bloggang.com mainmenu search







วันนี้มาเดินทางต่อกันจากแม่สอด ไปอุ้มผาง ผ่านทางสายลอยฟ้า หรือ สาย 1090 ที่ว่ากันว่ามีโค้งมากมายเป็นพันๆโค้งเลยทีเดียว วันที่ 13 มกราคม เราออกจากแม่สอดตอนประมาณ 0930 น.

ถนนช่วงแม่สอด อ.พบพระเป็นถนนสี่ช่องจราจร วิ่งสบายครับ สองข้างทางมีไร่ข้าวโพด และดอกไม้ พอมาถึง ทางแยก อ.พบพระเราก็เจอสวนกุหลาบหลายสวน พอไปเช็คดูข้อมูล ก็ได้ความว่า ที่ อ.พบพระนี่ นอกจากจะปลูกข้าวโพดมากแล้ว ดอกกุหลาบก็เป็นพืชเศรษฐกิจของที่นี่ ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกที่สำคัญของประเทศด้วย







ถนนช่วงพบพระ-อุ้มผาง (ถ่ายบนรถ กระจกไม่ค่อยใสเท่าไหร่)






จากแม่สอด - พบพระ ถนนยังอยู่บนพื้นราบครับ มีขึ้นเนินบ้างเล็กน้อย พอถึงทางแยก อ.พบพระ เราเลี้ยวซ้ายเพื่ออ้อมรอยแหว่งที่ประเทศพม่าแทรกเข้ามา ซึ่งเมื่อก่อนการจะเดินทางไปอุ้มผาง เรามาถึงพบพระแล้วต้องขออนุญาติผ่านประเทศพม่าช่วงนี้เพื่อให้การเดินทางสั้นเข้า แต่ปัจจุบันเราตัดถนนอ้อมตรงนี้ และเป็นทางที่วิ่งอยู่บนเขาสูงเสียส่วนมาก จนมีชื่อเรียกว่า "ถนนลอยฟ้า"








ด้านล่างของถนน มีบ้านชาวกะเหรี่ยง อยู่เป็นช่วงๆ






พอเราจะเข้า กม. ที่ 85 ใกล้ๆศูนย์อพยบ คุยกับชาวบ้านได้ความว่าเขาก่อนหน้านั้นจะเป็นสันปันน้ำ คือถ้าจากสันเขาตรงนั้นมาน้ำจะไหลไปทาง อ.อุ้มผางตามคลองแม่กลอง และเลยไปทางเมืองกาญจนบุรี เป็นแม่น้ำแม่กลอง... แต่ถ้าไหลกลับจากสันเขาไปทางแม่สอด (ขึ้นไปทางเหนือ) เพื่อไปสู่แม่น้ำเมย และอิระวะดี ก่อนจะไหลลงสู่ทะเล ผ่านทางประเทศพม่า






ที่พักระหว่าง แม่สอด - อุ้มผาง






ถนนลอยฟ้า

มายเลข 1090 สายแม่สอด-อุ้มผาง ระยะทาง 164 กิโลเมตร บนเทือกเขาถนนธงชัย เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวสลับซับซ้อนมีทั้งหมด 1,219 โค้ง เป็นที่รู้จักกันในนามของ ถนนลอยฟ้า เพราะเป็นเส้นทางตัดผ่านเทือกเขา ถนนมีความคดโค้งมาก มีจุดแวะพักบริเวณกิโลเมตรที่ 84 มีร้านขายอาหาร และเครื่องดื่ม ผู้ที่เมารถควรรับประทานยาแก้เมารถไว้ล่วงหน้า

ช่วงระยะแรกๆของการเดินทางบริเวณข้างทางด้านซ้ายจะเป็นหุบเขา เบื้องล่างจะเป็นไร่นา และสวนป่าที่ปลูกขึ้นมาทดแทน ในช่วง กม.ที่ 85 จะมีจุดแวะพักรถที่จัดใว้บริการแก่ผู้ที่สัญจรไปมา จากจุดที่พักรถไม่ไกลนักเราจะผ่าน "ศูนย์อพยพอุ้มเตี้ยม"

มองดูจากด้านนอกของศูนย์นี้สวยงามมากครับ การปลูกบ้านแต่ละหลังเป็นระเบียบ และมีสีโทนเดียวกันทั้งหมด ไล่เรียงกันตั้งแต่ตีนดอยจนเกือบๆถึงยอดดอยเลยครับ กะด้วยสายตาน่าจะมีหลายพันหลังคาเรือนเลยหล่ะครับ หรืออาจจะมีมากกว่านั้น หมูหินพอจะรู้มาบ้างนะครับว่าบริเวณเทือกเขาที่อยู่หลัง ” ศูนย์อพยพอุ้มเตี้ยม” แห่งนี้ เป็นแหล่งต้นกำเนิดของลำน้ำแม่ละเมา ที่ไหลลงสู่แม่น้ำเมยที่ บ.วังผา อ.แม่ระมาด และน้ำแม่กลอง ที่ไหลผ่าน อ.อุ้มผาง อีกด้วยครับ






ชาวเมืองเดินทางกันด้วยรถสองแถวแบบนี้ จากแม่สอด-อุ้มผาง ก็ 120 บาท







มีปั๊มที่นี่ที่เดียวระหว่างทาง







ศูนย์อพยบชาวกะเหรี่ยงจากพม่า





ในศูนย์อพยบนี้ มีชาวกะเหรี่ยงหลบหนีสงครามมาจากพม่ากว่าหนึ่งแสนคนพักอาศัยอยู่ที่นี่ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม ข้างในปลูกพืชผักขายด้วย แต่เข้าไปได้เฉพาะพ่อค้า แม่ค้าที่จะไปซื้อของมาขายเท่านั้น.... บ้านเรือนที่เห็นเขาบอกว่า ตั้งเรียงรายข้ามสันเขาที่เห็นเข้าไปอีกมากมาย







ถนนเลียบไหล่เขา ด้านหนึ่งเป็นหน้าผา ด้านหนึ่งเป็นภูเขา






เรามาคุยเรื่องถนนสักนิดนึงครับ ปัจจุบันเราขับรถไปอุ้มผางได้ทางเดียวคือเส้นทางลอยฟ้าสาย 1090.... แต่เราเกือบมีอีกเส้นทางหนึ่งที่เข้าสู่อุ้มผางได้ นั่นคือเส้นทางสายคลองลาน-อุ้มผาง หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1117 ในอดีตเป็นเส้นทางเพื่อความมั่นคง ดำเนินการก่อสร้างโดยกรมทางหลวง เมื่อปี พ.ศ.2528 โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อการขนย้าย และส่งกำลังบำรุงให้กับทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติงานกวาดล้างผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

ต่อมาสถานการณ์การก่อการร้ายคลี่คลายลง ในที่สุดคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ วันที่ 30 มิถุนายน 2530 เห็นชอบให้ระงับการก่อสร้างเส้นทางช่วงสุดท้ายที่ กิโลเมตรที่ 115 ผมว่าเรื่องถนนสายนี้น่าสนใจมาก ได้คุยกับชาวบ้านอุ้มผางทราบว่าเขายังมีการสำรวจผลักดันกันอยู่ ก็เนื่องจากหากมีจริงเกิดขึ้นได้จริง เขาจะเอาข้าวโพด ผลิตผลทางการเกษตร ไปขายโดยไม่ต้องผ่านถึง 1219 โค้ง ทำให้ขายได้เงินได้ทองมากขึ้น แข่งขันกับที่อื่นๆได้ด้วย







วิวที่จุดชมวิวก่อนเข้าอุ้มผาง






ถนนที่เลยศูนย์อพยบชาวกะเหรี่ยงไป จะขึ้นเขาสูงชัน ทางแคบและมีถนนชำรุดอยู่ประมาณ 10 กม. คือ ระหว่าง กม. ที่ 108 - 118 ครับ ตรงกม.น่าจะ 120 จะมีห้องน้ำข้างทางให้เข้าครับ วันกลับเห็นรถสองแถวเขาแวะตรงนั้นเหมือนกัน

ก่อนจะเข้าอุ้มผาง จะมีจุดชมวิวให้ได้ถ่ายถาพด้วย จขบ. ยืนถ่ายมาหลายภาพ แต่ท้องฟ้าวันนั้นไม่สวยเอาซะเลย คือ ขมุกขมัวมาก เลยได้ภาพแบบที่เห็นครับ.... ส่วนจุดที่สูงที่สุดของถนนสายนี้ จะสูง 1345 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ระหว่างอุ้มผาง-ศูนย์อพยบชาวกะเหรี่ยง






ข้างทาง แถวๆบ้านแม่กลองน้อย






เราเข้าถึงตัวเมืองอุ้มผางตอนบ่ายๆ พอเอาของไปเก็บไว้ที่รีสอร์ท "ตูกะสู" ที่เราจองมาแล้ว หลังมื้อเที่ยงแบบง่ายๆ เราก็ขับต่อไปที่ดอยหัวหมด ตามป้ายบอกทางที่บอกไว้ ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณ 13 กม. โดยขับไปตามถนนลาดยาง แล้วลุยป่าบนถนนลำลองอีกประมาณ 3 กม. เข้าไปถึงตีนดอยเลย ไปไม่ยากครับ

ไปถึงดอย ไม่เห็นใครเลยซักคน ชักกลัวแล้วสิ....ที่จริงดอยนี้เขาจะมาดูทะเลหมอกกันในตอนเช้า แต่เราไม่มีเวลา เลยมาเอายามนี้ .... ดอยหัวหมดเป็นดอยที่ไม่มีต้นไม้ขึ้นมาก เหมือนเขาหินหัวโล้น มีติดต่อกันหลายยอดเขา เมื่อขึ้นไปบนนั้นแล้ว เราสามารถมองเห็นหุบเขาด้านล่างได้กว้งไกลไปถึงเมืองอุ้มผางครับ






ขึ้นดอยหัวหมด








บนดอยหัวหมด








หุบเขาด้านล่าง ส่วนหนึ่งคือเมืองอุ้มผาง








ดอกเสี้ยวสีขาว เห็นมากในแถบนี้








เข้าเมืองอุ้มผาง








ในตัวเมืองอุ้มผาง บ้านครูซัน






วันนี้ขับเกือบทั้งวัน มาถึงเมืองอุ้มผางโดยปลอดภัย ตอนปีใหม่เพื่อนขับกันมาลงเขาเร็วจนมีปัญหาเรื่องเบรค...แนะนำว่าให้ตรวจสภาพรถให้ดีก่อนเดินทาง และพยามใช้เกียร์ช่วยในการการขับ โดยใช้เกียร์ต่ำที่เรารู้สึกว่าจะช่วยฉุดรถเราไว้ได้ด้วย ส่วนเกียร์ออโต้ควรล๊อกไว้ประมาณเกียร์สามครับ ผมใช้ความเร็วบนเขาประมาณ 50 - 60 กม. เร็วนิดและช้าบ้างเป็นบางช่วง ถนนสายนี้มักมีโค้งหักข้อศอกอ้อมเหลี่ยมเขา เราควรใช้แตรบอกรถด้านหน้าที่จะสวนมา และพยามรักษากฏจราจรให้เคร่งคัด โดยเฉพาะเรื่องขับกินเลนส์

วันนี้มาไกลผ่าน 1219 โค้ง เหนื่อย ขอจบตอนแค่นี้ก่อนละกันครับ ตอนหน้าเรามารู้จักอุ้มผาง และไปล่องแพในแม่กลองน้อยกันครับ ......... ขอบคุณที่ตามอ่านครับ

















ลากันด้วยภาพวิวก่อนเข้าอุ้มผาง ภาพนี้ครับ









_____________END____________

Create Date :29 มีนาคม 2555 Last Update :28 กรกฎาคม 2556 21:13:16 น. Counter : Pageviews. Comments :22