วันนี้ (๑๔ พ.ค.๕๕)  ได้เข้าร่วมประชุมปัญหาการบังคับใช้กฏหมานจราจรตาม คน.นธ. เสนอว่า ตำรวจจราจรเมืองไทย มักจะใช้อำนาจทางไม่ชอบ  ทำให้ตำรวจไทยเสียภาพลักษณ์อย่างมาก คน.นธ. จึงมีข้อเสนอหลายประการ เช่น 

๑. ตำรวจจราจร ควรจะจับกุมผู้กระทำผิดเฉพาะที่เห็นเป็นความผิดชัดแจ้งเท่านั้น  ไม่ควรยึดใบขับขี่ แต่ให้ออกใบสั่งแทน ไม่ควรยึดกุญแจรถจักรยานยนต์ ฯลฯ

๒. ตำรวจจราจร ควรใช้ดุลพินิจในการจับกุมให้เสมอภาค ไม่กลั่นแกล้ง เพื่อให้ต่อรองและจ่ายเงินโดยไม่ชอบ 

๓. ตำรวจควรมีมาตรการในการกำหนดให้มีการใช้ดุลพินิจได้ถูกต้อง และควรอำนวยความสะดวกในการปรับในช่องทางใหม่ ๆ  เช่น Counter Service

พร้อมข้อเสนออื่น ๆ อีกมากมาย  

สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ จึงได้เชิญผู้แทนจากหน่วยปฏิบัติมาร่วมหารือกัน  บรรยากาศในที่ประชุม ก็ตั้งแง่รังเกียจข้อเสนอ คน.นธ. อ้างเหตุผลต่างๆ  นานา ที่ปฏิเสธการปฏิบัติตามคำแนะนำของ คน.นธ. ใด ๆ  โดยอ้างเฉพาะ กม. จราจรทางบก ให้อำนาจในการจับกุม จะไม่จับกุมได้อย่างไร  พร้อมอ้างประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ถ้าไม่ยึดใบขับขี่ คนจะเสียค่าปรับน้อย .... อ้างว่า กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ 

สุดท้าย พลตำรวจตรีนายหนึ่ง พูดว่า คนธ.นธ. ไม่ใช่พ่อ ไม่ต้องไปสนใจ ฯลฯ พร้อมคำต่าง ๆ ที่ฟังแล้ว แปลกใจว่า เออคนนี้ เคยเป็นอาจารย์ของเรา เราเคยศรัทธาและเคารพอย่างมาก เขาเป็นเช่นนี้ ได้อย่างไร เราเคยศรัทธาเขามาก  เราศรัทธาคนผิดหรือนี่

ความจริง ที่ คน.นธ. เสนอว่า กระทำการดังกล่าว ทำให้ตำรวจเสียหาย ประชาชนเดือดร้อน .... ตำรวจ ควรใช้ดุลพินิจที่ดี จับเฉพาะความผิดที่ปรากฎแจ้งชัดเท่านั้น  มันก็จะส่งผลดี คือ ทำให้ประชาชนรักตำรวจมากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณ คน.นธ. มาก ๆ ที่แนะนำด้วยซ้ำไป

นอกจากนี้ พลตำรวจตรี นายนั้น ยังพูดว่ากฎหมาย ให้อำนาจตำรวจ ต้องจับกุม  ผู้บังคับบัญชาจะเสือกสั่งให้ไม่ให้จับได้อย่างไร ...อย่าไปเสือก แล้วก็อ้างประชาชนเป็นตัวตั้งเพื่อยืนยันว่า "ต้องจับกุม" แล้วอีกอย่าง การจับกุม ยังเป็นการตรวจสอบ ว่าใครไม่จ่ายภาษี เพื่อประโยชน์ประเทศชาติอีก .....โอ้โห ช่างกล้า แล้วเขาก็พูดอะไรอีกมากมาย ประมาณเก่งคนเดียว พูดอยู่คนเดียว คนอื่นพูดผิดหมด

กระผมคิดในใจ  ตายเป็นตายวะ .... จึงขออนุญาตท่านประธานพูดฯ .... พยายามจะอธิบายว่า คน.นธ. เขาไม่ได้พูดเรื่องกฎหมาย เขาพูดเรื่องพฤติกรรมตำรวจจราจร ที่ใช้อำนาจไม่ชอบ ทำให้ประชาชนเกลียดชัง ควรแก้ไข ... แล้วก็พยายามยกตัวอย่างว่า หลายประเทศ เขาห้ามตั้งด่าน และ ตำรวจจะจับกุมได้ ต้องมีหลักฐานพอสมควรว่าเขากระทำผิด น่าจะนำมาใช้ .....

ปรากฎว่า .....พูดได้นิดเดียว พลตำรวจตรี นายนี้ ก็พูดพล่ามออกมาในทันทีว่า "ท่านประธาน ไม่ต้องให้พูด เสียเวลา ฯลฯ " ผมเลยบอกไม่พูดอะไรอีก ท่านเก่งคนเดียว พูอยู่คนเดียว ก็เรื่องของท่าน ท่านก็จะไม่ได้รับอะไรเพิ่มเติมเข้าไปในรอยหยักของกระโหลกของท่านอีก .... ตามสบาย เป็นสุขเป็นสุขเถิด ..... 

สุดท้าย ไม่แปลกใจ จริง ๆ ว่าทำไม จึงได้เป็นแค่นี้ ......... ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน ตอนสอนผม ที่ รร.นรต. ชั้นปีที่ ๓ คนนี้ ดาวรุ่งมาก ๆ ตอนหลังได้เป็นถึงผู้การกองปราบ ไม่ใช่ธรรมดาเลย แต่ก็พังเพราะหม้อ.............................. หวังว่า จะไม่เจอกันอีก เวลาผมมีค่านะครับ ไม่ใช่เสียเวลากะโหลกกะลา กับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ พอกันที กับความศรัทธาที่เคยมีให้ .... ทำไปได้อย่างไร ไม่เข้าใจเลย

ดีว่า ผมลด ละ เลิก ความก้าวร้าวมาเยอะ ไม่งั้น จะได้ถามว่า ปล่อยผมพูดจบก่อนดีไหม มารยาทที่ประชุมเป็นอย่างไร โตจนเป็นพลตำรวจตรีแล้ว ไม่มีมารยาทเลย ....

แต่ไม่วายนะ พลตำรวจตรี นายนี้ ยังแขวะตอนท้ายว่า พูดอะไรไร้สาระ เสียเวลาที่ประชุม ........ ล้นแก้วจริง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ สมแล้วที่เขาด่ากันทั้งประเทศ เมื่อตอนเป็นผู้การกองปราบ ...

เข้าประชุม ก็ได้ฝึกความอดทนต่อความเห็นที่แปลก ๆ ไม่มีพื้นฐานในการคิดมาก ๆ เยอะ ๆ เหมือนกัน บางคนไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย แต่พูดเป็นตุเป็นตะ อย่างสัปดาห์ที่แล้ว รองผู้การคนหนึ่ง พูดว่า กฎกระทรวง จะต้องเขียนแบบกฎหมายทั่วไป คือ เป็นนามธรรม ห้ามมีรายละเอียด ฯลฯ ตามหลักการร่างกฎหมาย .... เราก็ชี้แจงไป ที่ท่านเข้าใจ ก็เหมือนกับที่ผมเข้าใจในอดีตนะครับ แต่ความจริง ไม่ใช่หรอก กฎกระทรวง เขาคือ สิ่งที่กำหนดทางปฏิบัติ ต้องละเอียดมาก ๆ จนกระทั่งคนโง่ที่สุด อ่านแล้วเข้าใจได้ อย่าง กฎกระทรวงเกี่ยวกับ กม.จราจร กำหนดแม้กระทั่งความสูงความยาว ของรูปภาพเป็นเซ็นติเมตรด้วยซ้ำ ดังนั้น สิ่งที่เขาเข้าใจจึงผิด ...... แต่รองผู้การคนนั้น ก็พูดพล่ามไปเรื่อย เราก็ไม่ขวาง ปล่อยไป เพราะขวางไป ก็ไม่เข้าใจหรอก ไม่ได้ประเด็นเป้าหมายที่ต้องการ ... แต่คราวนี้ ขอยืนยันว่า "สุด ๆ วะ" ..............

Create Date : 14 พฤษภาคม 2555
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 17:37:20 น.		3 comments
Counter : 1509 Pageviews.
Share Tweet