พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
7 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
โพลชี้ ส.ส.ทุ่มเก้าอี้กลางสภาฯ เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน

โพลชี้ ส.ส.ทุ่มเก้าอี้กลางสภาฯ เป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน

โพลเอแบค ชี้ คนส่วนใหญ่ในสังคม ถึง 91% ระบุพฤติกรรม ส.ส. ทุ่มเก้าอี้กลางสภาฯ เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน หนุนตั้งกรรมการสอบเอาผิด แนะ 4 ข้อ ป้องกันและแก้ปัญหา...

วันที่ 7 ก.ย. 56 ดร.นพดล กรรณิกา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กระทรวงวัฒนธรรม และประธานเครือข่ายวิชาการทำประชาพิจารณ์และสาธารณมติเพื่อนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดโครงการวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความเป็นแบบอย่างให้เด็กและเยาวชนของสมาชิกผู้ทรงเกียรติ และการทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,197 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5-6 ก.ย. 56 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน พบว่า

ทั้งนี้ ตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 92.6 ทราบข่าว ส.ส.ฝ่ายค้าน ทุ่มเก้าอี้แสดงความไม่พอใจการทำหน้าที่ของประธานในสภาผู้แทนราษฎร มีเพียงร้อยละ 7.4 ยังไม่ทราบข่าว โดยส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 84.5 ระบุกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ส.ส.ฝ่ายค้าน หลังมีพฤติกรรมทุ่มเก้าอี้ของ ส.ส. ในสภาผู้แทนฯ ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 91.0 ระบุกระทบต่อการเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของสุภาพบุรุษ สมาชิกผู้ทรงเกียรติในสภาผู้แทนราษฎรต่อเด็กและเยาวชน ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 67.1 ระบุพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่แย่มาก ถึงมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 32.9 ระบุน้อย ถึงไม่แย่เลย โดยส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 73.6 ระบุควรตั้งกรรมการสอบเอาผิดด้านจริยธรรม ความประพฤติของ ส.ส. ที่ทุ่มเก้าอี้ในสภาผู้แทนฯ และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 61.9 เห็นควรตั้งกรรมการสอบการทำหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย ในขณะที่ร้อยละ 38.1 ระบุไม่ควร ทั้งนี้ ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 62.5 คิดว่าผู้ใหญ่ในสังคมคง ปล่อยให้เกิดพฤติกรรมเสื่อมเสียของสมาชิกเกิดขึ้นต่อไป ในขณะที่ร้อยละ 37.5 คิดว่าผู้ใหญ่ในสังคมจะเอาจริงเอาจังแก้ไขในสิ่งผิด

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา กระทรวงวัฒนธรรม และประธานเครือข่ายวิชาการทำประชาพิจารณ์ฯ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวต่อว่า ความรู้สึกนึกคิดของประชาชนที่ค้นพบครั้งนี้ น่าจะชัดเจนเพียงพอว่า ประชาชนตอบโต้กับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของ “ต้นแบบ” ของสังคม ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาอันทรงเกียรติ อย่างน่าพิจารณา เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ความเสื่อมเสียครั้งแรก ที่สาธารณชนรับทราบ แต่เคยรับทราบกันมา ทั้งการดูภาพโป๊เปลือย การท้าตีท้าต่อย การใช้ถ้อยคำรุนแรง การขว้างปาสิ่งของ และล่าสุด การทุ่มเก้าอี้ เป็นต้น แต่สังคมของกลุ่มคนที่น่าจะเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพสตรีแห่งสภาอันทรงเกียรติ ก็ปล่อยให้เกิดซ้ำซาก กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นกัน ต่อไปอาจจะมีเรื่องร้ายแรงบานปลายขึ้นได้ในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ดังนั้น จึงต้องมีแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาที่น่าพิจารณา ดังนี้

ประการแรก ต้องใช้กระบวนการด้านจริยธรรมและความประพฤติของสภาอันทรงเกียรติเข้าดำเนินการเอาผิดเร่งด่วน ทั้งในเรื่องการดูภาพโป๊เปลือย การท้าตีท้าต่อย การใช้ถ้อยคำรุนแรง และการทุ่มเก้าอี้ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ของคณะบุคคลในสถาบันและสภาอันทรงเกียรติ เกิดขึ้นให้เห็นกันในสายตาของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จนเด็กๆ เหล่านั้นอาจลุกขึ้นชี้หน้าบอกผู้ใหญ่ในสังคมว่า “อย่ามาริบังอาจสอนพวกเรา” ผลที่ตามมาก็คือ บ้านเมืองและสังคมโดยรวมในปัจจุบันและอนาคต อาจจะเลวร้ายจนความเป็นไทยที่รักความสงบสุข ก็ยากจะรักษาไว้ได้

ประการที่สอง กลไกของสภาอันทรงเกียรติ ต้องทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในการควบคุมให้สมาชิกมีพฤติกรรมที่เหมาะสม มากกว่ามีพฤติกรรมแบบพวกล้าหลังของการพัฒนา และหากปล่อยให้เกิดขึ้นเช่นนี้ต่อไป ก็จะทำลายความเชื่อมั่นต่อระบอบประชาธิปไตยและฝ่ายการเมือง เพราะฝ่ายการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องทำหน้าที่ลดความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ไม่ใช่กลายเป็นตัวปัญหาความขัดแย้งเสียเอง ดังนั้น ทั้งผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมและผู้ที่ทุ่มเก้าอี้ ต้องถูกตั้งกรรมการสอบทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตต่อไป

ประการที่สาม สื่อมวลชนและสังคม น่าจะตัดสินใจดำเนินการประจานความไม่เหมาะสมในพฤติกรรมของทั้งสองฝ่ายให้สาธารณชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง อันจะทำให้ประชาชนทั้งประเทศจำได้ว่าใครมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ที่อาจส่งผลต่อคะแนนนิยมภาพรวมของพรรคการเมืองได้ ถ้าประชาชนในระดับพื้นที่ยอมรับได้พฤติกรรมรุนแรงเช่นนี้

ประการที่สี่ ขอให้ผู้ใหญ่ในสังคมช่วยกันพิจารณาถึงกลไกควบคุมความวุ่นวายในสังคม อันเกิดจากพฤติกรรมของ “คนต้นแบบ” ที่สามารถกลายเป็น “ต้นตออันตราย” ในหมู่เด็กและเยาวชน จนลอกเลียนแบบกันในที่ต่างๆ ที่มี “เก้าอี้” ทั้งที่บ้าน ห้องเรียน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิง และที่สาธารณะทั่วไป ที่จะเป็นอันตราย ไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนอื่นๆ ที่สัญจรไปมาอย่างน่าเป็นห่วง.




Create Date : 07 กันยายน 2556
Last Update : 7 กันยายน 2556 18:29:31 น. 0 comments
Counter : 1098 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.