ดีกว่าพูด (คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม รุก กลางกระดาน)
ดีกว่าพูด
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม รุก กลางกระดาน
หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงสรุปผลการหารือกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความสำเร็จในการหารือเรื่องการซื้อขายสินค้าเกษตร
ทั้งเรื่องของข้าวที่จีนตกลงซื้อจากไทยปีละ 1 ล้านตัน จากแต่เดิมที่เคยตกลงจะซื้อข้าวไทย 1 ล้านตันภายใน 5 ปี
เท่ากับภายใน 5 ปี รัฐบาลจีนจะรับซื้อข้าวจากไทยถึง 5 ล้านตัน
ส่วนเรื่องยางพารา ที่เคยตกลงว่าจะซื้อจากไทย 2 แสนตันภายใน 5 ปี
ปรับเปลี่ยนเป็นซื้อยางพาราจากไทย 2 แสนตันต่อปี หรือ 1 ล้านตันภายใน 5 ปี
ปรับเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
ทั้งนี้เป็นข้อตกลงระหว่างรัฐต่อรัฐ ไม่รวมถึงการติดต่อซื้อขายระหว่างเอกชน ที่ยังจะเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงชื่นชมความสำเร็จในการเจรจาครั้งนี้
เพราะเมื่อจีนกลายเป็นตลาดระบายสินค้ารายใหญ่ ย่อมหมายถึงเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งชาวนา และชาวสวนยางพารา สามารถสร้างผลผลิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น
ลดปัญหา ถูกกดราคาเพราะสินค้าล้นตลาดได้มากโข
แต่ก็เชื่อว่ายังมีคนอีกกลุ่มต้องตาร้อนผ่าว โดยเฉพาะกลุ่มพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ
ซึ่งพยายามดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีมาตลอด
ใส่ร้ายหาว่าการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ เป็นเพียงการไปท่องเที่ยว
โดยไม่มองเลยว่าส่วนหนึ่งที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้งก็เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของประเทศ ที่ต้องเสียหายไปจากการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อปี 2549
ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลส้มหล่นอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่มีปัญหาในสายตาชาวโลก กรณีใช้กำลังปราบปรามประชาชน จนมีคนตายกลางเมืองหลวงร่วมร้อยศพ
แถมยังเป็นรัฐบาลที่ใช้นโยบายการต่างประเทศแบบแข็งกร้าว สร้างศัตรูไปทั่ว
จึงถือเป็นภารกิจของรัฐบาลนี้ ที่ต้องกอบกู้ชื่อเสียงความเชื่อมั่นจากนานาประเทศ และนักลงทุนให้กลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอถือเสียว่า ช่วยตรวจสอบ และเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง
ยิ่งต้องทำงานให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรม
เพื่อตอกย้ำว่าคนทำงานนี่มันดีกว่าเอาแต่พูดจริงๆ
Create Date : 16 ตุลาคม 2556 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2556 0:22:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 860 Pageviews. |
|
|
|
|
|