bloggang.com mainmenu search







5 ธันวาคม 2553 .. เราเดินทางมาถึง อ.เทิงตอนใกล้มืดแล้ว ประมาณ 5โมงเย็นเศษๆ เข้าต.เวียง ไปจอดที่ปั๊มน้ำมันบางจากทางออกไปภูชี้ฟ้า พอดีเหลือบไปเห็นป้ายที่ร้านข้างปั๊มน้ำมันบอกว่า ติดต่อที่พักภูชี้ฟ้า... ใจดีขึ้นมาโขเลย เพราะการหวังอาศัยน้ำบ่อหน้านั้น มันก็มีความเสี่ยงพอสมควร

"พี่ครับเห็นบอกหน้าร้านว่ารับจองที่พักภูชี้ฟ้าใช่ไหมครับ"
"ค่ะติดต่อที่นี่ได้เลย แต่ช่วงนี้คนมาเยอะ ขอเช็คดูก่อนนะคะ".....

คุณปราณี เจ้าของร้านบอกเรา และพยามโทรเช็คว่าด้านบนนั้ยังพอมีที่ว่างหรือเปล่า ประมาณ 5 นาทีผ่านไป เธอหันมาคุยกับเราที่กำลังสาละวนกับการเลือกเครื่องดื่มในร้านอยู่

"เสียใจด้วยนะคะ ห้องเต็มหมดแล้ว"

อ้ายหวังตายแน่ เราเดินออกไปเหมือนจะเข้าห้องน้ำ และเปิดเบอร์โทรที่เราเอาติดมาด้วยจากเวปหนึ่ง.... โทร โทร...และโทร ปรากฏว่าเต็มหมด กำลังใจที่ให้กลับมา คือให้เราลองเสี่ยงไปดู

"ขอบคุณครับพี่"
"ลองดูก็ได้นะคะ เดี๋ยวจะโทรบอกน้องให้เตรียมเต้นท์ไว้ให้ ขึ้นไปถึงแล้วลองโทรดูอีกครั้ง"
.....

"ถ้าผมขับไปตอนนี้ จะขึ้นเขาได้ไหมครับ"
"ถนนดีค่ะ แต่ต้องไปทางตรงนะคะ อย่าแยกขึ้นทางน้ำตกภูซาง เพราะถนนแคบ วันนี้ก็มีตกคันหนึ่ง"

เราบอกลาคุณปราณีที่ปั๊มแล้วขับออกไปตายเอาดาปหน้า ลุย... หมูไม่กลัวน้ำร้อนซะอย่าง ถ้าสุดท้ายไม่มีที่พัก เต้นท์ที่ติดมาบนรถเราก็พอช่วยได้ล่ะน๊า..เราเดินหน้าโดยมีจุดหมายคืนนี้ที่ "บ้านร่มฟ้าไทย" จากเทิงไปตามถนนหมายเลข 1021 ประมาณ 6 กม. แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามสาย 1155 ระยะทางประมาณ 40 กม. แต่ขับนานเป็นชั่วโมง เพราะไม่เคยทางและเป็นตอนค่ำด้วย..

นั่นคือครั้งแรกที่เราไปภูชี้ฟ้าครับ









ถึงทางแยกเข้าหมู่บ้านร่มฟ้าไทย





กว่าจะถึงที่พัก

หลังจากที่ขับมาเรื่อยๆ เพราะมืดและไม่เคยทาง เวลา 19.25 น.เราก็มาถึงทางแยกที่จะขึ้น อช.ภูชี้ฟ้าและบ้านร่มฟ้าไทย ตอนนี้เริ่มงงว่าจะไปทางไหนดี.... วิธีที่ดีที่สุดคือถามเอากะเจ้าหน้าที่นั่นแหละ

"ตรงนี้แหละพี่ ถ้าจะขึ้นไปด้านบน ตอนนี้เต็มแล้วเราคงอนุญาตไม่ได้ พี่น่าจะไปหาที่พักในหมู่บ้านดีกว่า"

แล้วฉันจะไปยังไงต่อเนี่ย.... คิดได้เลยโทรถามรีสอร์ทที่เราติดต่อไว้

"มีห้องหนึ่งแขกจองไว้และไม่มาเขาให้ขายให้ ราคา 2400 บาท นอนได้ 4 คนพี่"
"ไหนๆก็ดึกแล้วขอซัก 2000 ไม่ได้เหรอครับ"
"เดี๋ยวถามพี่เขาก่อนนะ"

รอซักพักเราก็ได้ห้องสมปราถนา ไป 2 คนพักห้องนี้แหละ เอาให้ได้อาบน้ำก่อนแล้วกัน... หลังจากนั้นก็นัดแนะเจ้าของรีสอร์ทมารับ รออยู่ซักพักก็เห็นผู้ชายขับมอเตอร์ไซด์มาหา เราขับตามไปตามถนนที่ผ่านตลาดกลางคืนกำลังเปิดอยู่นักท่องเที่ยวเดินกันเต็มไปหมด...

ถึงที่พักแบบเป็นห้องๆ ตั้งอยู่บนเนินเขาหันหน้าไปทางตลาดกลางคืน เราเข้าไปดูห้อง.... ก็พอนอนได้ อยู่บนเขาอย่างนี้ได้แค่นี่ก็ดีแล้วนี่นา
ห้องพักไม่กว้างนักถ้านอน 4 คนจริงก็แบบเกือบเบียดกันเลยล่ะ มีห้องน้ำเล้กๆในตัว พร้อมน้ำอุ่น ราคาหน้านี้รวมอาหาร 2 มื้อคือ เย็นวันนี้ และ พรุ่งนี้เช้า... (ปกติห้องนี้ถ้าไม่ใช่หน้า High season ก็จะขาย 800 บาทไม่รวมอาหารเช้า-เย็น).









บ้านร่มฟ้าไทย ยามค่ำคืน






ที่ช้อปก็มี

ขับมาทั้งวันได้น้ำอุ่นในขณะที่อากาศด้านนอก 12-15 องศาก็ทำให้เลือดสูบฉีดขึ้นมาอีก.... ออกไปนั่งทานมื้อเย็น ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทเขาจัดไว้ให้ ก็ดูดีนะ ถึงแม้จะเป็นแบบชนบท... ผัดยอดผัก ไข่เจียว ต้มยำไก่ พร้อมข้าวสวย... โอ้โฮเฮะ อร่อยดีจัง แถมน้ำอมฤติอีก 2 ขวด อันหลังนี่ลืมเหนื่อยเลย

หนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งกำลังร้องคาราโอเกะอยู่โต๊ะข้างๆอย่างสนุกสนาน ก็น่าอยู่หรอกเพราะเจ้า Black lable พร่องไปตั้งเยอะแล้ว... อากาศลดลงมาที่ 12 องศาต้องกลับไปเอาเสื้อมาสวมทับ ทำให้ดูเหมือนว่าตัวเองอยู่เมืองหนาวขึ้นมาทันใด...

หมดเบียร์ไป 2 ขวดก็ชวนกันไปเดินช้อบปิ้งด้านล่าง ที่ถนนคนเดิน หรือ Night Plaza ของบ้านร่มฟ้าไทย ได้อะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะ แต่ที่นี่น่าลองที่สุดคือ "โรตีภูชี้ฟ้า"

เกือบสี่ทุ่มครึ่งพลังที่เติมมาเมื่อซักชั่วโมงที่แล้วก็หมด กอปรกับอากาศที่กำลังเย็นลงเรื่อยๆ เลยพาตัวเองกลับไปซ่อนตัวในผ้าห่มนวมที่ห้องนอน....วันนั้นหลับเป้นตายจนลืมว่าใครคนหนึ่งนอนอยู่ข้างๆ มารู้ตัวอีกครั้งก็เสียงคนเดินด้านหน้าห้อง...หรือว่านี่ตีห้าแล้วนะ











ถนนคนเดินที่บ้านร่มฟ้าไทย












อีกภาพ....ด้านหลังนั่นคือรีสอร์ท










รีสอร์ท ตั้งเต็มไปตามไหล่เขา











ขึ้นภูชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูชี้ฟ้า

รถที่จะมารับขึ้นภูตอนเช้านัดกันไว้ตีห้า ทางรีสอร์ทบอกเราว่าจะไปปลุกตีสี่ครึ่ง (ที่ว่า "ไป" คือไปเคาะห้อง เพราะ Morning call แบบใช้ทรศัพท์ไม่มีบริการ) เพื่อออกไปทานกาแฟ (ฟรี) รอที่ห้องอาหารของรีสอร์ท

การขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูชี้ฟ้า สะดวกที่สุดคือไปกับรถ อบต. ราคาคนละ 80 บาท ไป-กลับ ถ้าไม่รู้จักก็ให้ไปรอที่จุดบริการนักท่องเที่ยวได้เลย รถจะออกจากที่นั่น ยกเว้นที่บางท่านพักในรีสอร์ท เจ้าของแต่ละที่จะนัดรถมารับ..

เวลาที่ขึ้นไปค่อนข้างเช้าและมืดเราควรเตรียมพวกไฟฉายติดตัวไปด้วย... แต่ทางที่ดีควรเอาไก๊ด์ ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนแถวนั้นนำทาง (ค่าบริการ แล้วแต่น้ำใจ) เขาจะมีทั้งไฟฉายและเสื่อไปด้วย...สำคัญที่สุดคือเขารู้จักที่ๆจะไปชมวิวและถ่ายภาพครับ วันนั้นเรานัดหนุ่มน้อย ป.6 ไว้หนึ่งคนให้มารอเราตอนเช้าจะได้ไปด้วยกัน...

รถปิกอัพแบบโอเพนแอร์แต่มีที่นั่งสองฝั่ง พาเราขึ้นสู่จุดชมวิว เสียงเครื่องยนต์ดังลั่น น่าจะเป็นเกียร์ 1-2 พร้อมเสียงเบิ้ลคันเร่งเป็นระยะๆ ผ่านที่ทำการ อช.ภูชี้ฟ้าซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์กันจนเต็มพื้นที่ เราผ่านโค้ง ผ่านที่ลาดชันเท่าไหร่จำไม่ได้ ไม่นานก็มาถึงที่จอดรถ.... สิ่งควรทำตอนนี้คือจำป้ายทะเบียนไว้ให้ดี (แต่จริงๆแล้วขาลงๆคันไหนก็ได้ แต่ว่าถ้าเจอเขามาเป็นคณะ ที่ว่างจะไม่มีให้เรา คันที่เราขึ้นมาจะสะดวกที่สุด) ถ้าไม่อยากจำก็เอามือถือถ่ายไว้ก็ไม่ผิดกติกาครับ

ลงจากรถต้องเดินขึ้นไปอีก 760 เมตรครับ ทางเดินไม่เรียบ รองเท้าที่เตรียมไปควรเป็นหุ้มส้น หรือพวกกันข้อแพงก็ยิ่งดี ตอนนี้สนุกมาก เสียงเฮฮา คุยหยอกล้อกัน หยุดถ่ายภาพตามทาง เหมือนสมัยไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ภูกระดึงเลยล่ะ ต่างกันแค่ตอนนั้นไปกับแฟน แต่ตอนนี้ไปกับภรรยาเท่านั้น (ฮา).....









เริ่มเห็นสีแสงบนฟ้าแล้ว






การขึ้นไปชมวิวที่ภูชี้ฟ้าถ้าอยากได้ภาพแบบที่เขาไปถ่ายกันมาลงในหนังสือ หรือเอาแบบไม่สวย(แต่พอดูได้)เหมือนในบล๊อกนี้ ก็ต้องไปชั้นล่างก่อน เด็กไก๊ด์เราที่ว่านั่นแหละรู้จักดี เขาจะพาเราแยกออกไป ถ้ากรุ๊ปไหนไม่รู้ก็จะไปด้านบนที่จุดชมวิวก่อน ซึ่งอาจจะสายเมื่ออยากมาด้านล่างนี้ เพราะคนจองที่เต็มหมดแล้ว

เราก็อาศัยไก๊ด์ชั้น ป.6 ที่พามานั่นแหละแยกออกไปปูเสื่อรอ เจ้าหนูบอกว่าจะเล่นกะผา หรือถ่ายรูปปากสิงห์โต ก็ตรงนี้แหละ.... วันนั้นเลยกลายเป็นว่าเราไปก่อนเลยได้ปูเสื่อนั่งรอสบายๆ....เสียดายที่ว่าวันนั้นไม่เจออาทิตย์ดวงโตเหมือนไข่เป็ดเพราะเมฆมาบังก่อน








หน้าผาทะมึนด้านหน้า..นั่นแหละจุดชมวิวภูชี้ฟ้า









สีทองเริ่มจับขอบฟ้าทางฝั่งลาวมากขึ้น










เมื่อฟ้าเริ่มสาง...ตรงหน้าเราคือทะเลหมอกอันกว้างใหญ่











มุมมหาชน..ก็เด่นชัดขึ้น



















นักท่องเที่ยวกกำลังเก็บเอาความงามยามเช้า










ภาพแบบนี้จะมีให้เห็นวันละประมาณ 1 ชั่วโมง










อีกภาพ










เล่นกะผา










ให้เท่าไหร่..แล้วแต่น้ำใจค๊า...





พอแสงส่องมองหน้ากันเห็นชัด หนูน้อยเหล่านี้ก็จะแต่งตัวแบบว่าสวยที่สุดมาให้พี่ๆถ่ายภาพกัน..... ไอเดียนี้ดีแฮะ คนอยากได้ภาพคู่กับพวกเธอก็ไม่ต้องอายไปขอถ่าย เพียงแค่จ่ายค่าทิปให้หนูๆเหล่านั้นตามแต่น้ำใจ









สายขึ้นมาอีกนิด










ไทยและลาว แค่ภูเขากั้นกลาง....บ้านร่มฟ้าไทยอยูไหล่เขาด้านขวา










ทะเลหมอกอีกซักภาพ






ด้านที่เป็นทะเลหมอกนั่น เป็นแผ่นดินของประเทศลาวครับ จริงๆแล้วหลายคนก็ไม่แน่ใจว่าเขตแดนจริงๆอยู่ตรงไหน.... หมอกวันนั้นคลุมพื้นที่อย่างกะเมฆหน้าฝน คือไม่สามารถมองผ่านลงไปเห็นแผ่นดินได้เลย








ที่จุดชมวิว










ภูชี้ฟ้า 1,628 เมตร










ตอนเดินลง ถ่ายกลับไปที่จุดชมวิว





ขากลับลงมาไก๊ด์ตัวน้อยเราบอกว่าดอกนางพญาเสือโคร่งที่นี่ก็เริ่มออกแล้ว เรามองออกไปทางไหล่เขาด้านขวา (น่าจะทางทิศเหนือ) ก็เห็นดอกสีขาวอมชมพูออกบานสะพรั่งหลายต้น..... นักท่องเที่ยวที่พบกันวันนั้น บอกว่าที่ผาตั้งออกดอกเต็มต้นแล้ว เสียดายที่เราไม่มีเวลากลับไปทางนั้นอีก...








ทางเดินลง อีกด้านจะไกลกว่าทางขึ้นนิดหน่อย










กำลังขอถ่ายภาพกับเด็ก










ทะยอยลงมาที่จอดรถ






กลับมาถึงที่พักคราวนี้เจ้าของรีสอร์ทก็เตรียมข้าวต้มไว้ให้สำหรับมื้อเช้า ข้าวต้มเห็ดหอมเช้านั้นอร่อยมาก (หรือว่าเราเหนื่อยมากก็ไม่รู้).... เราเติมพลังเต็มที่เพราะมีกับข้าว 2-3 อย่างให้ ก่อนที่จะกลับห้องไปแพ็คกระเป๋าอำลาบ้านร่มฟ้าไทย เดินทางต่อไปที่จังหวัดน่านตามเส้นทางที่ไม่เคยผ่าน คือถนนลอยฟ้าสาย 1148 จากเชียงคำ - สองแคว จ.น่าน

เป็นครั้งแรกที่เราได้มาภูชี้ฟ้า และพบกับบรรยากาศแบบที่เราอยากเห็น แม้จะต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นเขาไปนั่งรอชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ตาม.... แต่ความสวยงามที่เห็นมันคุ้มค่ามากมาย ซึ่งผมไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นภาษาเขียนและภาพได้ดีเท่าของจริง เพราะมันเกินปัญญาอันน้อยนิดของผม.... ถ้าอยากรู้ว่าอรุณรุ่งที่ภูชี้ฟ้าจะสวยงามปานใด ลองหาโอกาสไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนะครับ.










ผลไม้ตุ๊กตา..ยอดฮิต ทานไม่ได้แต่แปลกดี











กลับถึงที่พัก







ข้อมูล :

วนอุทยานภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่บริเวณบ้านร่มฟ้าทอง หมู่ที่ 9 และบ้านร่มฟ้าไทย หมู่ที่ 10 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่อิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว มีเนื้อที่ประมาณ 2,500 ไร่ ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมือวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541

วนอุทยานภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาสูงในเทือกเขาดอยผาหม่น ติดชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภูชี้ฟ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ทุกๆ ปีจะมีผู้มาท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดเชียงรายและต่างจังหวัดมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) สื่อมวลชนทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ลงบทความประชาสัมพันธ์อยู่เสมอ ทำให้มีผู้มาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี



สถานที่ติดต่อ

วนอุทยานภูชี้ฟ้า ต.ปอ อ. เวียงแก่น จ. เชียงราย 57310
โทรศัพท์ 0 5371 4914 โทรสาร 0 5371 1961 อีเมล reserve@dnp.go.th

ที่มา : วนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า


การเดินทาง

รถยนต์

1. อยู่ห่างจากเชียงราย 111 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1020 เข้าสู่อำเภอเทิง จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 จนถึงทางแยกขวาขึ้นสู่ภูชี้ฟ้า (ที่บ้านเซ็งเม้ง) หรือใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายเชียงราย-เทิง ลงรถที่อำเภอเทิง จากนั้นเช่ารถขึ้นไปภูชี้ฟ้า การเดินทางไปภูชี้ฟ้าโดยรถตู้ประจำทางสาย2402 เชียงราย-บ้านร่มฟ้าไทย(ภูชี้ฟ้า) ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงราย ทุกวัน เวลา 7.15น.และ13.15น. คนละ 80 บาท

จากภูชี้ฟ้าสามารถเดินทางไปยังดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย โดยอยู่ห่างออกไปตามเส้นทางหลวงจังหวัดสาย 1093 เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร และจากดอยผาตั้งยังสามารถเดินทางต่อไปยังอำเภอเชียงของ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย
(เส้นทางนี้ถนนดี สร้างใหม่ใกล้กว่า...จขบ.ใช้เส้นทางนี้ขาขึ้น)



2. ภูชี้ฟ้าอยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ประมาณ 144 กิโลเมตร การเดินทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ไปยังภูชี้ฟ้าได้ตามแนวเส้นทางดังนี้
- จากอำเภอเมืองเชียงรายไปอำเภอเทิง ผ่านสามแยกโรงเรียนภูซางวิทยาคม บ้านสบบงและสามแยกบ้านม่วงชุมแล้วเดินทางต่อไป ก็จะถึงภูชี้ฟ้า
- ไปตามทางหลวงจังหวัดสาย 1093 ผ่านน้ำตกภูซาง ด่านบ้านฮวก ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น

เส้นทางสายนี้เป็นทางลาดยาง ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญ 3 แห่งได้แก่
- น้ำตกภูซาง (อุทยานแห่งชาติภูซาง) และด่านบ้านฮวก
- หมู่บ้านชายแดนไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
- ศูนย์ส่งเสริมเกษตรที่สูงดอยผาหม่น ทดลองและส่งเสริมปลูกไม้ดอกเมืองหนาว เช่น ทิวลิป ลิลลี่
(ทางสายนี้เป็นสายเดิม แคบและหักข้อศอกช่วงขึ้นเขาหลายที่ เหมาะที่จะเดินทางกลับจากภูชี้ฟ้าลงไป อ.เทิง)









ลากันด้วยภาพทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้าครับ




ปล. 16-19 มกราคมนี้ เจ้าของบ้านจะเดินทางไปทำธุระที่ต่างบ้านต่างเมือง 3-4 วัน กลับมาบ่ายๆวันพุธ (19 มค.).... ฝากบ้านเพื่อนๆด้วยละกัน กลับมาจะรีบตามไปเยี่ยมครับ



ขอบคุณที่ตามอ่านครับ





____________ END ____________





Create Date :15 มกราคม 2554 Last Update :9 กุมภาพันธ์ 2559 21:58:40 น. Counter : Pageviews. Comments :33