โบสถ์กลางน้ำสามร้อยปี หมื่นไวย โคราช
เห็นป้ายนี้ติดที่แยกจากถนนมิตรภาพ

ทางเข้าบ้านประโดก หรือหมู่บ้านทำขนมจีนของเมืองโคราช





เลยจากบ้านประโดก จะเป็นบ้านหมื่นไวย ต.หมื่นไวย

อยู่ทิศเหนือของเมืองโคราช

วัดประจำหมู่บ้านคือวัดหมื่นไวย





บ้านหมื่นไวย ปรากฎอยู่ใน

หนังสือเรื่องขุนช้างขุนแผน ฉบับหอสมุดแห่งชาติ

ตอนหนึ่งกล่าวว่า


อำมาตย์รับสั่งบังคมลา คลานถอยออกมาหาช้าไม่

ลงเรือข้ามส่งล่องลงไป ถึงท่าใหญ่ปากโมงทันที

ขึ้นม้าแล้วก็พากันรีบไป ดั้นตัดลัดไพรพนาศรี

ข้ามป่าฝ่าทุ่งมุ่งจรลี ถึงคีรีเขาศาลล่วงด่านไป

พักม้ากินหญ้าพอหายเหนื่อย ลมเฉื่อยขึ้นม้าหาช้าไม่

หยุดร้อนนอนป่าพนาลัย มาได้สามหมอรีบต่อมา

ถึงลำพาชีรี่ออกทาง ชักม้าสะบัดย่างมากลางป่า

ถึงบ้านด่านโคราชสีมา เข้าหาชาวบ้านด่านหมื่นไวย

แจ้งความตามเรื่องราชสาร ชาวด่านพามาไม่ช้าได้

ตัดตรงลงโคราชทันใด ผูกม้าไว้เข้าในเมือง




เล่าถึง

พระเจ้าล้านช้าง ส่งนางสร้อยทองพระราชธิดา

มาถวายสมเด็จพระพันวษาเพื่อเป็นไมตรี

โดยให้อำมาตย์ถือพระราชสารเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา

ขึ้นเรือที่ปากโมง อ.ท่าบ่อ หนองคาย

ผ่านป่าฝ่าทุ่งเขาศาล ?? ... มีชื่อบ้าน ข้าวสาร ไม่แน่ใจว่าอันเดียวกันหรือไม่

เข้าช่องสามหมอ อ.ภูเขียว ชัยภูมิ

ผ่านลำแม่นำชี

แล้วเดินทางต่อมาถึงบ้านด่านหมื่นไวย

ชาวด่านพาเข้าไปในเมือง

เพราะเป็นด่านสำหรับตรวจคนเข้าออก ตั้งแต่ พ.ศ. 2031

และเดินทางต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา





พระอุโบสถ 300 ปี อยู่ข้างวัดหมื่นไวย

ก่อด้วยอิฐถือปูน

ตกท้องเล็กน้อยคล้ายแบบเรือสำเภา ... ศิลปะแบบอยุธยา





มีสามห้อง





ด้านหน้ามีบันไดสองข้าง









หน้าบัน





เสมาเป็นศิลาแลง





ห้องด้านหน้า และด้านหลังมีช่องหน้าต่างหนึ่งช่อง

ห้องกลางมีสองช่องหน้าต่าง





ลวดลายกรอบหน้าต่าง และบาน





ด้านหลัง ... ทิศตะวันตก





บันไดสองข้าง





บานประตู





ประตูหน้า สูงราว 150 เซนติเมตร กว้างราว 5-60 เซนติเมตร





เข้าไปสู่ห้องโถงเล็ก ๆ ด้านหน้า

ขนาดหนึ่งช่องต่างหนึ่ง

บันไดประตู ติดต่อสู่ห้องกลางสามช่อง





มุงด้วยกระเบื้องว่าว

ถ้าเป็นที่เชียงใหม่น่าจะเรียกว่ากระเบื้องดินขอ





ช่องประตูกลาง





ภายในห้องหลางมีขนาดสองเสา

สองข้างด้านหลังเปิดไปห้องด้านหลัง





พระประทาน ปางป่าเลไลย์

ปางนี้พระองค์เบื่อการทะเลาะกันของพระ จึงมาอยู่ป่าตามลำพัง





ในห้องที่สาม ด้านหลังพระพุทธรูป

เป็นซุ้มปราสาท





บรรจุเจดีย์ขนาดเล็ก ... พระธาตุจุฬามณี





สลักประตู และหน้าต่าง









***






ปิดท้ายด้วยบรรยากาศตำบลหมื่นไวย









Create Date : 23 พฤษภาคม 2554
Last Update : 7 มิถุนายน 2554 10:30:11 น.
Counter : 8747 Pageviews.

45 comments
วัดพุทไธศวรรย์ ดาวริมทะเล
(18 เม.ย. 2567 17:54:51 น.)
春和歌山市 : ทำไมต้องวากะยามะ mariabamboo
(15 เม.ย. 2567 11:06:33 น.)
หาอะไรดับร้อนกับน้องถั่วแดงที่ร้านเย็น เย็น หวานเย็น สาขาMRTท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(12 เม.ย. 2567 00:32:31 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
  
อืม โคราชก็มีวัดสวยๆ เยอะเหมือนกันเนอะ
แต่ดูท่าจะไม่ค่อยมีคนไป เงียบเชียบเชียว

จากวัดพระมหาธาตุ ต้องลองนึกถึงว่าอิทธิพลเดิมคือสุโขทัย อิทธิพลล้านนา
ไม่น่าจะผ่านข้ามลงมาได้

เราคงต้องเรียนรู้กันต่อไปเนอะ
คงมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกมาก
โดย: VET53 วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:35:23 น.
  
สวัสดีตอนบ่ายครับคุณตุ๊ก .....

อ่านจั่วหัวบล็อกว่าโบสถ์กลางน้ำ ทีแรกผมนึกไปถึงว่าตัวโบสถ์จะอยู่กลางน้ำแบบน้ำล้อมรอบแนบชิดติดผนังโบสถ์ คล้ายๆ พวกหอไตรกลางน้ำของบางวัดที่จะเป็นเสาหอไตรปักอยู่ในน้ำเลย แต่พอได้ดูภาพแล้ว เพิ่งเข้าใจว่าเป็นโบสถ์ที่อยู่บนเกาะกลางน้ำ มีคูน้ำล้อมรอบสี่ด้านนั่นเอง ....



โดย: NET-MANIA วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:45:24 น.
  
บรรยากาศโบสถ์เก่าตอนกลางคืน

คงน่ากลัวจนขนหัวตั้ง แน่ๆ
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:16:35 น.
  
แวะมาทักทายยามบ่ายๆค่ะ
โดย: nompiaw.kongnoo วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:16:54 น.
  
เห็นชื่อประโดกนึกถึงขนมจีนก่อนเลย

วัดบูรณะใหม่หรือเปล่าคะ ดูสะอาดสะอ้านเชียว
โดย: narellan วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:09:40 น.
  
ว้าวววว ถ้าพี่ตุ๊กไม่พาชม ต้องพลาดแน่ๆ เลยค่ะ
เก่าแก่มากๆ ด้วยนะคะ
โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:17:53 น.
  

สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อุ้มชอบมากๆ ค่ะคุณตุ๊ก

โดย: อุ้มสี วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:15:33 น.
  
300 ปีเลยเนอะ มีใครผูกพันอยู่ที่นั่น
บ้างน้อ อิอิ โบสถ์เล้กๆ เงียบๆ เย็นๆ
น่านั่งสมาธิ

คืนนี้กรนให้คนขับรถง่วงมั่งนะ คนสวย
55 คุยรัยกันเนี้ยะ

โดย: nulaw.m วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:24:57 น.
  
น่าชมเชยการอนุรักษ์พระอุโบสถ 300 ปีครับ

ยังคงสภาพเดิมๆ อีสานบ้านเรามีของดีมากหลาย ซุกซ่อนอยู่เหมือนเพชรที่รอเจีนรนัย

ยิ่งได้คุณตุ๊กช่วยให้ข้อมูล น่าอ่าน น่าติดตามครับ
โดย: Insignia_Museum วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:28:16 น.
  
ถ้าไปคนเดียวคงไม่กล้าเข้าไปในอุโบสถแน่เลย
เก่าแก่และดูวิเวกวังเวงมากๆ

นึกว่าจะได้กินขนมจีน ที่แท้เป็นชื่อหมู่บ้านเอง
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:28:23 น.
  
สวยจังเลยค่ะพี่ตุ๊ก

ดูเก่าแก่มากๆเลยนะคะ
โดย: APPLEAIR วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:54:21 น.
  
ตามมาแอ่วค่ะ
มองเห็นภาพนางห่มสไบ
เดินคู่กับจไว หมื่นอะไรซักอย่าง แฮ่ะ ๆๆ ..

เห็นภาพค่ะเห็นภาพ .. อิอิ

สองพี
โดย: SongPee วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:56:27 น.
  
มาแอ่ววัดตวยคนเน้อครับปี้ตุ๊ก


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:01:43 น.
  
สวัสดีค่ะคุณตุ๊ก ติดรถมาเที่ยวด้วยค่ะ... ชอบจังค่ะโบสถ์แบบนี้ โชว์อิฐด้วย สวยแปลกตาดีค่ะ ถึงจะเกิดจากความผุกร่อนไปตามกาลเวลาก็ตาม
โดย: namfaseefoon วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:02:29 น.
  
วัดนี้ควรอนุรักษ์บรรยากาศรอบๆวัดไว้ให้มากเลยนะครับ เก่าแก่ดูขลังไปหมด
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:30:20 น.
  
สวยงามมากครับ ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับวัดครับ ครู tuk-tuk

เฮ้อ ขนาดพระยังมีความเห็นไม่ตรงกัน นับประสาอะไรกับมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาครับ

ประเทศไทยจะเข้าสู่การทะเลาะ อีกครั้ง
โดย: moonfleet วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:42:37 น.
  
พี่ตุ๊กค่ะ..

555 พูดไม่ออกเลยพี่ มันสะเทือนทราง ขอขำอย่างเดียวก็แล้วกันนะคะ..ขอบคุณมากค่ะ 555

ป.ล บ้านนี้นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้วยังได้รับความรู้เป็นของแถมด้วย คุ้มจริงๆนะค่ะพี่ตุ๊กขา..อิอิอิ
โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:55:27 น.
  
สวยมากค่ะ โบสถ์อาร์ทดีค่ะ
โดย: อุ๊ (oumon ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:02:57 น.
  
ผ่านมา 300 ปีแล้วแต่สภาพยังดูดีอยู่เลยนะคะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:11:01 น.
  
วิสกี้ตามไปด้วยนะคะ แต่คงต้องขอแอบๆ อยู่ใกล้ๆ คุณตุ๊กล่ะค่ะ บรรยากาศแบบนี้คนขี้กลัวแบบวิสกี้ติดสยองเล็กน้อยค่ะ คิคิ
โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:37:14 น.
  
รูปทรงเก่าแก่เอาการอยู่เลยนะคะีนี่
ต้องดูแลและรักษาอย่างดีเลยล่ะค่ะ
เพราะร่องรอยหลายๆ อย่างเริ่มจางหายไปแล้วด้วย

บล๊อกหน้าต้องได้ตามชิมขนมจีนประโดกแน่เลย
โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:42:53 น.
  
ตัวอักษรในคอมเม้นท์เล็กไปหน่อยน่ะ
เวลาพิมพ์เสร็จต้องจ้องดูเต็มตาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่พิมพ์ผิด อิอิ
โดย: ปรานทยา วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:55:29 น.
  
เข้ามาบล๊อคนี้คุ้มมากๆเลยค่ะ ได้เห็นอุโบสถ 300 ปี ปฏิมากรรมยุคเก่า สวยงาม มากก

บรรยากาศตำบลหมื่นไวย์ วิวสวยจังค่ะ
โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 23 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:19:37 น.
  
ได้รู้เรื่อง ของ โคราช เพิ่มอีกเรื่องล่ะ
โดย: ON THE WAY (MyEos50 ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:4:00:44 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับพี่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:07:55 น.
  
พี่ตุ๊กขา..มาออกกำลังกายกันจั๊กกะนิดดีไหมค่ะ..ว่าแต่พี่จะยกขาไหวไหมเนี่ยย..หรือให้ฟ้าช่วยพี่ยกดีค่ะ..อิอิอิ

โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:6:25:24 น.
  
ไปเที่ยวโคราชอีกวันกับคุณตุ๊กค่ะ
โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:33:52 น.
  
ขึ้นตุ๊กตุ๊กมาเที่ยววัดด้วยคนค่ะ
โดย: ตุ๊กตุ๊ก...แม่กลอง (Calla Lily ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:41:35 น.
  
มาเยี่ยมชม ครับ
โดย: Kavanich96 วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:50:24 น.
  
พระอุโบสถ 300 ปี ดูขรึมและขลังมากค่ะ
อนุรักษ์ไว้ได้ดีเยี่ยม

โคราช มีอะไรน่าเที่ยวเยอะเหมือนกันนะคะ
น้อยมักจะผ่านไปสู่จังหวัดอื่นเสมอเลยค่ะ

คงจะมีสักครั้ง แพลนเที่ยวโคราชแบบเจาะลึกไปเลย จะมาขอคำแนะนำนะคะ
โดย: ช่อม่วงพวงคราม วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:7:53:06 น.
  
โห ดูเก่าแก่จริงๆ เลยค่ะ ขลังเนาะ

ขอบคุณที่แวะไปดูห้องพักที่บล็อกนะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:17:23 น.
  
แหม่มชอบเที่ยวแบบนี้ค่ะคุณตุ๊ก

แต่ขอเป็นเที่ยวตอนกลางวันนะคะ ถ้าเป็นตอนค่ำ ๆ ก็แหะ ๆ ขอเที่ยวแบบมีแสงสว่างจะ ๆ บรรยากาศคนเยอะ ๆ แทนละกันค่ะ

........

ปล.พิดโลกร้อนมากกกก
โดย: i'm not superman วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:8:41:09 น.
  
สวนฺติ สพฺพธี โสตา ลตา อุพฺภิชฺช ติฏฺฐติ ตญฺจ ทิสฺวา
ลตํ ชาตํ มูลํ ปญฺญาย ฉินฺทถ

กระแสน้ำคือตัณหา ไหลไปทุกหนทุกแห่ง เถาวัลย์คือกิเลส ก็ขึ้นรกไปทั่ว
เมื่อเห็น เถาวัลย์นั้นงอกงามแล้ว พวกเธอจงตัดรากมันด้วยมีดคือปัญญา

ใช้สติในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ตลอดไป...นะคะ


โดย: พรหมญาณี วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:9:11:32 น.
  
ไม่น่าเชื่อว่าที่หมื่นไวจะมีแบบนี้ด้วย....ว่างจะลองไปชมบ้าง...
โดย: nongnamhom วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:10:27:45 น.
  
แวะมาชมย้อนหลังครับ
เป็นโบสถ์ที่สมบูรณ์ งดงามมากครับ
ทุกวันนี้ ยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนาหรือเปล่าครับ

โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:12:58 น.
  
ดูเก่ามากมาย
โดย: jetmom3425 วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:19:30 น.
  

ขรึม ขลัง ดีค่ะพี่ตุ๊ก...เข้าไปคนเดียวคงน่ากลัวเหมือนกัน...

พี่ตุ๊กเก็บรูปมาละเีอียดมากเลยค่ะ อธิบายขยายความเห็นภาพตาม มีรูปประกอบชัดเจน...แบบนี้หนูไม่ต้องไปก็ได้...

ขอบคุณเรื่องดีีๆ ค่ะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:58:08 น.
  
วัดนี้มีตำนาน

และเก่าแก่ดี

แต่ในแง่วรรณคดี

ค่อนข้างมีอคติครับ
โดย: ravio วันที่: 24 พฤษภาคม 2554 เวลา:18:45:15 น.
  
ตามมาเที่ยวด้วยครับ
เก่าแก่กว่า ก/ท อีก..
อืมจหมื่นไวย์มาไกลเหมือนกันนะ...

เมื่อคืนขับจาก กทม. ผ่านมาทานก๋วยเต๋ยวที่ปั๊ม ปตท. เลยทางต่างระดับ ขาไป ขก.
ถึงบ้านเที่ยงคืน..
มาเยี่ยมช้าเพราะมัวไปหลงกรุงอยู่น่ะ
โดย: wicsir วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:11:15:01 น.
  
น่าไปเที่ยวจังเลยค่ะพี่ตุ๊ก
โดย: kwan_3023 วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:13:31 น.
  
อุโบสถนี้มี "สี่เสา เก้าประตู แปดหน้าต่าง"

ถ้านับเสา ประตู หน้าต่าง ดีๆ
จะได้คำตามคนเฒ่าคนแก่แถวๆนั้นว่าไว้ว่า
คุณหมอตุ๊กน่าจะสังเกตุเห็น
ความแปลกนี้
ลองนึกดูนะครับว่าจริงไหม

ผมเคยไปคุมงานก่อสร้างศาลาหลังใหญ่ที่วัดหมื่นไวยนี้
เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว
สภาพไม่ดีอย่างนี้เลย
สระน้ำก็ไม่มีชัดเจนอย่างนี้จะเป็นบ่อลาดๆตื้นๆ
ขาดการดูแล
เดี๋วยวันหน้าจะไปดูด้วยตาตนเองแน่ๆเลยครับ
โดย: ภาคภูมิ(dentz metal) IP: 125.26.86.33 วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:18:53 น.
  
"สี่เสา เก้าประตู แปดหน้าต่าง"

หมายถึง ?

โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:13:39:46 น.
  
ความหมายไม่ทราบจริงๆครับ
อาจจะเป็นปริศนาธรรมแฝงไวในงานก่อสร้าง
คงต้องอาศัยผู้มีภูมิรู้ด้านศาสนามาวิเคราะห์
ผมก็ไปนับดูตามชาวบ้านแถวนั้น
แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ
จนคุณหมอตุ๊กเอามาลงให้ชม
ก็เลยนึกคำนี้ออกมาได้
แต่ว่าที่สำคัญคือทำไมต้องมีประตูมากถึง9ประตู
และที่แปลกไปจากที่อื่นคือพื้นในอุโบสถนี้
จะมื2ระดับคือตรงกลางจะยกสูงขึ้นประมาณ10เซ็นติเมตร
น่าจะเป็นที่ๆพระสงฆ์ใช้ประกอบกิจต่างๆ
ด้านข้างๆที่ต่ำสลงสำหรับฆาราวาส(ผู้ชายเท่านั้น)
วันนี้เผลอๆอุโบสถหลังนี้
อาจมีชาวยุโรปร่วมกับคนไทยออกแบบก็ได้
เพราะวิธีใช้เสาเพียง4ต้นรับหลังคา
และกำแพงหนาๆที่อยู่นอกเสา
ช่วยรับน้ำหนักจากเสา4ต้นได้เป็นอย่างดี
งานแบบนี้นั้นไม่พบบ่อยๆในเมืองไทยในสมัย300ปี
หากจะพบได้ในงานสถาปํตย์แบบยุโรป
หรือกรีก
ทั้งหมดนี้ผม สถาปนึกเอาเองครับ

ครับ
เร็วๆนี้จะพาหนุ่มดอยที่เป็นสถาปนิกไปชมหน่อย
หนุ่มดอยดูแล้วแปลกใจในงานนี้
และอีกหลายๆวัดในโคราช ที่มีเอกลักษณ์
ต่างจากวัดทางเหนือบ้านหนุ่มดอยแกตื่นตามากครับ
นี้เร่งให้พาไปดูพรุ่งนี้เช้าเลยครับ
โดย: ภาคภูมิ(dentz metal) IP: 125.26.95.72 วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:34:20 น.
  
สมัยสร้างเมืองโคราช ออกแบบเมืองโดยชาวฝรั่งเศสนะคะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 26 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:53:29 น.
  
ไปดูมาแล้วสวยงามมากๆจ้า
โดย: สะใภ้ยายกอบ IP: 124.122.243.51 วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:28:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tuk-tukatkorat.BlogGang.com

tuk-tuk@korat
Location :
นครราชสีมา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 148 คน [?]

บทความทั้งหมด