1095 ถนนลอยฟ้า
จากแม่ฮ่องสอนถึงปาย
(เที่ยววงกลม เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ปาย ตอนที่ 5)อ่านตอนที่ 1 ออบหลวง ถ้ำแก้วโมล
(ที่นี่)อ่านตอนที่ 2 ปางอุ๋ง
(ที่นี่) อ่านตอนที่ 3 ปาย
(ที่นี่) อ่านตอนที่ 4 ภูโคลน กะเหรี่ยงคอยาว วัดพระธาตุดอยกองมู
(ที่นี่) ประมณ 0530 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม 2552 เราถือโอกาสบอกลาริมน้ำกลางดอยรีสอร์ท โดยบอกคุณพี่รัชนีไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว ว่าเราจะออกแต่เช้าและแวะเที่ยวตามทางผ่านไปเรื่อย ซึ่งทุอย่างก็เป็นไปด้วยดี
ตื่นเช้าๆแบบนี้ เจออากาศดีเยี่ยม ไอหมอกกำลังคลุมภูเขา และแม่น้ำปาย จึงเป็นเหตุให้ต้องหยิบกล้องออกไปเดินถ่ายภาพหน้ารีสอร์ทมาฝาก ดังที่เห็นในภาพ
แม่น้ำปายหน้าที่พักยามเช้าเรามาแม่ฮ่องสอน 3 ครั้งส่วนมากจะพักกันที่นี่ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งรีสอร์ทเต็ม เราต้องระหกระเหินไปนอนในเมือง ซึ่งเป็นอะไรที่เราไม่ค่อยชอบ เวลามาเที่ยวดอยแบบนี้..... แต่วันต่อมาเราก็ได้พักที่นี่ อาจเป็นเพราะห่างเมืองหลาย กม. ออกไปทางบ้านห้วยเดื่อ ทำให้สถานที่เงียบและน่าพักผ่อน รีสอร์ทเขาตั้งอยู่ติดแม่น้ำปาย ซึ่งเราสามารถเรียกเรือมารับเราไปเที่ยวบ้านกะเหรี่ยงคอยาว ที่บ้านห้วยปูแกง หรือบ้านน้ำเพียงดินได้ด้วย...
แม่น้ำปายหน้าที่พักอีกภาพออกจากรีสอร์เราก็เดินทางเข้าตัวเมือง เพื่อไปทานโจ๊กฮ่องกง ซึ่งมาตั้งขายที่ปั๊มน้ำมันเก่า ติดกับร้านอาหารบ้านเพลงหน้าโรงแรม เม๊าท์เท่น อินน์ ที่เรามาแวะทานมื้อเที่ยงวานนี้...
พอไปถึงก็ต้องรอคิวอีกแล้วครับท่าน ปรากฏว่าคนมาเพียบ คงคิดเหมือนเรานั่นแหละน๊า..... สุดท้ายก็ได้ทาน โจ๊กอร่อยมาก นี่จากการออกเสียงของทีม แต่เราต้องรีบทาน เพราะเห็นใจเพื่อนๆนักท่องเที่ยวที่ยืนรออยู่ เพราะอยากมาลองบ้าง
บนถนน 1095 ที่ไปถ้ำปลาเราออกเดินทางผ่านเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อตัดเข้าทางหลวงสาย 1095 เพื่อไปชมถ้ำปลาซึ่งอยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ ถ้าเรามาจากแม่ฮ่องสอน ซึ่งไม่ไกลนัก แต่เช้านี้หมอกยังหนาตลอดทาง..
ส่งโปสการ์ดไหม?ถ้ำปลาอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ เป็นถ้ำใต้เชิงเขา มีธารน้ำไหลออกมาจากถ้ำตลอดทั้งปี บริเวณปากถ้ำเป็นวังน้ำกว้างประมาณ 2 เมตร และลึก 1.5 เมตร สามารถมองเห็นฝูงปลาขนาดใหญ่ มีสีดำเทาอมฟ้า เรียกว่า ปลามุงหรือพลวง ภายในถ้ำจะมีปลาดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะชาวบ้านเชื่อว่าปลานี้เป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ หากใครนำมารับประทานจะพบภัยพิบัติ บริเวณหน้าถ้ำมีอาหารปลาจำหน่ายซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมซื้อและให้อาหารปลาอยู่เสมอ
ธารน้ำใสที่ออกจากถ้ำปลานอกจากนี้ถ้ำปลายังมีทิวทัศน์ของสภาพป่า หน้าผาเขาหินปูนอันเป็นธรรมชาติที่สวยงามมากถ้ำปลาอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอน-แม่มาลัย ระหว่าง กม. 191-192 ห่างจากเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 17 กิโลเมตร สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติ ยังไม่ที่พัก-บริการไว้บริการนักท่องเที่ยว มีแต่สถานที่กางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งชาติจัดตั้งใหม่ หากสนใจที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวต้องจัดเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง ที่ถ้ำปลามีร้านจำหน่ายอาหารเปิดบริการกิจกรรม - ชมทิวทัศน์ - เที่ยวถ้ำ/ธรณีวิทยา
ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีที่เขาด้านหลัง
ถ้ำปลาอยู่ตรงนี้
ปลาที่อยู่นอกถ้ำ
ออกจากถ้ำปลาก็เจอหมอกอีกพอออกจากถ้ำปลาเราก็ขึ้นเขาสูง แต่ทางได้ปรัปรุงใหม่ทำให้ขับง่ายขึ้น เรายังจำได้ว่ามาแม่ฮ่องสอนครั้งสุดท้าย ทางสายนี้ แคบ และหักข้อศอกขึ้นเขาอย่างน่าหวาดเสียว แต่ ณ วันนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ขับง่ายขึ้นเยอะ.... ซักพักหนึ่งเราก้ไต่อยู่บนสันเขา มองเห็นยอดไม้ลิปอยู่ข้างทาง
ทะเลหมอกระหว่างทางก่อนถึงจุดชมวิวแห่งแรก (เมื่ออกมาจากแม่ฮ่องสอน) เราก็ได้เห็นทะเลหมอกที่จับตัวกันหนาแน่นยังกะก้อนเมฆ..... พอเห็นไหล่ทางพอจอดได้ ก็จอดถ่ายเสียเลย ไม่หวังน้ำบ่อหน้า เพราะตอนนี้เกือบ 1000 นาฬิกาแล้ว
ตามประสาคนชอบธรรมชาติ เห็นแบบนี้ก็กดเสียหลายสิบภาพ เสียดายที่กล้องแรงไม่พอ เลนส์ 18 -135 มม. ก็ดึงเอามาได้แค่นี้เอง.... ครั้งสุดท้ายที่เรามา เราเห็นหมอกแบบนี้คลุมเกือบทั้งหุบเขา เวลาเราถ่ายภาพออกมา เหมือนยืนบนก้อนเมฆเลยหล่ะ..
เจอตรงไหน ถ่ายตรงนั้นเรามาถึงจุดชมวิวแรกที่อยู่บนยอดเขา มีชาวเขามาขายสินค้าพวกเสื้อผ้าชาวเขามากมาย ทางด้านซ้ายมือ (มาจากแม่ฮ่องสอน) จะมีจุดให้ชมวิวถ่ายภาพ และมีห้องน้ำให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
ว่าถึงห้องน้ำนี่ ทางเหนือเขาทำดีมากคือที่ไหนมีหน่วยบำรุงรักษาทาง หรือหมวดการทาง เขาก็จะทำห้องน้ำไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้กัน...เห็นแบบนี้ตลอดทาง เราว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะมีทั่วประเทศ
เพื่อชีวิต... เจอลุงชาวเขาที่จุดชมวิวปางมะผ้า(ด้านบน) แกมีปัญหาเรื่องสายตา ที่รู้เพราะตอนที่เราไปขอถ่ายภาพ แกทำท่าจะไม่ให้ถ่าย โดยชี้ไปที่ตาและพูดภาษาชาวเขา 2-3 คำ... แต่เราดื้อโดยทำไม้ทำมือบอกแกว่า เราไม่ใช้แฟลชหรอก แกเลยยอม ก่อนที่เราจะหย่อนแบ๊งค์เล็กๆให้แกใบหนึ่ง...
มีสินค้าจากชาวเขามาขายด้วยหนูน้อยชาวเขา..... 3 คนนี้สงสัยจะมาช่วยพ่อแม่ทำมาหากินบนจุดชมวิวนี้ หนูน้อยเป่าอะไรคล้ายๆขลุ่ย แต่เราไม่รู้หรอกว่าเพลงอะไร ได้แต่สงสารและเอ็นดูเขา ก็เลยต้องแจกอีกรอบ..
ชมวิวตรงนี้....ที่จุดชมวิวปางมะผ้า
ดอกไม้สวยๆแม่ค้าที่นั่นพูดเก่งมาก พอนักท่องเที่ยวเดินไปชมสินค้า พวกเธอจะบอกว่า "ช่วยกระจายรายได้ร้านนี้หน่อยค๊า..." ซึ่งบางคนสำเนียงไทยชัดแจ๋ว แต่ส่วนมากยังพูดไม่ค่อยชัด เจอลูกมาร์เก็ตติ้งที่ทั้งหยอดความน่าสงสารระดับนั้น มีเหรอที่พวกเราจะไม่เสียเงิน....
แม่ค้าชาวเขา
ถ้ำผีแมนก่อนจะเข้าปางมะผ้า มี
ถ้ำผีแมนเพิ่งเปิดตัวใหม่ เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า เพิ่งจะเปิดเมื่อ 2-3 เดือนนี่เอง ก็น่าจะใช่อยู่หรอก Office ก็ยังไม่มี ใช้เรือนชั่วคราวเพื่อขายบัตร โดยคิดค่าขึ้นไปชมคนละ 30 บาท และต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 300 เมตร (แต่เหนื่อยมากๆ)
ที่เรายอมปีนขึ้นไปดูเพราะเจ้าหน้าที่บอกเราว่า ที่นี่มีโลงไม้ผีแมนสมบูรณ์มากๆ และในบริเวณเขานี้ ยังมีอีกหลายที่.... เราเลยอยากขึ้นไปดู เพราะไม่ไกลมากนี่นา แค่ 300 เมตรเอง
ปีนมาตามทางแบบนี้วัฒนธรรมโลงไม้ คือ ลักษณะเฉพาะของการปลงศพที่พบในพื้นที่สูงอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน การปลงศพมีความโดดเด่นอยู่ตรงที่ประกอบด้วยโลงไม้ซึ่งมักจะทำจากไม้สักผ่า ครึ่งและขุดส่วนกลางออก ส่วนปลายทั้งสองด้านมีการแกะสลักเป็นรูปต่างๆ ไม้ที่ผ่าครึ่งจะประกบกันเป็นคู่ และวางบนเสาไม้จำนวน 4-6 เสา หรือวางไว้บนคานภายในถ้ำ ซึ่งมักจะตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เกือบจะยอดของเทือกเขาหินปูนในภูมิประเทศแบบ คาสต์
โบราณวัตถุที่พบร่วมกับโลงไม้ ได้แก่ชิ้นส่วนกระดูกคน หม้อและเศษภาชนะดินเผาเนื้อดินรมควันลายเชือกทาบ ลูกปัดแก้ว เครื่องมือสำริด และเครื่องมือเหล็ก
หลังจากปีเขามา 300 เมตร โลงผีแมน เป็นคำพื้นเมืองที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกโลงไม้ที่พบตามถ้ำต่างๆ ในอำเภอปางมะผ้า
ผีแมน เป็นภาษาไทยใหญ่หมายถึง
ผีที่โผล่ขึ้นมาหลังจากลงมาถึงพื้นราบเราให้ค่าทิบน้องผู้หญิง ซึ่งเจ้าหน้าที่นำทาง หรือมัคคุเทศก์ เธอบอกว่านักท่องเที่ยว เริ่มมาที่นี่เยอะขึ้น วานนี้แทบไม่มีเวลาทานกลางวันเลย..
อ่านเพิ่มเติม :
//www.rasmishoocongdej.com
อยู่ริมหน้าผาก็มี (ถ้ำ 2 กับ ถ้ำ 3)จากถ้ำผีแมน เราเดินทางตามมางหลวง 1095 ต่อเพื่อไปชมถ้ำน้ำลอด ซึ่งอยู่ อ. ปางมะผ้า โดยอยู่ห่างจากถนนใหญ่ออกไปประมาณ 9 กม.
ปางมะผ้า เป็นคำภาษาไทยใหญ่
ปาง หมายถึงที่พักชั่วคราว
มะผ้า เพี้ยนมาจากคำว่า หมากผ้า แปลว่ามะนาว ปางมะผ้า หมายถึงที่พักชั่วคราวที่มีมะนาว
ทางเดินไปถ้ำน้ำลอดถ้ำลอดปางมะผ้าถ้ำน้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดแล้วในบรรดาถ้ำทั้งหมด ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 141 จากเส้นทางหลวง 1095 (ปาย-ปางมะผ้า) เลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 9 กิโลเมตร ตรงเข้าไปจนสุดทางจะพบถ้ำน้ำลอด
เจ้าหน้าที่ถือตะเกียงถ้ำน้ำลอด อยู่ในความดูแลของศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด จากด่านด้านหน้าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง สาเหตุที่ไม่มีการติดตั้งไฟในถ้ำต่างๆก็เพื่อเป้นการรักษาถ้ำเหล่านี้ให้สวยงามและคงเดิมอยุ่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านใกล้เคียงที่สมัครมาเป็นคนนำทางให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
มาขึ้นเรือแพกันที่นี่เมื่อถึงบริเวณปากทางเข้าถ้ำนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มาถึงบางอ้อว่าทำไมถ้ำแห่งนี้ชื่อว่า ถ้ำน้ำลอด นั่นเป็นเพราะถ้ำแห่งนี้มีสายน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปางทางเข้าถ้ำไปจนถึงถ้ำสุดท้ายที่อยู่ภายในโพรงแห่งนี้มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สายน้ำกัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มากกว่าล้านปี ก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ๆถึง 3 แห่ง ได้แก่ ถ้ำเสาหิน ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน เส้นทางท่องเที่ยวทั้ง 3 ถ้ำ ต้องอาศัยการนั่งแพเข้าไป
รอรับนักท่องเที่ยว
จุดชมวิว กิ่วลมออกจากถ้ำน้ำลอด โดยไม่มีใครเข้าไปด้านใน เพราะเราเคยมาที่นี่แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนเราเดินเข้าไปเพื่อไปชม 3 ถ้ำนั่นก่อน แล้วค่อยล่องแพไม้ไผ่ออกมา แต่ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือ หรือ แพ ไม้ไผ่เข้าไปเท่านั้น..โดยเขาคิดค่าแพ 400 บาท นั่งได้ 4 คน และคนถือตะเกียงเจ้าพายุ อีก 150 บาท รวมแล้ว 550 บาทต่อเที่ยว โดยติดต่อที่ศูนย์บริการ
พอออกจากปางมะผ้าได้เราก็ไต่ขึ้นเขาอีกครั้ง จุดพักต่อไปก่อนถึงปาย คือ จุดชมวิว "กิ่วลม" ซึ่งว่ากันว่าตรงนี้เป็นที่ดูทะเลหมอกที่สวยมากๆด้วย...
เรามาตามทางแบบนั้น
ทะเลภูเขาและแล้วเราก็มาถึงกิ่วลม ซึ่งเป็นจุดชมวิวและทะเลหมอกอีกแห่งหนึ่งตามเส้นทางายนี้ คำว่า กิ่ว น่าจะเท่ากับครอด ช่องที่ให้ผ่าน กิ่วลม = ช่องลมที่ผ่าน ก็คือผ่านยอดเขา หรือเทือกเขานั้นๆ..... เราเคยผ่านเส้นทาง เวียงจันทร์ - หลวงพระบางในประประเทศลาว ก็ใช้คำนี้เช่นกัน เช่น กิ่วกระจำ กิ่วลม ความหมายก็เหมือนกันนี้
มีการแสดงของนักเรียนปกติหน้าหนาว กิ่วลมจะหนาวมากกว่าที่อื่น เขาจึงจัดที่ตรงนี้ให้นักท่องเที่ยวและผู้เดินทางผ่านไปมา ได้พักรถและชมบรรยากาศของทะเลภูเขา.... วันที่เราไปถึง ที่นั่นคึกคักมาก มีการแสดงดนตรี และการร่ายรำของนักเรียน ของโรงเรียนในแถบนั้น เพื่อรับบริจาคจากนักท่องเที่ยว หรือผู้คนที่ผ่านไปมา ตลอดถึงเด็กๆชาวเขาที่แต่งตัวด้วยสีฉูดฉาด มาถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยว โดยขอค่าขนมนิดหน่อย.... วันนั้นเรากับกลุ่มหนึ่งที่มาจาก กทม. เหมาเด็กน้อยเหล่านั้นมารวมกันถ่ายกัน..
รำนกยูง
ถ่ายภาพกะเด็กๆ
รอรับค่าทิป
บริเวณจุดชมวิวนอกจากการแสดงต่างๆของเด็กนักเรียนแล้ว ก็ยังมีร้านขายสินค้าของชาวเขาอีกมากมาย ทางซ้าย (ถ้ามาจากปาย) จะมีป้ายเขียนว่า "กิ่วลม" มองไปด้านหน้า จะเจอเส้นทางที่คดเคี้ยว ไต่ขึ้นเขามาที่จุดนี้ ซึ่งในระหว่างการเดินทาง ถ้าท่านไม่หลับ หรือเมารถเสียก่อน จะเห็นภาพภูเขาและเส้นทาง ที่สวยงามมากๆ..
วิถีชีวิต
ขายสินค้าเราพักถ่ายภาพ และชมวิวทิวทัศน์ ตลอดจนช้อปปิ้งบนตลาดลอยฟ้า ประมาณเกือบชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางต่อไป โดยมีเป้าหมายที่เมืองในหุบเขา เล็กๆที่เป็นยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย และต่างประเทศ นั่นคือ
ปาย......
เดินทางต่อไปขอบคุณที่ตามอ่านครับ__________ END _________
โดย: blog pu 22 มกราคม 2553 8:28:13 น.
ช่วยแสดงความคิดเห็น ตอบแบบสอบออนไลน์เพื่อการศึกษา ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หน่อยค่ะ
ตาม link
//spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dFBZSVJOeks5QUJxeHVGNy1ISlplMnc6MA
ปล. หากเป็นการรบกวนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และหากเคยตอบแบบสอบถามแล้ว รบกวนตอบอีกครั้งนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
โดย: kaewnumsai 22 มกราคม 2553 9:05:00 น.
โดย: JinnyTent 22 มกราคม 2553 9:19:57 น.
โดย: งาขาว 22 มกราคม 2553 9:29:16 น.
หวัดดีจ้า
มาทักทายพร้อมชื่นชมรูปสวยงามตามคำเชิญแล้วนะคุณ Wic
โดย: หอมกร 22 มกราคม 2553 9:43:40 น.
วันนี้ตามไปเที่ยวกับคุณ wicsir
ได้เห็นการท่องเที่ยวครบทุกรสเลยค่ะ
ทั้งธรรมชาติงามๆ ทะเลหมอกสวยๆ
วิถีชีวิตของชาวเขา
แถมยังพาเข้าตั้งหลายถ้ำแน่ะ อิอิ
แต่ที่ชอบสุดคงเป็นถ้ำน้ำลอด สวยเชียวค่ะ
Have a nice weekend na ka !!
โดย: nLatte 22 มกราคม 2553 10:03:57 น.
โอ้วว... ทะเลหมอกสุดอลังการ
โอ้ยย..ทำไมชีวิตนี้เราไม่เคยโชคดีเจอแบบนี้กะเค้ามั่งว้าา..
อยากนั่งเรือแพมั่งจัง ..น่าสนุกค่ะ
เที่ยวครบรส คุ้มจริงๆค่ะ
สุดยอดดดดด....
โดย: Nongpurch 22 มกราคม 2553 10:12:53 น.
โดย: Nongpurch 22 มกราคม 2553 10:16:18 น.
โดย: ณ มน 22 มกราคม 2553 10:45:42 น.
โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา 22 มกราคม 2553 12:14:47 น.
แม่ฮ่องสอนมีอะไรให้เที่ยวมากมายเลยนะคะ
สงสัยต้องไปเที่ยวแบบเจาะลึกสักครั้งแล้วล่ะ
จำได้ว่าตอนนั้นจะไปถ่ายรูปที่จุดชมวิวกิ่วลม
ขนาดเพิ่ง 4-5 โมงเย็นเองนะ
หนาวสุดๆ มือไม้แข็งจนถ่ายรูปไม่ได้
ต้องเอามือซุกไว้ในกระเป๋าตลอดเลยค่ะ
โดย: chenyuye 22 มกราคม 2553 17:42:28 น.
แต่ต้องขอบอกว่าเห็นภาพแล้ว อยากไปอีกจัง ภาพสวยครับ
เนื้อเรื่องได้่อ่านแล้ว เหมือนได้ไปด้วยเลยครับ
โดย: นายหัวเด่น 22 มกราคม 2553 18:08:37 น.
โดย: อุ้มสี 22 มกราคม 2553 19:55:37 น.
โดย: หน่อยอิง 22 มกราคม 2553 21:30:41 น.
แวะมาชมภาพงามๆค่ะ
โดย: babyL' 23 มกราคม 2553 11:24:12 น.
ขอแรงร่วมบริจาคช่วยชาวเฮติและแจ้งช่องทางการบริจาคที่ตรวจสอบได้ครับ
คลิกเพื่อดูรายละเอียดครับ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=powerup&month=23-01-2010&group=199&gblog=2
โดย: พลังชีวิต 23 มกราคม 2553 14:07:03 น.
โดย: tuk-tuk@korat 24 มกราคม 2553 14:16:43 น.
กับภาพสวยๆ
มีความสุขนะครับ
โดย: ขึ้นเป้ 24 มกราคม 2553 17:47:43 น.
สวัสดีเช้าวันแรกของสัปดาห์
มีความสุขกับการทำสิ่งดี ๆ ค่ะึุคุณ wicsir
ฝนตกไม่ทั่วฟ้าค่ะ
ที่พิดโลกตกเป็นบางแห่ง
แล้วก็เป็นใจตกที่ทุ่งนาเป็นส่วนใหญ่ด้วย
สงสัยกลัวคนในเมืองจะเปียกฝน
แถมหอบลมหนาวมาให้อีก
รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 25 มกราคม 2553 7:17:19 น.
โดย: chenyuye 25 มกราคม 2553 9:22:05 น.
ใกล้มื้อเที่ยงแล้ว
ยุ้ยนำส้มตำปูม้ามาฝากค่ะ
enjoy luncha na ka !!
โดย: nLatte 25 มกราคม 2553 11:43:25 น.