เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

พบ “จีน” รับบทเจ๊ดัน iOS ไปไกลกว่าแอนดรอยด์

ที่มา  //manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000044060 
พบ “จีน” รับบทเจ๊ดัน iOS ไปไกลกว่าแอนดรอยด์
จากการสำรวจที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เปรียบเทียบระหว่าง 2 แพลตฟอร์ม iOS กับแอนดรอยด์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในหลายปีที่ผ่านมา ผลมักออกมาในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ แพลตฟอร์ม iOS แม้จะมีผู้ใช้งานน้อยกว่า แต่สามารถสร้างรายได้ให้แก่นักพัฒนามากกว่า ขณะที่แพลตฟอร์มแอนดรอยด์ ถึงจะมีผู้ใช้งานปริมาณมาก แต่ยอดรายได้ที่นักพัฒนาได้รับตอบแทนกลับมีน้อยกว่า

       ผลก็คือ นักพัฒนาแอปส่วนมากมักจะเทใจให้แก่การพัฒนาแอปบน iOS เป็นลำดับแรก ส่วนแอนดรอยด์นั้น พบว่า นักพัฒนาจะหันมาให้ความสนใจเป็นอันดับ 2 โดยใช้เวลาหลังจากเปิดตัวแอปใน App Strore ไปแล้ว และมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า แอปบน iOS ไปได้ดี มานั่งพัฒนาแอปบนแอนดรอยด์เพิ่มเติม หรือไม่ก็อาจถูกเมินไปเลยนั่นเอง

       นอกจากนั้น เหตุผลอีกข้อหนึ่งที่นักพัฒนาสนใจ iOS มากกว่าอาจเป็นเรื่องของความแตกต่างของอุปกรณ์ที่มีเพียง 6-8 กลุ่ม (เช่น ไอโฟน ไอแพด) ขณะที่แอนดรอยด์นั้นกลับมีกลุ่มอุปกรณ์ที่แตกต่างกันเป็นจำนวนมาก (มากกว่า 12,000 ชนิด) ซึ่งทำให้นักพัฒนาต้องพิจารณาถึงหน้าจอ โปรเซสเซอร์ เวอร์ชันของแอนดรอยด์ ฯลฯ จนหมดความน่ราสนใจไปในที่สุด

“จีน” ยักษ์ใหญ่ที่ดัน iOS ไปไกลได้มากกว่า

       แม้แพลตฟอร์มแอนดรอยด์จะแข็งแกร่งในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่หากยังจำกันได้ถึงข่าวคราวการให้ความสนใจ “ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส” ของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมาคงทำให้ผู้อยู่ในวงการหลายคนได้ข้อมูลที่น่าสนใจกันไปพอสมควร ยิ่งข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล App Annie ยิ่งพบว่า ยอดรายได้ที่นักพัฒนาได้รับจาก iOS ทิ้งห่างจากแอนดรอยด์ (ผ่านการดาวน์โหลดที่ Google Play) ออกไปมากขึ้นทุกที โดยนักวิเคราะห์ให้ความเห็นถึงแนวโน้มดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า เป็นเพราะ “แอปเปิลเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดจีน” นั่นเอง

       ไม่น่าเชื่อว่าตลาดสมาร์ทโฟนในจีนแผ่นดินใหญ่จะทำให้ช่องว่างระหว่าง 2 แพลตฟอร์มนี้ขยายมากขึ้น แต่ก็เป็นไปแล้ว โดยตัวเลขที่ App Annie เปิดเผยออกมานั้นพบว่า ช่องว่างของรายได้ที่นักพัฒนาได้รับจากการดาวน์โหลดแอปของทั้ง 2 แพลตฟอร์มแตกต่างกันถึง 4 เท่าตัว แน่นอนว่า ผู้ใช้ iOS มีแนวโน้มจะจ่ายเงินเพื่อซื้อแอปต่างๆ มากกว่าผู้ใช้งานแอนดรอยด์

       รายงานล่าสุดเกี่ยวกับตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นภาพของตลาดสมาร์ทโฟนในจีนได้หลายๆ ด้าน เช่น ในย่านชุมชนเมืองของจีน พบว่า มีการใช้งานไอโฟนประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ (ตัวเลขจากไตรมาสที่ 1 ของปี ค.ศ.2015 อ้างอิงจาก Kantar บริษัทวิจัยชั้นนำของโลก) ขณะที่ก่อนหน้านี้ แอปเปิลได้เคยออกมาเปิดเผยว่า ยอดขายของตนเองในจีนนั้นสูงถึง 16 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่เพียงเท่านั้น ในกลุ่มผู้ซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องแรก (first-time smartphone buyer) ของจีน ก็เลือกซื้อไอโฟนแทนสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์เพิ่มมากขึ้นทุกทีด้วย

       จากตัวเลขการใช้งาน และรายได้ที่จะได้รับเหล่านี้นี่เองที่ทำให้นักพัฒนาจำนวนมากตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มระหว่าง iOS กับแอนดรอยด์อย่างไม่ต้องคิดมาก

       ความน่าแปลกใจของแอปบน 2 แพลตฟอร์มยังมีอีกหนึ่งประการ นั่นคือ ผู้ใช้ iOS มีแนวโน้มจะจ่ายเงินซื้อแอปมากกว่าผู้ใช้งานบนแอนดรอยด์ ขณะที่แอนดรอยด์มักมีแอปดีๆ แถมเปิดให้ใช้งานฟรีอยู่เสมอๆ แต่นักพัฒนาที่ต้องหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ก็จำเป็นต้องทุ่มเทให้แก่การพัฒนาแอปที่สร้างรายได้ให้แก่ตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจากนี้ Benedict Evans ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ในธุรกิจโมบาย และดิจิตอลมีเดีย และปัจจุบันเป็นพาร์ตเนอร์ของ Andreessen Horowitz บริษัทด้านการลงทุนซึ่งตั้งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ ได้ให้เหตุผลเอาไว้ 5 ข้อถึงแนวโน้มที่ทำให้แอนดรอยด์ยังแข่งสู้กับ iOS ไม่ได้ในแง่ของรายได้ นั่นคือ

       1.ส่วนแบ่งตลาดของแอนดรอยด์นั้นแม้จะแข็งแกร่ง และมีผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่ก็อยู่ในกลุ่มประชากร และประเทศที่มีรายได้ต่ำมากกว่าประเทศที่ร่ำรวย

       2.ผลก็คือ ผู้ใช้แอนดรอยด์ส่วนใหญ่ในประเทศเหล่านั้นไม่มีบัตรเครดิตใช้งาน เมื่อไม่มีบัตรเครดิตใช้งาน การใช้จ่ายเงินบนโลกออนไลน์ย่อมเกิดขึ้นได้ยากกว่า

       3.ราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อยู่ที่ 250-300 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ราคาเฉลี่ยของไอโฟน คือ 600 เหรียญสหรัฐ (ไม่นับรวม Galaxy S5 ที่อาจมีราคาไม่แตกต่างจากไอโฟนมากนัก อย่างไรก็ดี ผู้ใช้งาน Galaxy S5 ก็จัดว่าเป็นผู้ใช้งานแพลตฟอร์มแอนดรอยด์กลุ่มเล็กมากๆ)

       4.แอปเปิลมีกลวิธีการสร้างภาพลักษณ์ตัวสินค้าที่แตกต่างจากตลาดของแอนดรอยด์ ส่งผลให้ผู้ใช้สินค้าของแอปเปิลมีแนวโน้มจะจ่ายเงินได้มากกว่าผู้ใช้สินค้าบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ และบางทีก็อาจเป็นไปได้ด้วยว่า ผู้ใช้ไอโฟนมีโอกาสใช้จ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้มากกว่าผู้ใช้งาน Galaxy S5

       5.สิ่งที่จะตามมาจากการสร้างความแตกต่างทั้งหมดนี้ก็คือ นักพัฒนาจะเชื่อขึ้นมาจริงๆ ว่า ผู้ใช้งานแอนดรอยด์ไม่นิยมจ่ายเงินซื้อแอป และเมื่อพวกเขาเชื่อ พวกเขาก็จะนำเสนอแอปฟรีแต่มีโฆษณาเข้า Google Play หรือไม่ก็ตั้งราคาดาวน์โหลดแอปให้ต่ำๆ เข้าไว้ ไม่เพียงเท่านั้น ผลของการเชื่อดังกล่าวยังทำให้นักพัฒนาส่วนใหญ่เลือกที่จะซัปพอร์ตแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ “ทีหลัง” แพลตฟอร์ม iOS หรือบางทีก็อาจไม่ซัปพอร์ตเลย ดังจะเห็นได้จากแอปแมกกาซีนที่บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์แทบจะมีให้เห็นน้อยมาก และทำให้ผู้นิยมอ่านแมกกาซีนบนแท็บเล็ตส่วนใหญ่ไม่เลือกซื้อแท็บเล็ตของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์นั่นเอง

       ปัญหานี้อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคตที่นักพัฒนาเลือกที่จะเอาใจออกห่างแพลตฟอร์มแอนดรอยด์มากขึ้นๆ จนช่องว่างทางใจ (ของนักพัฒนา) และช่องว่างทางด้านรายได้ ไม่อาจกู้กลับคืนมาได้อีก





Create Date : 18 เมษายน 2558
Last Update : 18 เมษายน 2558 21:40:00 น. 0 comments
Counter : 779 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]