วันที่ 26 มิ.ย. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เป็นประธานมอบนโยบายตามคำสั่ง คสช.ที่ 69/2557 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต ประพฤติมิชอบ
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามทุจริต มีระเบียบกฎหมายที่เพียงพออยู่แล้ว หากมีการดำเนินการอย่างจริงจัง อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดูแลเฉพาะคดีอาญา ไม่สามารถตรวจสอบหน่วยงานได้ แต่จะทำงานได้ต่อเมื่อมีการร้องเรียน จึงควรเพิ่มอำนาจ ป.ป.ท.ตรวจสอบองค์กรภาครัฐได้ทั้งหมด เพื่อดูแลอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่การก้าวก่าย เพราะถ้าไม่ได้ทำความผิดก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการทุจริตภาครัฐมีมากกว่า 8,000 คดี ดำเนินการเสร็จกว่า 3,000 คดี สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความผิดทางวินัย ซึ่งผู้บังคับหน่วยงานทำได้เอง ซึ่งรวดเร็วกว่าการดำเนินคดีอาญา
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ขณะนี้คงไม่เรียกบุคคลใดมารายงานตัวต่อ คสช.อีกแล้ว แต่หากเกิดปัญหาขึ้นอีก คสช.ยังมีอำนาจเรียกบุคคลมารายงานตัวได้อยู่ แต่ส่วนตัวคิดว่าคงไม่มีแล้ว ส่วนจะยกเลิกการให้บุคคลที่กระทำผิดขึ้นศาลทหารหรือไม่นั้น ตามมาตรา 7 วรรคสาม ของ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เรื่องการให้ผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยของประเทศขึ้นศาลทหารยังมีผลบังคับใช้อยู่ก็ยังจำเป็นต้องขึ้นศาลทหารอยู่เช่นเดิมจนกว่าจะยกเลิกเนื้อหาดังกล่าว