"กาตูนร์ ระทม" ถือเป็นหนึ่งในเพจการ์ตูนที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกโซเชียล เพราะถือเป็นต้นกำเนิดของ "การ์ตูนเถื่อน" ใน Facebook อย่างแท้จริง -- ลักษณะของแก๊กแนวนี้ ส่วนมากจะเน้นไปทางเสื่อมๆ 18+ ตลกร้าย เล่นมุกของเสีย โชว์ของลับ โชว์ฉากเลือดสาด โหดร้ายระดับคนไร้บ้านใช้มีดฆ่าหมาที่นอนป่วย กินเพื่อประทังชีวิต หรือแม้กระทั่งกับดักดึงนิ้วในหนังเรื่อง Spiral หรืออะไรก็ว่ากันไป -- อย่างน้อย หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ก็ได้ทำให้เกิดหลายเพจงอกตามๆกันมา ไม่ว่าจะเป็นทั้ง "การ์ตูนนางนวล" "การ์ตูนจัญไร" หรือแม้กระทั่ง "การ์ตูนบั่นทอน" ที่เล่นแก๊กเสื่อมๆแบบ ใส่กางเกงกลับด้านเพื่อที่จะรูดซิปขี้ได้สะดวก อะไรทำนองนี้ -- และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกอย่างแท้จริง ที่ "กาตูนร์ ระทม" จะได้เฉิดฉายในฐานะรวมเล่มกับเค้าเสียที หลังจากเปิดเพจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 อย่างสมบุกสมบัน ภายใต้ความเหี้ยมเกรียมของ "สำนักพิมพ์มะลิ" (ซึ่งปัจจุบันเบนเข็มไปขายไพ่ทาโรต์แทนแล้ว) ที่กล้าเอาของแบบนี้มารวมเล่มขาย -- เห็นได้ชัดว่ากว่าจะได้รวมเล่ม ก็ปาไปตั้ง 5 ปีแน่ะ นานมั้ยล่ะ? 

   ภายในเล่มได้รวบรวมแก๊กที่ดีที่สุดจากเพจ "กาตูนร์ ระทม" โดยเฉพาะช่วงที่ดังสุดขีด -- ลักษณะแก๊กส่วนมากในเล่มจะเป็นแบบ running gag คล้ายๆกับแก๊กโจรมุมตึกในขายหัวเราะ ที่สามารถหยิบมาเล่นได้หลากหลายรูปแบบ เพียงแต่ในเล่มจะถูกจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่เดียวกัน เพื่อให้สามารถอ่านได้ง่ายยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง -- แม้ลายเส้นของระทมจะดูหยาบจนดูเหมือนไม่ตั้งใจวาด แต่นั่นก็อาจจะทำให้ใครหลายคนมองข้ามถึงความสามารถที่แท้จริงของระทมที่ซุกซ่อนอยู่ในแต่ละแก๊กโดยไม่รู้ตัว ทั้งท่วงท่าแอคชั่นตัวละครที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงการเลือกมุมกล้องและรีแอคชั่นที่ทำออกมาได้ลงล็อก ในระดับที่นักเขียนมืออาชีพด้วยกันเองยังต้องสะพรึง (ก่อนที่จะไประเบิดเต็มๆอีกครั้งในซีรีส์โชว์เคสฉากแอคชั่น  "โรงเรียนนี้นี่ใครครอง" ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ได้ถูกรวมไว้ในเล่มนี้ด้วย) 

   พอผ่านพ้นช่วง "แก๊กแม่ทำโทษลูก" ที่น่าเบื่อระลอกใหญ่ในช่วง 20 หน้าแรกไปได้ หลังจากนั้น ความบ้าระห่ำแบบไร้ขีดจำกัดจากสมองซีกขวาของระทม ก็จะปะทุขึ้น สาดกระหน่ำเข้าใส่คนอ่านแบบชุดใหญ่ -- แน่นอนว่าความตลกส่วนมากใน 155 แก๊กนี้ มักจะไม่ได้มาจากตัวแก๊กโดยตรง (ก็แหงล่ะ) แต่จะมาจาก "รีแอคชั่นตัวละคร" และ "ความแปลก" ของมันซะมากกว่า ระทมมีเซนส์ในการใส่บทพูดประหลาดๆลงไป แล้วมันออกมาฮา มีหลายแก๊กที่โดดเด่นแบบแค่เห็นรูปเฉยๆก็ขำแล้ว อย่างแก๊กคนขี่มอเตอร์ไซค์ไปขี้ไป, แก๊กแดร็กคูล่าเลียเมนส์, รวมไปถึงแก๊กไหว้ครูหน้าโรงเรียน กับแก๊กเด็กผู้หญิงฟ้องครูที่ยกขบวนมากันเป็นเซ็ต แต่เข้าเป้าเกือบทุกดอก ครึ่งหลังของเล่มคือดีมากๆ -- จะเว้นก็แต่แก๊กการเมืองในช่วงท้ายเล่ม ที่ค่อนข้างจะติดขัดหน่อย เพราะถ้าไม่ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตั้งแต่แรก ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าระทมเล่นถึงอะไร เพราะแต่ละแก๊กมันค่อนข้างเฉพาะทางมากๆตามยุคสมัย อย่างแก๊กนายกประยุทธ์พูดภาษาอังกฤษ แก๊กเรือดำน้ำ, รายการคืนความสุขฯ, กฎหมายมาตรา 44, หรือแม้กระทั่งแก๊กนายกทักษิณ ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ซึ่งคนรุ่นหลังเองก็อาจจะงงเอาได้ แต่ถ้าเก็ต มันก็จะฮาขึ้นมาในทันทีโดยที่ไม่มีอะไรขวางกั้น (ทั้งหมดนี้ รวมไปถึงแก๊ก pop culture จากหนังและการ์ตูนดังๆในยุค '90 ด้วย)

   แม้จะเต็มไปด้วยแก๊กสุดประหลาดที่น่าจดจำ แต่น่าเสียดาย ที่ครึ่งหนึ่งของเล่มกลับเต็มไปด้วยแก๊กเล่นคำฝืดๆที่อ่านไปย่นคิ้วไป รวมไปถึงแก๊กการ์ตูนเพจธรรมดาที่เล่นกันดาษดื่น จนอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยแทน อย่างแก๊กโลกร้อน ทาสแมว กัญชา ฝักบัวฉีดก้น ล้วนอยู่ในระดับที่คาดเดาได้ง่ายจนน่าเบื่อ ซึ่งเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง แต่ส่วนมากจะวนซ้ำอยู่กับรูปแบบเดิมๆ และไม่ได้ไปไหนไกล ไม่เว้นแม้กระทั่งแก๊กผู้ใหญ่ทำโทษเด็กสุดซ้ำซาก ที่พอรีแอคชั่นมันไปไม่ถึง แก๊กที่อุตส่าห์เรียงลำดับมาแบบสวยๆ กลับจืดชืดลงไปในทันที แม้จะใส่ pop culture ท่าไม้ตายจากการ์ตูนแอคชั่นดังๆลงไปก็ตาม -- ถ้าตัดแก๊กเล่นคำบางส่วนออก เพื่อให้แก๊กอื่นๆที่ดีกว่าได้เฉิดฉาย (แล้วใส่ซีรีส์ "โรงเรียนนี้นี่ใครครอง" ลงไปในท้ายเล่มด้วย) เชื่อว่าน่าจะสร้างอิมแพกต์ที่ดีกว่านี้ได้แน่นอน

   จากหนุ่มเกรียนที่เขียนเรื่องสั้นด่านิตยสาร Gamemag ว่าเป็นนิตยสารมอมเมาเยาวชน ในตอนนี้ กลับกลายเป็นผู้บุกเบิกการ์ตูนแก๊กในโลกโซเชี่ยลที่ดังที่สุดในไทย จนหลายเพจพากันทำตาม แถมยังคงมีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ แม้จะผ่านไป 10 กว่าปีก็ตาม -- แต่น่าเสียดายที่การ์ตูนแก๊กหลังจากนั้นของเขา กลับกลายเป็นแก๊กสูตรสำเร็จเอาใจมหาชนที่มีให้เห็นกันเกลื่อนตามเพจทั่วไป แถมยังมุ่งเน้นไปที่การไทอินตัวละครใหม่ๆ เพื่อสร้างสินค้าขายของเป็นหลัก โดยที่ไม่ได้โฟกัสเรื่องความสนุกอีกต่อไป -- ความคิดสร้างสรรค์สุดห่ามที่เคยเป็นจุดขายของระทมมาโดยตลอด ในตอนนี้กลับกลายเป็นเพจการ์ตูนธรรมดาๆเพจหนึ่ง ที่สนใจแต่เรื่องเงิน จนกลายเป็นเพจเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบไปซะแล้ว -- บางทีเล่มที่เราได้ถืออยู่นี้ มันอาจจะเป็น "เดอะเบสท์ของระทม" อย่างที่สำนักพิมพ์ว่าไว้จริงๆก็ได้...

(สรุป 6/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

(ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ.2560)