พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
11 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

ปิดฉาก'คอร์รัปชันรถดับเพลิงพันล้าน'วังวนที่ประเทศไทยยังคงวนเวียน

ปิดฉาก'คอร์รัปชันรถดับเพลิงพันล้าน'วังวนที่ประเทศไทยยังคงวนเวียน

ปิดฉากกันเสียที กับเรื่องราวความอื้อฉาวที่ยาวนานข้ามมาไม่รู้กี่รัฐบาลจนแทบจะกลายเป็นอีกตำนานการทุจริตคอร์รัปชัน นั่นก็คือเรื่องของการจัดซื้อ รถ และเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานครที่เริ่มกันมาตั้งแต่ปี 2547 นับเวลากันคร่าว ๆ ก็ราว 7 ปี กับมูลค่าทรัพย์สินที่สูงราว 6,800 ล้านบาท คิดรวม ๆ 7 พันล้านบาท เฉลี่ยก็ปีละพันล้านบาท...

หากย้อนความเล่าเรื่องก่อนจะมีวันนี้ ก็ต้องถอยกลับไปในยุคของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรักษาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในช่วงท้าย ๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง เรื่องราวปมปัญหาถูกตั้งข้อสังเกตกันก็เมื่อวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าฯ กทม.นี่แหละที่ท่านผู้ว่าฯ สมัครไปลงนามการจัดซื้อเข้าให้ จนหลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตกันว่า ทำไม หรือมีเหตุผลอะไร ต้องลงนามกันวันสุดท้ายก่อนพ้นตำแหน่ง


ต่อมาหลังพ้นยุคของนายสมัคร กรุงเทพมหานครก็ก้าวเข้าสู่ยุคที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้เข้ามานั่งบริหารต่อ เรื่องราวความขัดแย้งปมการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิงยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาแล้วที่ กทม.ต้องเปิด LETTER OF CREDIT หรือ LC เพื่อใช้ในการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงดังกล่าวจากต่างประเทศ โดยบริษัทคู่ค้าขณะนั้นคือ บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (STEYR - DAIMLER - PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG) เรื่องราวระหว่างนั้นมีการตั้งคำถาม ซักไซ้ไล่เรียงกันในหลายเวทีที่เกี่ยวข้องในแวดวงการเมือง

บ้างก็ถามความเหมาะสมของราคา บ้างก็ว่าสเปกที่กำหนดเหมือนจะเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ซึ่งประเด็นเหล่านี้คนในแวดวงการเมืองต่างรู้เห็นกันดีว่าจะมีตามมาในแทบทุกครั้งที่มีการจัดซื้อจัดจ้างอะไรก็ตาม ด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างมหาศาล ซึ่งการตั้งคำถาม ท้วงติง จะมีผลไปยังปลายทางแค่ไหนหรือไม่ ขณะนั้นยังไม่มีใครทราบ แต่บรรดารถ และเรือดับเพลิงที่สั่งซื้อไว้จำนวนมาก ก็เริ่มทยอยนำส่งมาจอดที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี...

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร


ต่อมาปี พ.ศ.2549 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ซึ่ง ณ เวลานั้น ทำหน้าที่รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดซื้อครั้งนี้ เรื่องราวก็ดำเนินไปตามขั้นตอน กระทั่ง คตส.หมดภาระหน้าที่ ต้องโอนคดีความต่าง ๆ ที่คงค้างไปให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยยังไม่มีการสรุปสำนวนใด ๆ พร้อมกับที่ ดีเอสไอ ก็ส่งเรื่องมาให้ที่ ป.ป.ช.ด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้นมา ป.ป.ช. ก็เป็นผู้รับเรื่องมาดำเนินการต่อ จนในที่สุดมีความเห็นส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ก็ยังเกิดปัญหาขึ้นมาอีก เมื่ออัยการมีความเห็นต่างจาก ป.ป.ช. ไม่สั่งฟ้องตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูล ครั้งนี้ ป.ป.ช.จึงต้องตั้งทนายความขึ้นเพื่อฟ้องร้องในคดีดังกล่าวเอง

นับแต่นั้นมากระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินไป จนมาถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2556 วันที่ศาลฯ นัดอ่านคำพิพากษาในคดีนี้ ปรากฏว่า นายประชา มาลีนนท์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้น 1 ในจำเลยที่ถูกฟ้องร้องคดีนี้ ไม่เดินทางมารับฟังคำพิพากษา ศาลจึงสั่งออกหมายจับนายประชา และเลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปเป็นวันที่ 10 กันยายน 2556

ประชา มาลีนนท์

ประชา มาลีนนท์


และในช่วงบ่ายแก่ ๆ วันที่ 10 กันยายน ศาลฯ อ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายโภคิน พลกุล อดีต รมว.มหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม., บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด (ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว) และ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล จากกรณีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,687,489,000 บาท

อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ

อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ


โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 4 มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542

โดยนายประชา มาลีนนท์ ถูกตัดสินให้จำคุก 12 ปี พร้อมดำเนินการตามหมายจับนำตัวมารับโทษ ส่วน พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ตัดสินจำคุก 10 ปี และออกหมายจับฐานเจตนาจงใจหลีกเลี่ยงหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา สำหรับจำเลยที่เหลืออีก 4 คน ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดหรือไม่...

จากนี้ไปคงต้องตามดูบทสรุปของเรื่องนี้ว่า...

กรุงเทพมหานคร จะได้รับเงินที่เคยจ่ายไปแล้วกว่า 9 งวด คืนหรือไม่ และจะตามได้จากใคร

รถและเรือดับเพลิงที่จอดทิ้งร้างมานานกว่า 7 ปี จนอาจจะเสื่อมสภาพใช้งานไม่ได้ตามปกติแล้ว จะทำอย่างไรต่อไป 

และการติดตามตัว 2 ผู้ต้องคำพิพากษาที่ถูกออกหมายจับ คือนายประชา มาลีนนท์ และ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ จะทำได้หรือไม่ และอย่างไร ...




 

Create Date : 11 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 11 กันยายน 2556 9:50:56 น.
Counter : 1378 Pageviews.


amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.