สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) อยู่ระหว่างพัฒนา ควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะสามารถถอดรหัสลับได้ทุกประเภท และโครงการพัฒนาเครื่องมืออันล้ำสมัยนี้ก็กำลังคืบหน้าไปอย่างมาก หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานวานนี้ (2) สื่อดังของอเมริกาอ้างข้อมูลจากเอกสารลับที่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้างของเอ็นเอสเอ นำมาเผยแพร่ ซึ่งระบุว่า คอมพิวเตอร์ชนิดนี้จะช่วยให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ สามารถแกะรหัสลับทุกชนิดที่องค์กรทั่วโลกใช้ปกป้องข้อมูลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของธนาคาร, โรงพยาบาล, บริษัท หรือรัฐบาลก็ตาม การคำนวณเชิงควอนตัม (Quantum computing) เป็นอีกหนึ่งความมุ่งหมายของบริษัทเชิงพาณิชย์หลายแห่ง เช่น ไอบีเอ็ม เนื่องจากใช้ความสามารถระดับอะตอม และโมเลกุลเป็นตัวเก็บข้อมูล และยังช่วยเพิ่มความเร็ว และความปลอดภัยให้แก่คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญที่วอชิงตันโพสต์ไปขอสัมภาษณ์ต่างเชื่อว่า เอ็นเอสเอ คงไม่สามารถพัฒนาเครื่องมือดังกล่าวขึ้นมาได้โดยที่แวดวงนักวิทยาศาสตร์ไม่ระแคะระคาย เป็นไปไม่ได้ที่ เอ็นเอสเอ จะพัฒนาไปไกลถึงขั้นนั้นโดยไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดล่วงรู้ สก็อตต์ แอรอนสัน นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) เผย ล่าสุด เอ็นเอสเอ ยังไม่ออกมายอมรับ หรือปฏิเสธรายงานชิ้นนี้ เอกสารลับระบุด้วยว่า เอ็นเอสเอ ค้นคว้าวิจัยเรื่องควอนตัมคอมพิวเตอร์ภายในห้องขนาดใหญ่ที่มีสภาพเดียวกับ กรงฟาราเดย์ (Faraday cage) ซึ่งถูกออกแบบไม่ให้พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านเข้าออก ด้วยพลังการคำนวณที่สูงมาก ควอนตัมคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งจึงสามารถแกะรหัสลับที่ซับซ้อนที่สุดที่ใช้ในกิจกรรมออนไลน์ทุกวันนี้ รวมไปถึงรหัสลับของธนาคาร หรือรหัสอีเมล บริษัทเทคโนโลยี เช่น กูเกิล และยาฮู ออกมาเผยเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่า กำลังเร่งพัฒนาระบบป้องกันความลับในการสื่อสาร หลังมีรายงานว่า เอ็นเอสเอ สามารถแกะรหัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้ารหัสลับที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้ เมื่อเดือนกันยายน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส, โปรพับลิกา และเดอะการ์เดียน ก็ได้อ้างอิงเอกสารลับของ สโนว์เดน ซึ่งระบุว่า หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯ และอังกฤษ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกตั้งรหัสเพื่อความเป็นส่วนตัว โดยอาศัยตัวช่วย เช่น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, คำสั่งศาล และความร่วมมือจากบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ หากรายงานทั้งหมดเป็นความจริง ก็หมายความว่า โครงการสอดแนมของสหรัฐฯ สามารถที่จะฝ่าระบบป้องกันความลับที่ใช้ในโลกอินเทอร์เน็ตได้เกือบทุกชนิด ทั้งอีเมล, แชต หรือแม้กระทั่งการสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟน
|