bloggang.com mainmenu search




พุดพิชญา ไม้ประดับดอกสีขาวสะอาดตา ที่บ้านปลูกไว้สามชนิด มีชนิดต้นสูงใหญ่ที่ปลูกลงดิน
ต้นสูงขนาดกลางที่ปลูกในกระถางใบใหญ่และชนิดต้นเตี้ยที่ปลูกในกระถางใบย่อมหน่อย ช่วงนี้ต้นสูงขนาด
กลางออกดอกชูช่ออวดดอกขาวลออตาอยู่ริมรั้ว เลยจับมาลงบล็อกชมเพลินๆไป แม้ดอกจะติดต้นไม่
พรึ่บพั่บอลังการน่าชมนัก แต่ก็ปลื้มใจที่เป็นดอกไม้ของบ้านเราเอง ไม่ต้องไปเอารูปของคนอื่น
มาลงให้บล็อกดูสวยงามเพอร์เฟค อย่างนั้นมันไม่มีอะไรน่าภูมิใจอ่ะะ ว่ามั๊ยเนอะ!! (อ่าาา ยกเว้นรูปของน้อง
สาวที่นอร์เวย์นะจ๊ะ อันนั้นถือว่าเป็นรูปของเราเหมือนกัน! คริๆ)


ที่เลือกปลูกเจ้าพุดชนิดนี้ไว้ริมรั้ว เพราะเวลาออกดอก จะออกเยอะมาก มองดูสะดุดตาแก่ผู้
ที่ผ่านไปมา ใบเขียวๆดอกขาวๆช่วยสร้างความอ่อนโยนและน่ามองให้กับกับรั้วเหล็กแหลมๆที่แข็งทื่อ ให้ดู
ซอฟท์ขึ้นมา ค่อยโอเคหน่อย .. และ อ้ะแฮ่ม!! ออกตัวนิดค่ะว่าภาพดอกพุดพิชญาอาจจะดูขัดตา
ไปบ้าง เป็นเพราะถ่ายสองช่วง เช้ากับเย็น สีสันเลยแปลกๆไป ทำใจชมนิสนุงนะคะ















พุดตัวนี้ออกดอกเก่ง ดอกดก มีดอกติดต้นตลอด ไม่มีเวลาไหน ที่มองไปแล้วไม่เห็นดอก
เวลาออกดอกจะขาวโพลนเต็มต้น บางกิ่งบางช่อยื่นยาวออกมานอกรั้ว อวดดอกสีขาวงามตา แม้ว่าจะ
ไม่มีกลิ่นหอมให้ชื่นใจ แต่โดยรวมก็โอเคร เป็นไม้ประดับอีกชนิดที่ปลื้มอยู่ แต่ไม่ถึงกับเลิฟมากนัก!

นอกจากดอกดก ออกดอกเก่งแล้ว ดอกยังบานทนหลายวัน และเป็นไม้ที่ไม่เรื่องมาก
อีกทั้งสามารถปรับตัวได้ทุกสภาพแวดล้อม ไม่ต้องดูแลอะไรเยอะ รดน้ำพอประมาณ หรือสองสามวันรด
ครั้งนึงก็ได้ ไม่ชอบน้ำขัง หากน้ำขังรากจะเน่า ใส่ปุ๋ยคอกบ้างประปราย เรื่องแมลงก็ไม่มีมากร้ำกราย
ให้รำคาญใจ และจะปลูกกลางแจ้งหรือร่มรำไรก็ได้หมด แต่ปลูกกลางแจ้งจะออกดอกดีกว่า เลยปลูกไว้กลาง
แจ้งทั้งต้นสามต้นเลย วันนี้นำเจ้าต้นสูงใหญ่ และต้นสูงขนาดกลางมาให้ชม ส่วนต้นเตี้ยช่วงนี้มี
แต่ใบล้วนๆ






ต้นสูงขนาดกลาง ต้นนี้ปลูกในกระถางใบย่อม (สภาพต้นน่าพามาออกสื่อมั๊ยล่ะ? อิอิ )
อ่าาาา แต่สภาพก๊องแก๊งอย่างนี้ นางออกดอกเก่งนะคร๊าาาา ว่านางไม่ได้นร้าาา 55














ชนิดต้นสูงใหญ่ ปลูกลงดินมาสามปีกว่า ณ.ตอนนี้สูงเลยรั้วไปเรียบโร้ยยย!







"พุดพิชญา" ความหมายว่า "ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ โตเร็ว เลี้ยงง่าย"
พุดพิชญา เป็นพืชในสกุลโมก ในประเทศไทยนำเข้าจากประเทศศรีลังกา มีชื่อท้องถิ่นว่า "อิดด้า" (Inda)
มีความหมายว่าดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ผู้นำเข้าคือ คุณปราณี คงพิชญานนท์

ลักษณะของดอกสีขาวเหมือนกลุ่มดอกพุดในบ้านเรา เธอจึงนำชื่อ ดอกพุด มา สมาส
เข้ากับวลีนามสกุล ออกมาเป็นชื่อใหม่ว่า "พุดพิชญา" CR:goo.gl/zr664Kcontent


อยู่ในวงศ์ตีนเป็ด APOCYNACEAE ลักษณะเป็นไม้หลายขนาด
ทั้งต้นเตี้ย ต้นสูง และต้นใหญ่ ผิวเรียบ ลำต้นสีน้ำตาล ... "นี่คือลำต้นของต้นข้างบนค่ะ"
(ดูจากภาพแล้วไม่เรียบเท่าไหร่นะ?) อิอิ














ถึงคราดอกร่วงโรยหล่นที่พื้นอย่างเป็นระเบียบ เหมือนใครจับวาง
เอ๊ะ!! หรือมีใครจับวางหว่า? คริๆ





พุดน้ำบุษย์
เวอร์ชั่นดอกสีเหลือง บานแฉล้มข้างรั้ว


มาที่พุดดอกหอมกันมั่งค่ะ "พุดน้ำบุษย์" ต้นนี้ปลูกประดับอยู่นอกรั้วบ้านที่พัทยามาห้าหกปีแล้ว
เท่าที่ปลูกๆมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เป็นไม้ดอกหอมอีกต้นที่เลี้ยงง่ายๆ มีดอกให้ชมตลอด ออกคราวละเยอะๆ
เต็มต้น ยอมรับว่าเจ้าพุดนี่ดอกมันดกจริงๆ .. ช่วงที่เรามาถึง ดอกสีขาวเริ่มเป็นสีเหลืองอ่อนและ
เหลืองเข้มหลายดอกแล้ว เลยไม่ทันได้ชมดอกสีขาว บอกเลยเสียดายมาก เพราะช่วงที่ดอกเริ่มผลิบาน สี
ขาว ช่วงนั้นจะส่งกลิ่นหอมแรง ยิ่งค่ำๆนี่หอมฟุ้งทั้งบ้าน กลิ่นกระจายไปยันบ้านใกล้เคียง
คนที่เดินผ่านไปมาบางคนไม่รู้ว่ากลิ่นหอมมาจากไหนก็จะมองหาที่มาของกลิ่นกันให้เลิ่กลั่ก เง้อออ!

พอดอกเป็นสีเหลืองกลิ่นหอมจะจางลงหน่อย กลิ่นอ่อนๆพอได้ชื่นใจอยู่ (พุดน้ำบุษย์
เมื่อแรกแย้มบานเป็นสีออกขาวนวล พอวันที่สองสีจะเริ่มออกเหลืองอ่อน ต่อมาค่อยๆ เหลืองเข้มจนกระ
ทั่งเข้มจัด)






มองไปนี่มีแต่ดอก ดอก และดอก






ออกเบียดกันแน่นไปหมด ต่างแย่งกันชูดอกขึ้นรับแสงแดด











พุดน้ำบุษย์


ชื่อสามัญ : -
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gardenia spp.
ลักษณะทรงพุ่ม : แตกกิ่งก้านต่ำจำนวนมาก ทรงพุ่มแน่น
วงศ์ : Rubiaceae
ถิ่นกำเนิด : -

ลักษณะทั่วไป
: พุดน้ำบุษย์เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 2 - 3 เมตร แตกกิ่งก้านต่ำจำนวนมาก
ทรงพุ่มแน่น
ฤดูการออกดอก : ออกดอกตลอดปี
เวลาที่ดอกหอม : ช่วงที่อากาศเย็น (เย็นๆ - มืด)

การขยายพันธุ์
: ที่สวนไม้หอมของฝ่ายปฏิบัติการวิจัยฯ ใช้วิธีการตอนเป็นวิธีการที่เหมาะสมสำหรับพันธุ์ไม้ชนิดนี้ และควรเลือกกิ่งที่มีขนาดพอสมควรเนื่องจากเป็นไม้ที่มีกิ่งไม่แข็ง กิ่งที่มีขนาดเล็กอาจจะหักได้ง่าย

ข้อดีของพันธุ์ไม้
: เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีราคาถูก เนื่องจากขยายพันธุ์ง่าย การเจริญเติบโตรวดเร็ว
ออกดอกดกมาก และออกดอกได้หลายครั้งในรอบปี
ดอกมีกลิ่นหอมแรงมาก เรียกได้ว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของพันธุ์ไม้หอมที่ส่งกลิ่นหอมแรง
(ที่สวนไม้หอมของฝ่ายปฏิบัติการวิจัยฯ ในปีที่ 3 ของการปลูก เมื่อเดินผ่านต้นระยะห่าง 3 เมตร
ยังสามารถได้กลิ่นหอมแรงอยู่)

ในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าพันธุ์ไม้หอมชนิดนี้ทนต่อน้ำท่วมได้ช่วงหนึ่ง (2 - 3 วัน)
และเป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีสีสันแปรเปลี่ยนไปได้ สามสีในดอกเดียวกัน คือช่วงแรกที่ดอกเริ่มบาน
จะมีสีขาวนวล และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสดใส และเมื่อดอกใกล้ๆ โรยจะมีสีเหลืองทอง


ข้อแนะนำ
: เป็นพันธุ์ไม้หอมที่มีความต้องการปุ๋ยและน้ำจำนวนไม่มาก แต่ต้องการ
ความถี่ในการใส่ ในปีแรกของการปลูกไม่ควรตัดแต่งกิ่งก้าน ควรปล่อยให้มีการแตกกิ่งก้านสาขาตามธรรมชาติ
เมื่อได้ทรงพุ่มที่ต้องการก็ประมาณกลางปีที่ 2 จึงเริ่มตัดแต่งกิ่งที่ไม่ค่อยเจริญเติบโต และกิ่งแขนง
เล็กๆออก ให้มองดูแล้วทรงพุ่มสวยงามตามความต้องการของเรา กิ่งก้านที่เกิดจาการตัดแต่งไม่ควรขนทิ้ง
ควรสับหรือตัดและกองไว้ที่โคนต้นแล้วใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีตามความเหมาะสม

พุดน้ำบุษย์เป็นพันธุ์ไม้ที่ระบบรากตื้น การพรวนดินควรต้องระมัดระวังระบบรากให้ดี
หากมีการใส่ปุ๋ยคอกครั้งละน้อยๆ หลายๆ ครั้งในรอบปี การพรวนดินก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับพันธุ์ไม้หอม
ชนิดนี้ CR:goo.gl/TZaaJPcontent


















หมวด Home&Garden



ขอปิดเม้นท์ต่ออีกหน่อยค่ะ ยังมีภารกิจติดพัน
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมา แล้วจะตามกลับไป
เยี่ยมทางมือถือ แต่คงไม่ได้คอมเม้นท์
หรือ อาจเม้นท์สั้นๆนะคะ