เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้


เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

เมื่อ “ไป่ตู้” ขอคืนความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

หากได้ยินชื่อเสียงของ “ไป่ตู้” ในประเทศไทย ภาพที่ผู้บริโภคที่พอมีความรู้ด้านไอทีมองคือ เป็นบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมมาติดตั้งเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ไม่ปกติ แต่ในความเป็นจริงบริการต่างๆ ของ ไป่ตู้ ในประเทศจีนกลับได้รับความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากจากผู้ใช้ เนื่องจากถือเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในประเทศจีนจากเทคโนโลยีต่างๆ ของไป่ตู้

       ดังนั้น เมื่อไป่ตู้ได้รับรู้ถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น จึงพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้ในประเทศไทย และเตรียมที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในประเทศไทย ด้วยงบประมาณมากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า เพื่อให้ผู้ใช้ไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัท และเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา

       ริชาร์ด ลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท ไป่ตู้ จำกัด ให้ข้อมูลว่า แนวคิดหลักของไป่ตู้ คือ การเป็นบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี ดังนั้น จึงมองว่าไป่ตู้มีจุดแข็งหลักอยู่ที่การพัฒนาบริการค้นหา (Search) ที่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ในขณะที่บริษัทอื่นๆ ในจีน อย่าง อลีบาบา (Alibaba) ก็มีจุดเด่นในแง่ของการทำตลาดอีคอมเมิร์ซ เทนเซน (Tencent) ให้บริการผลิตภัณฑ์อย่างแอปพลิเคชัน QQ WeChat

“สิ่งที่ไปตู้พยายามทำในตลาดต่างประเทศตอนนี้คือ การนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในจีนเข้ามาให้บริการก่อน หลังจากนั้น เมื่อแต่ละประเทศเริ่มมีผู้ใช้งานมากขึ้น และมีทีมงานที่แข็งแกร่งก็จะเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่นต่อไป”

       ขณะที่ในอนาคตสิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นแกนสำคัญคือ ตลาดโมบาย ที่ระบบการค้นหาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ในการค้นหาสถานที่ใกล้เคียงจากระบบระบุพิกัดภายในสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ในการนำทาง จองร้านอาหาร โรงแรม รวมไปถึงระบบการค้นหาด้วยคำสั่งเสียง การค้นหาจากฐานรูปภาพ แปลภาษาจากรูป โดยในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ไป่ตู้ สามารถสร้างรายได้จากในประเทศจีนกว่า 2.2 พันล้านเหรียญ โดยกว่า 36% มาจากการใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งปริมาณการใช้งานผ่านมือถือเติบโตสูงกว่าพีซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา

       “รายได้หลักของไป่ตู้มาจากค่าโฆษณาผ่านคำค้นหาเป็นหลัก แต่จะมีรายได้จากบริการแบบ Online To Offline ที่ให้บริการระบบค้นหาสินค้าจากรูปภาพ เพื่อสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที และบริการอย่าง Group Buy หรือพวกบริการขายดีลที่รู้จักกันในประเทศไทย รวมไปถึงให้บริการดูภาพยนตร์ผ่านเว็บไซต์ อ้ายคิวอี่ (Aqiyi) บริการอ่านนิตยสาร นิยาย ที่ได้ส่วนแบ่งรายได้จากทางสำนักพิมพ์เข้ามาเพิ่มเติมด้วย”

       ส่วนตลาดในประเทศไทย ริชาร์ด มองว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตจากจีนในกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่าง หัวเว่ย และแซตทีอี เข้ามาทำตลาด และได้รับการยอมรับไปแล้ว และเชื่อว่าจะถึงคราวของไป่ตู้ และรายอื่นๆ ที่ให้บริการเป็นอินเทอร์เน็ต คอมพานี จากการที่ไป่ตู้มองเห็นถึงความสำคัญของประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเริ่มทยอยเข้ามาให้บริการ

โดย ริชาร์ด ยืนยันว่า ไป่ตู้ ให้ความเคารพต่อกฎหมายในแต่ละประเทศทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมต่อภาพรวมวัฒนธรรมของแต่ละประเทศในการเข้าไปให้บริการ เพราะอย่างในประเทศจีน ไป่ตู้ให้บริการภายใต้ข้อจำกัดที่ค่อนข้างสูงของทางภาครัฐ ดังนั้น เมื่อเข้ามาให้บริการในไทยก็จะทำตามกฎต่างๆ ของไทย

***ปั้นภาพใหม่ “Internet Company” ลบความผิดพลาด

       ริชาร์ด กล่าวถึงการที่ผู้ใช้ในประเทศไทยมองบริการต่างๆ ของไป่ตู้ในทางลบว่า สิ่งที่ไป่ตู้ต้องทำคือ การสื่อสารไปยังผู้ใช้ว่า บริษัทขนาดใหญ่อย่างไป่ตู้ ที่มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ สูงกว่า 7-8 หมื่นล้านเหรียญ จะไม่นำบริการที่เป็นมัลแวร์ไปให้แก่ผู้ใช้งานอย่างแน่นอน

ที่ผ่านมา ช่วงที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ไป่ตู้ได้รับความไม่พอใจจากผู้บริโภคนั้น เกิดจากการทำแคมเปญร่วมกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์จากส่วนแบ่งรายได้ของการติดตั้ง ทำให้เมื่อมีการติดตั้งไป่ตู้ลงบนเครื่องผู้ใช้งานผู้ผลิตซอฟต์แวร์เหล่านั้นจะได้รับเงินส่วนแบ่งทำให้เกิดเหตุการณ์ที่นักพัฒนาเหล่านั้นนำไป่ตู้เข้าร่วมไปกับซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเพื่อให้ผู้บริโภคติดตั้งไป่ตู้ลงไปพร้อมๆ กัน

       ขณะที่ในความเป็นจริง ไป่ตู้ มีข้อกำหนดไว้ว่าถ้ามีการติดตั้งโปรแกรมต้องให้ผู้ใช้ยอมรับเสียก่อนโดยการติ๊กในช่องยืนยัน แต่ปรากฏว่ามีบริษัทซอฟต์แวร์รายเล็กบางรายข้ามขั้นตอนดังกล่าวไปทำให้เกิดการติดตั้งโปรแกรมไป่ตู้แบบอัตโนมัติทันที และมีการบังคับให้ติดตั้งแบบไม่สามารถลบออกได้ รวมไปถึงการที่มีโฆษณาสูงกว่าปกติก็เกิดจากเหตุดังกล่าวเช่นเดียวกัน

       ทางไป่ตู้ จึงต้องพยายามตรวจสอบย้อนกลับไปว่า เกิดจากพาร์ตเนอร์รายใดเพื่อระงับการให้บริการแต่ก็ยังล่าช้า เนื่องจากมีการแตกไลน์ของพาร์ตเนอร์ออกเป็นหลายขั้น หลายชั้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเป็นอย่างมาก จนเกิดการลุกลามของปัญหา และส่งผลให้เกิดประสบการณ์ไม่ดีต่อผู้ใช้งาน

ริชาร์ด กล่าวว่า แผนขั้นต่อไปของไป่ตู้ในการทำตลาดประเทศไทยเพื่อสร้างความเชื่อมั่น คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ผู้บริโภคก็จะเกิดความเชื่อมั่นขึ้นมา พร้อมกับเตรียมเงินลงทุนที่จะสื่อสารไปยังผู้บริโภคให้มากขึ้นกว่าเดิม

       “ต้องเข้าใจว่าเมื่อเป็นบริการฟรีผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่พอใจจะไม่ค่อยออกมาชื่นชม หรือป่าวประกาศให้ผู้อื่นรู้ แต่กลุ่มผู้ใช้ที่ไม่พอใจในบริการจะเสียงดังกว่า ซึ่งในความเป็นจริงไป่ตู้ก็ไม่เคยออกมาให้ข้อมูลถึงข้อดีจากการให้บริการของไป่ตู้เลย อย่างเช่น บริการค้นหาด้วยภาพที่ช่วยตามหาเด็กหายในประเทศจีน”

       ขณะเดียวกัน ไป่ตู้ ก็ได้มีการเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น ผ่านช่องทางหน้าเว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ และเพจเฟซบุ๊กเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ด้วย

       ชฎากร ธนสุวรรณเกษม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไป่ตู้ ประเทศไทย จำกัด ให้ข้อมูลเสริมว่า ปัจจุบันธุรกิจหลักของไป่ตู้ ประกอบไปด้วย 4 ส่วนด้วยกันคือ บริการค้นหาข้อมูล (Search Engine) บริการข้อมูลผ่านระบบมือถือ (Mobile Cloud) การนำพิกัดมาใช้ในการให้บริการ (Location Base Service) และสุดท้ายคือ บริการทั่วไประดับโลก (International Bussiness)

       โดยในประเทศไทยมีพนักงานประมาณ 20 คน มีบริการที่เปิดให้ใช้ในประเทศไทย ทั้งหมด 8 ชนิด แบ่งเป็น 4 บริการบนพีซี และ 4 บริการบนมือถือ ตั้งแต่ Baidu PC Faster ที่มีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านคน ถัดมาเป็น Baidu Antivirus 2 ล้านคน Spark Browser 2 ล้านคน และ Hao123 ในพีซี ส่วนในสมาร์ทโฟนจะมีบริการ Baidu Browser ที่มีการลงทุนตั้งเซิร์ฟเวอร์ อยู่ในประเทศไทย DU Battery Saver แอปพลิเคชันช่วยจัดการพลังงาน DU Speed Booste แอปพลิเคชันช่วยเร่งความเร็วในการใช้งาน และ PhotoWonder แอปพลิเคชันตกแต่งภาพ

นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการ Baidu SEM เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยที่อยากลงโฆษณาในประเทศจีนเข้ามาใช้บริการด้วย ส่วนตัวเว็บไซต์ค้นหาBaidu.co.th กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในช่วงกลางปี 2015

       “จุดต่างของไป่ตู้กับบริการค้นหาอื่นๆ คือ เน้นพัฒนาคอนเทนต์ท้องถิ่น เพื่อนำคำค้นมาตอบสนองผลการค้นหา ที่ไม่จำเป็นต้องแสดงเพียงแค่ลิงก์เพื่อเข้าไปยังเว็บไซต์ แต่จะมีการแสดงผล รวมไปถึงตารางการแข่งขันงานอีเวนต์ต่างๆ ผลฟุตบอลโดยไม่จำเป็นต้องกดเข้าไปดูในหน้าเว็บไซต์ ระบบแปลภาษาออนไลน์โดยใช้ฐานข้อมูลภาษาไทยจากทางเนคเทค ค้นหาเพลง และเข้าไปฟังได้ทันที”

***ในจีน “ไป่ตู้” ทำอะไรได้บ้าง

       ด้วยการที่ไป่ตู้ ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ดังนั้น รูปแบบการให้บริการค้นหาในประเทศจีน จึงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่หาค้นหาข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความต้องการอื่นๆ ของผู้ใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ เทรนด์การใช้งาน ดิกชันนารี และบริการอื่นๆ อีกมากมายที่ใกล้เคียงกับความสามารถของกูเกิล

เนื่องจากเปิดให้บริการในจีนมายาวนาน ส่งผลให้ไป่ตู้มีฐานข้อมูลการใช้งานที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถนำผลการค้นหาเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ ออกมาเป็นบริการค้นหาข้อมูลแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ กล่าวคือ เมื่อมีการค้นหาสถานที่ก็จะบอกเส้นทางการเดินทางโดยอัตโนมัติ รวมถึงการบอกความหนาแน่นของประชากรในช่วงเวลานั้น เพื่อแสดงผลด้วย

       “เนื่องจากประชากรที่ใช้งานไป่ตู้ในประเทศจีนมีจำนวนเยอะมาก ดังนั้น เมื่อมีการติดตั้งแอปไว้ในสมาร์ทโฟนก็จะช่วยระบุตำแหน่งผู้ใช้ในแต่ละสถานที่ได้ จึงสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาประมวลผล และแสดงผลออกมาบนแผนที่เพื่อให้รับรู้ถึงความหนาแน่นในแต่ละพื้นที่ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ”

       นอกจากในแง่ของความหนาแน่น ไปตู้ ยังสามารถใช้ค้นหา และจองที่พัก ร้านอาหาร รวมไปถึงการค้นหาสถานบันเทิง บริการร้านอาหารส่งถึงบ้าน ห้างสรรพสินค้า ตู้เอทีเอ็ม ที่จอดรถ ร้านกาแฟ โรงเรียน โรงพยาบาล และห้องน้ำ โดยใช้ความสามารถของระบบระบุพิกัดบนมือถือเพื่อช่วยให้การค้นหาได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น

ริชาร์ด ให้ความมั่นใจว่า บริการค้นหาที่เป็นประโยชน์เหล่านี้จะถูกนำมาให้บริการในประเทศไทยอย่างแน่นอน รวมไปถึงนวัตกรรมต่างๆ ที่ไป่ตู้พัฒนาขึ้นด้วย และแน่นอนว่าถ้ามีบริษัทสตาร์ทอัปรายใดที่มีความโดดเด่นในประเทศไทย ไป่ตู้ ก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน เพื่อนำมาให้บริการร่วมกันเหมือนเช่นความร่วมมือกับอูเบอร์ในประเทศจีน

       โดยความคืบหน้าล่าสุดของไป่ตู้ ในประเทศจีนคือ การตกลงเป็นพันธมิตรกับอูเบอร์ (Uber) ที่ให้บริการรถรับส่งผ่านแอปพลิเคชันมือถือ ทั้งบนแอนดรอยด์ และในไอโอเอส เพียงแต่ผู้ใช้แอนดรอยด์ในจีนไม่สามารถเข้าถึงกูเกิลเพลย์ได้ ไป่ตู้จึงนำบริการของอูเบอร์ มาผูกเข้ากับบริการของไป่ตู้เพื่อให้คนจีนสามารถเข้าถึงการให้บริการได้

       อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตากันต่อไปก็คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของไป่ตู้ ในอนาคตว่าจะออกมาแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตได้หรือไม่ และผู้บริโภคชาวไทยจะเปิดใจให้กับบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่จากจีนรายนี้เหมือนกับที่ใช้บริการกูเกิลในประเทศไทยหรือไม่



***3 นวัตกรรมเด่นไป่ตู้***

1.DuBike ปัจจุบันพัฒนาอยู่ในระดับทดลอง เวอร์ชัน 0.134 (ออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่าคงอยู่ตลอดไปในภาษาจีน) โดยความสามารถหลักที่พัฒนาขึ้นมาตอนนี้ คือ ใช้เพื่อเก็บข้อมูลการขี่จักรยาน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ จากเซ็นเซอร์บริเวณแฮนด์จักรยาน พร้อมมีไฟแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อบอกว่า เป็นการปั่นในจังหวะที่เหมาะสมแล้วซึ่งจะทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันในมือถือเพื่อบอกค่าปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญไป

       อนาคต สิ่งที่ไป่ตู้ต้องการทำ คือ การพัฒนา DuBike ให้เข้ากับชีวิตประจำวันมากขึ้นเพราะปัจจุบันความสามารถไม่แตกต่างจากอุปกรณ์เสริมในการขี่จักรยานทั่วๆ ไปที่วางไว้คือ การทำให้ DuBike ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้อย่างการนำทาง ที่ใช้ร่วมกับตัวแผนที่ของ Baidu ในการคำนวนความหนาแน่นของรถ

       แน่นอนว่าด้วยการที่ Baidu เน้นพัฒนาทางด้านซอฟต์แวร์ ดังนั้น ในอนาคตเมื่อต้องการออกสู่ตลาดจึงน่าจะต้องร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ผลิตจักรยานในการนำไปผลิต และออกสู่ตลาดในอนาคตต่อไป

       2.BaiDuEye ที่ออกแบบมาจากการเห็น Wearable Device มีจุดเด่นที่การใช้คำสั่งเสียงในการออกคำสั่ง (ภาษาจีน) มีจุดประสงค์เพื่อนำกล้องมาใช้ในการค้นหาข้อมูลจากรูปต่างๆ ร่วมกับ แอปพลิเคชัน DuEye อย่างเช่น การดูรูปภาพ สิ่งของก็จะมีการอธิบายรายละเอียดต่างๆ ออกมาผ่านหูฟังที่ติดตั้งอยู่ใน DuEye

รูปแบบการทำตลาดของ DuEye คือ ทำตลาดโดยตรงเข้าไปยังห้างสรรพสินค้า และพิพิธภัณฑ์ในปักกิ่ง ก่อนขยายไปเมืองอื่นในอนาคต เพื่อให้ข้อมูลสินค้า หรือภาพ และรายละเอียดสิ่งของที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แก่ผู้ที่เข้าชม เป็นต้น

       3.Baidu Smart Chopstick ตะเกียบอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ตรวจสอบปริมาณ และความสะอาดของน้ำมันเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคที่ต้องการควบคุมปริมาณแคลอรี หรือนำไปใช้เพื่อตรวจสอบอาหารที่อาจจะเป็นอันตรายหากรับประทานเข้าไป และความเป็นกรดเป็นด่างของอาหาร โดยใช้เซ็นเซอร์ที่ปลายตะเกียบในการตรวจจับ หลังจากนั้น จะส่งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันไปยังระบบคลาวด์เพื่อค้นหารายละเอียดจากฐานข้อมูลก่อนมานำเสนอบนแอปเพื่อให้รับรู้ว่าอาหารที่กินมีความสะอาด ปริมาณน้ำมัน และความเป็นกรด ด่างอย่างไร

Company Related Link :
ไป่ตู้



Create Date : 19 ธันวาคม 2557
Last Update : 19 ธันวาคม 2557 22:18:05 น. 0 comments
Counter : 917 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]