ฟีเจอร์เด่น
ฟีเจอร์หลักที่น่าสนใจใน Phab Plus คือโหมดการใช้งานมือเดียว โดยผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าไปเปิดค่าการใช้งาน Screen Shrink ก่อน เมื่อเปิดแล้ว จะทำให้สามารถวาดสัญลักษณ์ตัว C บนหน้าจอ ขนาดหน้าจอก็จะเล็กลงมาให้สามารถใช้งานด้วยมือข้างเดียว โดยผู้ใช้สามารถเอียงซ้ายขวา เพื่อให้จออยู่ติดขอบฝั่งที่ถนัด
หรือจะเลือกได้ว่าจะให้อยู่บริเวณบน กลาง ล่าง ของหน้าจอ ถัดมาคือฟังก์ชันการปลุกหน้าจอด้วยการกดจอ 2 ครั้ง และการสั่นเครื่องเพื่อปิดหน้าจอ โหมดคีย์บอร์ดสำหรับใช้งานมือเดียว และปุ่มช่วยสั่งงาน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกกรณีที่ใช้งานด้วยมือข้างเดียวนั่นเอง
ต่อมาคือการชูในเรื่องของระบบเสียง Dolby Atmos ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกตามโหมดที่ใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม นอกจากนี้ ผู้ใช้ที่มีความรู้ในการตั้งเสียงยังสามารถเลือกเข้าไปปรับ Equalizer ให้ได้ตามที่ต้องการเพิ่มเข้าไปอีก
ขณะที่ตัวหน้าจอหลัก สังเกตได้จากพื้นหลังจะมีการใช้ภาพลวดลายใกล้เคียงกับปลากัดเพื่อชูถึงรายละเอียดในการแสดงผลของหน้าจอ โดยรวมแล้วหน้าจอหลักจะมีไอค่อนลัด 5 ปุ่มที่แถบล่างสุดคือโทรศัพท์ กล้อง เรียกดูแอปทั้งหมด ข้อความ และเว็บเบราว์เซอร์ ในขณะที่ผู้ใช้สามารถนำวิตเจ็ตมาใส่หน้าจอได้ตามปกติ
เมื่อลากแถบแจ้งเตือนลงมา จะพบกับนาฬิกาบอกวัน เวลาที่มุมซ้ายบน มุมขวาบนแสดงสถานะแบต และทางลัดเข้าสู่การตั้งค่าหลัก โดยในหน้าจอนี้ผู้ใช้สามารถเลือกปรับความสว่างหน้าจอ และตั้งค่าด่วนอย่างการเปิดปิด การใช้งานไวไฟ บลูทูธ โหมดเครื่องบิน หมุนหน้าจอ พิกัด สลับซิมการ์ด ดาต้า และโหมดใช้งานมือเดียวได้
ส่วนปุ่ม Recent Apps ที่ไว้ใช้สลับการใช้งานของแต่ละแอป ยังไม่มีการเพิ่มปุ่มเคลียแอปทั้งหมดเข้ามา ทำให้ถ้าต้องการปิดการใช้งานจำเป็นต้องเลื่อนไปทีละหน้าต่างแทน
เข้ามาดูที่หน้ารวมแอปพลิเคชัน ก็จะเห็นแอปไว้ใช้งานทั่วๆไปมาครบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลข ปฏิทิน นาฬิกา อีเมล วิทยุ สแกนไวรัส เครื่องเล่นเพลง ที่อัดเสียง เมื่อรวมกับบริการต่างๆของกูเกิลเข้าไปไม่ว่าจะเป็น เว็บเบราว์เซอร์ จีเมล กูเกิลพลัส กูเกิลแฮงเอาท์ และยูทูป ก็ถือว่าพอกับการใช้งานเบื้องต้นแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการใส่แอปที่เป็นการแนะนำฟังก์ชันต่างๆของเครื่องเข้ามาด้วย เมื่อเปิดแล้วจะแสดงผลเป็นวิดีโอเคลื่อนไหว แนะนำการใช้งานฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Phab Plus
เข้ามาถึงส่วนของการตั้งค่า รวมๆแล้วจะแบ่งออกเป็นการตั้งค่าการเชื่อมต่อ ตัวเครื่อง บุคคล และระบบ โดยที่น่าสนใจคือระบบการใช้งาน 2 ซิม ที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปเลือกเปิดปิด การทำงานซิมได้ สลับการใช้งานโทรศัพท์ ข้อความ และซิมที่ต่อเน็ตได้ เพียงแต่เมื่อเลือกซิมหลักแล้ว อีกซิมจะเข้าสู่โหมดสแตนบาย 2G
โหมดการใช้งานกล้องของ Phab Plus ยังถือว่าไม่ได้มีจุดเด่นที่ชัดเจน เหมือนในรุ่นอย่าง Vibe Shot กล่าวคือตัวอินเตอร์เฟสจะเน้นการใช้งานแบบอัตโนมัติเป็นหลัก สามารถปรับโหมดถ่ายภาพได้มาไอค่อนลัดที่มุมขวาบน หรือถ้าต้องการเข้าไปตั้งค่าอื่นๆก็จะมีให้เลือกอย่าง สมดุลแสงขาว ระบบกันสั่น โหมดหน้าสวย เสียงชัตเตอร์ ระบบตรวจจับใบหน้าเป็นต้น
การใช้งานโทรศัพท์ ยังมาพร้อมระบบเดารายชื่อจากเลขหมายหรือชื่อที่พิมพ์ไป โดยสามารถตั้งได้ว่าจะให้ซิมใดใช้งานสำหรับโทรศัพท์เป็นหลัก เมือเข้าสู่หน้าจอสนทนาจะมีไอค่อนลัดสำหรับเปิดลำโพง ปิดเสียง เรียกปุ่มกด พักสาย เพิ่มสาย บันทึกเสียงได้ ส่วนหน้าจอสายเรียกเข้าจะให้เลื่อนปุ่มรับสาย ตัดสาย และส่งข้อความกลับ
คีย์บอร์ดที่แถมมาให้กับตัวเครื่อง Phab Plus รองรับการใช้งานภาษาไทยอยู่แล้ว ทำการสลับภาษาด้วยการกดปุ่มลูกโลก สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน ซึ่งด้วยขนาดหน้าจอแล้ว ทำให้ปุ่มกดที่ได้มีขนาดใหญ่ ง่ายต่อการพิมพ์
ในแง่ของการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเว็บไซต์ จากตัวจอที่มีขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว แน่นอนว่าทำให้สามารถใช้ในกาใช้งานได้ดีขึ้น รวมถึงการรับชมคลิปวิดีโอ ดูยูทูปได้เต็มตามากยิ่งขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความหนักของตัวเครื่อง กับความใหญ่ที่ทำให้ไม่สามารถถือใช้งานด้วยมือข้างเดียวเป็นเวลานานๆได้
สุดท้ายแอปที่แถมมาให้สำหรับผู้ใช้งานเลอโนโว คือ Sync it เป็นแอปใช้สำรองข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ ขึ้นไปเก็บไว้บนระบบคลาวด์ หรือจะเลือกสำรองข้อมูลไว้ในเอสดีการ์ดก็ได้ ส่วน Share it เป็นแอปในการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องสมาร์ทโฟนด้วยกัน แต่ต้องทำการติดตั้งแอปไว้ทั้งคู่ ภายในตัวเครื่องยังมีวิทยุFM มาให้ใช้งานด้วย