Group Blog
All Blog
|
Sofitel Centara Grand Resort and Villa หัวหิน ![]() เดิมโรงแรมถูกสร้างขึ้นในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในระหว่างก่อที่มีก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ ช่วงบ้านชะอำถึงหัวหิน ได้พบว่าที่ชายทะเลบริเวณบ้านแหลมหิน มีสภาพธรรมชาติหาดทรายชายทะเลที่สวยงาม เงียบสงบและอากาศดี เหมาะสมที่จะเป็นแหล่งที่พักตากอากาศ จึงได้มีการสร้างตำหนักและที่พักตากอากาศขึ้นเป็นจำนวนมาก ![]() ในการนี้พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนเรศวร์วรฤทธิ์ เป็นเจ้านายองค์แรกที่ทรงสร้างตำหนักหลังใหญ่ประทานชื่อว่า แสนสำราญสุขเวศน์ ภายหลังได้ทรงสร้างตำหนักอีกหลังหนึ่ง จึงเรียกตำหนักแยกเป็นสองแห่งว่า แสนสำราญ และสุขเวศน์ พร้อมทั้งทรงขนานนามชายหาดแห่งนี้ว่า หัวหิน ![]() ![]() ![]() ![]() ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๖๔ การก่อสร้างทางรถไฟสายใต้แล้วเสร็จ สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับแหลมมลายู พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูหัว มีพระราชประสงค์ที่จะให้ประเทศไทย มีสถานที่พักตากอากาศในระดับสากล ได้มีพระราชดำริให้จัดสร้างโฮเต็ลหัวหินขึ้น กำหนดให้เป็นโรงแรม สำหรับพักตากอากาศอย่างหรูหรา ตามแบบโรงแรมยุโรป ![]() ![]() ![]() ![]() โฮเต็ลหัวหิน จึงได้ถูกสร้างขึ้นโดยอยู่ริมทะเลติดกับตำหนักสุขเวศน์ ถือได้ว่าเป็นโรงแรมที่มีความหรูหราที่สุดของประเทศไทยในยุคนั้น ออกแบบโดยนายเอ รีกาซซี่ สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนประจำกรมรถไฟหลวง ![]() ![]() ตัวอาคารสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มีลักษณะเป็นอาคารสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ มีห้องพักจำนวน ๑๔ ห้อง ![]() ![]() ตัวอาคารเป็นรูปตัวแอล (L) ด้านหนึ่งหันหน้าไปสู่ทะเล อีกด้านหนึ่งหันหน้าไปทางทิศใต้ ![]() ![]() ชั้นล่างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นปูหินอ่อนอิตาลี พื้นห้องพักและประตูหน้าต่างเป็นไม้สัก ![]() ![]() ตัวอาคารของโรงแรมถูกออกแบบให้เป็นอาคารแบบโคโลเนียล (Colonial Style) ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น เน้นการใช้ไม้ร่วมในการก่อสร้างส่วนชั้นบนชั้นบนเป็นงานไม้ทั้งหมด เช่น ราวระเบียงเป็นไม้ทั้งหมด หรือเสาบางต้นเป็นเสาไม้หุ้มปูน เน้นรูปทรงหลังคาทรงชันที่สวยงามและมุงด้วยกระเบื้องว่าว สีแดงสดเห็นชัดเจน มีรางน้ำรอบอาคาร ![]() ![]() ทางเดินและระเบียงกว้างมีกันสาดยื่นคลุมออกมาทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ![]() ![]() อาคารหลังนี้เน้นทางเข้าตัวอาคาร ตรงห้องโถงกลาง ซึ่งเป็นโถงรูปโค้งเปิดโล่งไปสู่ทะเล สามารถมองเห็นทะเลเมื่อเข้าสู่ตัวอาคาร หลังคาโครงเหล็กมุงด้วยกระจกยื่นออกมาจากตัวอาคารเป็นที่จอดรถ เปิดบริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2465 ![]() ![]() ในปี พ.ศ.๒๔๗๑ โฮเต็ลหัวหินได้ต่อเติมอาคารเป็นห้องอาหารไปทางด้านเหนือ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงแรมรถไฟหัวหิน ![]() ![]() ![]() ![]() แม้ว่ารูปแบบสถาปัตยกรรมหลักจะเป็นไปในสไตล์โคโลเนี่ยล แต่ก็มีการนำมาปรับให้เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเรา ที่มีทั้งร้อนและมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปี ทำให้อยู่สบายเนื่องจากมีการถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี จนถึงปี พ.ศ.2501 จึงมีการก่อสร้างอาคารใหม่เชื่อมต่อกับอาคารเดิมไปทางทิศใต้ โดยมีถาวร บุณยเกตุ สถาปนิกของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ออกแบบ โดยการก่อสร้างในครั้งนี้ได้ออกแบบให้ตัวอาคารที่สร้างเพิ่มเติมเป็นสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ (Modern Architecture) เป็นอาคาร 3 ชั้น มีการใช้วัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ในยุคนั้น เช่น กระเบื้องยางสีสด วงกบเหล็ก กระจกบานใหญ่ การเล่นลวดลายของหินขัดที่พื้น การบุผนังด้วยหินอ่อน กรวด หินกาบ รวมทั้งโครงสร้างที่มีลวดลายตามแผงกันแดดและบันได ส่วนเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายในได้ออกแบบให้ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายแก่แขกผู้มาพัก ![]() ![]() ปัจจุบันตัวอาคารแบ่งออกเป็น 3 ปีก คือ ปีก Railway คือ อาคารเดิมของโรงแรมรถไฟ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ.2464 เรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์ในอาคาร Railway เดิม ดูเหมือนยังเป็นจุดขายสำคัญของโรงแรม และผู้บริหารโรงแรมกลุ่มใหม่ก็พยายามคงเอกลักษณ์เดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ![]() ![]() อาคาร Railway นี้เองที่ออกแบบโดย A Rigazzi สถาปนิกชาวอิตาเลียน ประจำกรมรถไฟ เป็นตึกแบบยุโรปทรงโคโลเนียล มีอาคารยาว 2 หลัง ต่อกันเป็นมุมฉาก ในแนวเหนือ-ใต้ กับตะวันออก-ตะวันตก ชั้นล่างมีห้องโถงใหญ่เป็นล็อบบี้ลงทะเบียนแขกที่เข้ามาพัก พื้นห้องส่วนนี้ปูด้วยหินอ่อนจากอิตาลี วางเล่นลายหมากรุก มีชุดรับแขกวางกันเป็นกลุ่ม ส่วนภายในห้องพัก พื้น และประตูหน้าต่างเป็นไม้สักทั้งหมด จากห้องโถงนี้มีบันไดใหญ่ลงสู่ถนนไปชายหาด จากบันไดไม้สักขึ้นสู่อาคารชั้น 2 จะพบห้องโถงใหญ่สำหรับนั่งพักแขก สิ่งก่อสร้างที่เห็นจะเป็นงานไม้ทั้งหมด นอกจากบางส่วนที่ต้องอาศัยงานคอนกรีต แต่ละห้องซึ่งเป็นห้องเตียงคู่นั้นค่อนข้างกว้าง ทำให้บรรจุเตียงได้เพียง 28 เตียง ![]() ![]() ![]() ![]() แขกที่มาพักในยุคนั้นยังได้เพลิดเพลินไปกับบาร์เหล้า ห้องบิลเลียด สนามเทนนิส และสนามกอล์ฟ โรงแรมรถไฟจึงเป็นที่พักตากอากาศ และสถานที่นัดพบของหนุ่มสาว ที่สมบูรณ์แบบและหรูหราที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย โฉมใหม่ของห้องพักแบบ superior ในตึก Railway ได้ถูกปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2543 จากห้องนอนเดี่ยวกลายเป็นห้องชุดเล็กๆ ที่กว้างขวาง ผนังปูนส่วนหนึ่งถูกทุบออกเป็นช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ต่อเชื่อมกับส่วนระเบียงเดิมซึ่งตกแต่งใหม่เป็นส่วนนั่งเล่นหรือทำงาน มีบันได 3-4 ขั้น ลงไปสู่ลานพักผ่อน เล็กๆ ส่วนตัวด้านนอกที่ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ต่างๆ ![]() ![]() แขกบางคนยังย้อนกลับเข้ามานั่งรำลึกความหลัง พร้อมจิบน้ำชา กาแฟ แบบผู้ดีอังกฤษ ในบริเวณ After Tea ในบริเวณอาคารเก่า Railway ท่ามกลางสายลมเย็นจากทะเล และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลั่นทม ได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ ของหลานตัวเล็กๆ ซึ่งกำลังวิ่งเล่นในสวนกว้าง มองออกไปเห็นต้นข่อยดัดเป็นรูปสัตว์ต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่วสวน เด็กน้อยบางคนวิ่งลอดใต้ท้องช้างที่เป็นต้นข่อย ช้างพลายดัดตัวโตเอกลักษณ์เก่าแก่อีกอย่างหนึ่งของโรงแรมแห่งนี้ด้วยความตื่นเต้น ![]() ![]() ![]() ![]() ปีก Colonial Wing เป็นฝั่งที่ก่อสร้างต่อจากปีก Railway อาคาร Colonial Wing ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างต่อจากอาคาร Railway ถูกตกแต่งปรับปรุงด้วยเฟอร์นิเจอร์ ใหม่หมดในปีที่ผ่านมา การตกแต่งภายในจึงได้อารมณ์ที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นเช่นในห้องพักแบบ deluxe เริ่มจากห้องน้ำที่นอกจากมีสุขภัณฑ์แบบใหม่แล้ว ยังเจาะกำแพง ด้านหนึ่งเป็นหน้าต่างให้สามารถคุยกับคนในห้องนอน และมองผ่านออกไปเห็นสวนสวยภายนอกได้ด้วย แต่การให้สีสันในห้องนี้จะเน้นสีเอิร์ธโทนที่สบายตาขึ้น ![]() ![]() และ ปีกสุดท้ายคือ Garden Wing ซึ่งเป็นปีกใหม่ล่าสุดที่ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2542 รวมห้องพักทั้งหมด 207 ห้อง โดยที่ตึกใหม่นั้นมีลักษณะโครงสร้างที่เป็นงานสถาปัตยกรรมแบบเก่าสอดประสานกลมกลืนไปกับตัวตึกเก่า ภายในห้องพักของอาคาร Garden Wing ซึ่งสร้างเป็นปีกสุดท้าย และเปิดบริการเมื่อปี พ.ศ.2541 นั้น แม้ภายในจะเป็นพื้นไม้ และยังคงรูปแบบด้วยเครื่องเรือนที่เป็นไม้ แต่จะให้สีสันที่สดใส ระบบต่างๆ ภายในห้องทันสมัยมากขึ้น มีห้องแต่งตัวแยกเป็นสัดส่วนเช่นเดียวกับห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ที่ทันสมัย ![]() ![]() ![]() ![]() ภายในโฮเต็ลรถไฟที่โก้หรูเมื่อ 80 ปีก่อนนั้น สรศัลย์ แพ่งสภา ได้บรรยายไว้ ในหนังสือ "ราตรีประดับดาวที่หัวหิน" ว่า เป็นเตียงไม้สักมีเสาสูง สำหรับกางมุ้งผ้าโปร่งตาเม็ดพริกไทยสีขาว ที่นอนนุ่มหนา ข้างเตียงมีโคมไฟชนิดเตี้ย ตู้เสื้อผ้าไม้สัก โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมโคมไฟ ตู้ไม้สักผสมหวายโปร่งสำหรับใส่ผ้าส่งซัก เก้าอี้ไม้สักผสมหวายแบบเอนนอนได้ ม้าวางกระเป๋าเดินทาง ที่แขวนหมวก พัดลมแขวนเพดาน เครื่องใช้ประจำห้องครบครัน หน้าต่างแบบบานเกร็ดยาวจรดพื้นแบ่งออกเป็น 2 ตอน ราคาที่พักต่อคนในสมัยแรกเริ่มนั้นประมาณ 6-10 บาทต่อคนต่อคืน ปัจจุบันค่าเช่าห้องต่อคืนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ราคาประมาณ 6,000-7,000 บาท ราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นบาทต่อคืน วันเวลาผ่านไปกลุ่มลูกค้าของโรงแรมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แม้ผู้บริหารมีแนวความคิดที่จะคงความเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่สุดของหัวหินไว้ก็ตาม แต่ภายในห้องพักของอาคารที่สร้างขึ้นใหม่ได้ถูกตกแต่งปรับปรุง ให้ทันสมัย และสวยงามขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนกลุ่มใหม่ ![]() ![]() ห้องที่เราไปพักเป็นแบบ Delux ครับ ![]() เป็นแบบ king room ![]() ![]() ![]() ![]() เครื่องอำนวยความสะดวกพร้อมเลยครับ ![]() ![]() มีโต๊ะทำงานติดกันกับทีวี ![]() ![]() มินิบาร์ พร้อมน้ำดื่นวางไว้ที่หัวเตียง ![]() ![]() ![]() ![]() ในตู้เสื้อผ้ามีเสื้อคลุมไว้ 2 ตัว พร้อมรองเท้า slipper ![]() ส่วนในห้องน้ำก็กว้างใหญ่มากๆ ![]() ![]() มีอุปกรณ์ในการอาบน้ำพร้อมสรรพ ![]() ![]() มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำ ![]() ชุดรับแขกที่อยู่ในห้อง ![]() แล้วยังมีระเบียงเปิดออกไปด้านนอกรับลมทะเลเย็นๆได้อีกด้วยครับ ![]() ![]() มีเก้าอี้นั่งอีก 1 คู่ ![]() ![]() เดี๋ยวเราออกไปเดินชมสวนกันครับ ![]() ![]() โรงแรมนี้กว้างใหญ่มากๆครับ ![]() ![]() สระว่ายน้ำของโรงแรมอยู่ริมทะเลเลยครับ ![]() ![]() แล้วยังมีห้องอาหารและบาร์เล็กๆ อยู่ด้วย ![]() ![]() สระว่ายน้ำมี 2 สระครับ สระเด็กกับสระผู้ใหญ่แยกกันนะครับ ![]() ![]() สระผู้ใหญ่จะใหญ่กว่า ![]() ![]() มีศาลาไทยอยู่ริมทะเลพอดีเลยครับ ![]() ![]() ตรง lobby โรงแรมจะมีตู้โชว์ 2-3 ตู้ไว้โชว์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเมื่อครั้งเปิดโรงแรมใหม่ๆ ![]() ![]() เป็นไงกันบ้างครับ พาชมโรงแรมรถไฟซะชุ่มปอดไปเรยยย เซทหน้าจะเป็นโรงแรมในต่างประเทศบ้างนะครับ ![]() ![]() ![]() แวะมาชมค่ะ
![]() โดย: นู๋ที
![]() เป็นโรงแรมหนึ่งที่อยากไปมากๆ เลยหละค่ะ
แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที แหะๆ ![]() โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ![]() ว้าว ขอบคุณขัอมูลดีดีนะคะ อยากไปมากๆพอดี
โดย: ตากลม IP: 58.8.164.234 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:28:34 น.
หรูจริง ๆ คะ แต่ปีนี้ตั้งใจจะไปภูเก็ต คงได้แต่ดูรูปสวย ๆ จากคุณบอลเอาอะคะ (แพงเกินงบด้วยหละ แหะ ๆ)
![]() โดย: We Are FroM BeLGiUM
![]() แวะไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ข้อมูลละเอียดดีมากค่ะ รูปก็สวย เห็นแล้วอยากไปมั่งจังเลย
เมื่อตอนบ่ายยังพาไปกินข้าวบ้านกับซิสเลอร์อยู่เลย พาตอนเย็นพามาเที่ยวหัวหินแล้ว ไวจริงน้องเรา ปล.เดี๋ยวโหวตให้จ้า ชอบ..ชอบ โดย: เนินน้ำ
![]() นู๋ที --- น่าไปเที่ยวมากๆครับ
สาวไกด์ใจซื่อ --- ถ้ามีบัตร accor ลดด้วยนะครับ ตากลม ---- ถ้ามีโอกาศต้องลองไปให้ได้ครับ ASDK_MK --- ช่ายครับ ตอนกลางคืนโรแมนติกมากๆ We Are FroM BeLGiUM --- ไม่แพงนะครับคุณนัท คืนละ 3-4 พันเอง ถ้ามีบัตร accor ก็ได้ส่วยลดอีกเหลือ 2 พันปลายๆครับ เนินน้ำ --- อันนี้ดองมานานครับพี่โอ แหะๆๆ จะปีนึงได้แล้วมั๊งครับ สังเกตุดูว่ารูปไม่ค่อยตรงกับเนื้อหา อิอิอิ ตอนนั้นหลบม๊อบเสื้อแดงไปหัวหินครับ อยู่นานมากก อาทิตย์นึงได้มั๊ง อิอิอิ Kavanich96 --- โรงแมสวยมั๊ยคราบบบบ โดย: ทนายอ้วน
![]() |
ทนายอ้วน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Friends Blog
|