BlogGang.com : : karnoi - ยุคทอง 'อีบุ๊ก' รายเล็กก็รวยได้(Cyber Weekend)

ยุคทอง 'อีบุ๊ก' รายเล็กก็รวยได้(Cyber Weekend)

นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ผู้ก่อตั้ง เมพ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชัน จำกัด

ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เงินทุนและกลยุทธ์การตลาดเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้ผู้บริโภครับรู้และทดลองใช้งานในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น แต่อาจจะใช้ไม่ได้กับตลาดของอีบุ๊ก เพราะแม้ตลาดจะมีการแข่งขันสูง การทุ่มเงินทุนหรือโหมโฆษณาด้วยเงินมหาศาล ก็อาจจะแพ้ทางให้กับอีบุ๊กรายเล็กๆ ที่แทบจะไม่ได้ทำการตลาดผ่านสื่อใหญ่ๆ เลย แต่กลับมีอัตราการเติบโตของสมาชิกในระดับที่น่าสนใจ แถมยังมีรายได้ที่เติบโตขึ้นทุกไตรมาส

       เมพ อีบุ๊กที่เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป การทำตลาดที่ผ่านมาไม่ได้มีการโฆษณาออกสื่อกันแบบวันต่อวัน หรือทุ่มโปรโมชันที่ดึงดูด แต่สามารถสร้างยอดผู้ใช้งานได้ถึง 1 ล้านรายภายในระยะเวลา 3 ปี และมีรายได้เติบโตขึ้นทุกไตรมาสๆ ละ 25% มาโดยตลอด และในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ทะลุหลัก 100 ล้านบาท แถมยังเป็นแอปพลิเคชันของไทยที่ทำรายได้สูงสุดของแอปสโตร์ แบบนี้เรียกว่าโตแบบเงียบๆ แต่รายได้เพียบก็คงไม่ผิด

       นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ผู้ก่อตั้ง เมพ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่า เมพ เป็นอีบุ๊กที่มีหนังสือขายมากที่สุดของประเทศ แต่ไม่ได้เน้นนิตยสารมากเหมือนกับของรายอื่น มีความแตกต่างตรงที่เน้นหนังสือเป็นพวกพ็อกเก็ตบุ๊ก วรรณกรรม การ์ตูน มีหนังสือประมาณ 15,000 เล่ม และมีการอัปเดตเพิ่มขึ้นทุกวัน

***เกิดจากคนไอที/น้ำท่วม 3G ช่วยเติบโต

       จุดเริ่มต้นของเมพ เกิดจากเดิมเป็นคนที่ทำงานอยู่ในแวดวงไอที อยู่เบื้องหลังหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงยังทำเครื่องมือให้กับธุรกิจสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์แวร์การจัดหน้า ซอฟต์แวร์พิสูจน์อักษร ประกอบกับโดยส่วนตัวของทีมงานแล้วมีความรักในการทำหนังสือ และด้วยความที่ชอบวงการนี้ จึงอยากเพิ่มช่องทางให้กับคนทำหนังสืออย่างแท้จริง ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการทำแอปพลิเคชันเมพ อีบุ๊กที่ตอบโจทย์ทั้งคนทำและได้ใจคนอ่าน โดยปัจจุบันมีพนักงาน 15-20 คน

'ในปี 2011 เป็นช่วงที่ ไอแพดเปิดตัว เราเริ่มมองเห็นแล้วว่าเทรนด์ของอีบุ๊กกำลังจะมา ประกอบกับช่วงเวลานั้นน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ทำให้คนไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนหันมาสนใจที่จะอ่านหนังสือผ่านทางออนไลน์ มากขึ้น ทำให้คนเริ่มรู้จักเมพในช่วงนั้น ส่วนการเติบโตหลังจากนั้น มาจากปัจจัยอย่าง 3G ที่เริ่มมีการขยายสัญญาณได้ครอบคลุมมากขึ้น และอุปกรณ์ต่างๆ มีราคาถูกลงแต่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้การเติบโตของอีบุ๊กเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น'

       จุดแข็งของเมพคือการเป็นแอปพลิเคชันเดียวที่สามารถใช้งานได้บนไอโอเอส ทั้งไอโฟนและไอแพด แอนดรอยด์โฟน วินโดวส์โฟน และกำลังจะทำให้สามารถใช้งานได้บนแมคอินทอช เพื่อให้ผู้อ่านสามารถใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายในการอ่านอีบุ๊ก โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการดาวน์โหลดไอโอเอสมากที่สุด 70% รองมาเป็นแอนดรอยด์ 23% และวินโดวส์โฟน 7%

       'เราทำเนื้อหาให้พอดีกับแต่ละอุปกรณ์ อ่านง่าย ย่อและขยายขนาดได้ตามต้องการ ไม่ต้องซูมเข้าซูมออก มีโหมดหลากหลาย ทำให้อ่านสะดวก สามารถอ่านมือเดียวได้ ปรับแสงได้ตามความเหมาะสมประกอบกับการมีคอนเทนต์ทั้งฟรีและเสียเงินเป็นจำนวนมาก ความนิยมในตัวเมพจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก'

*** อายุ 15 สมัยนี้ชอบอ่านนิยายอีบุ๊ก

       นายรวิวร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าปัจจุบันผู้อ่านกลุ่มใหญ่ของเมพจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุเริ่มต้นเพียง 15 ปี และลากยาวไปจนถึง 40 ปี ซึ่งเมพก็มีหนังสือฟรีๆ ให้อ่านเป็นพันเล่ม ซึ่งหลายๆ เล่มสำนักพิมพ์ก็ยังขายอยู่ ประเภทที่ได้รับความนิยมก็จะเป็นพวกนิยาย การ์ตูน พ็อกเก็ตบุ๊ก หนังสือเล่ม เน้นอ่านเพื่อความบันเทิง พออายุเพิ่มขึ้นก็จะไปอ่านหนังสือที่เหมาะสมกับตัวเอง

       'อีบุ๊กที่ดีต้องทำให้คนทำหนังสือสามารถมีช่องทางในการกระจายสิ่งที่เขียน ช่วยให้สำนักพิมพ์ประหยัดต้นทุนค่ากระดาษ ทำให้หนังสือที่มีอยู่ไม่ตกจากแผงแม้จะวางมานานแล้ว ช่วยให้ขายได้นาน และหนังสือเก่าก็นำมาขายได้อีกครั้ง สามารถหารายได้จากที่ไม่เคยได้มาก่อน และยังเป็นเวทีให้นักเขียนอิสระได้ใช้โอกาสนี้ในการหาช่องทางการสร้างรายได้ เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนทำหนังสือจริงๆ'

ข้อดีของอีบุ๊กคือคนอ่านไม่ต้องมาที่ร้านแต่สามารถเลือกซื้อได้ ประกอบกับร้านหนังสือมีข้อจำกัดทางด้านการวางสินค้า หนังสือต้องหมุนเวียน บางเล่มก็ไม่สามารถขึ้นไปอยู่บนแผงได้ ส่วนการเลือกซื้อนั้นก็ไม่จำกัดเฉพาะคนไทย เพราะคนลาว คนเขมรก็ซื้อหนังสือของไทยไปอ่านได้ นอกจากนี้การออกไปนอกบ้าน ไปเที่ยว ก็สามารถดาว์นโหลดไปอ่านได้เช่นกัน ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ชีวิตไม่จำเป็นต้องติดอยู่กับที่ ความรู้จะตามไปได้ทุกที่ทุกเวลาเอง

       นอกจากนี้เมพยังพบว่าปัจจุบันอุปกรณ์ที่นิยมอ่านอีบุ๊กมากที่สุดคือ สมาร์ทโฟน ไม่ใช่แท็บเล็ตเหมือนในอดีตเพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น มีความคมชัดมากขึ้น ประกอบกับแอปพลิเคชันของเมพจะสามารถเลือกขยายตัวอักษรให้เหมาะสมกับการอ่าน และออกแบบให้สามามารถอ่านด้วยมือเดียวได้ จึงทำให้ง่ายในการจะหยิบขึ้นมาอ่านได้ทุกที่ และใช้งานได้ทุกอย่างในอุปกรณ์เดียว ทั้งโทร. ทั้งอ่าน ไม่ต้องหยิบหลายเครื่องให้วุ่นวาย

       สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นจุดดีของอีบุ๊กคือ การเพิ่มโอกาสทางการอ่านให้กับคนไทยได้มากขึ้น ทำให้นักเขียนหน้าใหม่ที่ไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน หรือ นักเขียนมืออาชีพ หรือนักเขียนระดับขึ้นหิ้ง คนกลุ่มเหล่านี้คือเป้าหมายที่จะดึงเข้ามาอยู่เมพให้มากที่สุด จากปัจจุบันที่มีนักเขียนอิสระเกินกว่าครึ่งอยู่แล้ว ทำให้ผลงานของพวกเขาเหล่านี้ได้มีเวทีในการแสดงผลงานเพิ่มขึ้น

       'เมพยังเป็นเหมือนที่เปิดโอกาสให้กับคนที่อยากจะเขียนแต่ยังไม่มีเวที โดยเมพจะมีโปรแกรมช่วยออกแบบปกหนังสือ การตรวจคำถูกผิด ที่จะเอื้อต่อการสร้างอีบุ๊กให้กับนักเขียนหน้าใหม่อีกด้วย'

***จับมือร้านหนังสือต่อยอดออนไลน์/ออฟไลน์

       นายรวิวร กล่าวว่า เมพไม่ได้ทำเพียงแอปพลิเคชันอีบุ๊กเพื่อให้บริการเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ทำระบบหลังบ้านให้กับอีบุ๊กหลายๆ รายอีกด้วย รวมไปถึงการเป็นผู้ดูแลรักษาระบบให้ด้วย โดย 85% ของรายได้มาจากค่าบริการที่เมพจะเก็บประมาณ 20% ของราคาขายหนังสือแต่ละเล่ม เช่นเดียวกับนักเขียนอิสระก็จะเป็นผู้กำหนดราคาในการขายเองเช่นกัน ส่วนอีก 15% ที่เหลือเป็นรายได้จากการวางและดูแลรักษาระบบให้กับบริษัทอื่นๆ

'การสื่อสารและประชาสัมพันธ์จะผ่านทางสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ไม่ได้เน้นการหารายได้ด้วยการใช้การโฆษณาผ่านแอป เพราะส่วนใหญ่การโฆษณาจะเน้นการแนะนำหนังสือหรือบริการใหม่ๆ ของตัวเองมากกว่าโดยใช้งบประมาณที่เหมาะสม เราไม่เหมือนคู่แข่งที่ทุ่มการตลาดเป็นจำนวนมากเพราะมีเบื้องหลังเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เราจึงใช้งบพอดีตัว เราเป็นร้านหนังสือ แบ่งรายได้จากการขาย ลงฟรี แบ่งรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์กับสำนักพิมพ์'

       โดยเร็วๆ นี้เมพจะร่วมงานกับบีทูเอสที่เคยเป็นพาร์ทเนอร์กันมาก่อน โดยเตรียมที่จะกระตุ้นตลาดต่างๆ ร่วมกัน นำข้อดีของบีทูเอสที่เป็นร้านหนังสือแบบออฟไลน์ขนาดใหญ่ และเมพที่เป็นร้านหนังสือแบบออนไลน์ นำทั้ง 2 อย่างมาหลอมรวมกัน เพื่อให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกทั้งแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ บีทูเอสมีลูกค้าค่อนข้างหลากหลาย ทั้งพ่อแม่และวัยผู้ใหญ่ เป็นสิ่งดีที่จะทำให้เมพสามารถเขาถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันเมพจะมีกลุ่มลูกค้าเป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่

'ปัจจุบันสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ก็นำหนังสือมาลงในเมพแทบจะทั้งหมดแล้ว อย่างเช่น พวกวรรณกรรม แต่ก็ยังมีอีกหลายรายที่ยังไม่ได้นำมาลง ซึ่งก็ต้องเจรจากันต่อไป การทำธุรกิจนี้ปีแรกก็มีกำไรแล้ว เราบริหารต้นทุนได้ดี และเราใช้คลาวด์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงแต่มีต้นทุนที่ต่ำ คนใช้เยอะก็จ่ายเยอะ ใช้น้อยก็จ่ายน้อย นี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่สร้างความสำเร็จให้กับเรา' ผู้บริหารเมพ กล่าวทิ้งท้าย

Company Related Link :
MEB

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2557

Last Update : 21 พฤศจิกายน 2557 8:09:56 น.

0 comments

Counter : 686 Pageviews.