Girl with a Pearl Earring , ชู้ทางใจในงานศิลป์


หนังสัญชาติUSA.ปี2003: ประเภทดราม่าย้อนยุคสร้างจากนิยายและนิยายสร้างมาจากภาพเขียนเลื่องชื่อ : ความสนุกเข้มข้น 6/10, ความงามความประณีต 8/10 ,ความสามารถในการบันดาลนางเอกให้เหมือนในรูป 9.5/10

ความย่อและความคิด…..นิยายได้รับการแปลเป็นไทยแล้วโดยฝีมือดาราสาวคุณอุ้ม สิริยากร ผมซื้อมาเก็บไว้และเคยอ่านไป2-3หน้าก็งีบหลับไปเสียก่อน(ไม่ได้ว่าแปลไม่ดีเดี๋ยวแฟนๆผู้แปลจะว่าเอา55 แต่ช่วงนั้นยังไม่พร้อมจะอ่านหนังสืออารมณ์นี้) วันนี้ผมจึงถือโอกาสหยิบฉบับภาพยนตร์มาดูก่อนแล้วพบว่า

…..Girl with a Pearl Earringในเรื่องคือตัวละครชื่อ Griet เธอเข้ามาทำงานเป็นหญิงรับใช้ของJohannes Vermeer ครอบครัวของ Vermeerอยู่ในภาวะตกต่ำมีแต่ความเย็นชาและห่างเหิน เขาผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวหมกมุ่นอยู่กับตัวเองและงานของเขา ภรรยาและลูกที่ไม่เข้าใจศิลปะก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงตัวเขาได้จึงทำให้โลกของเขาเป็นโลกที่ตัดขาดจากคนอื่นๆ จนการเข้ามาของ Grietหญิงสาวรูปงามผู้ที่สนใจในศิลปะทำให้เขาได้ออกมาจากโลกตัวเองและดึงเธอเข้าไปในโลกของเขา เธอกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในงานชิ้นใหม่ เป็นผู้สร้างความมีชีวิตอีกครั้งให้กับVermeer แต่จะเป็นเช่นไรในเมื่อชีวิตของเขาคืองานศิลปะ ความสนใจที่เขามีให้กับเธอเป็นความรักหรือเป็นเพียงความหลงใหลในงานศิลปะอีกชิ้นที่มาจุดแรงบันดาลใจกันแน่ ดังที่แม่ยายของเขาบอกไว้ในตอนต้นว่า ทุกคนในครอบครัวล้วนเป็นเหมือนแมลงวันที่กำลังติดอยู่ในบ่วงใยของเขาและ Griet ก็เช่นกัน

....เป็นอีกเรื่องที่ตัวละครหญิงในเรื่องทุกตัวตกอยู่ในภาวะผู้ถูกกระทำทั้งนั้น ในขณะที่ตัวละครชายก็เป็นผู้ที่กระทำและเอาเปรียบไม่เว้นแม้แต่ Vermeer ที่อยู่กับตัวเองและงานศิลปะมากจนไม่คิดจะแบ่งเวลาให้กับคนอื่นๆ ในฐานะผู้นำครอบครัวก็ดูเหมือนไม่พยายามจะทำอะไรให้ดีขึ้นแม้ว่าภรรยาของเขาจะถูกสร้างบทให้เป็นตัวร้ายแต่คนดูก็เข้าใจได้ไม่ยากเช่นกันว่ากับบทบาทภรรยาของศิลปินที่อยู่ในโลกของตัวเองมากขนาดนี้ต้องทนทุกข์เช่นไร (ดูแล้วชวนให้นึกถึงหนังในปีนี้ที่เล่าเรื่องศิลปินที่มีความสามารถในงานอยู่ในระดับเทพแต่ความสามารถในการอยู่ร่วมกับคนอื่นอยู่ในระดับต้องเรียนรู้อีกมากอย่างSir James Matthew Barrie ในFinding Neverland)

ความรู้สึก....เป็นหนังดราม่าที่น่าเบื่อ เนิบเนือย ไม่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูได้ แต่ในข้อดีของมันคือการบันดาลให้ Scarlett Johansson กลายเป็นGirl with a Pearl Earring ได้อย่างน่าอัศจรรย์ บวกกับฝีมือการแสดงของดารานำคนอื่นอีกทั้งColin Firth ที่เล่นกันได้ถึงบทบาท การจับคู่ทำงานร่วมกันในภาพยนตร์สร้างความวาบหวามและอีโรติกได้โดยทั้งคู่ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวแต่อย่างไรแต่ก็สามารถทำให้คนดูเชื่อได้ถึงความรู้สึกพิศวาสในใจของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี และสำคัญอย่างยิ่งคือความประณีตในรายละเอียดทั้งฉาก ทั้งเครื่องแต่งกาย การกำกับภาพและกำกับศิลป์ทำให้ภาพยนตร์ไปอยู่ในช่วงเวลาค.ศ.ที่17ได้งดงามดั่งภาพวาดเลยทีเดียว

สรุป...ดูหนังจบเป็นอีกเรื่องที่จะไปรื้อหนังสือกลับมาอ่านต่อ ความงามและเสน่ห์อย่างร้ายกาจของScarlett Johansson (คำนี้มอบให้กับเธอโดยเฉพาะหลังจากได้ดูเรื่อง In good Company) และการสร้างสมมติฐานที่มาของภาพอันลือชื่อให้กลายเป็นเรื่องราวขึ้นมา ก็ทำให้หนังเรื่องนี้สำหรับผมแล้วไม่น่าเบื่อจนเกินไป

ที่มา....ตอนนี้ไม่รู้ว่าหาได้จากไหนแต่ตอนโน้นได้มาจากร้านพี่คนนั้น ไม่มีซับไทย

ปลีกย่อย....ภาพGirl with a Pearl Earring เป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงภายใต้จิตรกรชาวดัทช์นามJohannes Vermeerวาดขึ้นในยุคคริสตวรรษที่17 ผู้หญิงในภาพเป็นปริศนาเฉกเช่นกับโมนาลิซ่าที่หลายคนสงสัยใครเป็นแบบกับภาพนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายของTracy Chevalierที่แต่งขึ้นเพื่อตั้งสมมติฐานเล่าที่มาของภาพ

Girl with a Pearl Earring ต้นฉบับ

Scarlett Johansson ผู้กลายมาเป็น Girl with a Pearl Earring




Create Date : 14 เมษายน 2548
Last Update : 18 ธันวาคม 2549 17:42:05 น.
Counter : 10890 Pageviews.

11 comments
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
  
ใจตรงกันเลย เมื่อวันก่อนยังเขียนเรื่องนี้อยู่เลย แวะไปดูได้ที่นี่ค่ะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=strella&date=13-04-2005&group=5&blog=1

กำลังเขียนภาคสองวิเคราะห์ว่าผู้หญิงในภาพคือใครกันแน่

ส่วนตัวแล้วชอบหนังเรื่องนี้มากๆค่ะ
โดย: estrella วันที่: 14 เมษายน 2548 เวลา:23:50:22 น.
  
เคยเห็น DVD เรื่องนี้ผ่านตาอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีโอกาสดู เสียดายจังครับ
ผมไปดู Hide and Seek มาแล้วนะครับ เห็นเขียนในหน้าแรกว่า ตอนจบผิดหวัง
ความจริงมันหักมุมแบบไม่ค่อยนักน่ะครับ แล้วก็โปรโมตเหมือนว่าผีจะเล่นซ่อนแอบซะงั้น เหอะๆ
ลองดูด้วยตัวเองดีกว่าครับ แล้วจะแวะมาคุยครับ
โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 15 เมษายน 2548 เวลา:1:16:38 น.
  
เห็นด้วยครับว่าหนังสวยมากๆ ชอบดนตรีประกอบมากด้วย เห็นด้วยครับที่ว่าน่าเบื่อ แต่พอดีชอบ Colin Firth อยู่แล้ว ไปดูเรื่องนี้เลยถือว่าคุ้ม :-)
โดย: Jojo IP: 218.6.247.244 วันที่: 26 เมษายน 2548 เวลา:21:59:27 น.
  
ชอบเรื่องนี้ค่ะ ภาพสวยมากๆ ดูแล้วไม่เบื่อเท่าไหร่นะคะ แต่ว่าค่อนข้างผิดหวังกับตอนจบเพราะชอบตอนจบในหนังสือมากกว่า
โดย: LittleBee (โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2548 เวลา:23:01:25 น.
  
เคยได้แผ่นมาด้วย
ง่ะๆๆๆ
เห็นว่างั้นๆ ไม่หนุกแน่ เพื่อนยืม (มันทำหายหรือยังก็ไม่รู้)

รู้งี้มาอ่านก่อนก็ดี
โดย: กามล IP: 203.209.98.113 วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:3:55:46 น.
  
อ่านหนังสือก่อนไปดูหนังเรื่องนี้ค่ะ ดูแล้วชอบมากก ภาพสวย พระเอกทำหน้าเย็นชา+ไร้ความรู้สึกได้เนียนดี
โดย: gifuko (heartfelt melody ) วันที่: 16 ตุลาคม 2548 เวลา:13:39:56 น.
  
อิๆ พอดีเห็นคุณ จขบ. บอกไว้ว่าเคยเขียนถึงหนังเรื่องนี้มาแว้ว ก็เลยเข้ามาหาอ่านเนี่ยแหละครับ ... พออ่านจบแล้วก็ทำให้เข้าใจตัวหนังมากขึ้นอีกพอสมควร ... แต่ความรู้สึกผมก็ยังคล้ายๆ เดิมหลังจากที่ดูจบคือ ผมว่าตัวหนังมันสวยเหมือนภาพวาดก็จริง (รวมทั้งนางเอกล่วย อิๆ) ... แต่ขณะเดียวกันมันก็ค่อนข้างจะตีความยาก เฉกเช่นเดียวกับการดูภาพจิตรกรรมของศิลปินเลื่องชื่ออีกด้วย ... เพราะถ้าดูเล่นแบบเพลินๆ ก็คือ นี่คือหนังที่ว่าด้วยเบื้องหลังภาพวาดชื่อดังกล่าว ที่มาจากจินตนาการของคนเขียนหนังสือเล่มนี้อีกที ... แต่หนังก็ทิ้งนัยแอบแฝงอีกหลายอย่างให้คนดูกลับเอาไปขบคิดเล่นๆ อีกด้วย ... หลายอย่างที่ผมยังเง็งๆ เช่น ...
- ตกลงจิตรกรแก่ ต้องการครอบครองนางเอกจริงๆ หรือต้องการเพียงแค่ภาพวาดของนางเอก
- นางเอกหลงรักเวอร์เมีย แต่กลับเลือกโลกแห่งความเป็นจริง คือปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเจ้าหนุ่มขายเนื้อ (คิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ย์) ใช่มั้ยครับ?
- แล้วเวอร์เมีย ยังรักเมียของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็เซ็งที่เธอเข้าไม่ถึงโลกศิลปะของเขาใช่หรือเปล่า?
- ทำไมแม่ยายเวอร์เมีย ถึงทำทีเหมือนสนับสนุนนางเอก รวมทั้งอนุญาตให้ใช้ตุ้มหูของลูกสาวด้วย? หรือเธอเข้าใจว่าสภาพครอบครัวกำลังลำบาก จึงต้องหาเงินด้วยการขายภาพนี้ให้จิตรกรแก่ ถึงต้องยอม
- เด็กคนนั้น (ลูกสาวเวอร์เมีย?) ทำไมถึงจงใจที่จะจงเกลียดจงชังนางเอกซะขนาดนั้น
- ตอนท้ายที่แม่บ้านเอาตุ้มหูมาให้นางเอก เธอเอามาให้ทำไม แล้วเธอขโมยมาหรือใครใช้ให้เธอเอาให้นางเอก
... คงประมาณนี้มั้งครับ ที่ผมยังงงๆ อยู่อ่า
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 20 ธันวาคม 2549 เวลา:14:35:28 น.
  
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านแม่นางต่างหูมุก
ผมคิดเหมือนกับพี่ว่าเป็นหนังดราม่าที่น่าเบื่อและเนิบเอามากๆ..
และผมว่าสการ์เล็ตตอนที่ใส่ผ้าคลุมผมนี่ไม่สวยเอาซะเลย - -* (พออภัยให้ได้หลังจากกลายมาเป็นแบบในภาพเลื่องชื่อนี้)

แต่ก็ยังงงเรื่องของต่างหูมุกอยู่เหมือนเดิม...
โดย: nanoguy IP: 203.113.35.9 วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:23:01:16 น.
  
ผมไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะหาดูง่ายๆ จากที่ไหนน่ะนะ ไม่ได้เป็นคนชอบแสวงหาซะด้วย
แต่หนังสือเล่มนี้อ่านแล้ว..
มีคนเขาเปรียบว่ากันว่าเป็นอัญมณีแห่งวรรณกรรมเลยทีเดียว
เหมือนอย่างที่เจ้าเรื่องบอกว่า อ่านไปสองสามหน้าแรกก็วางเลย(แต่ไม่ได้หลับ) คือเนื้อหามันไม่ได้หวือหวาเรียกร้องความสนใจมากมาย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เอากลับมาอ่านแล้วพบว่า เนื้อหาดีมากเลยแหละ
คือตัวละครเค้าไม่ได้พูดอะไรกันมาก คนเขียนก็ไม่ได้ใส่ความคิดของตัวละครให้คนอ่านรู้ซึ้งซะทีเดียว มีเพียงแค่การกระทำและการตัดสินใจ
มีวลีอยู่ก้อนนึงว่าว่า Show, don't tell ในภาษาหนังอาจจะหมายถึงให้เขากระทำดีกว่าให้เขาพูด ซึ่งจะได้อารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากกว่า
จริงๆ ผมว่าหนัง(สือ)เรื่องนี้เขาข่ายนี้เลยนะ
โดย: 9ho IP: 124.120.5.248 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:22:04:59 น.
  
เพิ่งได้ซื้อหนังสือมาอ่านไม่นานมานี้ แรกๆ อ่านแล้วจะหลับ ก็โทษนู่นนี่ พาลคิดไปว่าเป็นเพราะสำนวนแปลของคุณอุ้มแปลกๆ รึเปล่า พยายามจับผิดก็ว่าไม่เห็นมีอะไร อ่านไปได้สักพักติดหนึบเลยครับ เป็นคนอ่านหนังสือน้อย ไม่เคยได้อ่านแนวนี้ เลยประทับใจเล่มนี้เป็นพิเศษ สักวันจะซื้อภาษาอังกฤษมาอ่านดู

ดูหนังแล้วค่อนข้างผิดหวังอยู่มาก Scarlett หน้าตาบุคลิกเหมาะจะเป็น Greit ดี แต่พอแสดงแล้วมันดูไม่ใช่ มันน่าจะนิ่งกว่านี้ จริงๆ แล้วมันมีช่วงที่จะนำมาเล่าเรื่องได้น่าดึงดูด แต่หนังแต่งบทมาได้น่าเบื่อจัง ดูแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนที่อ่านในหนังสือเลย ตอนอ่านจินตนาการอารมณ์หนังคล้ายๆ หนังของ Jane Campion ประมาณว่าหน้าตานิ่งๆ แสดงออกทางสายตาเป็นหลัก
โดย: ayres IP: 58.64.106.69 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:23:51:20 น.
  
เรียนเรื่องนี้อยู่ค่ะ วิชาวรรณคดีบังคับของเอกภาษาอังกฤษ คณะอักษรฯค่ะ เราอ่านภาคภาษาอังกฤษและต้องวิเคราะห์เยอะมาก ถ้าใครมีอะไรรบกวนช่วยแชร์หน่อยนะคะ
โดย: Trade M.go IP: 124.157.157.101 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:1:25:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด