เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

Review: Huawei P8 สมาร์ทหรูบางสวย



หัวเว่ยเปิดตัว P8 อย่างอลังการกลางกรุงลอนดอนเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา (15 เมษายน 2558) หวังเจาะตลาดยุโรปให้ได้ตามเป้า โดยเชิญสื่อมวลชนจากทั่วโลกเข้าไปชมความเหนือชั้นของเครื่องรุ่น P8 และ P8 Max ที่พร้อมจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ด้วยข่าวลือที่หนาหูว่าภาพหลุดมีส่วนคล้ายเครื่องนี่ห้อผลไม้ชื่อดังเป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดเมื่อได้เห็นเครื่องตัวจริงกลับดูดีกว่าที่คาดคิด เครื่องดูเรียบหรูและมีการออกแบบชิ้นงานที่ปราณีตบรรจง อีกทั้งภายในงานยังเปรียบเทียบความสามารถที่เรียกว่าประชันโฉมระหว่างเครื่องผลไม้และ P8 อย่างชัดเจน งานนี้ P8 จะรุ่งหรือร่วงในยุโรปและทั่วโลกคงต้องมาดูที่ความสามารถทั้งหมดของเครื่องรุ่นนี้กันก่อนเลย



การออกแบบและสเปก

       ออกตัวก่อนเลยว่าเครื่องที่ได้รับมาทดสอบเป็นซีรีส์ที่อาจจะไม่ใช่ซีรีส์เดียวกับที่เข้ามาขายในไทย โดย P8 GRA-L09 มีเพียงช่องใส่ซิมเดียวแบบนาโนซิม กลับมาที่เรื่องการออกแบบของ P8 ที่มีความบางของเครื่องเพียง 6.4 มิลลิเมตรเท่านั้น แกนของเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ให้น้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนการบิดงอได้ดี ขณะที่โทนสีที่เลือกใช้เป็นโทนสีทอง ให้ความหรูหราของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี โดยรวมถือวัสดุของตัวเครื่องมีความคุ้มค่ายกเว้นด้านหลังที่ยังให้ความรู้สึกของพลาสติกบางๆอยู่ แต่กระนั้นก็เข้าใจได้ว่าเพื่อเป็นการระบายอากาศที่ดีระหว่างใช้เครื่อง



ด้านหน้า - หน้าจอขนาด 5.2 นิ้วให้ความรู้สึกที่พอดีไม่เล็กและใหญ่จนเกินไป โดยขอบส่วนเกินของจอมีสีขาวเช่นเดียวกับเครื่องแอปเปิล ด้านบนมีกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล อยู่กึ่งกลางค่อนไปทางขวา และลำโพงอยู่ตรงกลางของเครื่อง พร้อมด้านซ้ายเป็นเซ็นเซอร์ ขณะที่ด้านบนขวาสุดเป็นสัญญาณไฟกระพริบ LED โดยด้านล่างของจอไม่มีปุ่มกดใดๆเนื่องจากมีการเลือกใช้ปุ่มมาตรฐาน 3 ปุ่มของแอนดรอยด์บนหน้าจอเลยนั่นเอง ซึ่งสามารถเลือกใช้ด้วยการวาดหน้าจอไปที่ขอบจอก็จะแสดงเมนูให้เห็น



ด้านหลัง - ส่วนบนสุดมีพื้นที่ของสีขาวโดยมุมซ้ายมีกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลที่ไม่มีขอบยื่นออกมานอกเฟรมให้เกะกะ ด้วยการออกแบบให้ตัวกล้องกินพื้นที่เฟรมด้านใน ทำให้กล้องไม่ยื่นออกมาดังเช่นสมาร์ทโฟนหลายๆรุ่นเป็น อีกทั้งมุมซ้ายสุดยังมีแฟลชแบบคู่ขนาดพอเหมาะ ถัดลงมาตรงกลางเป็นโลโก้ หัวเว่ย และด้านล่างสุดเป็นชื่อผู้ผลิตและรุ่นโมเดลของเครื่อง ซึ่งด้านหลังนี้เป็นพลาสติกที่ไม่สามารถเปิดเครื่องเองได้



ด้านบน - มีการออกแบบให้มีความโค้งมนแต่ถูกเจียให้เกิดรอยขอบทั้ง 2 ด้านขนานกันไปตลอดทั้งสี่ด้านของขอบให้ความรู้สึกคมมือเล็กน้อย โดยมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเยื้องมาทางซ้ายและช่องดูดเสียงของไมค์ในตัวเครื่อง ด้านล่าง - มีช่องเสียบไมโครยูเอสบีอยู่ตรงกลางขนาบกับรูน็อตทั้งสองตัว และลำโพงที่ให้เสียงดีเกินตัวอีกทั้ง 2 ด้าน



ด้านซ้าย - เป็นเพียงขอบที่มนพร้อมรอยเจียขนานกันไปอย่างที่บอก โดยมีรอยตัดของสีขาวที่อาจจะไม่มีความหมายอะไรนอกจากการดีไซน์ ทั้งบนและล่าง ขณะที่ด้านขวา - นอกจากการออกแบบโดยรวมที่เหมือนกับด้านซ้ายแล้ว ด้านบนยังมีปุ่มเพิ่มและลดเสียงเป็นแนวยาวปุ่มเดียวกัน ถัดลงมีเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่องแบบโลหะที่มีการออกแบบให้มีลายวนในตัวเพิ่มความสวยงามไปอีกแบบ ถัดลงมาเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนซิมที่ต้องใช้เข็มเจาะรูเพื่อเด้งถาดซิมออกมา และถัดลงไปด้านล่างเป็นช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดที่ใช้แบบถาดเช่นเดียวกับช่องใส่ซิมการ์ด



       P8 GRA-L09 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Kirin 930 แบบ OCTA Core ARM Hisilicon แบบ 64 บิท 2.0 GHz พร้อมแยกหน่วยประผลกราฟิกแบบ GPU Mali T624 มีแรมขนาด 3 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 16 GB รองรับไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 128 GB โดยเมื่อเปิดเครื่องใช้งานจะมีพื้นที่เหลือใช้จริงราว 9.62 GB ซึ่งทั้งหมดทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 5.0 (Lolipop) โดยเพิ่มลูกเล่นหน้าตาอินเตอร์เฟสด้วย EMUI 3.1 ทำให้ดูสดใสและลื่นไหลขึ้น บนหน้าจอ 5.2 นิ้ว แบบจอ IPS ให้ความละเอียดกว่า 1,080 x 1,920 พิกเซล (Full HD)



       รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n มี NFC บลูทูธ และ จีพีเอส รองรับการใช้งานได้ 1 ซิมการ์ด (ขนาดนาโนซิม) กล้องหลังโฟกัสอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันการสั่นไหว (OIS AF) ขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชคู่แอลอีดี และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้าน มาพร้อมแบตเตอรี่ Li-Pol ความจุ 2,680 mAh

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ



       Huawei P8 ออกแบบมาให้รับสัญญาณได้ดีตามแบบฉบับผู้ผลิตโครงข่ายเอง ซึ่งจุดนี้ต้องยอมรับว่าหัวเว่ยมีชื่อเสียงมานานพอสมควรจนทำให้สามารถพัฒนาฟีเจอร์ Link+ เพื่อช่วยให้การรับส่งสัญญาณที่ดีขึ้นใช้งานได้จริงโดยมีการเคลมว่าสามารถรับสัญญาณได้ต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ตาม โดยความสามารถนี้เกิดขึ้นจากเสาอากาศภายในแบบคู่ที่มีทั้งด้านล่างและด้านบน ซึ่งทำงานควบคู่กันไปช่วยให้ระบบทั้งภาครับและส่งของสัญญาณมีความเสถียรสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น



       รองรับ 2 ซิมการ์ดในเวอร์ชัน 2 (เวอร์ชันที่ทดสอบเป็น v.1 รองรับซิมเดียวแบบนาโนซิมการ์ด) เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่แม้ว่าจะเกิดขึ้นมานานแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนก็ตาม แต่ก็ยังนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ยังขายได้อยู่ หากแต่การออกแบบช่องใส่ซิมการ์ดแบบนาโนและไมโครซิมในช่องเดียว เริ่มมีการใช้แพร่หลายมากขึ้นหลังจากขนาดของตัวเครื่องมีการแข่งขันด้านความบาง และน้ำหนักที่น้อยลง ส่งผลให้พื้นที่การใช้สอยย่อมน้อยลงตาม



       ความพิเศษของอินเตอร์เฟส EMUI 3.1 ที่มาพร้อม ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 5.0 (Lolipop) ช่วยให้การทำงานลื่นไหลเป็นอย่างมาก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการออกแบบของอินเตอร์เฟสรูปแบบนี้ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้น การเข้าเมนูไม่ลึกมาก สามารถเรียกใช้ได้จากด้านหน้าได้ในทันที โดยแต่ละเมนูไม่มีการวางซ่อนหลายชั้น แต่สำหรับผู้ที่ถนัดการใช้งานแบบเชิงซ้อนอาจจะหงุดหงิดบ้างที่มีตัวเลือกให้น้อยในความรู้สึก



       ฟีเจอร์การถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าขนาด 8 ล้าน ไม่เพียงแค่ความคมชัดที่มาพร้อมไฟล์ขนาด 8 ล้านพิกเซลเท่านั้น ยังมีโหมดพาโนรามา เซลฟี่ ที่สามารถถ่ายภาพตนเองในมุมกว้างแบบพาโนรามาได้อย่างสะดวก ลดอาการหน้าใหญ่ที่ต้องเลือกมุมถ่ายภาพแบบจำกัด สามารถดึงเพื่อนร่วมเฟรมให้ครบทุกคน แน่นอนว่าการถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมดนี้อาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อยในการหมุนหน้ากล้องเพื่อขยายเฟรมภาพตามที่กล้องกำหนด แต่ก็เป็นความสนุกอีกแบบที่สร้างสรรค์ภาพได้อย่างน่าอัศจรรย์



       โหมดการถ่ายภาพ Light Painting ที่มีลูกเล่นให้เลือกมากมายนับตั้งแต่ Tail light trails การถ่ายภาพแสงไปให้เป็นเส้นพริ้วไหว Light graffiti วาดลวดลายในภาพด้วยแสงไฟ Silk water การถ่ายภาพละอองน้ำให้ฟุ้งกระจาย และสุดท้าย Star track การถ่ายภาพดาวตก ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นจากการหน่วงชัดเตอร์ที่ผู้ถ่ายไม่ต้องทำการปรับตั้งค่าเองแต่อย่างใด โดยเมื่อเปิดใช้โหมดนี้จะเห็นประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์และระบบป้องกันการสั่นไหวได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากภาพที่ได้จะมีความสวยงามแล้วยังมีความคมชัดอยู่ในตัวแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องก็ตาม



       ฟิลเตอร์แบบเรียลไทม์ที่ถูกซ่อนอยู่ในปุ่มรูปดอกไม้ทางซ้ายมือ เมื่อกดเข้าจะได้มุมมองภาพแบบเสริมฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกกว่า 9 ชนิด โดยสามารถเลือกได้ตามใจที่ต้องการแบบเปรียบเทียบทันที และเมื่อถูกใจฟิลเตอร์แบบไหนก็เพียงกดเลือก ภาพที่ปรากฏพร้อมถ่ายก็จะพร้อมกดชัตเตอร์ในช่วงเวลาสำคัญ



       การควบคุมการถ่ายวิดีโอแบบ Director mode โดยโหมดนี้จะสามารถควบคุมมุมภาพจากกล้องไม่เกิน 4 ตัวซึ่งวางถ่ายจากมุมที่แตกต่างกัน แต่สามารถควบคุมด้วยหน้าจอเดียว โดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเป็นเครื่อง P8 เท่านั้นเพราะไม่จำเป็น เพียงแค่มีเครื่องสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แล้วลงแอปพลิเคชันเท่านั้นก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานการถ่ายทำวิดีโอแบบมืออาชีพได้ทันที



       อีกหนึ่งความสามารถของการถ่ายภาพที่มาพร้อมความสนุก คือฟีเจอร์การถ่าย Time-lapse ที่อยู่ทางด้านขวามือ แม้ว่าจะไม่สามารถปรับตั้งค่าความหน่วงของการถ่ายแต่ละภาพได้ แต่เมื่อลองถ่ายดูแล้วก็จะได้เห็นภาพที่แตกต่างเพราะการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อมที่เราถ่าย จึงนับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์การถ่ายทำที่น่าประทับในไม่น้อย


ภาพตัวอย่างจาก Huawei P8 ขนาดกล้อง 13 ล้านพิกเซล



ภาพตัวอย่างจาก Huawei P8 ขนาดกล้อง 13 ล้านพิกเซล



ภาพตัวอย่างจาก Huawei P8 ขนาดกล้อง 13 ล้านพิกเซล



ภาพตัวอย่างจาก Huawei P8 ขนาดกล้อง 13 ล้านพิกเซล




       Knuckle เป็นความสามารถของการเรียนรู้ที่ชาญฉลาด โดยเมื่อทำการใช้ข้อนิ้ววาดไปบนหน้าจอเครื่องจะทำการแคปหน้าจอและให้เราสามารถเลือกขนาดพื้นที่ครอบคลุมได้อย่างสะดวก แน่นอนว่าการลองครั้งแรกสร้างความประหลาดใจให้กับผมมาก ด้วยเหตุที่ว่าเจ้าเครื่อง P8 นี้มันรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เขียนลงไปบนหน้าจอมันคือข้อนิ้ว ไม่ใช่นิ้วใดนิ้วหนึ่งของผม นอกจากนี้ยังสามารถใช้ข้อนิ้วเคาะที่มุมด้านบนของจอเพื่อสั่งให้แคปหน้าจอได้อีกด้วย นับเป็นความก้าวหน้าของการแยกแยะรายละเอียดร่างกายในการสั่งการที่มากขึ้นไปอีกขั้น



       ระบบ Voice Wake up + การรับคำสั่งเสียง เป็นอีกหนึ่งความสามารถที่น่าทึ่ง เพราะนอกจากจะถูกนำมาเสริมด้านการปลุกเครื่องให้ทำงานด้วยเสียงที่เสถียรขึ้นแล้ว ยังสามารถต่อยอดมาสู่การเรียกหาโทรศัพท์เมื่อลืมว่าวางเครื่องไว้ตรงไหน ในบริเวณที่เสียงสามารถเรียกหาได้ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อมที่จะต้องเงียบและไม่มีเสียงรบกวนก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ประหนึ่งว่าเจ้าเครื่อง P8 นี้สามารถโต้ตอบและสื่อสารกับเจ้าของได้อย่างชาญฉลาด



       ระบบลำโพงของ P8 เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่สำหรับผมแล้วถือว่าทำคะแนนได้ดี เสียงที่ได้มีความคมชัดและมีรายละเอียดครบสมบูรณ์ แม้ว่าจะมีช่องทางเสียงออกเพียงด้านล่าง 2 ก็สามารถสร้างความประทับใจด้วยคุณภาพที่ดี



       ในส่วนของผลการทดสอบ ผ่านโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพบนแอนดรอยด์อย่าง Quadrant และ Antutu ได้คะแนน 13,783 คะแนน และ 45,438 คะแนน ตามลำดับ นับว่าเป็นคะแนนที่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม MultiTouchสามารถรองรับการสัมผัสพร้อมกันได้ 10 จุด สามารถตอบสนองการเล่นเกมผ่านหน้าจอได้เป็นอย่างดี



       ทดสอบการใช้งาน HTML 5 ผ่าน Vellamo ได้ 837 คะแนน ส่วนประสิทธิภาพตัวเครื่องได้ 1,262 คะแนน และทดสอบมัลติคอร์ได้ 2,077 คะแนน ทดสอบกราฟิกผ่าน Nenamark1 ได้คะแนน 54.2 fps และ Nenamark2 ได้คะแนน 59.6 fps



       ขณะที่การทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark ทั้ง 3 เวอร์ชันดังนี้ Ice Storm Unlimited ได้คะแนน 9,078 คะแนน Ice Storm Extreme ได้คะแนน 6,611 คะแนน Ice Storm ได้คะแนน 9,092 คะแนน ถือว่าการทำงานของหน้าจอแสดงผลมีประสิทธิภาพที่สูง



       ด้านการทดสอบแบตเตอรี่แบบหนักหน่วยด้วยโปรแกรมทดสอบ Geekbench 3 สามารถทำเวลาได้ตลอด 07.02.00 คิดเป็นคะแนน 3476 คะแนน จากการทดสอบแบตเตอรี่ตั้งแต่ 100% เต็ม จนเหลือเพียง 2% เท่านั้น

       ส่วนการทดสอบ CF-Bench ดูรายละเอียดได้จากรูปด้านล่าง



จุดขาย

       - ซีพียูแรงสูง Kirin 930 OCTA Core 2.0 Ghz
       - หน้าจอความละเอียดสูง Full HD 5.2 นิ้ว
       - การออกแบบที่พีถีพิถันและปราณีตแบบ Unibody
       - กล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซลกล้องหน้า
       - Lolipop 5.0 + EMUI 3.1 อินเตอร์เฟสที่ให้ความลื่นไหลดีเยี่ยม
       - แบตเตอรี่ขนาดความจุกว่า 2,680 มิลลิแอมป์

ข้อสังเกต/ตอบจุดขายหรือไม่

       - เวอร์ชันที่มากเกินไป อาจจะทำให้สับสนเมื่อมีการใช้งานเครื่องในหลากหลายประเทศ
       - ด้านหลังให้ความรู้สึกเป็นพลาสติกมากเกินไป

ฟันธง! ความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป

       Huawei P8 GRA-L09 นับเป็นเครื่องเรือธงที่หัวเว่ยน่าจะหมายมั่นปั้นมือได้เป็นอย่างดี เพราะด้วยประสิทธิภาพของเครื่องที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพที่สามารถถ่ายออกมาได้ภาพที่สวยงามแม้สภาพแสงต่ำ ขณะที่โหมดการถ่ายเซลฟี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งยังไม่นับรวมโหมดการถ่ายแบบชัตเตอร์ช้าอีก ทำให้เครื่องนี้นี้มีจุดเด่นเรื่องกล้องเป็นอย่างมาก ขณะที่ด้านการออกแบบที่เลือกใช้การขัดเกลา Unibody ที่ใช้เวลาพิถีพิถันกว่า 810 ชั่วโมงในแต่ละเครื่อง ทำให้ได้ผลงานแบบไร้ที่ติและดูมีคุณค่าในตัวเอง

       และเมื่อมองไปถึงประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อหรือจับสัญญาณทั้งสัญญาณมือถือและไวไฟได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งสะท้อนให้เห็นความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้นเมื่อเครื่อง Huawei P8 เข้ามาในไทยในอีก 2 เดือนข้างหน้า ฟันธงว่าคุ้มค่ากับราคาเปิดตัวที่พอจะแซะมาจากผู้บริหารว่าเมื่อเข้าไทยแล้วราคาจะอยู่ในราว 17,000 - 19,000 บาทอย่างแน่นอน

Company Relate Link :
Huawei
//manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048892



Create Date : 12 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 21:23:48 น. 0 comments
Counter : 1030 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]