All Blog
เปี๊ยก โปสเตอร์ ผู้สร้างมิติใหม่ให้หนังไทย


เปี๊ยก โปสเตอร์




เขาคือ เปี๊ยก โปสเตอร์
หากเอ่ยชื่อ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ หลายท่านอาจไม่คุ้นชื่อนี้
แต่ถ้าเอ่ยชื่อนี้ทุกคนจะร้องอ๋อทันที่ "เปี๊ยก โปสเตอร์" ทั้งนี้เพราะชื่อแรกเป็นชื่อจริงของเขา

วันนี้ในวัย 75 ปีของเขา (เกิด 18 ตุลาคม 2475) ยังดูแข็งแรง บุคคลิกสบายๆ พูดเสียงค่อนข้างดัง
เขาเล่าความหลังเกี่ยวกับการสร้างหนังในสไตล์ของเขา จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ให้ทีมงานรายการ "หนังกลางแปลง" ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคารที่ 3 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 23.00 น. ทาง ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ฟังอย่างสนุกสนาน

เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่าง ไฝ่ฝันอยากจะเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีจึงไม่สามารถเรียนต่อได้ เพื่อนร่วมรุ่นของเขาที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของสังคมคือ อ.ชลูด นิ่มเสมอ ศิลปินแห่งชาติ สุวรรณี สุคนธา อดีต บก.นิตยสาร ลลนา
เขาจึงเลือกทำอาชีพตามที่เล่าเรียนมาคือ เป็นช่างเขียนแผ่นป้ายโฆษณาสินค้า ต่อมาพัฒนามาเขียนป้ายโปสเตอร์หนัง (ใบปิด) และโปสเตอร์ขนาดใหญ่ติดหน้าโรงหนัง เขาเป็นผู้นำเอาสีโปสเตอร์มาเขียนป้ายแทนสีน้ำมันที่แพงมากๆในยุคนั้น และยังต้องสั่งมาจากต่างประเทศ

ผลงานการเขียนป้ายโปสเตอร์ของเขาเป็นที่ยอมรับกันในวงการหนัง เขามีศิษย์ที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ในด้านนี้สองสามคน

ต่อมาเพื่อนของเขาคนหนึ่งที่มีอาชีพในการพิมพ์หนังสือขาย มาชักชวนให้เขาลองเปลี่ยนแนวทางมาทำด้านหนังสือบ้าง สุชาติ เตชะศรีสุธี ซึ่งเป็นบรรณาธิการนิตยสารที่มีชื่อในสมัยนั้นคือ Starpics คือเพื่อนของเขา

เขาก็ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้อย่างน่าพึงพอใจ สามารถหาเงินจากการขายหนังสือได้ก้อนใหญ่ นี่คือเงินทุนก้อนแรกที่เขาใช้ในการเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อศึกษาเรียนรู้การสร้างหนัง หลังจากที่เพื่อนและพี่ชายของเพื่อนเขา แนะนำว่าเขาน่าจะลองสร้างหนังดูบ้าง อนาคตน่าจะไปไกลทีเดียว

เขาใช้เวลาศึกษาเรียนรู้อยู่ที่ญี่ปุ่นหลายเดือน พอกลับมาเมืองไทยเขาก็เริ่มต้นสร้างหนังไทยเรื่องแรกในชีวิตเขาคือ เรื่องโทน (พ.ศ. 2513)
หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ทำรายได้จากการฉายเพียงโรงเดียวคือที่โรงภาพยนตร์เฉลิมไทย จำนวนหกล้านบาท

สร้างพระเอกคนหนึ่งที่ไม่มีงานแสดงมาสองปี เพราะมีพระเอกเกิดใหม่มาแรงคือ มิตร ชัยบัญชา พระเอกที่มาแจ้งเกิดใหม่ด้วยหนังเรื่องโทนคือ ไชยา สุริยัน และนางเอกที่มาแจ้งเกิดพร้อมกันคือ อรัญญา นามวงค์

และต้องไม่ลืมดาราตัวประกอบอีกคนที่ใช้หน้าตาอัปลักษณ์เป็นจุดขายคือ สังข์ทอง สีใส

มีหนังที่เขาสร้างต่อมาอีกจำนวนหลายสิบเรือง ประสบความสำเร็จบ้างไม่ประสบความสำเร็จบ้างแล้วแต่สถานะการณ์ของบ้านเมืองในยุคนั้นคือ

ดวง (2514)ชู้ (2515) เขาสมิง (2516) คู่หู (2517) ฯลฯ และเรื่องสุดท้ายคือ สุริโยไท (2544) ผู้กำกับกอง 2
วันนี้เปี๊ยกมีความสุขอยู่ที่บ้านของเขาที่เชียงใหม่ เขาเป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด ใช้ชีวิตในบั้นปลายกับการเขียนภาพที่เขาโปรดปราน นานๆจะลงมากรุงเทพสักครั้ง และใช้ความรู้และประสบการณ์เกือบทั้งชีวิตของเขาเป็นอาจารย์พิเศษสอนในมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นวิทยาทาน

เขาคือ เปี๊ยก โปสเตอร์ ครับท่าน


จาก //www.satawas100.spaces.live.com



Create Date : 14 กันยายน 2551
Last Update : 14 กันยายน 2551 11:13:22 น.
Counter : 2085 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนุ่มร้อยปี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]



บล็อกนี้สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 โดย ชายไทยวัยสูงอายุ มีวัตถุประสงค์ในการบันทึกและนำเสนอเรื่องราวต่างๆแบบครอบจักรวาล อาทิ ภาพยนตร์ ดนตรี รายการทีวี หนังสือน่าอ่าน อาหารน่ากิน ท่องเที่ยว สะสมสิ่งของ ตำนานชีวิตบุคคลน่าสนใจ รู้ไว้ใช่ว่า จิปาถะ
ฯลฯ เป็นต้น คำขวัญประจำบล็อก ประสบการณ์ชีวิตที่ดีในอดีต คือทรัพยากรที่ทรงคุณค่าในปัจจุบัน คำขวัญประจำตัวเจ้าของบล็อก "อายุเป็นเพียงตัวเลข" บรรณาธิการบริหารบล็อกคือ หนุ่มร้อยปี บล็อกนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย ท่านใดเห็นว่าข้อเขียนหรือภาพประกอบในบล็อกนี้มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้ได้ แต่โปรดอ้างอิงชื่อบล็อกนี้ด้วย จักขอบคุณยิ่ง