(รีวิวการ์ตูนไทยเฉพาะกิจ) Growthic (ปัทมพร ชัยศุภกิจสินธ์ หรือ Yulian (Peko))

 

มาต่อกันกับ "การ์ตูนนอกสำนักพิมพ์" กันอีกซักนิดดีกว่า ดองเค็มจนจะเน่าอยู่แล้วเนี่ย 5555+ อุตส่าห์ซื้อมาอ่านตั้งนาน แล้วไม่ได้เขียนถึงซักที มันก็ยังไงๆอยู่นะ (ไม่ใช่เพราะขี้เกียจหรอกเรอะ!!?!)

Growthic เป็นรวมเล่มเรื่องสั้น 3 เรื่อง ที่เกี่ยวกับ "การเติบโตและการเปลี่ยนแปลง" เหมือนกับชื่อเรื่อง (เพราะ growth แปลว่า การเติบโต) ซึ่งก็แน่นอนแหละว่าประเด็นมันก็ออกจะ "กว้าง" ไปซักหน่อย สำหรับการ์ตูนทั่วไป (อย่าง "พัฒนาการตัวละคร" เงี้ย) ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ปกติมาก แต่...เพราะอะไรล่ะ ที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ ถึงมีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้อ่านมัน

เพราะถ้าลองเอาชื่อจริงด้านบนไปเสิร์ชใน google ดู ก็จะรู้ว่า เจ้าตัวนั้น...เคยได้รับรางวัล "เซเว่นบุ๊คอวอร์ดครั้งที่ 14 สาขานิยายภาพ (การ์ตูน) สำหรับนักเขียนรุ่นเยาว์" มาก่อน และเป็นรางวัลรองชนะเลิศซะด้วย (ว้าว!!!) ซึ่งก็ใช่ว่าของแบบนี้มันจะได้กันง่ายๆ เพราะจะบอกว่า การประกวดในปีนั้น มันไม่มีเรื่องไหน ที่ได้ "รางวัลชนะเลิศ" เลยนะ!!! คัดเลือกกันเข้มงวดแค่ไหนคิดดู!!!! ซึ่งจุดนี้แหละ ที่ทำให้เราสามารถการันตีได้เลยว่า มันจะต้องมีอะไรเจ๋งๆโผล่ออกมาแน่ๆ
 

Growthic เปิดเล่มอย่างแสนสดใสด้วย "Nature's Soul" การ์ตูนรักสบายๆ เกี่ยวกับพระเอกที่ติดโซเชี่ยล กับเพื่อนสาวขี้จุกจิกที่พยายามจะดึงพระเอกให้กลับมาสนใจสิ่งรอบข้างเสียบ้าง ยังเต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารักๆของทั้งคู่ ก่อนที่บรรยากาศจะค่อยๆมัวขึ้นเรื่อยๆ ด้วย "ผ้าขาว" ซึ่งเกี่ยวกับสถานรับเลี้ยงเด็กบังหน้าแห่งหนึ่ง ที่ฝึกการต่อสู้ให้กับเหล่าเด็กๆที่ไม่รู้ประสีประสา ให้กลายเป็นกองทัพของรัฐบาล ด้วยความคิดที่ว่า "เด็กก็คือผ้าขาว ที่จะสามารถละเลงสีอะไรลงไปก็ได้" ปิดท้ายด้วย Shark Tale ที่เริ่มเล่นประเด็นแรงเกี่ยวกับการตัดครีบฉลามไปทำอาหาร เพราะความเชื่อที่ว่ามีสรรพคุณช่วยเพิ่มอายุขัย (ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ เพราะฉลามก็มีอายุขัยของตัวเองไม่ต่างกัน) โดยเด็กสาวคนหนึ่ง ได้สัญญากับเทพฉลามรูปงามเอาไว้ว่า จะพยายามหาทางช่วยชีวิตเหล่าฉลามจากเงื้อมมือมนุษย์ให้จงได้ (และวิธีแก้ก็คือ ร่วมงานกับศูนย์วิจัยทางทะเล และสร้าง "เขตปลอดการล่า" ขึ้นมาบนชายหาดนั้น)

สรุปได้ว่า คอนเซ็ปต์หลักของเล่ม ถ้าลองเอามาขยำรวมกัน ก็น่าจะเกี่ยวกับ "การรักษาความเป็นตัวเอง" จากอิทธิพลต่างๆ ทั้งผู้คนในชีวิตจริงและโลกโซเชี่ยลที่สามารถชี้นำเราได้ เพราะคนเราทุกคนก็ล้วนไม่ต่างจาก "ผ้าขาว" ที่พร้อมจะถูกอิทธิพลเหล่านั้นจับเราย้อมสีได้ทุกเมื่อ จนทำให้เราเริ่มค่อยๆสูญเสียความเป็นตัวเองไป ทั้งๆที่ตัวเราเองต่างหาก ที่ควรจะเป็นคนตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิต และย้อมสีผ้าผืนนั้นด้วยตัวเองตั้งแต่แรก

ด้วยความที่เจ้าตัวได้ปักหลักเอาไว้ในเพจตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือ "First Debut" (หมายถึง รวมเล่มครั้งแรกอย่างเป็นทางการ) ดังนั้นทั้งงานภาพและเรื่องในรอบนี้ ถึงได้ดูหนักแน่นและจริงจังมากขึ้นกว่างานชิ้นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะมันเป็นการเอาพล็อตเก่าที่ตุนเอาไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้วมาทำ พอกักไว้นานๆเข้า มันก็เลยเกิดการหมักบ่ม จนค่อยๆแตกแนวคิดออกไปกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยเหตุนี้นี่เอง ทำให้ Growthic นั้น จึงเป็นรวมเล่มที่มีเนื้อหาและลายเส้นที่ดูอัดแน่นในท้ายที่สุด เมื่อได้ลงมือเขียนขึ้น

"ความทะเยอทะยาน" ถือเป็นกำลังหลักสำคัญของเล่ม ที่ทำให้การ์ตูนแต่และเรื่องในนี้ เต็มไปด้วยรายละเอียดที่จัดเต็ม เพราะถ้าหากลองสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่า ในส่วนของเทคนิคภาพทั้งสามเรื่องนั้น ล้วนมีสไตล์ภาพที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของ "รูปแบบเส้นและฟ้อนต์" ซึ่งทั้งหมดนั้น...ล้วนถูกใช้เพื่อการคุมโทนของเรื่องที่จะค่อยๆเพิ่มจริงจังเข้ามาเรื่อยๆ นับเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน (ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่อง ผ้าขาว เส้นจะดิบและฟ้อนต์จะหนา เพื่อขับเน้นเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับความรุนแรง และ Shark Tale ก็จะเป็นเส้นดินสอสวยๆ สานเส้นเยอะๆ และฟ้อนต์จะบาง ให้ฟีลอบอุ่น เหมือนนั่งมองผืนท้องทะเลในยามอาทิตย์อัสดง) และที่สำคัญคือ ทั้งเล่มแทบจะไม่ใช้สกรีนโทนเลยด้วยซ้ำ ใช้แต่เส้นดินสอกับปากกาล้วนๆ (ยะ...อย่างโหด!!!!)

มีส่วนที่เรารู้สึกชอบเป็นพิเศษอย่าง เทคนิคระบายสีเทาแบบดิบๆในเรื่อง Nature's Soul โดยเฉพาะส่วนที่เป็นรอยจ้ำเข้มๆระหว่างปาดเส้น มันกลับสร้างน้ำหนักให้กับพื้นผิว ชนิดที่ว่าพอตั้งใจปาด 4-5 หน้าแรกของเรื่อง ปรากฎว่าภาพมันออกมาดูสวยมากๆ ขนาดมองไกลๆก็ยังสวย (แต่หลังจากนั้นก็มีดรอปลงมาบ้าง) แต่ทว่า งานภาพที่ดีที่สุดในเล่ม กลับอยู่ในเรื่อง Shark Tale เพราะรายละเอียดภาพดูแน่นสุด และดูตั้งใจวาดมากกว่าเรื่องอื่นๆ ขอยกให้เป็นเทคนิคภาพที่ดีที่สุดในเล่มไปเลยก็ได้เอ้า!!!

Growthic อาจจะเป็นรวมเล่มเรื่องสั้นที่ดูธรรมดาและสามารถคาดเดาตอนจบได้ง่ายไปซักหน่อย อาจเป็นเพราะมันเป็นการหยิบเอา "เรื่องสั้นเหลือใช้" มาปั้นรวมกัน คอนเซ็ปต์รวมเล่มก็เลยดูหลวมๆแปลกๆ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ดูขาดโฟกัสไปซะทีเดียว เพราะเนื้อหาในเรื่องสั้นแต่ละเรื่อง มันสามารถลงลึกประเด็นที่สำคัญหลายๆประเด็น ออกมาได้อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว

อย่าง Nature's Soul ที่เปรียบเทียบผลเสียของการอยู่ในโลกโซเชียล และชี้ให้เห็นว่าโลกแห่งความเป็นจริง มันสวยงามขนาดไหน แม้กระทั่งเพื่อนสาวขี้จุกจิกในชีวิตจริงที่ไม่ได้สวยอะไรมาก แต่กลับเป็นคนที่คอยช่วยเหลือพระเอกตลอดเวลา ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง และ Shark Tale ก็เล่นประเด็นแรง ในเรื่องของมนุษย์ที่มักจะมองว่าฉลามเป็นสัตว์ดุร้ายและมีกลิ่นเหม็นสาบ ทั้งๆที่จริงมนุษย์ต่างหากที่มีเหม็นสาบความโลภ เพราะ ตัดหูฉลามที่ยังมีชีวิตและปล่อยลงทะเล เพื่อนำไปประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งมีชีวิตที่ต้องบาดเจ็บและจมลงอยู่ใต้ทะเล ทั้งๆที่พวกมันอยู่กันอย่างสงบในเขตแดนของมันอยู่แล้วแท้ๆ และนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมายให้เราได้กลับไปค้นหา ในการอ่านรอบต่อไป ซึ่งทำให้เรื่องสั้นแต่ละเรื่องในนี้ มันดูมีมีติมากขึ้น

แต่ถ้าจะให้พูดถึงข้อเสียของเล่มจริงๆ ก็น่าจะเป็นในเรื่องของการวาดตัวละครในระยะไกลที่ออกมาดูเผาเกินไป การกะ perspective ที่ยังไม่ค่อยแม่นยำและไร้ทิศทาง แล้วก็ "การออกแบบหน้าปก" ซึ่งสำคัญสุดเลยอันนี้!!! คือ...เข้าใจอยู่ว่ากะจะเล่นคำระหว่าง คำว่า growth กับคำว่า gold (เพราะหน้าปกเป็นสีทอง 5555+) แต่อันนี้...มันออกมาดูเหมือน "หนังสือสวดมนต์" ไปหน่อยอ้ะ 55555555+

แล้วก็บทบรรยาย 2 หน้าสุดท้ายในเรื่อง "ผ้าขาว" มันดูไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ ตัดออกไปเลยก็ได้ เพราะหน้าบทส่งท้าย มันสรุปเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้แล้ว

สรุปแล้ว แม้ Growthic จะเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วย "ความทะเยอทะยาน" ที่สูงพอสมควร แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังมีปัญหาด้านงานภาพและโครงสร้างรวมเล่มที่ยังไม่แน่นพอ โชคดีที่ส่วนมากเรื่องสั้นเหล่านั้น กลับถูกเทคนิคภาพที่มีชั้นเชิงและเนื้อหาที่อัดแน่นช่วยชีวิตเอาไว้ -- สำหรับเราแล้ว ถึงแม้ Growthic อาจจะยังไม่ใช่งานที่ดูสมบูรณ์มากนัก แต่อย่างมากที่สุด มันถือเป็นงานที่ทำออกมาได้ดีที่สุด ตั้งแต่ที่พีโกะเคยทำมา เข้าใจแล้วว่าทำไมเรื่องสั้น Green Project ถึงได้รางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ด (ซึ่งเราอ่านมาแล้ว) มันเป็นเล่มที่สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า มันคือ First Debut อย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ ยังรอติดตามผลงานชิ้นต่อไปอยู่นะ

(ภายในเล่มจะแถมแฟนอาร์ตพิเศษจากนักวาดหลายๆคน ซึ่งเจ้าตัวได้เอามาลงในเพจหมดแล้ว (แล้วก็ตอนซื้อ ได้ที่คั่นหนังสือมาเพียบเลยด้วย ฮะฮ้า!!!))

(สรุป 7/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/




Create Date : 19 ตุลาคม 2562
Last Update : 19 ธันวาคม 2566 13:45:29 น.
Counter : 1515 Pageviews.

0 comments
"ผมชอบสาวอกบึ้มแต่ดันทะลึ่งเกิดใหม่ในโลก BL ซะงั้น" จบแล้ว iamZEON
(11 เม.ย. 2567 19:31:51 น.)
ยูมิกับเซลล์สมองสุดอลเวง เปิดตัวอันดับ 8 South Korea Box Office iamZEON
(8 เม.ย. 2567 22:04:38 น.)
กรี๊สสสส เจินได้เข้ากลุ่มเต้นเกอเจี่ย Keep Running แล้ว eternalyrs
(3 เม.ย. 2567 15:27:29 น.)
แจ้งข่าวการ์ตูน Luckpim : 3 เมษายน 2567 iamZEON
(2 เม.ย. 2567 22:37:59 น.)

Thaicomicreview.BlogGang.com

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด