"หงส์" คอตกเจ๊า 2-2 ชปล. "ปืน" เข้ารอบ แลมเบิร์ต โหม่งตีเสมอแต่ก็พลาดเก็บชัย คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น สเตอร์ลิง จี๊ดจ๊าดทั้งเกม ซาโนโก ยิงให้ปืนนำก่อนคว้าชัย ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ชวดเก็บ 3 แต้มแบบน่าผิดหวัง หลังบุกไปพลาดโดน ลูโดโกเร็ตส์ ตีเสมอท้ายเกม 2-2 ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่ยังมีลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ด้าน อาร์เซนอล ชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 เข้ารอบเรียบร้อย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก        ลูโดโกเร็ตส์ 2-2 ลิเวอร์พูล        ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เกมที่ 5 ของกลุ่มบี ลิเวอร์พูล ทีมดังจากเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อันดับ 3 มี 3 แต้ม บุกเยือนถิ่น วาซิล เลฟสกี ของ ลูโดโกเร็ตส์ บ๊วยของกลุ่มที่มี 3 แต้มเท่ากัน เกมนี้ ทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไม่มีชื่อ มาริโอ บาโลเตลลี ศูนย์หน้าอิตาลีที่บาดเจ็บ ทำให้ ริคกี แลมเบิร์ต หอกจอมเก๋าต้องลงแทน        เริ่มเกมแค่ 2 นาที ลูโดโกเร็ตส์ กระตุกปีก "หงส์แดง" ยิงขึ้นนำก่อน 1-0 มาร์เซลินโญ ยิงติดเซฟจังหวะแรกแต่ ซิมง มิโญเลต์ รับซองแตกแล้วเป็น ดานี อบาโล ซ้ำตุงตาข่าย แต่ไม่ทันไร นาที 7 ลิเวอร์พูล ตีเสมอทันควัน ริคกี แลมเบิร์ต วิ่งหนีแนวรับขึ้นมาโหม่งบอลย้อยเข้าประตู 1-1        รูปเกมเจ้าบ้านทำดีกว่า แต่ยังจบไม่ได้ ด้าน ลิเวอร์พูล นาที 28 เกือบพลิกขึ้นนำ ราฮีม สเตอร์ลิง แย่งบอลจากคู่แข่งแล้วลากมาซัดเองแต่ข้ามคาน ถัดมา นาที 33 ลูโดโกเร็ตส์ ได้ลุ้นเสียว ฟาบิโอ เอสปินโญ ปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงแต่บอลตกพื้นเข้าซองของ ซิมง มิโญเลต์ รับง่ายๆ        ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันขึ้นมาจนกระทั่ง นาที 36 ก็แซงนำ 2-1 ราฮีม สเตอร์ลิง วางบอลข้ามฝั่งมาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ชาร์จตุงตาข่าย ขณะที่ ลูโดโกเร็ตส์ พยายามทำเกมแต่ยังเจาะพื้นที่สุดท้ายทีมเยือนไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำไปก่อน        ครึ่งหลังกลับมาไม่ค่อยมีจังหวะเข้าทำมากนัก นาที 60 ลูโดโกเร็ตส์ ได้ฟรีคิกจากจุดเยื้องไปทางซ้าย ฟาบิโอ เอสปินโญ ซัดข้ามกำแพงไปแล้วแต่ก็ไม่เข้าเป้า ส่วน ลิเวอร์พูล นาที 70 ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากครึ่งสนามก่อนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รับช่วงต่อแล้วยิงทันทีแต่บอลโดนปัดออกไป        ลูโดโกเร็ตส์ เกือบตีเสมอได้ นาที 81 ชูลิโอ อเซเวโด กองหน้าสำรอง พลิกบอลแล้วยิงไปที่เสาแรกแต่บอลหลุดออกหลัง แต่ก่อนหมดเวลา นาที 87 "หงส์แดง" โดนตีเสมอจากลูกเตะมุม เซโตสลาฟ ดิยาคอฟ โหม่งเช็ดให้ จอร์จี เตอร์เซียฟ โขกซ้ำไม่พลาด และเกมก็จบลงที่ผลเสมอ 2-2        จากผลการแข่งขันทำให้ ลิเวอร์พูล และ ลูโดโกเร็ตส์ มี 4 แต้มเท่ากัน ดังนั้นเกมสุดท้ายที่เปิด แอนฟิลด์ วันที่ 9 ธันวาคม ต้องเอาชนะ บาเซิล ให้ได้สถานเดียว แล้วไปลุ้นให้ รีล มาดริด ที่ชนะ บาเซิล 1-0 เก็บชัยเหนือ ลูโดโกเร็ตส์ เพื่อจะได้เข้าสู่รอบน็อคเอาท์        ส่วนเกมอีกคู่ที่เตะเวลาเดียวกัน อาร์เซนอล อีกหนึ่งตัวแทนจาก อังกฤษ เก็บ 3 แต้มสำคัญได้หลังเปิดบ้านเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยอดทีมจาก บุนเดสลีกา เยอรมนี 2-0 จาก ยายา ซาโนโก นาที 2 และ อเล็กซิส ซานเชซ นาที 57 ทำให้ "ปืนโต" เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม เข้ารอบแน่นอนแล้ว ส่วน "เสือเหลือง" มี 12 แต้ม เป็นจ่าฝูงกลุ่มดี เหลือเกมให้เล่นอีก 1 นัด รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ลูโดโกเร็ตส์ - วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ, ยอร์แดน มิเนฟ, คอสมิน โมตี, จอร์จี เตอร์เซียฟ, จูเนียร์ ไคซารา, มิเฮล อิวานอฟ, ฟาบิโอ เอสปินโญ, เซโตสลาฟ ดิยาคอฟ, มาร์เซลินโญ, เวอร์จิล มิซิดัน, ดานี อบาโล ลิเวอร์พูล - ซิมง มิโญเลต์, กเล็น จอห์นสัน, โคโล ตูเร, ชาบี มานกีโญ, มาร์ติน สเคอร์เทล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลูคัส เลวา, โจ อัลเลน, ราฮีม สเตอร์ลิง, ริคกี แลมเบิร์ต ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557        เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 1-0 เบนฟิกา        [1-0 ดาเนียล มิเกล อัลเวส น.79]        แอตเลติโก มาดริด 4-0 โอลิมเปียกอส        [1-0 ราอูล การ์เซีย น.9, 2-0 มาริโอ มานต์ซูคิช น.38, 3-0 มาริโอ มานต์ซูคิช น.62, 4-0 มาริโอ มานต์ซูคิช น.65]        มัลโม 0-2 ยูเวนตุส        [0-1 เฟร์นานโด ยอเรนเต น.49, 0-2 คาร์ลอส เตเบซ น.88]        ลูโดโกเร็ตส์ 2-2 ลิเวอร์พูล        [1-0 ดานี อบาโล น.3, 1-1 ริคกี แลมเบิร์ต น.8, 1-2 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.37, 2-2 จอร์จี เตอร์เซียฟ น.88]        บาเซิล 0-1 รีล มาดริด        [0-1 คริสเตียโน โรนัลโด น.35]        ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 0-1 โมนาโก        [0-1 ลูคัส โอคัมโปส น.72]        อันเดอร์เลทช์ 2-0 กาลาตาซาราย        [1-0 ชานเซล เอ็มเบ็มบา น.44, 2-0 ชานเซล เอ็มเบ็มบา น.86]        อาร์เซนอล 2-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์        [1-0 ยายา ซาโนโก น.2, 2-0 อเล็กซิส ซานเชซ น.57]   Create Date : 27 พฤศจิกายน 2557     0 comment Last Update : 27 พฤศจิกายน 2557 8:23:22 น.     Counter : 941 Pageviews.   Share Tweet

เมีย “เคราช์” เซ็กซีกระชากใจ ถ่ายแบบบิกินีธีม “สาวบอนด์” หุ่นเป๊ะของคุณแม่ลูกหนึ่งวัย 28 ปี        แอ็บบีย์ ศรีภรรยาของ ปีเตอร์ เคราช์ ดาวยิงก้านยาวของ สโต๊ก ซิตี แห่งศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ทำเอาชายหาด ดูไบ ทวีความร้อน เมื่อโพสต์ท่าถ่ายแบบสุดเซ็กซี่คอนเซ็ปต์ “บอนด์ เกิร์ส” โดยอยู่ภายใต้บิกินีหนังสีดำ แต่ท่อนบนเพิ่มลูกเล่นให้เห็นร่องอกด้วยซิปที่สามารถรูดลงมาได้ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี         แม้ว่าจะวัย 28 ปีรวมถึงมีทายาทให้กับ เคราช์ แล้วเป็นลูกสาว 1 คน แต่รูปร่างของ แอ็บบีย์ ยังเป๊ะเว่อร์เหมือนหุ่นแกะสลักที่แล้วแต่ช่างจะบันดาลออกมาให้เป็นแบบไหน ซึ่งด้วยบทสายลับที่มีแว่นดำน้ำประกอบ ทำให้ถูกนำไปเทียบกับ เออร์ซูลา อันเดรส สาวบอนด์ ที่โด่งดังช่วงทศวรรษ 60 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แอ็บบีย์ สลัดผ้าครั้งใดไม่เคยทำให้ผิดหวัง ถูกนำไปเทียบกับ "สาวบอนด์" ในอดีต   Create Date : 25 พฤศจิกายน 2557     0 comment Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 17:10:54 น.     Counter : 1735 Pageviews.   Share Tweet

สื่อชิลีแฉ "อเล็กซิส" ติดเซ็กซ์จนฟอร์มห่วยนัดพ่ายผี "อเล็กซิส" กับ ลาลา กราสซี        อเล็กซิส ซานเชซ เพลย์เมกเกอร์ของ อาร์เซนอล ถูกสื่อระเทศชิลีแฉ กรณีไม่สามารถงัดฟอร์มเก่ง เกมพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากหักโหมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาวมากเกินไป         กองหน้ากึ่งปีกชาวชิลี ซึ่งถูกกระชากตัวจาก บาร์เซโลนา มหาอำนาจลูกหนังประเทศสเปน ช่วงเปิดตลาดนักเตะฤดูร้อนที่ผ่านมา ผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ก่อนถูก พลพรรค "ปิศาจแดง" ยัดเยียดความปราชัยเกมแรก ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดกันว่าสาเหตุน่าจะมาจากการร่วมกิจกรรมในห้องนอน         "ลา คูอาร์ตา" หนังสือพิมพ์ในบ้านเกิด ตีข่าว อดีตนักเตะ อูดิเนเซ และ บาร์เซโลนา ออกอาการเหนื่อยล้า หลังการรับใช้ทีมชาติ ชิลี ฟาดแข้งเกมกระชับมิตรกับ เวเนซูเอลา และ อุรุกวัย วันที่ 14 และ 18 พฤศจิกายน แถมยังติดภารกิจปรนเปรอความสุขแก่ ลาลา กราสซี เมื่อกลับถึงบ้าน ทำเอา เจ้าตัว ดูท่าทีอิดโรย ยามเผชิญหน้า ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล         ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ยังมีโปรแกรมฟาดแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน โดยต้องการ 3 แต้ม เพื่อการันตีตั๋วสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แน่นอนว่า อาร์แซน เวนเกอร์ บิ๊กบอสชาวฝรั่งเศส ต้องหวัง จอมกระชากวัย 25 ปี พักผ่อนอย่างเต็มที่ ภายใน 2-3 วัน   Create Date : 24 พฤศจิกายน 2557     0 comment Last Update : 24 พฤศจิกายน 2557 21:48:10 น.     Counter : 1041 Pageviews.   Share Tweet

“เวนเกอร์” โอดปืนไม่คม ทำสตาร์ทแย่สุดรอบ 32 ปี "เวนเกอร์" พาปืนสตาร์ทแย่สุดรอบ 32 ปี        อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซนอล โอดครวญลูกทีมใช้โอกาสเปลือง ทั้งที่รูปเกมเหนือกว่า ก่อนพ่ายคาบ้านแก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ในศึก พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำสถิติออกสตาร์ทแย่สุด นับตั้งแต่ปี 1982        การสกัดเข้าประตูตัวเองของ คีแรน กิบบ์ส แบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษ และการปิดสกอร์อันเหนือชั้นของ เวย์น รูนีย์ กัปตันทีม ส่ง ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบ 2-0 ก่อน “เดอะ กันเนอร์ส” จุดประกายความหวังท้ายเกม หลัง โอลิวิเยร์ ชีรูด์ ซัดตีตื้น และปิดฉากการแข่งขันด้วยเสียงโห่จากแฟนๆ รอบสนาม เอมิเรตส์ สเตเดียม        ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน หล่นอันดับ 8 ของตาราง ถูก เชลซี อริร่วมเมือง และจ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก ทิ้งห่าง 15 แต้ม นับเป็นช่วงเปิดซีซันเลวร้ายสุด ในรอบ 32 ปี อย่างไรก็ตาม บิ๊กบอสวัย 65 ปี ยังมองโลกแง่ดี และตำหนิขุนพล “ปืนใหญ่” ซึ่งทิ้งโอกาสทองหลายครั้งช่วงครึ่งแรก        อดีตเทรนเนอร์ โมนาโก และ นาโกยา แกรมปัส เอจท์ กล่าว “มันเป็นที่อยู่ในมือเรา 80 เปอร์เซ็นต์ เราไม่ได้เล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยผลงานเหมือนกับวันนี้บ่อยนัก แต่เราไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในแนวรุก และก่อความผิดพลาดในเกมรับ ผู้รักษาประตูของเขา (ดาบิด เด เคอา) สมควรเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เรามีโอกาสมากมายที่จะปิดเกม แต่ก็ทำไม่สำเร็จ”        “เมื่อเราตกเป็นรอง 0-1 เราครองบอลมากกว่า เราพลาดโอกาส แต่คุณต้องมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ สำหรับการลงเล่น บิ๊กแมตช์ เราผิดหวังมาก มีสิ่งที่ไม่สอดคล้องกัน ระหว่างการครองบอล, โอกาสทำประต และผลการแข่งขันของเรา” เวนเกอร์ ทิ้งท้าย   Create Date : 23 พฤศจิกายน 2557     0 comment Last Update : 23 พฤศจิกายน 2557 11:34:55 น.     Counter : 849 Pageviews.   Share Tweet

5 ปัจจัยชี้ขาด บิ๊กแมตช์ “ปืน-ผี” คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น "อเล็กซิส-เวลเบ็ค" 2 แข้งใหม่ฟอร์มแรง "ดิ มาเรีย" โดดเด่นหากมาปั้นเกมตรงกลาง "ฟาน กัล" จะมาแผนไหน "วิลเชียร์" โดดเด่นเกมพบคู่ปรับ "ผี" "อาร์วีพี" สิ้นเขี้ยวเล็บแล้วหรือ เจมี เรดแนปป์ อดีตมิดฟิลด์รูปหล่อ ซึ่งปัจจุบันหันมาสวมบทคอลัมนิสต์ของ “เดลี เมล” สื่อหัวดังแห่งเกาะอังกฤษ วิเคราะห์วิจารณ์ปัจจัยชี้ขาด ศึก พรีเมียร์ ลีก คู่บิ๊กแมตช์ ระหว่าง อาร์เซนอล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ประจำคืนวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถก่อความผิดพลาด โดยเฉพาะแนวรับ ซึ่งอาจถูกแนวรุกระดับพระกาฬอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ แดนนี เวลเบ็ค หรือ เวย์น รูนีย์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี เล่นงานจนอาจทำเอากองเชียร์ของตัวเองน้ำตาตกเอาได้ง่ายๆ 1. อเล็กซิส-เวลเบ็ค กับ เกมรับปวกเปียกของ ยูไนเต็ด        “ปิศาจแดง” ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บมากมาย และไม่ค่อยลงทุนกับนักเตะแนวรับเท่าไร ขณะเดียวกัน 2 แข้งป้ายแดงของ “เดอะ กันเนอร์ส” กำลังฟอร์มแรง โดยเฉพาะ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ซัดไปแล้ว 10 ประตู แถมไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่น่ากังวล คือ จอมเลื้อยวัย 25 ปี จะฟื้นตัวจากการรับใช้ ชิลี เตะเกมอุ่นเครื่องกับ เวเนซูเอลา และ อุรุกวัย หรือไม่ หลังเพิ่งกลับเข้าแคมป์เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พ.ย. ส่วน แดนนี เวลเบ็ค ต้องลุ้นความฟิต หลังเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงจากการลงเล่นให้ อังกฤษ อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่ง ที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อหน้า หลุยส์ ฟาน กัล เทรนเนอร์จอมเฮี้ยบชาวดัตช์ ที่มองข้ามฝีเท้าของตน 2. ดิ มาเรีย ปะทะ เชมเบอร์ส        แหล่งข่าวจากสนามซ้อม อาร์เซนอล เผยว่า อาร์แซน เวนเกอร์ หมายตา คาลัม เชมเบอร์ส เป็นมิดฟิลด์ตัวรับ นอกเหนือจากกองหลัง ล่าสุด อดีตนักเตะ เซาแธมป์ตัน เล่นแบ็กขวา และกลายเป็นจุดอ่อนให้ เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร ปีกของ สวอนซี ซิตี โจมตี จนถูก รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ ทีมชาติอังกฤษ เลือก นาธาเนียล ไคลย์น เพื่อนเก่า รับบทตัวจริง ทว่าด้วยความหนุ่มแน่น กอปรกับความสามารถอันล้นเหลือ แข้งวัย 19 ปี ต้องมาประกบ อังเคล ดิ มาเรีย หากฟิตทันจากการบาดเจ็บ ระหว่างเกมอุ่นเครื่อง กับ โปรตุเกส นับตั้งแต่ ย้ายจาก รีล มาดริด นักเตะแพงสุดของเกาะอังกฤษ 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3 พันล้านบาท) ซัด 3 ประตู แอสซิสต์ 4 ครั้ง แต่จาก 3 เกมที่ผ่านมา ทำได้เพียง 1 แอสซิสต์ เมื่อถูกถ่างมาลากเลื้อยริมเส้นแทนมิดฟิลด์ตัวกลาง 3. แท็กติกของ หลุยส์ ฟาน กัล        อดีตบิ๊กบอส ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ส ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์บ่อยครั้ง สร้างความสับสนแก่ลูกทีมมากกว่าคู่ต่อสู้ ผู้คนมักชื่นชมผู้จัดการทีมที่เปลี่ยนระบบระหว่างเกมเพื่อผลการแข่งขันที่ดีกว่า แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า กุนซือวัย 62 ปี จัดทัพผิดมาตั้งแต่แรก คราวนี้ ยูไนเต็ด จะเล่น 4-4-2 ไดมอนด์ (กองกลาง 4 คน ยืนเป็นรูปเพชร), หรือ 4-4-2 ธรรมดา แล้วจะวาง ดิ มาเรีย เล่นตำแหน่งใด แน่นอนว่า ฟาน กัล โชคร้ายกับปัญหานักเตะบาดเจ็บ โดยเฉพาะแนวรับ ซึ่งอาจต้องใช้งานดาวรุ่งรับมือ อาร์เซนอล ชื่อเสียงเดิมๆ เท่านั้น ที่ทำให้ จอมแท็คติกแดนกังหันลม ยังรักษาเก้าอี้ของตัวเองไว้ได้ 4. ตำแหน่งของ แจ็ค วิลเชียร์        วิลเชียร์ อาจเรียกร้องขอเล่น มิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกม ซึ่งเชื่อว่าตัวเองทำได้ดีกับ ทีมชาติอังกฤษ แต่ อาร์เซนอล มีการขับเคี่ยวตำแหน่งนี้ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกัน อาร์แซน เวนเกอร์ ดูจะมีความเห็นแย้งกับ รอย ฮ็อดจ์สัน ดังนั้น ห้องเครื่องวัย ปี น่าจะถูกดันขึ้นมาเป็นตัวรุก ทว่าเรื่องความฟิตยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ วิลเชียร์ ต้องการลงสนามบิ๊กแมตช์กับ "ปืนใหญ่" ดังนั้นหาก เจ้าตัว ได้รับโอกาส จะสามารถฉายแววดังเช่นเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี หรือไม่ (ซัดประตูตีเสมอ) 5. “อาร์วีพี” อยู่ภายใต้ความกดดัน        แฟนๆ เริ่มออกอาการคลางแคลงใจเกี่ยวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยังคงเป็นหัวหอกอันดับ 1 หรือไม่ เนื่องจาก เวย์น รูนีย์ กับ ราดาเมล ฟัลเกา ที่เพิ่งบาดเจ็บพัก 2 สัปดาห์ หายใจรดต้นคออยู่ บางส่วนอาจกาชื่อ รูนีย์ ซึ่งสามารถถอยมาปั้นเกมแดนกลาง แต่ เจ้าตัว ก็พิสูจน์ระหว่างการเล่น ทีมชาติอังกฤษ (กับ สกอตแลนด์) ว่า ยังมีความอันตรายในฐานะตัวจบสกอร์ และอาจหมายถึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า “อาร์วีพี” ที่จะรับบทศูนย์หน้าตัวเป้า อดีตกัปตันทีม อาร์เซนอล ดูเหมือนจะขาดความเร็ว และพละกำลังอย่างที่กองเชียร์คุ้นเคย ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมว่า แนวรับ “เดอะ กันเนอร์ส” ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มสุดยอด นี่เป็นโอกาสที่จะสำแดงว่า ฟาน เพอร์ซี ยังมีเขี้ยวเล็บหลงเหลืออยู่   Create Date : 22 พฤศจิกายน 2557     0 comment Last Update : 22 พฤศจิกายน 2557 10:35:22 น.     Counter : 1053 Pageviews.   Share Tweet