที่ซัดแฮททริคได้ในทัวร์นาเมนท์ยูโร ต่อจากแพททริค ไคเวิร์ต, เซอร์จิโอ คอนไซเซา, มาร์โก ฟาน บาสเท่น, มิเชล พลาตินี่, เคล้าส์ อัลลอฟส์ และดีเตอร์ มุลเลอร์    อีเกร์ กาซิยาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน เป็นผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุดในยูโร 2012 โดยรับใช้ชาติมาแล้วถึง 129 นัด    โปแลนด์ คือ ชาติที่มีอันดับโลกต่ำที่สุด (อันดับ 65) ที่เข้าร่วมแข่งขันในศึกยูโร 2012    ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ คือ ผู้ตัดสินเพียงคนเดียวในยูโร 2012 ที่เคยมีประสบการณ์ในการตัดสินเกมในรายการนี้มาก่อน หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลที่เรานำมาฝากกันไปพอหอมปากหอมคอกันเรียบร้อยแล้ว คงทำให้หลาย ๆ คนได้รู้เรื่องราวที่น่าสนใจของยูโร 2012 กันไปไม่มากก็น้อย ยังไงก็แล้ว ขอให้ทุกคนดูบอลกันให้สนุก และอยู่ห่างการพนันกันไว้นะครับ   Create Date : 18 มิถุนายน 2555     0 comment Last Update : 18 มิถุนายน 2555 21:11:23 น.     Counter : 1904 Pageviews.   Share Tweet