มาเริ่มต้นด้วย “ของแต่งบ้าน” หลายคนมักจะเลือกของขวัญจากประโยชน์ใช้สอยเสียมากกว่า โต๊ะ, ตู้, เตียง มันจึงดูเป็นของขวัญปีใหม่ที่สามารถใช้สอยได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นของขวัญที่สามารถใช้งานได้นานวันอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็น สร้อย แหวน เงินทอง (ในกรณีแหวนอาจจะเป็นการขอแต่งงานเป็นนัยๆ) ของพวกนี้มักถูกซื้อหา มาเป็นของขวัญ เพราะของพวกนี้เรียกได้ว่า “ล่ำค่า” เหมาะแก่การให้เป็นของขวัญเป็นอย่างยิ่ง และด้วยมูลค่าของมันทำให้คนรับ ยิ้มปากฉีกแน่นอน

เรียกได้ว่าหากการจัดอันดับของขวัญครั้งใดไม่มี “ตุ๊กตา” เรียกได้ว่าการจัดอันดับอันนั้น “ไม่สมบูรณ์” ไม่เฉพาะเทศกาลปีใหม่ แต่เจ้าตุ๊กตามันถูกส่งมอบให้คนที่รักในทุกเทศกาล รวมถึงไม่ใช่วันสำคัญอะไรก็ยังนิยมให้กันอีกด้วย

เป็นของขวัญที่มักส่งให้กันไม่แพ้ของขวัญชิ้นอื่นๆ เลย และมันยังสามารถช่วยสื่อสารสิ่งที่คนให้ต้องการจะบอกได้อีกด้วย อย่างเช่นคุณแม่ให้หนังสือเรื่อง “เข็มทิศชีวิต” กับลูกที่ยังไม่รู้ทิศทางของตนเอง เรียกได้ว่าเป็นของขวัญที่มีประโยชน์ที่สุด และยังสามารถส่งต่อให้คนอื่นได้อีกด้วย ไม่แปลกที่มันจะเข้ามาติดอันดับ กับการจัดอันดับของ toptenthailand

เป็นของขวัญอีกชิ้นที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ และเป็นที่โปรดปรานของบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลายแน่นอน และยิ่งเป็นนาฬิกาแบรนด์เนมด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Rolex หรือแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Tag heuer และอื่นๆ จะทำให้พวกเขาเหล่านั้น ยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดยว

ของขวัญประเภทนี้มันจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กชาย และหนุ่มๆ เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น Ipod, Ipad หรือแม้กระทั่ง iphone และรวมถึง smart phone ทุกยี่ห้อ และก็มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ ไม่น้อย ดูจากการที่เราเห็นคนต่อแถวซื้อของพวกนี้ในห้างดังทุกที่ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอีกด้วย

เป็นของขวัญที่เหล่าสาวๆ มักถวิลหาเป็นอย่างยิ่ง หากเปิดกล่องของขวัญมาแล้วเจอ “Louis Vuitton” สักใบแล้วละก็ รับรองว่าเธอจะดีใจแบบสุดๆ หรือจะเป็นเรียบหรู “Chanel” ก็ทำให้พวกเธอระทวยได้อย่างไม่ยากเย็น แต่หากอยากให้เธอรักหลงคุณจนหัวปรักหัวปรำแล้วละก็ต้อง “Hermes” สักใบรับรอง เธอรักคุณจนวันตายแน่นอน

ถือเป็นของขวัญประจำปีใหม่ก็ไม่ผิดนัก ถึงขนาดมีคนทำภาพออกมาเล่นมุขว่า “ปีใหม่นี้ยังไงก็ได้แน่นอน” และก็ได้จริงๆ ด้วยนะ หากใครนึกไม่ออกก็ให้นึกถึง “อาร์เซนอล คุกกี้” และ “อิมพีเรียล” เป็นสองแบรนด์ที่ยืนยงในตลาดของขวัญปีใหม่เสียจริง น้อยคนที่จะซื้อมาทานเอง เอาเป็นว่า ทีมงาน toptenthailand เห็นนับคนได้ (พวกซื้อมาทางเอง)

เชื่อว่ามีไม่น้อยที่ได้ของขวัญทื่มี “มูลค่า” แต่ไม่ “ถูกใจ” จะนำของเหล่านั้นไป “ขายต่อ” และนำเงินจำนวนนั้นไปซื้อของที่ตนอยากได้มากกว่า ซึ่งอาจจะสร้างความเสียใจให้กับ “ผู้ให้” อยู่ไม่น้อย ดังนั้นหลายคนจึงตัดสินใจให้ “เงิน” เป็นของขวัญแทน อยากได้อะไรก็เอาไปซื้อเอง ง่ายดี ถูกใจทั้ง 2 ฝ่ายด้วย

DIY หรือ “do it yourself ” เรียกได้ว่ามันเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจสูงที่สุด แต่มูลค่ากลับไม่มาก เพราะมันต้องใส่ความพยายาม และความรู้สึกลงไป เรียกได้ว่ามันเป็นของขวัญที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอย่างแท้จริง ทีมงาน toptenthailand เชื่อว่าคนได้รับของ DIY จากคนที่รัก จะมีความสุขไปตลอดปีแน่นอน