(รีวิวการ์ตูนไทย) 5,137 : The Experiment Space (รวมนักเขียน)


ออกรวมเล่มธรรมดาโลกไม่จำ -- 5,137 คือรวมเล่มเรื่องสั้นแนวทดลองที่ทางสำนักพิมพ์ตั้งใจทำออกมาให้เป็น "โลกคู่ขนาน" ของนิตยสาร LET'S (ซึ่งถ้าอ่านคำว่า LET'S แบบกลับหัว ก็จะได้คำว่า 5,137 นั่นเอง) -- และที่แสบยิ่งกว่านั้น มันยังดันบังเอิญไปตรงกับความสูงของ "เทือกเขาอารารัต" ซึ่งเป็นดินแดนใหม่ของมนุษย์และสัตว์ที่รอดชีวิตมาได้ในสมัยก่อน ตามคัมภีร์ไบเบิ้ลของศาสนาคริสต์อีกด้วย (ซึ่งว่าด้วย พระเจ้าทำลายล้างมนุษย์ จนผู้เหลือรอดทั้งคนและสัตว์ ต้องพากันขึ้นเรือโนอาห์ไปตั้งถิ่้นฐานใหม่ จากปฐมกาล (Genesis) บทที่ 6-9 (อ้างอิงจากเว็บ bible.com)

คอนเซ็ปต์ในเล่ม จึงอ้างอิงมาจากสถานการณ์ดังกล่าว นั่นคือ เหล่านักเขียนที่เหลือรอดจากค่าย Let's Comics ที่แทนตัวเองเป็น "เหล่าลูกเรือโนอาห์" ได้เข้ามาเหยียบย่างแผ่นดินที่ไม่คุ้นหน้าค่าตา และมีโอกาสได้ทดลองสร้างสิ่งใหม่ที่อยากลองทำขึ้นมา ราวกับว่าเป็นเกาะของตัวเอง  --  มันจึงออกมาเป็น "การ์ตูนทดลองสุดล้ำ" ที่อัดแน่นไปด้วยลูกเล่นต่างๆมากมาย ทั้งในแง่ของการเล่นสี และเล่นกับพื้นผิวกระดาษ ในขณะที่ "พล็อตเรื่องหลุดโลก" ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของค่าย Let's Comics มาโดยตลอด ก็ยังอยู่ครบตามเดิม ไม่ได้หายไปไหน

 

คอนเทนต์ภายในเล่มจะคล้ายๆกับนิตยสาร LET'S คือจะมีทั้งการ์ตูน (เน้นการ์ตูน) นิยายภาพ นิทาน อัลบั้มภาพ บทความ โมเดลกระดาษ (เล่มนี้สอนพับนกกระดาษให้ออกมาเป็นแบบโมเดลด้วย จ๊าบป่ะล่ะ?) แต่จะมีส่วนที่ต่างกันอยู่คือ จะมีหน้าโฆษณาที่จงใจทำออกมา เพื่อล้อเลียนรายการขายของ (พวก TV Direct) คั่นไว้ตลอดทั้งเล่ม ซึ่งหลายๆตอนก็ทำออกมาได้ฮาแตกสุดๆ จนลืมไปเลยว่า มุก "ชิมคีม-จุ่มนม" ที่ใส่เข้ามาในเล่ม มันฝืดขนาดไหน แต่ที่แน่ๆคือ สะอาดแนะนำสินค้าแต่ละอย่างออกมาได้ได้โคตรหวือหวามาก ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของเจ้าตัวนั่นแหละ

แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้เว้ย คือเหมือนนักเขียนแต่ละคนจะเข้าใจว่า "งานทดลอง" คือ "งานที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน" ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอก -- แต่นี่มันคือ 5,137 นะเว้ย!!! ไม่ใช่แค่รวมเรื่องสั้นธรรมดา มันควรจะล้ำได้มากกว่านี้ใช่มั้ยล่ะ? -- อย่างหลายๆเรื่องในเล่ม ที่พยายามจะแหวกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆมีไอเดียดีๆอยู่ในมือแท้ๆ แต่สุดท้ายก็กลับมาตกม้าตายเพราะ "ความครึ่งกลางๆในการนำเสนอ" นี่แหละ

 

อย่าง "Glitch" ของ เดอะดวง ที่อุตส่าห์เล่าเรื่องออกมาในสไตล์วิดีโอเกม ผ่านตัวละครเกมแอคชั่นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (แบบเกม The Elder Scrolls) ซึ่งฟังดูเจ๋งมากๆเลยนะ แต่ปรากฏว่า เดอะดวงกลับใช้ลูกเล่นของเกมสามมิติออกมาได้ไม่เต็มที่ซะหยั่งงั้น -- ทั้งฉากประตูที่วาดออกมาแย่ซะยิ่งกว่ากราฟิก Playstation ยุคแรกๆ ฉากต่อสู้ที่ขาวโพลนหลายๆช่อง (โหลดฉากไม่ทันเรอะ?) และไม่ได้เป็นมุมมอง 1st person อยู่ตลอดด้วย -- ทำให้มันออกมาดูเป็น "การ์ตูนธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง" มากกว่าที่จะเป็น "การจำลองฉากต่อสู้ในเกม" จริงๆ -- เดอะดวงเพลย์เซฟตัวเอง สร้างข้อจำกัดขึ้นมาในงานมากเกินไป จนทำให้การ์ตูนมันไม่สามารถไปถึงในจุดที่มันควรจะเป็นได้ ถือว่าน่าเสียดายมากๆ

หรือแม้กระทั่ง "DIE DEAD DEATH" จากนักเขียนสายโหด Formalin หนึ่งในทีม Factory Studio ที่เคยออกผลงานสายบู๊สุดเจ๋งมาแล้ว ทั้ง Demonic Corey และ PANDORA -- เปิดตัวมาได้อย่างน่าตื่นเต้นด้วย "การ์ตูนที่ต้องอ่านด้วยแว่นสามมิติ" (ที่แถมมากับเล่มด้วย) ซึ่งฟังเหมือนจะดูดี เมื่อได้ยินครั้งแรก แต่พอได้อ่านจริงๆแล้ว มันไม่ค่อยเวิร์กซะเท่าไหร่ เพราะตอนที่ใส่แว่นสามมิติ (แดง-เขียว) แล้วอ่าน ตาของเรามันจะจับโฟกัสภาพกับตัวอักษรพร้อมกันไม่ค่อยได้ ทำให้ต้องเพ่งไปที่ภาพนานๆจนปวดลูกกะตา จนสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ในที่สุด ทั้งๆที่อ่านไปได้แค่ 3 หน้าเท่านั้น แถมภาพสามมิติบางช่อง ภาพก็ไม่ลอยออกมาอีก ดันไปลอยตรงช่องใหญ่ๆหมดเลย กรรม (แต่ตอนลอยได้จริงนี่ อย่างจ๊าบ มีดพุ่งใส่หน้า)

 

ความแปลกพิลึกพิสดารของ "กรุ่นกลิ่นแค้น" (Puck) ที่ใครได้อ่านก็ต้องหลั่งน้ำตา ถูกเล่าออกมาในรูปแบบของ นิยายภาพ แนว "แค้นนี้ต้องชำระ" ปาดสกรีนโทนสีแดงฉานทั้งเรื่อง เพื่อแสดงถึงความเดือดของตัวเอกที่เสียพ่อไปจากน้ำมือของฝั่งยักษ์ (ไม่สิ!!! แสงเลเซอร์) -- การ์ตูนมีลูกผสมระหว่างหนังแอคชั่นย้อนยุค ไทย จีน และอเมริกัน รวมกัน แต่ออกมาในธีมอวกาศผสมรามเกียรติ์ แบบยำใหญ่ใส่สารพัดมาก แต่กลับทำออกมาลงตัวได้ยังไงก็ไม่รู้ งงมาก ขอยกให้เป็นเป็นการทดลองที่บ้าที่สุดในเล่มนี้ไปเลย

แต่ทว่า การ์ตูนที่มีแนวคิดที่ลึกที่สุดในเล่ม ตกเป็นของ Soloson and the Temple of the Golden Breath โดย บ.ก. ซัน หัวเรือใหญ่ของสำนักพิมพ์ Let's Comic (นี่ชื่อเรื่องหรือคำขวัญจังหวัด?) ซึ่งชื่อเรื่อง ตั้งใจทำออกมาล้อเลียน "นิยายแนวนักล่าสมบัติยุคเก่า" เรื่องหนึ่งที่ชื่อ "King Solomon's Mines" ของ เอช ไรเดอร์ แฮกการ์ด -- ส่วนเนื้อหาในฉบับล้อเลียนนี้ เกี่ยวกับนักล่าสมบัติ 3 คน ได้เข้าไปล่าขุมทรัพย์ใน "วิหารลมหายใจทองคำ" เพราะนึกว่าจะมีทองคำ จนกระทั่งทั้งสามได้รู้ว่า สมบัติที่แท้จริงนั่นก็คือ สัตว์ร้ายเฝ้าถ้ำ ที่ทั้งสามได้ฆ่าจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว ซึ่งจริงๆแล้ว พวกมันคือสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์ุ จากการล่าของมนุษย์ พ่อมดในสมัยนั้นก็เลยจัดการกักขังพวกมันไว้ในถ้ำ เพื่อไม่ให้ต้องตายกันหมด (ซึ่งลมหายใจทองคำที่ว่า ก็คือ สัตว์ที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้นี่เอง)

อา..แต่ก็น่าคิดเหมือนกันนะว่า ในเมื่อการ์ตูนชุดนี้ได้เลือกใช้ "ทอง" แทนสิ่งที่ล้ำค่าแล้ว -- การที่คนเขียนตั้งใจให้แต่ละหน้าเป็น "สีทอง" จะสื่อว่ากระดาษเองก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าด้วยรึเปล่านะ?

 

จากผลของการทดลองในชุดนี้ -- รวมเล่ม 5,137 มีทั้งการทดลองที่สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง และบางชุดก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจ้องผนังเปล่าๆ แบบจะมีไปทำไม อย่างเช่นนิทานเด็กเรื่อง "คนปลูกมะเล็ดส์" ที่พยายามเปรียบเทียบ การฝ่าอุปสรรคของทีมงาน Let's Comics จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ผ่านเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ต้องข้ามน้ำข้ามภูเขา เพื่อที่จะเอาเมล็ดไปปลูก จนได้ต้นที่สวยงามในท้ายที่สุด -- ซึ่งก็ถือเป็นการ shout-out สำนักพิมพ์ไปในตัวด้วย แต่มีเพื่ออะไร มีไปทำไม เราอ่านเรื่องแบบนี้มาเป็นร้อยรอบแล้วไม่ใช่รึไง? (มี "หน้าปัจฉิมลิขิต" ในรวมเล่มนักเขียนเล่มไหนบ้างวะ ที่ไม่ขอบคุณคนนู้นคนนี้) คือน่าเสียดายมาก มันน่าจะเอามาเล่าเรื่องอย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้มากกว่าอ้ะ

มีคอลัมน์รวมภาพถ่ายที่โคตรจะแสนธรรมดา อย่างเซ็ตภาพถ่ายแบบวินเทจ กับ เซ็ตภาพถ่ายหลอนประสาท ที่เราพบเห็นในนิตยสารแฟชั่นมาเป็นล้านรอบแล้ว ซึ่งก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นงานทดลองตรงไหน -- มีแต่เซ็ตภาพอันแรกสุดตัวเดียวเท่านั้น (The Reflection Identity Portrait/ รัฐพล ศิริจิรสุข) ที่ดูเหมือนพยายามจะแหวกแนวออกมาจริงๆ เขาเลือกใช้ผิวกระดาษที่มีลักษณะเหมือนรูปถ่ายจากฟิล์มกล้องโพลารอยด์ ซึ่งรู้สึกว่ามันแปลกตาเป็นพิเศษ แถมถ่ายภาพได้สีสดมากอีกด้วย น่ามองนานมากๆ พอได้รู้ว่าเป็นช่างถ่ายภาพจากนิตยสารแพรว ก็ยิ่งตกใจกว่าเดิมอีก (มีงานของคุณพิทักษ์ โมราถพ อีกงานหนึ่งที่ทำออกมาได้น่าสนใจ ซึ่งเหมาะจะเป็น Honorable Mention มีชื่อว่า "ชั่วโมงนั้น" ซึ่งเป็นการนำเซ็ตถ่ายจากเหตุการณ์น้ำท่วม เอามาวาดใหม่เป็นลายเส้นของตัวเอง อาจจะไม่ได้ล้ำอะไรมาก แต่อย่างน้อยมันก็แตกต่างจากงานคนอื่นๆในนี้ ที่เซ็ตรูปถ่ายส่วนมากจะเป็นคนจริงๆกันหมด)

 

ส่วนคอลัมน์ "เฉพาะกิจ พินิจนคร" ของนิดา ไมโล ที่เป็นหนึ่งในทีมงานของ รายการสารคดีท่องเที่ยวไทย  "พินิจนคร" ในช่อง Thai PBS ก็เอาแค่ "เบื้องหลังส่วนหนึ่งจากการทำรายการ" มาเล่าให้ฟังเฉยๆ แถมแง้มด้วยว่าจะมีตอนต่อด้วย -- จะบอกว่าถ้าคิดจะทำแบบนี้ ออกไปทำ "รวมเล่มของตัวเอง" ไปเลยดีกว่ามั้ย จะได้เล่าเต็มๆไปเลย ลงในนี้มันเปลืองหน้ากระดาษ ไม่ได้ทดลองอะไรด้วยซ้ำ

เห็นได้ชัดว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะเป็นช่วงที่เรามีโอกาสได้เห็นการ์ตูนไทยหลายๆเรื่อง พยายามจะที่ทำการ์ตูนของตัวเองให้มันดูแปลก ดูหวือหวามากขึ้น ในแง่ของเทคนิคภาพ เพื่อคุมโทนอารมณ์ในแต่ละเรื่องด้วยวิธีต่างๆ ทั้ง การพยายามเล่นกับลายเส้นและฟ้อนต์ (Growthic/ ปัทมพร ชัยศุภกิจสินธ์) การเล่นกับสี (Deep in the Shadow/ กอกาญจน์ ชำนาญช่าง) การเปลี่ยนหนังสือการ์ตูนให้กลายเป็นเกมทั้งเล่ม (ผจญภัยตามใจชอบ/ อารีเฟน ฮะซานี) หรือแม้กระทั่งการอ่านการ์ตูนพร้อมฟังเพลงไปด้วยใน My Inspiration 3 ของ วีระชัย ดวงพลา ซึ่งในเล่ม 5137 ก็มีเหมือนกัน อยู่ในเรื่อง Mute ของคุณ Narm ซึ่งลิงค์มันเสียครับ เพราะดันไปใช้เว็บ exteen ซึ่งมันปิดตัวไปเป็นชาติแล้ว เวรกรรม....

 

สรุปแล้ว รวมเล่ม 5,137 อาจจะไม่ค่อยได้สร้าง "ความแปลกใหม่" ให้กับวงการหนังสือมากนัก เพราะความ half-baked ของเรื่องสั้นบางเรื่อง แต้มบวกของเล่มนี้จึงตกไปอยู่ที่ "ความหลากหลาย" ซะมากกว่า -- ซึ่งจะว่าไปแล้ว มันก็เหมือนนั่งอ่านนิตยสาร Let's Comics แบบปกตินั่นแหละ เพียงแต่มีการใส่ลูกเล่นใหม่ๆเข้าไปเท่านั้นเอง ซึ่งเอาจริงๆก็ถือว่าคุ้มนะ เปิดมามีการ์ตูน นิยาย บทความ นู่นนี่นั่นเต็มไปหมด จัดเต็ม 298 หน้า ถ้าตัดเรื่องคอนเซ็ปต์ที่ทำได้บ้างไม่ได้บ้างออกไป ก็ถือว่าอ่านเพลินได้อยู่ แม้จะมีงานด้อยอยู่เพียงไม่กี่เรื่องก็ตาม แต่ใครที่อ่านแล้ว สนใจอยากจะเข้าร่วมชม "ผลการทดลอง" ก็เชิญซื้ออ่านได้ตามสะดวกเลย 

เรื่องที่ชอบมากที่สุด Soloson and the Temple of the Golden Breath (ธัญลักษณ์ เตชศรีสุธี (Sonoson))
เรื่องที่ชอบน้อยที่สุด คนปลูกมะเล็ดส์ (นำบุญ นามเป็นบุญ (Nambun)
)

(สรุป (5x1x3)-7/10)

ข้อมูลเพิ่มเติม หน้าปกวาดโดย คุณพิทักษ์ โมราถบ (เจ้าของผลงาน ไข่แดง) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555



Create Date : 12 สิงหาคม 2563
Last Update : 11 กรกฎาคม 2565 9:41:14 น.
Counter : 1434 Pageviews.

0 comments
"บอดี้การ์ด (ลับ) ของคุณหนูอาคาบาเนะ" ฉบับภาพยนตร์ ปล่อยตัวอย่างแรก พร้อมรายชื่อนักแสดง iamZEON
(18 เม.ย. 2567 20:55:15 น.)
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจ toor36
(8 เม.ย. 2567 20:28:11 น.)
ยูมิกับเซลล์สมองสุดอลเวง เปิดตัวอันดับ 8 South Korea Box Office iamZEON
(8 เม.ย. 2567 22:04:38 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Thaicomicreview.BlogGang.com

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด