เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เจาะ 5 จุด iPhone 6 Plus ปะทะ Galaxy Note 4

เจาะ 5 จุด iPhone 6 Plus ปะทะ Galaxy Note 4
แม้ว่าซัมซุงจะถือเป็นผู้ที่เปิดตลาดเครื่อง Phablet และครองตลาดมาตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่กับการมาของ Apple iPhone 6 Plus คงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาอย่างแน่นอนว่า อนาคตของตลาดนี้จะเป็นเช่นไร ถ้า Galaxy Note 4 ต้องมาสอนมวยน้องใหม่ในตลาดอย่าง iPhone 6 Plus

       โดยจากเว็บไซต์ต่างประเทศหลายๆแห่งที่ได้ทำการทดสอบ iPhone 6 Plus และ Note 4 ส่วนใหญ่จะให้คะแนน Note 4 สูงกว่า iPhone 6 Plus ทั้ง Phonearena GSMarena ยังไม่นับรวมผลโหวตของผู้ใช้หลายๆแห่งที่ระบบุว่าความสามารถของ Note 4 ดีกว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นลองไปหาคำตอบกันได้

การแสดงผล

       เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นสินค้าในตระกูลแฟบเล็ต ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแล้วนั้น สิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ในการนำมาเปรียบเทียบกันเลยคือเรื่องของหน้าจอการแสดงผล ถ้าวัดกันจากข้อมูล iPhone 6 Plus จะมากับหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1,920 x 1,080 พิกเซล 401 ppi) ในขณะที่ Note 4 มากับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD หรือ 2K (2,560 x 1,440 พิกเซล 515 ppi)

       แน่นอนว่าถ้าดูกันด้วยรายละเอียด Note 4 กินขาดทั้งในเรื่องของขนาด ความละเอียด และความคมชัดในการแสดงผล แต่ถ้าถามกลับกันว่า ด้วยจอขนาดนี้สิ่งที่ตามนุษย์สามารถแยกได้อยู่ที่ระดับใดกันแน่ ก็ต้องบอกว่าแค่ระดับ Full HD ก็เพียงพอแล้ว แต่เอาเข้าจริงเมื่อได้ลองใช้ Note 4 ไปสักระยะ แล้วกลับมาใช้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นก็ต้องบอกว่าตาเพี้ยนกันไปเลยทีเดียว

       อย่างไรก็ตามสิ่งที่ Note 4 ใส่มาไม่ได้มีแค่ความละเอียดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการใส่ระบบ Adaptive Display ที่ปรับการแสดงผลให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานเช่นเดียวกับในสินค้ารุ่นที่ออกมาก่อนอย่าง Tab S ในขณะที่ iPhone 6 Plus จะมากับระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติที่เป็นพื้นฐานเท่านั้น

       อีกจุดหนึ่งที่เกี่ยวเนื่องกับหน้าจอและหนีไม่พ้นเลยในการสั่งงานคือ ระบบการป้อนข้อมูลสิ่งที่ iPhone 6  Plus ทำได้คือการใช้นิ้ว หรือปากกาที่เป็น Capacitive ในการขีดเขียน สิ่งที่ Note 4 ทำได้มากกว่า แลถือว่าเป็นจุดสร้างความต่างสำคัญเลยคือ S-Pen ที่ในรุ่นนี้รองรับแรงกดถึง 2,048 ระดับ พร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกขึ้น

เจาะ 5 จุด iPhone 6 Plus ปะทะ Galaxy Note 4
Samsung Galaxy Note 4
การใช้งาน

       โดยองค์รวมแล้ว ต้องบอกว่าทั้ง iPhone 6 Plus และ Note 4 ตอบสนองการใช้งานในแง่ของสมาร์ทโฟนได้ใกล้เคียงกัน ถ้าตัดในเรื่องของ S-Pen ออกไป เพราะความสามารถของ iOS 8 และ Android หลังๆนั้นแทบไม่แตกต่างกันแล้ว หรือบางที Android อาจจะเหนือกว่าในบางเรื่องเสียด้วยซ้ำ ในขณะที่ iOS 8 ก็จะมีความโดดเด่นในเรื่องของความสเถียร

       สิ่งที่ Note 4 ทำได้เหนือว่า iPhone 6 Plus หรือก็เปรียบได้กับสิ่งที่ Android เหนือกว่า iOS คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการทำงานแบบ Multitasking เพราะผู้ใช้ Note 4 สามารถย่อยหน้าจอลงมาเป็นหน้าต่าง เพื่อสลับการทำงานหลายๆอย่างไปพร้อมๆกันได้ ขณะที่ใน iOS จะทำได้เพียงการสลับหน้าต่างไปมา

       ดังนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละคน ที่มีความต้องการแตกต่างกันอย่างไร เพราะสมาร์ทโฟน ที่พกอยู่ในมือติดตัวไปทุกวัน ต้องไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์ที่มีไว้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ แต่ยังต้องตอบสนองการใช้ชีวิตให้สะดวก และง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน

       ถ้ามองเจาะลึกลงไปถึงระบบปฏิบัติการ ความสามารถใหม่ๆใน iOS 8 ที่โดดเด่นขึ้นมาและน่าสนใจคือ เรื่องของการทำงานร่วมกับ OS X Yosemite และ iTunes เวอร์ชันล่าสุด ที่เมื่อผู้ใช้งานทำการซิงค์ข้อมูลไว้ด้วยกัน เมื่อมีสายเรียกเข้าใน iPhone ก็จะมีการแจ้งเตือนที่หน้าจอ MAC ให้รับสาย และสนทนาได้ทันที หรือจะใช้แทนโทรศัพท์ในการโทรออกก็ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของ การส่ง-ตอบ ข้อความ SMS การส่งหน้าเว็บเบราว์เซอร์ที่สนใจมาเปิดอ่านใน MAC และการแชร์ไฟล์ระหว่าง 2 อุปกรณ์ ที่ทำได้อิสระมากยิ่งขึ้น

       แต่ก็ใช่ว่าใน Note 4 จะไม่สามารถทำได้ เพราะซัมซุง ก็มีการพัฒนา SideSync ออกมาให้ใช้งานกัน โดยผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับ พีซี ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ก็ได้ หรือเลือกที่จะเชื่อมต่อเข้ากับ Galaxy Tab s เพื่อดึงหน้าจอ Note 4 มาแสดงผลบนแท็บเล็ต และพีซี ได้ทันที และแน่นอนว่าสามารถควบคุมการใช้งานบนหน้าจอได้ทุกชนิด ไม่ได้จำกัดเพียงแค่โทรศัพท์ และส่งข้อความเท่านั้น

เจาะ 5 จุด iPhone 6 Plus ปะทะ Galaxy Note 4
Apple iPhone 6 Plus
เทคโนโลยีแห่งอนาคต

       จากนั้นถ้ามองไปถึงเรื่องของเทคโนโลยี ก่อนหน้านี้อาจจะมองกันที่เรื่องของระบบสแกนลายนิ้วมือ (Finger Print) ที่ iPhone เริ่มมีมาตั้งแต่ในรุ่น 5S ขณะที่ซัมซุงก็เริ่มมีมาใน Note 3 แต่ก็ต้องบอกว่ารูปแบบการใช้งานจะแตกต่างกัน เพราะใน iPhone จะใช้การวางนิ้วลงไปเพื่อสแกน ในขณะที่ Note จะใช้การลากนิ้วผ่านเซ็นเซอร์ ดังนั้นการวางนิ้วน่าจะให้ความสะดวกในการใช้งานมากกว่า

       สิ่งที่เกี่ยวเนื่องเข้าไปกับระบบสแกนลายนิ้วมือถือ เรื่องของความปลอดภัย ในจุดนี้ซัมซุงได้มีการคิดค้น Samsung Knox ขึ้นมารองรับการใช้งานสำหรับลูกค้าองค์กร ที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูล ในขณะที่ iPhone 6 Plus ก็จะเริ่มมีการนำรูปแบบการเข้ารหัสข้อมูลมาใช้งาน เพียงแต่ไม่ได้แยกออกไปชัดเจนเหมือนในซัมซุง

       ถัดมาคือเรื่องของระบบจ่ายเงินผ่าน NFC แอปเปิลได้มีการเพิ่ม Apple Pay เข้ามาใช้งานร่วมกับฟังก์ชันสแกนลายนิ้วมือ แต่ทั้งนี้ยังไม่มีองค์กรใดพัฒนาและนำมาใช้กับบัตรเครดิตในประเทศไทยในช่วงเวลาอันสั้นแน่ๆ ทำให้ถ้าต้องการใช้งานต้องใช้ผ่านบัตรเครดิตในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ระบบ NFC ของ Note 4 ถูกนำไปใช้งานแล้วกับ AIS Rabbit Sim ที่ใช้สมาร์ทโฟนแทนบัตร Rabbit ในการใช้ขึ้นรถไฟฟ้า หรือชำระค่าสินค้าตามร้านที่ร่วมได้

       ในเรื่องของเซ็นเซอร์ iPhone 6 Plus และ Note 4 มีการนำเซ็นเซอร์อย่าง Barometer และตัวนับก้าวมาใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพ Health ในการเก็บข้อมูลต่างๆ ร่วมกับ Wearable อื่นๆที่จะออกมาในอนาคต แต่ใน Note 4 ยังมีเซ็นเซอร์ที่ทำงานร่วมกับ S-Health เกี่ยวข้องกับสุขภาพอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) วัดแสงยูวี (UV Sensor)

       ทำให้เมื่อมองไปถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพแล้วด้วยตัวอุปกรณ์ของ Note 4 ดูจะมีภาษีดีกว่า iPhone 6 Plus เพียงแต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้จะใส่ใจในสุขภาพแค่ไหน และต้องการให้สมาร์ทโฟนมาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยผลักดันให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นหรือไม่

ประสิทธิภาพโดยรวม

       ในมุมของสเปกตัวเครื่องต้องยอมรับว่า Note 4 มีภาษีที่ดีกว่า iPhone 6 Plus โดยมองจากรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย Note 4 จะมากับซีพียู Exynos 5433 ที่เป็น Octa Core 1.9 GHz กับ 1.3 GHz RAM 3 GB ในขณะที่ iPhone 6 Plus เป็น Apple A8 ที่เป็น Dual Core 1.4 GHz แต่ใช้แบบ 64 บิต RAM 1 GB

       ในส่วนของพื้นที่เก็บข้อมูลซัมซุงใส่มาให้ใน Note 4 ที่ 32 GB แต่ผู้ใช้สามารถใส่ไมโครเอสดีการ์ดได้อีก 128 GB ส่วน iPhone 6 Plus ก็จะมีให้เลือกทั้ง 16 GB 64 GB และ 128 GB แบตเตอรี Note 4 ให้มา 3,220 mAh ขณะที่ iPhone 6 Plus ให้มา 2,915 mAh

       เมื่อมองถึงประสิทธิภาพจากสเปกโดยรวมแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าหลายๆอย่าง Note 4 เหนือกว่า iPhone 6 Plus เพราะในอนาคตถ้ามีการอัปเกรดระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่เครื่องที่สเปกแรงกว่าก็ย่อมได้เปรียบไปในตัวอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจก็คือด้วยสเปกที่ต่ำกว่าแต่ iOS 8 ก็สามารถทำออกมาให้ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่แตกต่างกันมาก

       เช่นเดียวกับในมุมของกล้องถ้าเทียบกล้อง 16 ล้านพิกเซล กับ กล้อง 8 ล้านพิกเซล แม้ว่าจะมีระบบกันสั่นอย่าง OIS เหมือนกัน แต่คุณภาพของรูปที่ความละเอียดสูงขึ้นก็ย่อมทำให้ได้เปรียบมากกว่า ไม่นับรวมกับลูกเล่นที่ใส่มาให้ในโหมดกล้องที่เพิ่มขึ้นอย่าง Wide Selfie ที่มีความน่าสนใจ

ราคา

       สุดท้ายในส่วนของราคา iPhone 6 Plus เริ่มต้นที่ 28,900 บาท แต่เครื่องที่ซื้อมาแล้วพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งานจริงๆก็ต้องเป็นรุ่น 64 GB ที่ 32,900 บาท ส่วน Note 4 มีราคาเดียวที่ 25,900 บาท จะเห็นไ้ด้ว่าราคาของ Note 4 ถูกกว่าราว 7,000 บาท แต่ให้ฟังก์ชันการใช้งานที่ถือว่าครบครันมากกว่า

       ดังนั้น ถ้าไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์อย่างแอปเปิล และมองหาสมาร์ทโฟนที่จะมาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เชื่อว่า Note 4 น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยประหยัดสตางค์ในกระเป๋าได้ และช่วยอำนวยความสะดวกให้ในการใช้ชีวิตประจำวัน และทำงานไปพร้อมๆกัน

แล้วถ้าเป็นคุณจะเลือก Note 4 หรือ iPhone 6 Plus...



Create Date : 12 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2557 22:44:25 น. 0 comments
Counter : 1014 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]